<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
31 มีนาคม 2553

ดูหมอหงวน...หวลรำลึกถึงตึกสันท์




กระทู้ต่อเนื่องจากละคร หมอหงวน..แสงดาวแห่งศรัทธา
ในละครฉากแรกๆได้เอ่ยอ้างถึงตึกกิจกรรมสมัยที่นักศึกษามหิดลยุคนั้น
ใช้เป็นสถานที่ทำงาน หลบมุมมาสังสรรค์สนทนา
นั่นก็คือ ตึกสันทนาการ หรือที่พวกเราเรียกสั้นๆว่า "ตึกสันท์"

อันว่าตึกสันท์นี้อยู่ที่ไหนหรือ
ก็ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับคณะวิทยาศาสตร์ มหิดล ถนนพญาไท
รั้วเดียวกับโรงพยาบาลรามาธิบดีนั่นแหละ
เป็นตึกสองชั้น ไม่ใหญ่โตมากมาย
แต่ละชั้นซอยเป็นห้องเล็กๆสำหรับชมรมต่างๆ
รวมทั้งเป็นทำการของศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทยด้วย
ทุกคนสนิทสนมรู้จักกันหมด รุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก
เพราะมีกิจกรรมที่ต้องร่วมหัวจมท้ายกันบ่อยมาก
ไม่ว่าเป็นการประชุมในวาระพิเศษต่างๆ
การขอยืมอุปกรณ์และแรงงานคนจัดกิจกรรม
การรวมพลคนกวนกาวสำหรับแปะโปสเตอร์ยามค่ำคืน
ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดความสนิทสนมมากขึ้น
เพราะทุกคนจะต้องเวียนแยกสายไปแปะโปสเตอร์ ณ ชุมชนต่างๆ
เวลาไป ต้องไปเป็นทีม เพื่อความปลอดภัย
หลังเสร็จสิ้นภาระกิจ หากไม่ดึกเกินไปสมาชิกก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

จำได้ว่า รั้วด้านหน้าของคณะวิทยาศาสตร์มีซี่กรงที่กว้างมาก
อ้วนเบอะขนาดไหนก็สามารถลอดข้ามได้
ปัจจุบันนั่งรถผ่านเห็นแวบๆ ซี่รั้วรู้สึกเล็กลง
คงมีการเปลี่ยนขนาดให้ดูปลอดภัยมิดชิดมากขึ้น

กลางดึกที่ตึกสันท์ หากยังไม่ง่วงเหงาหาวนอน
มานั่งที่สนามหญ้าด้านนอก จะรู้สึกถึงสายลมเย็นสบาย
บางอารมณ์ที่สุนทรีก็เกากีตาร์ ร้องเพลงร่วมกัน
...พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาว
ส่องฟากฟ้าเด่นพราวไกลแสนไกล...
แค่วรรคทองของเพลงนี้ดังขึ้นก็มีพลังพอที่จะเรียกเพื่อนๆทั้งหลาย
ที่เหนื่อยล้าจากตำราเรียนและกิจกรรม มาร่วมวงขับกล่อม
สลับกับเสียงรถไฟนอกรั้วด้านหลัง วิ่งแทบทุกสิบห้านาที
..เสียอารมณ์จังโว้ย...ต้องตะเบ็งเสียงแข่งดังขึ้นอีก
แต่ถึงตอนนี้กลับนั่งคิดถึงเสียงรถไฟเสียนี่

นั่งล้อมวงสักพัก กำลังจะสับปะหงก
ก็ได้ยินเสียงเจ้าพ่อเจ้าแม่ตึกสันท์(คนจริงๆ)
ตะโกนโหวกเหวกปลุกให้ตื่น ไล่กลับบ้าน ถ้ายังกลับได้
หรือไล่ให้ไปนอน ถ้าหมดสภาพจริงๆ

จากหนังสือ "ปูมประวัติศาสตร์ มหิดลเพื่อประชาธิปไตย ภาคที่ 2
ประสานประชาชน อุทิศตนเพื่ออุดมการณ์.
หน้าที่ 155 บอกเล่าเก้าสิบถึงบรรดาเหล่าเจ้าพ่อ เจ้าแม่แห่งตึกสันท์
อย่างเห็นภาพกระจ่างในความทรงจำดีทีเดียว

"นอกจากห้องชมรมต่างๆของตึกสันทนาการ
จะเป็นที่ซุกหัวนอนของนักกิจกรรมทั้งหลายแล้ว
ห้องเรียนไบโอ ตึกปรีคลีนิก ตลอดจนหอพักนักศึกษาพยาบาล
และหอพักนักศึกษาแพทย์รามาธิบดี
ก็เป็นที่พักพิงยามจำเป็นได้เป็นอย่างดี

ในท่ามกลางความเป็นไปดังกล่าว
ตึกสันทนาการมีผู้ที่ทำหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยทั่วไป
ทั้งยังเป็น"พี่ใหญ่"ที่คอยเป็นที่ปรึกษาในแทบทุกเรื่องให้เพื่อนๆและน้องๆ
จนได้สมญาว่าเป็น"เจ้าพ่อตึกสันท์" ซึ่งคือ "ชัยธวัช ยืนยง"หรือ"จุ๊ย"
(เสียชีวิตแล้วระหว่างการต่อสู้ในเขตป่าเขา)
ด้วยบุคลิกอบอุ่น สุขุมลุ่มลึกและมีมนุษย์สัมพันธ์อย่างยิ่งของเขา
ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รักของเพื่อนๆและน้องๆ
แม้กระทั่งยามและแม่บ้านของมหาวิทยาลัย

ส่วนเจ้าของสมญา "เจ้าแม่ตึกสันท์"
อย่างแพทย์หญิงจันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ
ซึ่งคอยดูแลความเรียบร้อยทั่วไปประสานกับชัยธวัช

มองย้อนกลับไปช่วงนั้นนั้นอาจถือได้ว่า
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยยมหิดลมีความใจกว้าง
ที่ยอมให้ใช้ตึกสันทนาการเป็นที่รวมพลของฝ่ายก้าวหน้าในยุคนั้น

ชีวิตในตึกสันทนาการมีรสชาติมากทีเดียว
จากการที่ได้อยู่ร่วมกันทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลางและรุ่นเล็กๆ
อย่างน้องๆศูนย์นักเรียนที่มาช่วยสร้างสีสันให้รุ่นพี่ๆอย่างมาก
โดยเฉพาะในการรวมพลไปติดโปสเตอร์ในช่วงกลางคืน
โดยไม่ได้หลับไม่ใด้นอน
คนที่ไปตึกสันท์บ่อยๆคงจำเสียงดิฉันได้ดี (พญ.จันทร์เพ็ญ)
เพราะเป็นพวกชอบว๊ากจนหลายคนไม่ชอบหน้า
แต่ในท่ามกลางกิตติศัพท์ว่าดุ
ดิฉันก็คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ทุกคน
ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรคแนวร่วมมหิดลยุคแรก

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแล้วก็ตาม
แต่เธอก็ยังคงรู้สึกผูกพันและขอบคุณตึกสันทนาการ
เพราะถือว่าเป็นสถานที่ที่ช่วยหล่อหลอม
ให้นักกิจกรรมยุคนั้นมีวิธีมองโลก
และเข้าใจโลกได้มากกว่ายุคสมัยใดๆ

และจนถึงทุกวันนี้ สมาชิกของตึกสันท์ส่วนใหญ่
ก็ยังคงพยายามทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมตามภาระ
หน้าที่และบทบาทที่แตกต่างกัน สำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง
แต่ต่างก็ยังพยายามรักษาอุดมคติอันดีงาม
ที่ได้ช่วยกันปลูกฝังไว้ภายใต้บรรยากาศของการใช้ชีวิตร่วมกันดังกล่าว"


วันนี้ ไม่มีตึกสันท์แล้ว
เพราะถูกรื้อถอนออกไปพร้อมสิ่งปลูกสร้างใหม่
ถ้ามีโอกาสเดินกลับเข้าไป กวาดสายตามองโดยรอบ
คงอดไม่ได้ที่จะเห็นภาพชุลมุนของเหล่าคนหนุ่มสาว
ขมีขมันกวนกาวข้างๆตึก พร้อมกองโปสเตอร์ซิิลค์สกรีนปึกเบ้อเร่อ
ที่พร้อมจะเอาไปติดคืนนี้

ตึกสันท์ อีกหนึ่งตึกในเสี้ยวประวัติศาสตร์ของความทรงจำของคนกิจกรรม
(ที่ไม่จำเป็นต้องเดือนตุลา)



Create Date : 31 มีนาคม 2553
Last Update : 15 เมษายน 2553 15:31:26 น. 0 comments
Counter : 1081 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]