พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
2 พฤศจิกายน 2550

ผีเสื้อและดอกไม้ จากหนังสือสู่ฟิล์ม

2 พฤศจิกายน 2550



ความฝันแสนงามท่ามกลางควันปืน

เมื่อเร็วๆนี้ได้มีโอกาสไปเสวนาในรายการเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่จัดขึ้นในกรุงเทพ ซึ่งมีผลงานการแสดงและกำกับจากชาติต่างๆเข้ามาฉาย หนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ได้รับเกียรติเข้าร่วมฟื้นอดีตอีกครั้งก็คือ “ผีเสื้อและดอกไม้” ภาพยนตร์ชื่อโรแมนติกที่เคยกวาดรางวัลระดับชาติและต่างประเทศ จากฝีไม้ลายมือผู้กำกับชื่อดัง ยุทธนา มุกดาสนิท นั่นเอง น่าภูมิใจที่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า เป็น 1 ใน 100 ภาพยนตร์ไทยที่ควรดู

ภาพยนตร์ที่ดีย่อมมีพื้นฐานจากบทประพันธ์ที่ดี ผู้เขียนเรื่องนี้คือ นิพพาน ( นามจริง คือ มกุฎ อรฤดี บรรณาธิการหนุ่มใหญ่แห่งผีเสื้อ อีกหนึ่งสำนักพิมพ์คุณภาพที่ให้ความประณีตในศิลปะการทำหนังสือ) เรียงร้อยเรื่องราวการต่อสู้กับบรรดาเด็กๆชาวมุสลิมในพื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่ตนคุ้นเคย ดูเหมือนจะเป็นวรรณกรรมไทยเรื่องเดียวที่ตีแผ่ความขัดแย้งของชนชาติในสี่จังหวัดภาคใต้ได้อย่างถึงแก่นโดยผ่านเสี้ยวประสบการณ์ของเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาบอกกล่าว

เรื่องย่อ ฮูยันเป็นเด็กมุสลิมเกิดในครอบครัวที่ฐานะยากจน มีพ่อเป็นกรรมกรรถไฟซึ่งกำลังจะตกงาน มีน้องๆอีก 2 คนในความดูแล ฮูยันต้องออกจากโรงเรียนเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ากระดาษสอบทั้งที่เป็นเด็กที่เรียนเก่ง จากนั้นก็ต้องดิ้นรนหาเงินมาจุนเจือครอบครัวด้วยวิธีต่างๆ เริ่มแรกจากเดินขายไอติมก็ไปไม่รอด จนกระทั่งเข้าไปอยู่ในขบวนการกองทัพมดลอบขนข้าวสารข้ามประเทศ ในวัยที่เปรียบเสมือนดอกไม้แรกผลิ ฮูยันกลับต้องเผชิญภยันตรายเสี่ยงภัยต่างๆ ท่ามกลางความขัดแย้ง อาชญากรรมและควันปืนคุกรุ่นในชุมชนที่ยากจนซ้ำซาก

ผู้เข้าร่วมวงเสวนาครั้งนี้มี ยุทธนา มุกดาสนิท นิพพานและนันทขว้าง สิรสุนทร จากกรุงเทพธุรกิจ บทเสวนาที่นำมาสรุปประเด็นเป็นการผสมผสานระหว่างการพูดคุยและบทความสัมภาษณ์ที่ลงในกรุงเทพธุรกิจ เซคชั่นจุดประกาย

ก่อนจะมาเป็น “ผีเสื้อและดอกไม้” ฉบับฟิลม์
ก่อนหน้าที่คุณยุทธนาจะมาทำ “ผีเสื้อและดอกไม้” ภาพยนตร์เรื่อง “น้ำพุ” ที่ออกฉายก่อนหน้าได้สร้างรายได้ถล่มทลาย จนทำให้นายทุนสบายใจพอที่จะให้ผู้กำกับคนเดิมสร้างหนังเรื่องไหนก็ได้ หลังจากได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของบทประพันธ์ พร้อมได้รับคำชี้แนะถึงสถานที่ที่เล่าเรื่อง ทีมงานจึงระดมสรรพกำลังเต็มที่ทำวิจัย ศึกษาลงพื้นที่จริงเพื่อสังเกตชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอยู่ร่วมเดือน เฝ้าดูการใช้ชีวิตประจำวัน พิธีกรรมต่างๆและขบวนการลักลอบขนสินค้าข้ามชายแดน มีผู้เขียนบทคือ คุณรัศมี เผ่าเหลืองทอง คอยติดตามรายละเอียดแต่ละบริบทให้สอดคล้องกับบทประพันธ์เดิม เป็นภาพยนตร์ที่ Set On Location ทั้งหมด จึงหมดเงินไปเยอะ ประมาณ 25 ล้าน เมื่อภาพยนตร์ฉายเสร็จก็ได้รายได้ประมาณนั้น เสมอตัว

จาก “น้ำพุ” ถึง “ผีเสื้อและดอกไม้” ความเหมือนที่แตกต่าง
ทั้งๆที่เป็นเรื่องของวัยรุ่นเหมือนกัน (น้ำพุอาจจะแก่กว่าหน่อย)แต่ตัวละครที่นำเสนอมีวิธีเอาตัวรอดไม่เหมือนกัน น้ำพุอยู่ในสถานการณ์ที่ภัยร้ายรอบตัวมีน้อยกว่า เติบโตในชนชั้นกลาง อยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยในเมืองหลวง มีบ้านเรือนเป็นหลักแหล่ง มีครอบครัวพี่น้อง มีแม่ที่ทำงานหาเงินให้ใช้ได้พอสมควร ได้เรียนหนังสือและทำอะไรได้ตามใจฝัน แต่น้ำพุกลับจบชีวิตด้วยภัยในจิตใจของตัวเอง คือการติดยาเสพติด ขณะที่ฮูยันอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงและด้อยกว่าทุกอย่าง กลับฮึดมานะดิ้นหลุดให้พ้นจากบ่วงอาชญากรรมหวุดหวิด หันกลับมาดำเนินชีวิตปกติตามสถานภาพ

Romantic Realism ความฝันในความจริง
ตัวละคร โรงเรียน บ้านและฉากต่างๆ ตลอดจนเหตุการณ์ที่ดำเนินไปในบทประพันธ์ ล้วนเกิดขึ้นบนพื้นฐานความจริง ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เรื่องราวทั้งหมดไม่มีอยู่ในเขตแดนแคว้นไทย ปัญหาของชนกลุ่มน้อยมุสลิมโดยเฉพาะเยาวชนที่ถูกละเลย ไม่ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกับเยาวชนในภาคอื่นๆ หากวิธีการนำเสนอ แทนที่จะโจมตี ก้าวร้าว ปลุกปั่น เหมือนบทประพันธ์หรือภาพยนตร์ปลุกใจ กลับเป็นโทนเรื่องที่นุ่มนวล ผ่านการกรองและนิ่งมาชั่วระยะ เสียดทานลึกๆซุกอารมณ์ขัน ขณะเดียวกันก็แฝงความฝัน ความหวังไว้ ซึ่งจะเห็นชัดยิ่งขึ้นในมิติของภาพยนตร์ที่ถ่ายออกมาในแนว Soft Tone ฟุ้งๆตลอด

20 ปีผ่านพ้น ความจริงยิ่งร้าวลึก
บทประพันธ์เขียนเมื่อประมาณปี 2518 ลงเป็นตอนๆในนิตยสารสตรีสาร ( นิตยสารที่ขึ้นชื่อว่าเข้มงวดและเคร่งครัดในการคัดเลือกเรื่องลงยิ่งนัก) และรวมเล่มเมื่อประมาณปี 2521 สร้างเป็นภาพยนตร์ปี 2528 สาระสำคัญของเรื่องราวที่สะท้อนออกตอนนั้น 20 ปีผ่านมา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย (ยกเว้นกองทัพมดที่ไม่มีแล้ว การขนสินค้าข้ามแดนทำอย่างเปิดเผยมากขึ้นโดยการจ่ายเงินอย่างเป็นระบบ) ซ้ำร้ายยิ่งหนักสาหัสซ้ำเติมลงอีก ตั้งแต่ เรื่องความยากจน การถูกละเลยด้านสาธารณสุขตลอดจนการศึกษาพื้นฐาน การเอาชีวิตรอดท่ามกลางอาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประจำวัน ฮูยันรุ่นใหม่ๆเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรงจนเห็นเป็นความเคยชิน แล้วจะหาทางหลุดพ้นจากวังวนลวดหนามเหล่านี้ได้อย่างไร จะมีกำลังใจอะไรบ้างที่จะให้พวกเขายึดถือเพื่อดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าและความหมาย (มีการแซวกันว่า รัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมา ควรจะดูหนังเรื่องนี้กันบ้าง เหมือนกับที่ดูเรื่องสุริโยทัย นเรศวร )

ถ้าจะนำมากลับมาทำใหม่จะเสนอประเด็นอะไรบ้าง
คงไม่มีการกลับมาทำอีกแล้ว หากใครจะทำก็สุ่มเสี่ยงกับการถ่ายทำพอสมควร โดยเฉพาะถ้าอยากจะใช้สถานที่จริงๆ เพราะขนาดที่ยังไม่มีความขัดแย้งรุนแรงเมื่อยี่สิบปีก่อน ก็ยังเกิดปัญหาความยุ่งยากขณะถ่ายทำ ฉากหนึ่งที่ฮูยันและน้องๆเข้าไปในสุเหร่าเพื่อขอพรศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองพ่อซึ่งกำลังนอนป่วยในโรงพยาบาล ฉากถ่ายเกือบเสร็จแล้ว เกิดการมุงล้อมของชาวบ้านที่ไม่ต้องการให้กองถ่ายเข้ามายุ่มย่ามในสถานที่ต้องห้ามสำหรับคนนอกศาสนา แม้จะอ้อนวอนขอความเห็นใจก็ตาม ในที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องบานปลาย กองถ่ายรีบจัดแจงขนอุปกรณ์ออกไปในที่สุด อันนี้เป็นเรื่องระเบียบของศาสนาซึ่งทุกคนเข้าใจ แต่ปัญหาปัจจุบันคือเรื่องของความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน ลามออกไปทุกตารางนิ้วออกนอกสุเหร่า

ผ่านมานับสิบๆปี ตัวละครทั้งหมดป่านนี้เป็นอย่างไร
บทประพันธ์ : ทุกคนน่าจะมีชีวิตอยู่ ดิ้นรนเอาตัวรอดเหมือนชาวบ้านชายแดนธรรมดาๆ อีกทั้งต้องระแวดระวังภัยจากความคลางแคลงใจที่ถูกจุดเชื้อทั้งหลาย
ภาพยนตร์ : นักแสดงนำแต่งงานมีลูก มีครอบครัวไปหมด ยกเว้นผู้ที่เล่นเป็น นาคา (ผู้ร้ายที่กลายเป็นมิตรภายหลัง) ได้ผูกคอฆ่าตัวตายอย่างน่าเสียดาย

อยากจะบอกอะไรสั้นๆหลังจากอ่านหรือชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ
ไม่ว่าจะยากดีมีจนเช่นไร ทุกคนต้องมีความฝัน ความฝันนี่แหละที่จะหล่อเลี้ยงให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ พยุงให้จิตใจใฝ่หาคุณธรรมท่ามกลางความแร้นไร้และหดหู่ทั้งปวง

จบเสวนาวันนั้น ได้หนังสือ ผีเสื้อและดอกไม้ เล่มใหม่พร้อมลายเซ็น คุณนิพพาน และได้เสื้อยืดลายเขียนวิจิตรฝีมืออาจารย์ช่วง มูลพินิจ ซึ่งผลิตสำหรับแฟนผู้ร่วมเสวนาวันผีเสื้อโบยบินและดอกไม้บาน อีกครั้ง


Create Date : 02 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 13:29:00 น. 11 comments
Counter : 2287 Pageviews.  

 
เคยอ่านและเคยดูแต่น้ำพุ ผีเสื้อและดอกไม้ไม่เคยดูค่ะ
แต่เขียนแนะนำได้น่าสนใจไว้ต้องไปหามาอ่านบ้าง แต่ท่าทางจะเศร้าน่าดู สมัยก่อนเคยได้ยินชื่อเรื่อง "ผีเสื้อและดอกไม้" นึกว่าเป็นหนังเด็กเสียอีก ไม่คิดว่าเป็นดราม่าที่หนักขนาดนี้เลยค่ะ


โดย: คิงเพนกวิน วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:6:50:34 น.  

 
เป็นหนึ่งในภาพยนต์ในดวงใจตลอดกาล ใครไม่เคยดูอยากให้ไปหามาดู แล้วจะรู้ว่าโลกสวยด้วยมือเรา


โดย: บัวขาว IP: 203.153.171.88 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:12:20:48 น.  

 
เพิ่งอ่านจบอีกรอบ นึกถึงวันเก่าๆ ให้ข้อคิดดีมากๆครับ ทำไมถึงเก็บไว้นานมาก ผมน่าจะให้น้องๆได้อ่านไม่น่าเก็บไว้จนลืมหลายปี ตอนนี้ว่าจะให้ลูกอ่านแล้วครับ


โดย: Good IP: 202.149.25.225 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:38:05 น.  

 
ไม่ได้ยินเรื่องนี้มานาน เคยอ่านตอนอยู่มัธยม ดีใจเพราะเป็นคนโกลก ภูมิใจที่โกลกคือส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ แต่เดี๋ยวภาพความทรงจำเดิมๆคงยากที่จะกลับมา ยังไงก็เอาใจช่วย


โดย: เอ IP: 58.10.96.116 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:15:58:48 น.  

 
ดูครั้งแรก ตอนปี2 ตอนหลังมาดูใหม่ก้ยังin น้ำตาไหล รัก พี่หง่าว และ รอดู masterpiece ชิ้นใหม่อยู่ เป็นกำลังใจเสมอ


โดย: happy IP: 58.9.54.47 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:46:43 น.  

 
ครูเคยให้ทำรายงานสนุกมากเลย
ตัวละครมีน้อยแต่สนุกดีคะ
มีฮูยัน 1


โดย: เอมี่คะ IP: 125.25.198.177 วันที่: 13 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:14:29 น.  

 
สนุกมาก



โดย: ]touri IP: 125.25.198.177 วันที่: 13 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:15:49 น.  

 
สุดยอด ต้องหาดูอีกครั้ง
ไปดูตอนเด็กๆ ในโรงหนังรัตนศิริ กระมัง
ไปกับพี่ๆ โดยแม่อนุญาตให้ไปดู


โดย: ฮูยัน IP: 119.42.96.146 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:1:13:04 น.  

 
จากหนังสือสู่ฟิล์มและแล้วก็จะมาเป็นละครทีวีช่องหนึ่ง
รอดูแล้วกันว่าฮูยัน และน้องๆภาคหน้าขาว
จะเล่นได้ดีแค่ไหน


โดย: กูรูขอบสนาม วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:20:19:00 น.  

 
จำได้ตอนเด็กๆ เค้าเคยบอกว่าเค้ามาถ่ายหนังเรื่องผีเสื้อและดอกไม้ที่บ้านเพราะบ้านอยู่อำเทพา แต่ยังไม่เคนดู


โดย: เด็กเทพา IP: 58.8.108.93 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:17:15:20 น.  

 
ถ่ายทำที่บ้านผมครับตอนผมเด็กๆ


โดย: เปี้ยว พัทลุง IP: 10.95.172.56, 58.147.0.186 วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:14:48:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุ้งพลบ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ใช้ชีวิตแสวงหามาหลายปี ปัจจุบันก็ยังแสวงหาไม่รู้จักเสร็จ
บางอารมณ์เหนื่อยๆ ก็หยุดพัก แล้วตรองนิ่งเขียนบันทึกในสิ่งที่พบเห็น

บางอารมณ์ที่โมแรนติค ชอบดูสายรุ้งตอนโพล้เพล้
New Comments
[Add รุ้งพลบ's blog to your web]