Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
หาดทรายปลายดาว 03


คุยกันก่อนอัพ

เกิดวิกฤตในชีวิตมาได้หลายวันแล้วค่ะ เนื่องจากจู่ๆตื่นมาวันหนึ่ง
ในสมองก็ว่างเปล่าขาวโพลนไปหมด เหมือนตัวมันกลวงๆบอกไม่ถูก
และ...ไม่สามารถเขียนนิยายออกมาได้แบบมีอารมณ์ร่วมอีกเลย TOT

กรี๊ดดดดดด เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!!!

หลังจากพยายามฝืนเขียนมาหลายวัน ปรากฎว่างานออกมาตามสเต็ปแต่ไร้ชีวิตชีวามาก
พลอยก็เลยเริ่มวาระแห่งการยกทิ้งทั้งแผง o_O* อย่างน่ากลัวมากมาย

ตอนนี้นั่งมองจอคอมฯแบบสมองไม่ยอมทำงานค่ะ
ว่าจะหันไปถักโครเชต์สักพัก

ไม่รู้เมื่อไหร่นิยายจะหวนกลับมานะ...คิดถึงจัง

Ploy666.


**************

หาดทรายปลายดาว 03
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



ดูเหมือนว่า ‘มิสเตอร์คุกกี้ช็อกโกแลตชิฟ’ ของหล่อนจะไม่ได้เป็นใบ้...

น้ำอิงคิดอย่างขำขำ...แล้วก็ต้องเพิ่มในลิสต์รายการว่าไม่ได้หูหนวกไปด้วย เพราะขนาดหล่อนลดเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือเขายังอุตส่าห์แกล้งพูดลอยตามลมมาค่อนว่าหล่อนเป็นพวกคนเมืองที่เที่ยวเป็นแค่ฉาบฉวย

ความศิวิไลซ์วัดกันที่อาการติดโทรศัพท์มือถือ

แหม...แล้วทีเขายังมีกล้องดิจิตอลติดตัวได้เลย แน่จริงไม่ต้องใช้สิ!

เมื่อหยิบกระเป๋าคอมพิวเตอร์โน้คบุ๊คสะพายเฉียงบ่าก็อดคิดไม่ได้ว่ามันก็จริงของเขานั่นแหละ...อย่างน้อยหล่อนก็ยังเป็น ‘คนเมือง’ ที่ต้องทำมาหากินแม้แต่ในวันลาพักร้อนก็ตามที

น้ำอิงจดไว้ในสมองว่าต้องหาที่พักซึ่งใช้อินเตอร์เน็ตได้

หญิงสาวลากกระเป๋าสัมภาระลงมายืนเคว้งดูนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงวัน

...พะงันดูแปลกตาเมื่อมองหาพาหนะได้น้อยผิดหูผิดตาเมื่อเทียบกับสมุยที่หล่อนไปชะโงกมองตอนเรือจอดซึ่งมองเห็นรถติดยาวเหยียดเป็นแพ

มีนักท่องเที่ยวหลายคนเดินเลยไปยังท่ารถสองแถวเพื่อเหมาให้ไปส่งยังที่พัก

คนส่วนมากเลี้ยวไปทางขวา

แต่น้ำอิงเลือกที่จะหมุนตัวเดินดุ่มไปทางซ้ายมืออย่างนึกสนุกขึ้นมา...

เสียงประกาศแจกแผนที่ท่องเที่ยวจากศูนย์ประชาสัมพันธ์ของท่าเรือใกล้เคียงอีกแห่งทำให้น้ำอิงไม่รีรอจะลากเอาสัมภาระก้าวเข้าไปหลบกระไอแดดที่แผดเปรี้ยง

“ขอแผนที่หน่อยได้หรือเปล่าคะ พอดีเมื่อครู่นี้ได้ยินประกาศว่าแจก”

“ได้ครับ”

น้ำอิงท้วงขึ้นเมื่อรับแผนที่สองแผ่นซึ่งเจ้าหน้าที่ยื่นให้ “มาคนเดียวค่ะพี่”

สิ่งแรกที่อีกฝ่ายทำคือตีหน้าฉงนและมองหารอบกายหล่อนเหมือนจะให้แน่ใจว่าหูไม่ฝาด

น้ำอิงยิ้มทั้งปากและตา

ย้ำอีกครั้งว่า “มาคนเดียวค่ะ...แผ่นเดียวก็พอ จะได้เก็บไว้แจกคนอื่นๆอีก”

“ไม่เป็นไรน้อง มีเยอะ” ดูเหมือนคนที่อยู่ในเคาน์เตอร์จะยังตั้งสติไม่ค่อยทัน

หญิงสาวไม่ได้สนใจสิ่งใดอีก เลือกหาที่นั่งพักขาก่อนเปิดดูรายละเอียดในแผนที่แผ่นนั้นเพื่อมองหาเส้นทางที่หมายตาเอาไว้ น้ำอิงไม่ลืมดึงเอาแผ่นกระดาษที่ปริ้นท์จากอินเตอร์เน็ตมาเทียบเคียง

ก่อนอื่นคงต้องมองหาที่พัก

เรื่องกินนั้นยังเล็กเมื่อเทียบกับการหาที่นอนสำหรับค่ำคืนนี้...หล่อนน่าจะมีเวลาอีกราวๆสามสี่ชั่วโมงในพื้นที่อันไม่คุ้นเคยก่อนฟ้าจะมืดลง

หล่อนสูดลมหายใจลึกยาวเรียกเอาความเชื่อมั่นที่มากมายกลับคืนมา และเดินไปหาเจ้าหน้าที่ประจำท่าเรืออีกกลุ่มที่ยืนสนทนากันอยู่

“ขอโทษค่ะ”

“ครับ คุณ...”

หลายคนในกลุ่มนั้นหันมามองเป็นตาเดียว

“อิงกำลังจะหาที่พักน่ะค่ะ พอจะแนะนำรีสอร์ตที่ไม่แพงมากนักแล้วก็ติดทะเลให้หน่อยได้ไหมคะ”

จะเพราะเสียงหวานๆมีกังวานใสหรือเพราะใบหน้าที่เกลี่ยด้วยรอยยิ้มกระจ่างจ้าของน้ำอิงก็สุดรู้ พวกเขาเริ่มหันไปพยักพเยิดเชิงถามกันไปมา

สักพักก็ชี้ไปที่ชายวัยประมาณเกือบสี่สิบซึ่งยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อยกำลังสนทนากับเจ้าหน้าอีกคนอยู่แล้วบอกว่า

“น้องไปกับพี่คนนี้ไหม เขาเป็นเจ้าของรีสอร์ตที่หาดยาว...พี่นภ ลูกค้าหาที่พักน่ะพี่”

ผู้ถูกเรียกหันมาตามเสียง ใบหน้ารูปเหลี่ยมดูกระด้างแต่ท่าทางสุภาพสวมเชิ้ตแขนสั้นกางเกงยีนส์ ผิวดำเป็นมันอย่างคนใต้ขนานแท้ จัดเสื้อผ้าเล็กน้อยก่อนเดินเข้ามาสมทบ

“สวัสดีครับ หาที่พักหรือครับคุณ”

“น้ำอิงค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากติดว่ามีสัมภาระหลายชิ้นจึงไม่อาจละมือขึ้นยกไหว้ได้ตามมารยาท “อิงกำลังหาที่พักติดทะเลน่ะค่ะ”

“รีสอร์ตผมอยู่หาดยาว เดี๋ยวไปรถผมเลยก็ได้ มากี่คนครับ”

น้ำอิงหัวเราะคิกออกมา “มาคนเดียวค่ะ...สงสัยต่อไปคงต้องรีบบอก มีแต่คนถามทั้งนั้นเลยว่ามากี่คน”

นภดลเองก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากคนอื่นๆ

“ไม่ค่อยเห็นใครมาเที่ยวคนเดียวน่ะครับ เดี๋ยวรออีกสักครู่ได้ไหมครับพอดีผมรอรับน้องที่มาจากกรุงเทพฯ เมื่อวานเห็นโทรบอกว่าจะมาเรือเที่ยวนี้แต่ยังไม่เห็นลงจากเรือเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ อิงรอได้”

นภดลชี้แจงค่าที่พักในราคาไม่แพงให้ทราบก่อนสอบถามระยะเวลาเข้าพักตามหน้าที่แล้วก็ขอตัวไปยืนรอยังจุดที่คิดว่าคนลงจากเรือจะเห็นได้ง่าย ผ่านไปพักใหญ่เขาก็เดินโคลงศีรษะกลับมาหาน้ำอิงและบ่นว่า

“สงสัยจะไม่มาเรือเที่ยวนี้ไม่งั้นก็น่าจะเห็นแล้ว”

“ไม่โทรเข้ามาก่อนเรือจอดเหรอคะ”

“เปล่าครับ” เขาทำเหมือนจะตัดใจและช่วยยกเป้พาเดินไปที่รถ “เดี๋ยวเราไปกันก่อนเลยดีกว่า นี่เมียผมก็ไปหาลูกค้าที่เรืออีกลำหนึ่งนะ”

ทั้งคู่เข้าประจำที่นั่งเรียบร้อยนภดลก็พารถเคลื่อนออกไป

เป็นรถกระบะแบบสี่ที่นั่ง เบาะหลังว่างพอที่น้ำอิงจะเอาเป้กับโน้ตบุ๊ตวางไว้ชั่วคราวได้อย่างสบายๆเมื่อหล่อนนั่งเบาะหน้าคู่ไปกับคนขับ อดชวนเขาคุยอย่างสนใจไม่ได้ว่า

“ปกติต้องหาลูกค้าบนเรือแบบนี้เลยหรือคะพี่นภ”

“ก็มีบ้างครับ” เขาตอบแบ่งรับแบ่งสู้ “แล้วแต่ช่วงมากกว่า ถ้าไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวเยอะเขาก็โทรมาจองบังกะโลไว้เกือบเต็ม สบายกันหน่อย แต่ว่าถ้าช่วงแบบนี้มีที่พักเหลือเราก็ขึ้นเรือไปหาคนจากสมุยที่จะมาพะงัน”

“โห...” น้ำอิงอุทานอย่างทึ่งจัด

เจ้าของรีสอร์ตเพียงหัวเราะและถามไถ่ว่า “ทำไมมาเที่ยวนี่ล่ะครับ”

“มีเพื่อนเคยมาค่ะ บอกว่าสวย...แล้วพอดีเสิร์ชเห็นรูปในอินเตอร์เน็ตด้วยน่ะค่ะก็เลยอยากมา”

“รีสอร์ตผมก็ลงโฆษณาในอินเตอร์เน็ตเหมือนกันนะครับ”

“ชื่อรีสอร์ตอะไรคะพี่...อิงว่าจะถามอยู่เชียว”

“ริมเลรีสอร์ต” คนตอบมีสีหน้าภาคภูมิใจ “รีสอร์ตเราไม่ใหญ่โตมากเพราะทำกันเองในครอบครัวแต่จะเงียบแล้วก็อยู่ติดทะเล จริงๆแล้วก็อยู่ในแถบหาดยาวนะครับ แต่ว่าหน้ารีสอร์ตที่ลงทะเลจะยังไม่ถึงหาดยาว ผมมีผับที่หาดยาวอีกที่หนึ่งแต่ช่วงนี้ปิดว่าจะซ่อมแซม”

“ที่พักอยู่ไกลไหมคะ”

ท่าทีกระตือรือร้นของน้ำอิงดูเหมือนจะช่วยยืดบทสนทนาออกไป

“ขับรถสักสิบห้านาทีได้มั้งครับ แต่ต้องดูทางนิดหน่อยเพราะมีแยกเยอะเหมือนกันมันจะตัดเข้าไปกลางๆเกาะไม่ได้เลียบทะเลตลอด แต่ว่ามีรถสองแถววิ่งผ่านหน้ารีสอร์ตประจำถ้าจะออกมาแถบนี้หรือไปหาดริ้นก็ไปได้อยู่ครับ อย่างหาดยาวนี่แต่ก่อนเขาเรียกหาดเจ้าโพธิ์ ทีแรกหาดที่ยาวสุดไม่ใช่ที่นี่นะ...พอดีตอนหลังระดับน้ำเริ่มเปลี่ยน แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นหาดอะไรที่แถบชายหาดจะยาวกว่านี้ เขาเคยวัดกันไว้นานแล้ว”

นภดลคงจะเล่าต่ออีกยาวหากไม่เพราะโทรศัพท์ดังขึ้น

เขาจอดรถข้างทางเจรจาสักพักก็หันมายิ้มกว้าง

“เดี๋ยวผมขอวนรถกลับไปรับน้องก่อนนะครับ รายนั้นมาจากกรุงเทพฯไม่ค่อยจะคุ้นกับที่นี่เท่าไหร่...เคยมาหนสุดท้ายก็นานหลายปีแล้วจะให้มาที่รีสอร์ตเองก็กลัวไม่รู้ว่าตรงไหนเป็นตรงไหน”

สุ้มเสียงยามกล่าวถึงคนเป็นน้องฟังดูอบอุ่นจนน้ำอิงนึกวาดภาพหญิงสาวน่ารักน่าเอ็นดูสักคนและอดยิ้มตามไม่ได้

“ไม่เป็นไรค่ะ”

“เมื่อกี้โทรมาบอกว่าผมไปรับผิดท่าเรือ”

“อ้าว...”

นภดลวนรถเลี้ยวผ่านหน้าสถานีตำรวจก่อนมุ่งไปยังทิศทางที่จะตีเข้าถนนเส้นเดิม

“สงสัยจะมาลงท่าเรือใกล้ๆนั่นแหละแต่ผมฟังผิดเอง”

“คงไม่ได้ขึ้นเรือจากท่าเรือดอนสักมาลำเดียวกับอิงหรอกนะคะ” หญิงสาวทายกึ่งเล่นกึ่งจริง

ใจก็นึกทบทวนว่ามีสาวน้อยคนไหนนะที่หน้าตาคล้ายนภดลบนเรือลำนั้น แต่สุดท้ายความทรงจำอันว่างเปล่าก็ทำให้น้ำอิงตัดใจเลิกคิด บางทีคนขึ้นเรือทีหลังอาจไม่ได้คิดจะขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือก็เป็นได้ ในเมื่อห้องที่ชั้นล่างๆก็มีส่วนติดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบและของกินมากมายขายนักท่องเที่ยวสะดวกสบายกว่าการขึ้นมาตากแดดดาดฟ้าเรือเป็นไหนๆ

น้ำอิงไม่ได้สนใจอีกจนกระทั่งรถไปจอดรอรับที่ท่าเรือซึ่งตนเพิ่งจากมา

กระทั่งชายหนุ่มร่างสูงผิวสองสีค่อนข้างคล้ำคุ้นตา แบกเป้เดินลิ่วๆมาขึ้นรถในมาดของนักเดินทางที่ลุยมาเต็มพิกัด เขาโบกมือขึ้นทักทายนภดลที่ยืนยิ้มกว้างรอรับ ก่อนจะโยนสัมภาระไว้ที่กระบะหลังโดยไม่ใส่ใจนัก

“ขอโทษ...ขอนั่งเบาะข้างหน้าได้ไหม”

เสียงถามเรียบๆไร้คำลงท้ายยังไม่ร้ายเท่าการปลดแว่นกันแดดออกพับเก็บแล้วตวัดมองด้วยหางตาคมเป็นมันดำปลาบแน่วนิ่งที่ดูเหมือนแทบทำให้คนซึ่งยังมองตาโตจ้องกลับมานั้นแทบจะลืมหายใจ

น้ำอิงนั่งอึ้งทำเสียงอึกอักในลำคอครู่หนึ่ง

มือใหญ่ก็ถือวิสาสะเอื้อมไปหยุดที่ปรับเอนเบาะเหมือนจะเตือนในที

“เอ่อ...ค่ะ...”

หล่อนดูเงอะงะไปเล็กน้อยเมื่อพยายามพาตัวเองไปเบียดกับข้าวของทางเบาะหลังปล่อยให้ร่างกำยำเข้ายึดครองที่นั่งซึ่งยังมีไออุ่นทิ้งค้าง

นภดลขอโทษขอโพยในความไม่สะดวกมาสองสามคำแต่น้ำอิงได้แต่ยิ้มรับและบอกว่าไม่เป็นไร

นานพอแน่แก่ใจแล้วว่าเสียงสนทนาที่ลอยกลับไปมาระหว่างสองคนด้านหน้านั่นหล่อนไม่ได้ฝันไป น้ำอิงก็เริ่มหันไปแอบลอบมอง ‘คุกกี้มีชีวิต’ อย่างไม่ให้โดนจับได้ว่าทำอะไรอยู่ แล้วรอยยิ้มขบขันก็จุดพรายที่มุมปากน้อยๆอย่างอดไม่ไหว

มาดนิ่งๆดูเผินๆว่าสุภาพของคนมาใหม่ให้คำจำกัดความว่ามีความเป็นผู้ใหญ่สูงลิบ พอๆกับความมั่นใจในตัวเองที่แทรกอยู่ในท่าทางและคำโต้ตอบฉะฉานมั่นคงแม้จะพูดน้อยจนออกอาการเหมือนถามคำจึงตอบคำก็ตามที

คราวนี้หล่อนก็รู้แล้วว่าทำไมถึงช่างประชดประชันขวางหูขวางตากับความเป็นตัวตนของน้ำอิงนักหนา

ก็คนมันไม่เหมือนกันเลยสักนิด ต่างสไตล์ ต่างใจ

และที่สำคัญ...ต่างคนต่างมา

แต่ดันเผอิญต้องเจอกันอีกคราอย่างไม่ได้คาดฝัน

“โธ่เอ๊ย...ก็แค่ขนมอบล่ะน่า!”

น้ำอิงเผลอหลุดปากพึมพำออกไปเบาๆอย่างเผลอไผล เหมือนจะบอกกับตัวเองว่าไม่เห็นจะเป็นไร

แล้วก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่เห็นว่าดวงตาเข้มดุจัดของใครอีกคนจ้องผ่านกระจกมองหลังอย่างเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง

คราวนี้กระไอแดดที่เต้นแผดระริกบนถนนลาดยางกลับทำให้น้ำอิงอารมณ์ดีพอจะหัวเราะออกมาเบาๆคนเดียว และกลายเป็นนักท่องเที่ยวพิลึกในสายตานภดลที่ชำเลืองมองอย่างหวั่นๆ...
















Create Date : 10 กันยายน 2552
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 18:36:06 น. 8 comments
Counter : 412 Pageviews.

 
เป็นบ่อยๆ เหมือนกัน
อาการไม่ยากเขียนนิยายนี่

คุณพลอยถักโครเชต์ด้วยหรือคะ
เก่งจัง


โดย: ปณาลี วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:18:51:26 น.  

 
น้ำอิงจะนั่งเรือไปหาชมพูแพรที่ภูเก็ตไหมครับ ฮ่าๆ

แปะไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่าน
ขอชะแวบไปทำธุระสักครู่....


...................


โดย: รักดี IP: 113.53.149.198 วันที่: 10 กันยายน 2552 เวลา:22:11:29 น.  

 
น่าน แล้วก็มีบุพเพอาละวา
ให้ได้ไปอยู่ด้วยกันจนได้ โฮะๆๆ ...



โดย: deluck IP: 113.53.149.198 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:0:04:36 น.  

 
คุณพลอยทำทุกอย่างที่มันมิใช่การทำงานน่ะค่ะคุณตูน
55+ (ออกแนวขี้เกียจนะนี่)
แต่ส่วนมากจะทำๆเลิกๆค่ะ

นิยายที่บ่นนี่เพราะ ดันเขียนมากว่าครึ่งเรื่องไปแล้วค่ะ แถมเขียนได้ดังใจอีก จู่ๆทุกอย่างหายวับเอากะทันหัน คนเขียนเลยออกอาการ งง ไปเลยทีเดียวน่ะค่ะ T^T

********** ****
ตอบคุณรักดี

อยู่ที่ติณณ์จะมารับไหม โฮะ โฮะ
น้ำอิงเล็งแต่พระเอกอ่ะนะ

ตอบคุณ deluck (รักดี)
นิยายเรื่องนี้พื้นที่มันเล็กเท่าขนาดเกาะเองน่ะ
ยังไง๊-ยังไงก็ต้องเจอล่ะน่า ^ ^




โดย: ploy666 (ploy666 ) วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:13:37:11 น.  

 
พรุ่งนี้ตูนจะไปหัดถักหมวกโครเชต์ค่ะ
ไม่รู้ชะตากรรมจะเป็นอย่างไรบ้าง


โดย: ปณาลี วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:0:56:34 น.  

 
ขอประทานอภัยเจ้าค่ะ วันนี้อ่านด้วยสมองเบลอๆ ไม่ค่อยมีสมาธิเล้ย แวะมาใหม่ดีกว่าเนาะ


โดย: Tukta21 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:15:18:38 น.  

 
อ่านจบแล้วค่ะ อิอิ


โดย: Tukta21 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:23:00:25 น.  

 
คุณตูนคะ
ถ้าให้พลอยถักหมวกชะรอยจะ เละ แน่นอนค่ะ
นู๋พลอยถนัดแต่พวกเป็นผืนๆน่ะ อะไรที่วนจากจุดศูนย์กลางออกไป อาทิ หมวก ตุ๊กตา มักนับไม่รอดค่ะ T^T

เอาใจเชียร์ฝีมือคุณตูนอยู่จ้า ^ ^


****** **

มอลลี่ เก่งๆๆ
ปรบมือชื่นชม แปะๆๆๆ (55+)



โดย: ploy666 IP: 124.157.184.42 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:13:04:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.