ชีวิต...คือ..การเรียนรู้ & ชีวิต...คือ การเดินทาง ^-^ WE ARE STILL ON THE ROAD ^-^
Group Blog
 
 
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
19 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

แกงเขียวหวานนะสุ(มะเขือ)

   สืบเนื่องมาจากเจ้าของทุนได้ซื้อพริกแกงมาสองอย่าง คือ พริกแกงแดงหรือพริกแดงเผ็ดกับพริกแกงเขียวหวาน ที่ลดราคามาจากห้างใกล้ๆ บ้าน พริกแกงแดงได้ทำฉู่ฉี่ปลาอะจิกินไปเรียบร้อยแล้ว 

   ยังเหลือพริกแกงเขียวหวาน ไม่รอช้ารีบไปร้านขายผักซื้อมะเขือ นะสุ nasu なす (ขออภัยกำลังเรียนภาษาอยู่ค่ะกลัวลืม อิอิ) กะว่าทำแกงเขียวหวานมันซะเลยให้รู้แล้วรู้รอดไป

   ส่วนผสมมีดังนี้ (เหมือนซีเรียสเลยเนอะ Smiley) พริกแกงเขียวหวานสำเร็จ ๑ ห่อ. กะทิกระป๋อง ๑ กระป๋อง, มะเขือ ๒ ผล, ไก่ ๒๕๐ กรัม, พริกชี้ฟ้า , ใบโหระพา

   ส่วนผสมน้ำปรุงรส น้ำปลา น้ำตาลทราย (ถ้าใช้น้ำตาลปี๊บจะดีกว่า วันนี้ไม่มี)

สามารถโขลกผักชีและพริกขี้หนูเขียวลงไปในเครื่องแกงได้นะคะ เพื่อเพิ่มความเขียวและความเผ็ดให้กับแกง เพราะใช้พริกแกงสำเร็จรูปแบบซองรสชาติที่ได้ก็จะไม่เหมือนโขลกเอง แต่ไม่มีทั้งสองอย่าง ก็ทำได้เท่าที่มีก็แล้วกันนะ อย่าไปคิดมาก

 

   มาเริ่มแกงกันเถอะ เริ่มจากหั่นมะเขือเป็นชิ้นพอคำ จากนั้นนำไปแช่น้ำที่ผสมเกลือทิ้งเอาไว้สักพัก ประมาณ ๓-๕ นาที แล้วล้างน้ำเปล่าเพื่อลดความเค็มของเกลือ

 

จากนั้นก็หั่นไก่ หั่นพริกชี้ฟ้าแดง เปิดกะทิกระป๋อง เด็ดใบโหระพา

 

   เคล็ดไม่ลับเพราะจำคนอื่นมาเหมือนกัน Smiley วิธีทำหัวกะทิและหางกะทิมีดังนี้ คือ อย่าเขย่ากระป๋องนะจ๊ะเพราะจะทำให้มันนัวทั่วทั้งกระป๋อง เอ..มันนัวคืออะไรอ่ะป้า ถ้าเราเขย่ากระป๋องกะทิจะกระจายตัว เราต้องการหัวกะทิก็ต้องไม่เขย่ากระป๋อง เพราะเวลาเปิดส่วนที่อยู่บนสุดก็จะเป็นหัวกะทิ ส่วนที่อยู่ด้านล่างกระป๋องก็จะเป็นหางกะทิ (เปรี้ยง...โอ๊ยเจ็บ...กำปั้นทุบดิน Smiley)

 

   หลังจากเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว  ตั้งกะทะด้วยไฟอ่อนถึงปานกลาง จากนั้นก็ใช้ช้อนปาดหัวกะทิใส่ลงไปในกะทะ

 

   พอกะทิเริ่มแตกมันก็ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัด ใจเย็นๆนะคะ ผัดไปสักจนได้กลิ่นหอม

 

ถ้ามันแห้งไปก็เติมหัวกะทิได้อีกค่ะ

 

   ผัดต่อไปอีกจนได้กลิ่นหอมของเครื่องแกง แต่เครื่องแกงสำเร็จรูปกลิ่นหอมจะไม่เหมือนเครื่องแกงที่เราโขลกเองหรอกนะคะ กลิ่นที่ได้จะอ่อนกว่ามาก

 

พอกะทิเดือดก็ใส่ไก่ลงไป เกลี่ยให้ทั่วกะทะ

 

   อย่าเพิ่งคนหรือพลิกไก่นะคะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทรายในขั้นตอนนี้เลยค่ะ รอให้อีกด้านสุกแล้วค่อยพลิกกับ พอไก่สุกทั้งสองด้านแล้วก็ผัดสักสองสามครั้ง จากนั้นก็เติมหางกะทิ คือกะทิที่เหลือก้นกระป๋องนั่นแหละค่ะเทลงไปผสมได้เลย

 

คนให้ส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าเข้ากัน

 

รอให้น้ำแกงเดือดอีกครั้ง

 

   จากนั้นก็ใส่มะเขือลงไปได้เลยค่ะ (มะเขือที่ล้างน้ำเกลือออกแล้ว) ระหว่างนั้นก็ใช้ทัพพีกดมะเขือให้จมน้ำแกงด้วยนะคะ กดไป กดมา เพื่อไม่ให้มะเขือดำ สีของมะเขือจะได้สดใสเงางาม

 

   ให้น้ำแกงคลุกเคล้ากับมะเขือ และให้ความร้อนของน้ำแกงซึมผ่านผิวของมะเขือจะทำให้มะเขือไม่ดำและไม่เหี่ยว

 

   จากนั้นก็ใส่พริกชี้ฟ้าที่เราซอยไว้บางส่วน เหลือนิดหน่อยเอาไว้แต่งหน้านะคะ ชิมรสอีกครั้งเผื่อขาดเผื่อเหลือ

 

   พอได้รสชาติที่ต้องการแล้วก็จัดการโรยใบโหระพาลงไปเลยค่ะ คนสองทีปิดแก๊สเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับแกงเขียวหวานมะเขือบ้านเรา

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ อยากกิน อยากกิน Smiley

 

   ตักใส่จาน (ที่บ้านใส่จานก้นลึก) ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าซอยที่เหลือและยอดใบโหระพาเพื่อความสวยงาม

 

   กินกับเส้นโซเมงก็อร่อย ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนเส้นขนมจีนแต่ก็ทำให้หายคิดถึงได้บ้าง

 

 

   สุดท้าย ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชม Blog นี้ แล้วพับกันใหม่

   ขอบคุณค่ะ Smiley




 

Create Date : 19 กันยายน 2555
4 comments
Last Update : 19 กันยายน 2555 3:02:31 น.
Counter : 2481 Pageviews.

 

มะเขือม่วงอย่างนี้เอาไปทำแกงกระทิอร่อยมากๆครับ นุ่มๆ ชุ่มๆน้ำแกง เอามาคลุกข้าวกินสุดยอดครับ

 

โดย: ทนายอ้วน 19 กันยายน 2555 6:25:43 น.  

 

ภาพสวยมากกกกกกกกก
อาหารน่ากินแต่จะสู็มะเขือลุกเล้กได้หรือเปล่าคะเพรามะเขือม่วงเนื้อไม่แน่นแต่แก้ขัดได้

 

โดย: Willkommen 19 กันยายน 2555 18:34:57 น.  

 

เห็นมะเขือม่วง กะทิกระป๋อง Aroy-D นี่มั่นใจเลยว่าอยู่เมืองนอกแน่นอน ทำได้น่าทานมากเลยครับ
ยังไงก็ขอฝากไปเยี่ยม นายเขียวหวาน บ้างนะครับ รวบรวมเรื่องราวแกงเขียวหวานโดยเฉพาะเลยครับ

 

โดย: นายเขียวหวาน (uphichet ) 3 มกราคม 2556 6:53:45 น.  

 

น่าทานค่า

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 16 พฤศจิกายน 2562 11:55:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


cleaver
Location :
Saitama Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




lozocatlozocat


จากบ้านและครอบครัว มาอยู่ต่างแดน
..เพราะได้ทุนมาเรียนรู้ชีวิตที่นี่..
..ทุนที่ได้เป็นทุนให้เปล่า...
..ให้ตลอดชีวิต..ให้จนกว่า....

เจ้าของทุนพูดว่า Get old with me
เป็นคำพูดที่ง่าย...ใครก็พูดได้
ที่ผ่านมา...ได้ผ่านสุขและทุกข์ด้วยกัน
เวลา...ได้พิสูจน์แล้วว่า...
สัจจะ..วาจา..เป็นเช่นนั้นจริง
ไม่ปฏิเสธ...พร้อมตกปากรับคำ...
...จะมีสักกี่คนที่จะแก่เฒ่าไปกับเรา...

ภาษา วัฒนธรรม การดำรงชีวิต
..เป็นสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้..
เพื่อจะอยู่กับมันให้มีความสุข
และสนุกกับชีวิตที่เหลืออยู่...

lozocatlozocat


lozocatlozocat


ด้วยวัย ๔๑ คิดว่าไม่สายจนเกินไป


จึงได้เริ่มบันทึกเรื่องราว ความเป็นอยู่
ในแบบของตัวเอง ภาษาและคำพูด
อาจจะดูกันเองเกินจนไป
ก็อย่าถือสาเลยนะคะ

ครอบครัวและเพื่อนๆ ที่อยู่เมืองไทย
จะได้รับรู้ว่าอยู่ที่นี่..เป็นอยู่อย่างไร
รับรู้เรื่องราว..ได้จากบันทึกนี้

เพราะชีวิต คือ การเรียนรู้........
เพราะชีวิต คือ การเดินทาง......

(*^-^*) สู้ว้อยยย (*^-^*)

lozocatlozocat


lozocatlozocat


....กว่าจะได้บล็อกที่ลงตัว...
..แต่ก็ต้องพัฒนาต่อไปอีก..

..อยากจะขอขอบคุณทุกบล็อก..
..ที่สอนการทำบล็อก..
..ให้ออกมาได้สวยงาม ..
..และเป็นตัวเราที่สุด..

ขอขอบคุณครูทุกคน
ที่ได้ถ่ายทอดวิชาให้
ทั้งสอบถามโดยตรง
และแอบย่องไปหยิบมา

ถึงแม้ไม่ได้เอ่ยนาม..
แต่ก็ขอขอบคุณจากใจ
..ขอบคุณค่ะ /\...

lozocatlozocat


Friends' blogs
[Add cleaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.