ลูกชายแหม่แม้ เครียดเป็นแล้วนะ
ลูกชายแหม่แม้ก็เครียดเป็นแล้วนะครับ
เมื่อโตขึ้น รู้จักความรัก ความหวงแหนและความกลัว เริ่มมีอารมณ์ จากที่เคย หัวเราะและร้องไห้ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นอมยิ้มและขมวดคิ้ว ยิ่งพอเข้าผู้คนมาก ๆ แทบจะเอานิ้วทั้ง 5 เข้าปากเชียวละ (เขิน)
เวลาเข้ากลุ่มเพื่อน หากหลายคนจะมอง แต่หากคนเดียว จะนั่งเล่นกันกระหนุงกระหนิงไม่รบ ทะเลาะ เบาะแว้ง(ยอมเขาตลอด)
วันนี้ ลูกชาย อาเดียวของอิช้านน 1 ขวบ แปดเดือน 19 วันแล้วนะคะ
มาดูอารมณ์เครียดของลูกชายที่แม่ไม่ได้โม้ละกัน
สังเกตมาตั้งนานแล้วนะ ครั้งแรกที่เห็นลูกเครียดจัด ก็คือตอน
4 เดือน ไม่มีนมให้ลูกกิน แม่ร้องไห้ ลูกก็ร้องไห้ จนหลับไป
6 เดือน แม่ร้องไห้ ลูกก็ร้องไห้ ใครโอ๋ก็ไม่ยอมหยุดต้องเป็นแม่คนเดียวเท่านั้น เออ..กะลูกนี่กอดคอกันร้องไห้มาตั้งแต่เกิดแย้ว
พอเกิดมาลูกร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้เหมือนกัน (ดีใจ มันออกมาซะที หนักพุง) หุหุ จากที่เล่ามานั่นอาจจะเป็นความเครียดแบบเด็ก ๆ ที่แสดงออกมาในทันที
แต่ความเครียดที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นความเครียดแบบเก็บกด แล้วมาระบายตอนหลับ
ตื่นมาร้องไห้ แบบไม่มีเหตุผล เล่ามาสักสองสามเหตุการณ์
เหมือนเวลาไปไหน เห็นอะไรมา ที่ไม่ดีแล้วเก็บเอามาฝันร้าย
สังเกตได้จาก
ขวบ กว่าไม่รู้กี่เดือนแต่ต้น ๆ แหละ
ไปเล่นฟีโน่สีชมพูของน้องโบว์เด็กบ้านติดกัน อาเดียวชอบมากจนวันนี้แม่ยังไม่ซื้อให้ลูก คิดว่าถ้าจะซื้อเป็นจักรยานปั่นดีกว่าจะได้ แข็งแรง และอีกอย่างก็คือ เรามีมินิอยู่แล้ว มันไม่จำเป็น
แต่คืนนั้นอาเดียวตื่นมาร้องไห้กลางดึก พาเดินไปเดินมาหลายรอบกว่าจะหลับ
น้องโบว์ยังคงเอาฟีโน่มาเล่นประจำและแย่งกันขึ้นนั่งประจำ บางครั้งพลักกันตกก็มี
อย่าได้ไปตัดสินใจว่าใครผิดถูก เราดูอยู่ห่าง ๆ เนอะ เด็ก ไม่เห็นจะโกรธกันเลย
อีกเรื่อง
เดือนก่อน ที่ไปรับลูกจากบ้านพี่สาวตอน สองทุ่ม กลับมาลูกตอนดึกตื่นมาร้องไห้ไม่มีเหตุผล นั่นเราไปด้วยความเครียด
เมื่อวันก่อน ไปฉีดยา เหนื่อยหน่อยแต่เราก็สนุกสนาน เออ อิช้าน ปวดแขนอุ้มลูกไม่ไหว แบกลูกใส่หลังเดินกลางเมืองซะงั้น คนเขามองกันนะ แต่ลูกสนุก ไม่เป็นไร หน้าด้านนน กลับมา ลูกไม่งอแงไม่ร้องไห้เป็นเด็กดี แม้ฉีดยาจะปวดแขนก็ตาม
แต่เมื่อวานซืน ที่พี่สาวมาพาลูกไป อารมณ์เครียดทำให้อิช้านน ผลักม้าเขียวของลูกกระเด็นไป และทะเลาะกับพี่สาว ทุกคนเครียด เราและพี่สาวก็เครียด เป็นผลให้คืนนั้น ลูกตื่นมาร้องไห้กลางดึกอีกรอบ
...นี่เป็นการสังเกตเบื้องต้นจากแม่ไม่ได้เรื่องอย่างอิช้านนคะ ใครมีประสบการณ์ หรือรู้มากกว่านี้ ช่วยกรุณาแนะนำมาด้วยนะคะ จะขอบคุณมาก ๆ เลย
สรุปได้ว่า ตามทฤษฏีมั่ว ๆ ของอิช้านนนเอง
สภาวะรอบกาย มีผลอย่างมากกับจิตใจเด็ก ถ้าสังคมรอบตัวเด็กเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแม้ว่า จะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นเด็กจะมองผ่านมันไป และเห็นว่ามันเป็นเรื่องแค่เพียงนิดเดียว เรากังวลกันว่า การเดินทางไกลไปฉีดยาจะทำให้ลูกไม่สบาย การขับถ่ายไม่ปกติ แต่ทุกอย่างสามารถควบคุมได้
เทสน์มาสองหนแล้ว
(สาเหตุที่ต้องไปฉีดยารพ.ในเมือง ที่ไกล เกือบร้อยกิโลนี่เพราะ ยาที่รพ.ประจำอำเภอ ไม่มียาแบบที่เคยฉีดจากปทุม ปะป๋าเลือกแบบที่เสียตังค์เบิกไม่ได้ เพราะมั่นใจว่ามันดีกว่า แถมเขาโฆษณามาว่าฉีดตัวนี้แล้วไม่เป็นไข้ ไม่เป็นจริง ๆ ด้วยนะ )
ถ้าสังคมรอบตัวเด็กเต็มไปด้วยความเครียด ก็จะทำให้เด็กเครียดไปด้วย
ไม่แปลกถ้าเราจะเห็นเด็กที่รุนแรงก้าวร้าวเพราะอยู่ในสังคมที่ก้าวร้าว
เพราะฉะนั้น
อยากจะให้ลูกเป็นแบบไหน ก็จงทำสังคมที่อยู่รอบ ๆ ตัวลูกให้เป็นแบบนั้น
โตขึ้น ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาจะต้องเรียนรู้ เราแค่สร้างพื้นฐานที่ดีให้เขาไว้ก่อนก็เท่านั้น
แม่ตัวเล็กเชื่อว่าพื้นฐานทางจิตใจ และวิธีการเลี้ยงดู สำคัญกับเด็กวัยขวบปีแรกนี้อย่างมากคะ เพราะเราตามลูกแทบไม่ทัน
...อีกสักนิด
ก็มีบ้างที่ลูกร้องได้ ดิ้นเร่า ๆ กระทืบเท้า เอาแต่ใจตัวเอง เราต้องตั้งสติให้ดี อย่าโมโห อย่าตี พาลูกออกจากสถานการณ์นั้น ออกมาสงบอารมณ์ และคุยกัน ลูกจะรู้ด้วยสมองน้อย ๆ ว่าเขาทำผิด ทำไม่ดีไม่น่ารัก
กริยาเอาแต่ใจนั้นจะค่อย ๆ หายไป
เอ้อ น้องหนูกับพี่แฟนต้า สอนมานะนี่ เริ่มรับมือได้แล้วละ แค่ตั้งสติ
ปล. เราอาจจะเจอกันได้ไม่กี่วันแล้วนะคะ สมาชิกพันทิปแบบโมบายของแม่อาเดียวจะหมดอายุแล้วอะ อัพเกรดไม่ได้เพราะเขาบอกว่า บัตรประชาชนนี้ มีชื่อสมาชิกแล้ว ก็นั่นมันนานจนจำไม่ได้แล้วอะคะ ไม่รู้จะไปยกเลิกยังไง หมายเลขโทรศัพท์ที่เคยสมัครไปตั้งแต่ปี 50 นี่ มัน หลายปีแล้วเปลี่ยนนานแล้วด้วย เขาจะส่งรหัสต่ออายุสมาชิกให้กับเราทางโทรศัพท์ ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็คงติดต่อกันไม่ได้แน่ ๆ สองสามวันนี้จะลองพยายามติดต่อเขาดูอีกสักสองสามรอบ เสียดายอะ
เหลือรูปยิ้มอีกหลายรูป แต่ชม.เน็ตหมด แค่นี้ก่อนนะ ไว้เด่๋วโชว์วัีนหลัง
ไปเยี่ยมไม่ไ้่ด้ไม่ว่ากันนะ
Create Date : 21 มีนาคม 2554 |
|
26 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2554 7:51:01 น. |
Counter : 1075 Pageviews. |
|
|
|
เห็นด้วยค่ะสภาวะรอบกายมีผลอย่างมากกับจิตใจเด็ก เด็กเปรียบเหมือนผ้าขาวที่เราจะแต่งแต้มสีสันลงไป....
เลี้ยงเด็กเป็นอะไรที่ยาก... เลี้ยงร่างกายนั้นไม่มีปัญหาแต่เลี้ยงจิตใจนี้สิ ต้องหล่อหลอมแล้วหล่อหลอมอีก เย็นแล้วเย็นอีก