แกงเขียวหวานนะสุ(มะเขือ)
สืบเนื่องมาจากเจ้าของทุนได้ซื้อพริกแกงมาสองอย่าง คือ พริกแกงแดงหรือพริกแดงเผ็ดกับพริกแกงเขียวหวาน ที่ลดราคามาจากห้างใกล้ๆ บ้าน พริกแกงแดงได้ทำฉู่ฉี่ปลาอะจิกินไปเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือพริกแกงเขียวหวาน ไม่รอช้ารีบไปร้านขายผักซื้อมะเขือ นะสุ nasu なす (ขออภัยกำลังเรียนภาษาอยู่ค่ะกลัวลืม อิอิ) กะว่าทำแกงเขียวหวานมันซะเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป ส่วนผสมมีดังนี้ (เหมือนซีเรียสเลยเนอะ ) พริกแกงเขียวหวานสำเร็จ ๑ ห่อ. กะทิกระป๋อง ๑ กระป๋อง, มะเขือ ๒ ผล, ไก่ ๒๕๐ กรัม, พริกชี้ฟ้า , ใบโหระพา ส่วนผสมน้ำปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลทราย (ถ้าใช้น้ำตาลปี๊บจะดีกว่า วันนี้ไม่มี) สามารถโขลกผักชีและพริกขี้หนูเขียวลงไปในเครื่องแกงได้นะคะ เพื่อเพิ่มความเขียวและความเผ็ดให้กับแกง เพราะใช้พริกแกงสำเร็จรูปแบบซองรสชาติที่ได้ก็จะไม่เหมือนโขลกเอง แต่ไม่มีทั้งสองอย่าง ก็ทำได้เท่าที่มีก็แล้วกันนะ อย่าไปคิดมาก มาเริ่มแกงกันเถอะ เริ่มจากหั่นมะเขือเป็นชิ้นพอคำ จากนั้นนำไปแช่น้ำที่ผสมเกลือทิ้งเอาไว้สักพัก ประมาณ ๓-๕ นาที แล้วล้างน้ำเปล่าเพื่อลดความเค็มของเกลือ จากนั้นก็หั่นไก่ หั่นพริกชี้ฟ้าแดง เปิดกะทิกระป๋อง เด็ดใบโหระพา เคล็ดไม่ลับเพราะจำคนอื่นมาเหมือนกัน วิธีทำหัวกะทิและหางกะทิมีดังนี้ คือ อย่าเขย่ากระป๋องนะจ๊ะเพราะจะทำให้มันนัวทั่วทั้งกระป๋อง เอ..มันนัวคืออะไรอ่ะป้า ถ้าเราเขย่ากระป๋องกะทิจะกระจายตัว เราต้องการหัวกะทิก็ต้องไม่เขย่ากระป๋อง เพราะเวลาเปิดส่วนที่อยู่บนสุดก็จะเป็นหัวกะทิ ส่วนที่อยู่ด้านล่างกระป๋องก็จะเป็นหางกะทิ (เปรี้ยง...โอ๊ยเจ็บ...กำปั้นทุบดิน ) หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ตั้งกะทะด้วยไฟอ่อนถึงปานกลาง จากนั้นก็ใช้ช้อนปาดหัวกะทิใส่ลงไปในกะทะ พอกะทิเริ่มแตกมันก็ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัด ใจเย็นๆนะคะ ผัดไปสักจนได้กลิ่นหอม ถ้ามันแห้งไปก็เติมหัวกะทิได้อีกค่ะ ผัดต่อไปอีกจนได้กลิ่นหอมของเครื่องแกง แต่เครื่องแกงสำเร็จรูปกลิ่นหอมจะไม่เหมือนเครื่องแกงที่เราโขลกเองหรอกนะคะ กลิ่นที่ได้จะอ่อนกว่ามาก พอกะทิเดือดก็ใส่ไก่ลงไป เกลี่ยให้ทั่วกะทะ อย่าเพิ่งคนหรือพลิกไก่นะคะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทรายในขั้นตอนนี้เลยค่ะ รอให้อีกด้านสุกแล้วค่อยพลิกกับ พอไก่สุกทั้งสองด้านแล้วก็ผัดสักสองสามครั้ง จากนั้นก็เติมหางกะทิ คือกะทิที่เหลือก้นกระป๋องนั่นแหละค่ะเทลงไปผสมได้เลย คนให้ส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าเข้ากัน รอให้น้ำแกงเดือดอีกครั้ง จากนั้นก็ใส่มะเขือลงไปได้เลยค่ะ (มะเขือที่ล้างน้ำเกลือออกแล้ว) ระหว่างนั้นก็ใช้ทัพพีกดมะเขือให้จมน้ำแกงด้วยนะคะ กดไป กดมา เพื่อไม่ให้มะเขือดำ สีของมะเขือจะได้สดใสเงางาม ให้น้ำแกงคลุกเคล้ากับมะเขือ และให้ความร้อนของน้ำแกงซึมผ่านผิวของมะเขือจะทำให้มะเขือไม่ดำและไม่เหี่ยว จากนั้นก็ใส่พริกชี้ฟ้าที่เราซอยไว้บางส่วน เหลือนิดหน่อยเอาไว้แต่งหน้านะคะ ชิมรสอีกครั้งเผื่อขาดเผื่อเหลือ พอได้รสชาติที่ต้องการแล้วก็จัดการโรยใบโหระพาลงไปเลยค่ะ คนสองทีปิดแก๊สเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับแกงเขียวหวานมะเขือบ้านเรา เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ อยากกิน อยากกิน ตักใส่จาน (ที่บ้านใส่จานก้นลึก) ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าซอยที่เหลือและยอดใบโหระพาเพื่อความสวยงาม กินกับเส้นโซเมงก็อร่อย ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนเส้นขนมจีนแต่ก็ทำให้หายคิดถึงได้บ้าง สุดท้าย ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ แล้วพับกันใหม่ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 19 กันยายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 19 กันยายน 2555 3:02:31 น. |
Counter : 2481 Pageviews. |
|
|
|