เรื่องปวดหัวและน่ารำคาญ
ผ่านได้ก็ผ่านไปก่อนนะคะ
ฉันแรง..
แรงจริง ๆ แหละ
เหตุของเรื่องคือเมื่อวานนี้
ฉันคิดว่าถ้าความรักที่ให้กันจริง บริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรเคลือบแคลงทุกอย่างจะต้องเป็นไปอย่างเปิดเผยจริงใจ ฉันก็เข้าใจว่าพวกคุณรักหลานแต่สิ่งที่ทำ บางครั้งฉันว่าเกินไป
ตามประสาคนโง่เง่าและขลาดกลัวอย่างฉัน คนที่พูดอะไรไปแล้วไม่มีใครฟัง
ในสังคมแบบนี้ที่รอบข้างมีแต่ยาเสพติด คุณรักจะให้ลูกคุณโตขึ้นเป็นคนแบบไหนกันละ ยาเสพติดอยู่แค่ชายคาบ้าน ถัดออกไป แค่เดินก็ถึงแหล่งน้ำท่อม หรือ 4 x 100 คุณจะทำยังไงให้ลูกคุณผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ แม้ว่าวันนี้ลูกจะอายุแค่ ขวบกว่า
ถ้าคุณไม่คิดจะสร้างพื้นฐานให้ลูกเป็นเข้มแข็งและเชื่อฟังคุณตั้งแต่วันนี้และอย่าลืมว่าเด็กคนนี้ไม่มีพ่อ คุณพูดกรอกหูลูกเราทุกวันไม่ใช่เหรอ แม่มันไม่ได้เรื่อง พ่อมันเลวนะ
“เด็กมันจะเก็บกดเพราะมีแม่ไม่ดีแบบนี้ และวิธีการเลี้ยงลูกแบบนี้จะทำให้ลูกเก็บกด”
นั่นคือคำประกาศของเขา ที่หาว่ายังไงฉันก็เป็นแม่ที่ไม่ดี ไม่ยอมให้เขาพาลูกนอนค้างคืนด้วย
ฉันเหนื่อยแล้วนะกับความพยายามและดื้อรั้นของพวกเขา มันคือการยั่วโมโหที่ได้ผล มันไม่ใช่วิธีการที่พี่น้องคุยกัน
สิ่งที่จะทำให้ลูกไม่เก็บกดตามวิธีการของเขาก็คือ
ปล่อยลูกไปกะเขา ไปนอนบ้านเขา เท่าที่เขาต้องการ ให้เขาพาไปเที่ยวเล่น เท่าที่เขาต้องการ ให้กินอะไรก็ได้ ทำอะไรยังไงก็ได้ เท่าที่เขาต้องการ
เอ้อ แล้วลูกจะกลายเป็นเด็กดื้อเอาแต่ใจและไม่เชื่อฟังแม่ไหม เมื่อมีคนให้ท้ายและรองรับอยู่เสมอ
ฉันมันคนคิดมากอยู่แล้วเพราะสุดท้าย แล้วเขาก็จะไม่รับผิดชอบอะไรกับเด็กคนนี้อยู่แล้ว
เพราะเวลาพาไปก็นินทาแม่มันอยู่แล้วว่าเลี้ยงลูกไม่ดียังไงบ้าง ... เรื่องของเมื่อวาน “หวงนักกุจะพาไปกรุงเทพไม่บอก ไม่กล่าวไปเลย” นั่นเป็นคำขู่พร้อมสีหน้าที่จริงจัง บอกได้ว่าเอาจริงตลอดเวลา
“กุจะแจ้งความข้อหาลักพาตัว”
“กุ..จะเปลี่ยนรถใหม่ “ “ก็เอาเลย เพราะคนขับชื่ออะไร หน้าตาเป็นยังไง เลขบัตรประชาชนกุรู้หมด ดูสิจะไปได้ถึงไหน”
เอออมันต้องขนาดนี้กันเลยเหรอถามหน่อยเถอะ แค่เด็กคนเดียว
.......
ตอนเราเป็นเด็ก เราไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวห้างฯ
ไม่เคยแม้แต่จะไปดูหนัง
ไม่มีเคเอฟซี พิชซ่า กิน
ไม่มีรถพาเที่ยวไปไหนมาไหน
วัยนี้สังคมยุคนี้มันต่างกันก็จริง
แต่ในวัยขนาดนี้ จำเป็นต้องทำแบบนั้นเหรอ
การพาไปเปิดหูเปิดตาที่ว่านี่ ถ้าเราไม่มี มันไม่จำเป็นก็ได้ไม่ใช่เหรอ
ฉันชอบพาลูกไปไหนมาไหน ให้อิสระในการเดินและวิ่งเล่น ชอบฟังเสียงกรี้ดกร้าดดเวลาลูกทำอะไรด้วยตัวเอง ฉันรักลูกด้วยการปล่อยให้ลูกทำในสิ่งที่อยากทำด้วยตนเอง
เขารักหลานด้วยการให้ เท่าที่อยากจะให้ แต่ไม่เคยยอมให้ลูกทำและสัมผัส พาไปห้างไม่เคยได้เดิน พาไปบ้านญาติไปดูเขากินเหล้ากัน พาไปนั่งเล่นในวงไพ่ ที่เต็มไปด้วยกลิ่้นบุหรี่และเหล้าเบียร์
พอแม่ว่า เขาก็พูดว่า "เด็กคนอื่นก็เห็นก็เจออยู่ทุกวัน ลูกคนโน้นนี้นัั้น ต้องให้เด็กมันได้สัมผัสบ้าง ลูกคนอื่นก็อยู่กันแบบนี้"
ว่า ๆ กันไป แม่ถอยเพราะเถียงไม่ทัน
เมื่อวานแม่พยายามพูดแทนฉันและให้ฉันหยุดพูด
ทุกคำพูดของแม่ก็ถูกต้านมาเพราะแบบนี้
เขาไม่ฟังแม้กระทั่งแม่ของพวกเรา ที่วันนี้ออกปากแทนฉัน ทั้ง ๆ ที่ทุกวันเพียงแต่เงียบ
คนเรามีวิธีการที่แตกต่างกัน แต่ฉันเชื่อว่าถ้าพวกเขามีลูกเป็นของตัวเอง เขาจะรู้จักรักลูก ตัวเองมากกว่านี้ รู้วิธีการเลี้ยงดู ที่ไม่ใช่แบบนี้
แต่เผอิญนี่คือเด็กคนเดียวที่เป็นหลานคนเดียวของที่บ้าน
เด็กที่ พ่อไม่เอา และแม่ไม่ได้เรื่อง (ถูกว่าแบบนี้อยู่เสมอ)
ฉันเป็นเด็กที่ไม่ค่อยอบอุ่นมาตั้งแต่เกิด ฉันอาจจะหวาดกลัวเกินความจำเป็น
ฉันไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กเอาแต่ใจ จนเอาไม่อยู่ตั้งแต่ตอนนี้
ผ้าขาวผืนนั้นสำหรับฉันยังสะอาดอยู่
ฉันอาจเครียดมากเกินไป แต่ไม่อยากให้ใครมาเิติมสีแห่งควมเจ็บปวดให้
อนาคตเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่วันนี้ เท่าที่เห็น
ยากเหลือเกิน..ที่คนไม่ได้เรื่องอย่างฉันจะประคับประคองให้ผ่านไปได้
ฉัน ท้อมากแล้วนะ...
คนทางนั้น ได้ยินฉันไหม
....
Create Date : 19 มีนาคม 2554 |
|
14 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2554 9:57:30 น. |
Counter : 513 Pageviews. |
|
|
|