|
หาดทรายปลายดาว 07
คุยกันก่อนอัพ
จบไปเป็นทางการแล้วค่ะกับนิยายเรื่อง เงาบรรณ ^ ^ มาอ่านหาดทรายปลายดาวกันต่อเนอะ
เมื่อไม่กี่วันก่อนพอดีมีน้องมาขอพูดคุยเล็กน้อยเพื่อจะเอาไปประกอบการรายงานในชั้นเรียน สมัยนี้เป็นโลกยุคไฮเทคด้วยมั้งคะ อะไรๆจึงติดต่อสื่อสารถึงกันง่ายดาย
เลยคิดว่าสมัยก่อนตอนเราเรียนเนี่ย ไม่ค่อยมีนะคะแบบไปติดต่อขอข้อมูลอะไรเองอย่างนี้ อดนึกไม่ได้ว่าเริ่มแรกเลยถ้าตอนนั้นเป็นเราจะเป็นยังไงนะ 555+
คิดว่าคงกลัวผิดพลาดน่าดูค่ะ สมัยเด็กๆเลยไม่ใช่คนกล้าแสดงออกนัก ไม่ถึงขนาดอายเหนียมนะคะ แค่ชอบอยู่เงียบๆไม่สุงสิงกับคน เป็นพวกเก็บตัวใช้ได้ทีเดียว มาเปลี่ยนตัวเองในช่วงขึนชั้นมัธยมปลาย ที่ทำได้ทุกอย่าง (มั่นมาก) รู้สึกเหมือนเป็นบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้เสี้ยวใหญ่ในตัวจะยังคงอยู่ คือนิสัยที่ชอบใช้ชีวิตสงบเงียบตามลำพัง แต่เวลามีงานเนี่ย...ลุยแหลกเหมือนกันค่ะ ^o^
Ploy666.
**************
หาดทรายปลายดาว 07 ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
อย่างน้อยน้ำอิงก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้อิ่มทิพย์แค่เพราะเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ ท้องหล่อนที่ปวดแปลบปลาบเป็นระยะบ่งบอกความหิวเมื่อท้องฟ้ามืดสนิทลงนานแล้วแต่งานกลับเพิ่งเสร็จสิ้น
อยากสมน้ำหน้าตัวเองที่รนหาเรื่องเหนื่อยถึงนี่
แต่ก็ทำไม่ลงเมื่อมองเห็นสีหน้าเปี่ยมสุขของวรรณและครอบครัว...
ยิ่งทำงานเยอะยิ่งหิวข้าว น้ำอิงไม่รีรอที่จะบอกออกไปเมื่อนภดลถามไถ่รวมๆอย่างอาทรว่า
หิวข้าวกันหรือยัง
หิวค่ะ!
เงาตะคุ่มของคนตัวสูงใหญ่ที่กำลังเดินเลยไปไขกุญแจเปิดประตูรถอีกคันหยุดมือและเงยมอง ก่อนที่ใครจะว่าอย่างไรต่อนั้นนภดลก็หันไปบอกผู้เป็นน้องชายเขาเชิงสั่งว่า
งั้นปรัชญ์พาน้องเขาไปนั่งร้านประจำที่พี่เคยบอกไว้เลยนะ เดี๋ยวพี่โทรให้เขาลงบัญชีพี่ไว้เอง
น้ำอิงเกรงใจจึงรีบบอกว่า อิงจ่ายเองได้ค่ะพี่นภ ยังไงอิงก็มาเที่ยวอยู่แล้ว
ไม่เป็นไร มื้อนี้พี่เลี้ยงคิดซะว่าเป็นการขอบคุณที่มาช่วย แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้เลี้ยงรับปรัชญ์ด้วยถือซะว่าเลี้ยงรวมๆไปเลยดีกว่า เดี๋ยวพี่จะไปส่งคนงานสองคนนี่ก่อนค่อยไปรับลูก...เจอกันที่รีสอร์ตนะ ปรัชญ์ก็ดูแลน้องเขาให้ดีๆด้วย ขับรถระวังหน่อย
ครับ
คนถูกฝากรับคำหนักๆทีเดียว
นภดลยิ้มอย่างใจดีก่อนอำลาแยกย้ายไป
แสงปรัชญ์เคลื่อนกายเข้าไปนั่งประจำที่คนขับและรอคอย น้ำอิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจำใจตามไปนั่งคู่กัน ก่อนหันไปบอกอย่างจริงจังว่า
อิงกลับไปกินอะไรง่ายๆที่รีสอร์ตดีกว่ามั้งคะ อีกอย่างเราก็เหนื่อยแล้วด้วย
ป่านนี้แก้วตาคงเข้านอนแล้ว คนท้องแก่ไม่ควรถูกปลุกลุกมาทำกับข้าว อีกอย่างพี่วรรณก็ติดรถไปกับพี่นภไม่รู้ว่าจะถึงรีสอร์ตเมื่อไหร่ด้วย
เหมือนเป็นประโยคบอกเล่าและปิดเอาทางค้านไปจนหมดสิ้น
หญิงสาวลอบมองเสี้ยวหน้าองค์ประกอบเข้มมีแววดุนั้นและไม่อยากจะต่อปากต่อคำให้วุ่นวายไปอีกนอกจากยอมรับโดยดี ตอนนี้น้ำอิงเหนื่อยและเพลียจนหมดแรงจะรบรากับใคร
ยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น น้ำอิงควานหาของที่ตนเองต้องการและเผลออุทานเล็กน้อยเมื่อเสียหลักเล็กน้อยเพราะรถกำลังเลี้ยว ล้อรถบางส่วนจมลึกลงไปในทราย
ขอโทษที ใครอีกคนบอกเบาๆ
เชื่อเถอะว่าหล่อนไม่ได้พบวี่แววเสียใจในประโยคนั้นเท่าที่ควร!
ร้านอาหารที่แสงปรัชญ์พาไปนั่งเป็นร้านเล็กๆซึ่งหาดและเย็นสบายด้วยสายลมค่ำที่โกรกผ่านคลอเสียงคลื่นแว่วมา
ชายหนุ่มทักทายกับเจ้าของร้านสองสามคำอย่างคนที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อนแล้ว
เขาสั่งกับข้าวที่ทำง่ายๆมาสองสามอย่างพร้อมข้าวสวยหุงร้อนๆเพื่อให้อุ่นท้อง ก่อนยื่นเมนูมาให้น้ำอิงเหมือนจะถามว่าต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ หญิงสาวเพียงแต่ส่ายหน้า ความเหนื่อยล้าทำให้หล่อนรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนสมองเหมือนจะไม่ทำงานเสมอ
ตอนนี้หล่อนไม่มีแก่ใจจะสนใจสิ่งใดนอกจากรอให้อาหารเหล่านั้นมาพร้อมกันที่โต๊ะ
เมื่อดูเหมือนหญิงสาวตรงหน้าจะสมัครใจเล่นภาษาใบ้แข่งกับเขา แสงปรัชญ์จึงค่อยๆผ่อนลมหายใจยาวและหรี่ตามองนิ่งๆ
แวบหนึ่งที่น้ำอิงคล้ายเห็นแววขันจุดพรายในดวงตาคมดุจัด แต่มันวาววะวับครู่เดียวก่อนจะถูกกลบหายจนหล่อนไม่แน่ใจนัก...
เครื่องดื่มอะไรดี ประโยคนั้นไร้คำลงท้าย ทว่าน้ำเสียงเรียบๆนั้นก็ฟังดูจะอ่อนลงกว่าทุกที น้ำเปล่า...น้ำอัดลม หรือว่าน้ำผลไม้
น้ำเปล่าเถอะค่ะ กินอย่างอื่นไม่ลง...
นัยน์ตาโรยเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงทำให้น้ำอิงสงบเสงี่ยมกว่าที่เคย
หรือบางทีอาจเป็นเพราะโทรศัพท์สั่งงานจากเฮียอเนกเมื่อครู่นี้ทำให้เซลล์ประสาทของน้ำอิงรวนไปถนัดตาก็เป็นได้
จะพักร้อนสักทีก็หนีไม่พ้นเรื่องงาน ตราบใดที่ยังต้องการกลับไปอย่างคนมีอาชีพน้ำอิงก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบเหล่านี้ได้ แม้ว่าส่วนหนึ่งใจหล่อนก็จำต้องยอมรับว่าการทำงานช่วยให้หล่อนสนุกสนานและภาคภูมิใจไม่น้อยเลย
ชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มตามนั้น
กิริยาอาการของเขาดูผ่อนคลายลงเมื่อยืดแขนวางพาดไปตามความยาวของพนักเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ใกล้ แม้เจ้าตัวจะหันออกไปมองทะเลอย่างทอดอารมณ์ น้ำอิงก็ยังสังเกตเห็นบุคลิกที่แฝงความเชื่อมั่นอย่างร้ายกาจในตัวผู้ชายคนนี้อยู่ดี
แต่เมื่อพินิจด้วยสายตาอันเป็นกลาง อย่างน้อยน้ำอิงก็ต้องยอมรับแบบไม่เต็มใจนักว่าภาพเบื้องหน้าคือความสมบูรณ์แบบเชิงศิลป์ที่ไม่อาจมองข้ามผ่านไปได้...เงาที่ทอดหลบจากแสงไฟสลัวรางส่งให้วงหน้าคมเป็นสันแลชัดเจนดูกระด้างแบบชายชาตรี ทว่าดวงตาดำจัดที่เปล่งประกายเจิดจ้าสะท้อนถึงพลังงานอันเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง เลยไกลออกไปคือผืนฟ้าที่มืดสนิทแต่ยังพอเห็นเกลียวคลื่นที่สะบัดโลดพลิ้วโยนตัวไปมาลั่นครืนครามเหมือนประกาศศักดาความเป็นเจ้าของท้องฟ้าและผืนดินนี้...
ปากไวเท่าความคิดเมื่อถามโพล่งออกไปว่า
คุณทำงานอะไรอยู่คะ
เขาเบือนหน้ากลับมาอย่างแปลกใจ แต่ก็ตอบโดยดีว่า ผมเป็นวิศวกรที่ปรึกษา
อิงทำในบริษัทโฆษณาน่ะค่ะ เมื่อเห็นวี่แววเชิงถามจากอีกฝ่ายหล่อนจึงขยายความต่อนิดหน่อยว่า ตำแหน่งอาร์ตไดเร็คเตอร์
อ้อ...
หางเสียงที่ลากน้อยๆเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าอาชีพกับตัวตนของหล่อนเหมาะสมกันดี
น้ำอิงรู้ว่าหล่อนถูกใครหลายคนมองว่ามีโลกส่วนตัวและจิตนาการที่ไม่หยุดนิ่ง สายตาเวลามองอะไรๆจึงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่าง แต่ดูเหมือนการมองของแสงปรัชญ์จะแปลกออกไปเล็กน้อยตรงที่มันราบสงบลงคล้ายไม่ได้ต้องการค้นลึกไปกว่านั้น
เขายินยอมปล่อยที่ว่างให้หล่อนแสดงตัวตนอันเป็นอยู่ มากกว่าจะใช้ถ้อยคำมาจำกัดคั่น
ผู้ชายคนนี้ก็แปลกดี...
ความคิดถูกกั้นขวางด้วยหางตาที่มองเลยออกไปยังลูกค้าอีกกลุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะห่างเลยกันเข้าไปด้านในของร้าน
รู้จักเหรอ
คนถามเพี้ยงเอี้ยวกายหันไปมองตาม
ไม่ค่ะ...แค่เคยเห็น
น้ำอิงกลับไปสนใจอาหารร้อนๆควันกรุ่นหอมฉุยที่เพิ่งยกมาตามคำสั่งเมื่อครู่ใหญ่นี้ ชายหนุ่มที่ร่วมโต๊ะจึงไม่คิดจะซักใดๆต่อไปอีกนอกจากเริ่มลงมือรับประทานอย่างเงียบ
กระทั่งเสียงฝ่ามือสะบัดใส่ผิวเนื้อใครบางคนดังลั่นร้านนั่นแหละที่ทำให้น้ำอิงสะดุ้งเฮือกและหันขวับไปมอง
หญิงสาวผู้ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำนั่งตัวลีบหน้าหันไปทางหนึ่งจากแรงฝ่ามือของเพื่อนสาวร่วมกลุ่มซึ่งลุกยืนตัวสั่น...ไม่ใช่เพราะตกใจ...แต่เป็นอาการโกรธอย่างฉุนเฉียวรุนแรงจนน่ากลัวทีเดียว คนกลางที่อยู่โต๊ะเดียวกันเหลียวมองไปทั่วอย่างขยาดต่อการตกเป็นเป้าสายตาจึงร้อนรนจ่ายเงินค่าอาหารยัดใส่มือบริกรเกินๆไปจากรายการจริงที่กะได้และลากตัวต้นเหตุจากไป ทิ้งให้ยิหวาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้
แสงปรัชญ์มองตามมือของหญิงสาวตรงหน้าเขาที่วางช้อนและส้อมลง น้ำอิงเช็ดปากอย่างเงียบๆก่อนจะพึมพำแผ่วๆว่า
ขอตัวสักครู่นะคะ
ปฏิกิริยาแรกของแสงปรัชญ์คือการนิ่ง และสิ่งที่เขาทำต่อมาคือดึงเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กจากกระเป๋าตนเองที่เก็บไว้มิดชิดก่อนหน้านี้ขึ้นมาถามว่า
เบอร์โทรคุณล่ะ
แม้จะแปลกใจแต่น้ำอิงก็บอกออกไปโดยดี
ชายหนุ่มใช้เวลาครู่เดียวในการบันทึกก่อนจะบอกสั้นๆปิดท้ายว่า ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็เรียกได้ ผมจะไปรอที่รถ
ค่ะ
ความเข้าใจที่ส่งผ่านสื่อสารกันเงียบๆนั้นดูเหมือนจะไม่ต้องใช้คำพูดมากมายเยิ่นเย้อ
น้ำอิงลุกเดินตรงไปที่หญิงสาวซึ่งใบหน้าเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาอย่างน่าเวทนาและก้มลงปลอบสองสามคำก่อนจะพากันลุกเดินไปทางห้องน้ำพร้อมเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกจากคนอื่นๆที่เห็นเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรก
แสงปรัชญ์มองตามคนที่เพิ่งลับหายไปด้วยดวงตาที่อ่านไม่ออก
เขาเคาะนิ้วลงกับโต๊ะสองสามทีเหมือนตรึกตรองบางสิ่ง ก่อนจะจัดการเรื่องค่าอาหารด้วยตัวเองโดยไม่ลงบัญชีไว้ ลุกเดินไปยังบริเวณที่จอดรถไว้ก่อนจะถูกกลืนหายไปในเงามืดที่ทาบลงมาปกคลุม...
แก้มที่แดงก่ำเป็นรอยนิ้วนั้นเห็นได้ถนัดตา น้ำอิงยืนหันหลังพิงเคาน์เตอร์รอให้ยิหวาล้างคราบน้ำตาออกไปแม้จะยังเห็นดวงตาที่ช้ำจากอารมณ์ที่ผ่านเข้ามาอย่างกะทันหันก็ตามที
ขอบคุณค่ะ
ยิหวากล่าวเบาๆแทบไม่ได้ยิน ขณะรับทิชชูซึ่งน้ำอิงยื่นส่งให้พร้อมเสียงถอนใจอย่างเวทนา
ท่าทางจะช้ำเยอะอยู่นะคะ
เดี๋ยวก็หายค่ะ รอยยิ้มฝืดเฝื่อนช่วยให้ดูดีขึ้นกว่าเดิมได้เพียงเล็กน้อย ปกติเราเป็นเพื่อนกันแต่มันก็ต้องมีบ้างใช่ไหมคะที่ผิดใจกันได้
ใช่...และไม่ใช่...
เท่าที่จำได้น้ำอิงมั่นใจว่าเพื่อนหล่อนไม่เคยลงไม้ลงมือรุนแรงขนาดนี้เพียงเพราะไม่พอใจกับเรื่องจุกจิกในการเที่ยวไกลบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ภาระที่จะไปทำให้ความกังวลใจในดวงตาคู่ที่มองมากึ่งขอร้องนั่นเพิ่มปริมาณกว่าเดิม น้ำอิงจึงเพียงยิ้มคล้ายจะยอมรับและไม่กล่าวสืบต่อไปอีก
มาเที่ยวหรือคะ น้ำอิงหันเหหัวข้อสนทนา
ยิหวาพยักหน้านิดๆ
เคยมาแค่สมุยน่ะค่ะ แต่หนนี้ปาล์มกับจูนอยากมาพะงันก็เลยลุยกันมาเอง
อิงก็เพิ่งเคยมาเหมือนกันค่ะ เห็นพวกคุณที่สถานีรถไฟก่อนหน้านี้แต่นึกว่าจะไปที่สมุย
อาจเพราะความเป็นมิตรและอากัปกิริยาสบายๆของน้ำอิงที่ทำให้ยิหวาไว้ใจพอจะเอ่ยเชิงปรึกษาขึ้นอย่างลังเลว่า
พอจะรู้จักที่พักว่างๆที่อื่นไหมคะ คืนนี้หวาไม่อยากกลับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนน่ะค่ะ
คนฟังย่อมทราบดีแก่ใจว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องการเวลาตั้งหลักก่อนเผชิญปัญหา อย่างน้อยหล่อนก็ดูน่าสงสารจนไม่สมควรจะต้องถูกส่งกลับไปรองรับโทสะเพื่อนสนิทในค่ำคืนนี้
น้ำอิงไม่ได้เสียเวลาคิดสักนิดตอนบอกออกไปว่า อิงพักที่ริมเลรีสอร์ตค่ะ...ถ้าสนใจนะ
ค่ะ...ขอบคุณมากๆค่ะ
สายตาคู่หม่นนั้นมีวี่แววตื้นตันใจ
น้ำอิงเพียงแต่ยิ้มให้เชิงปลอบในที แต่ใจหล่อนกำลังคิดว่าคนที่รออยู่ที่รถจะมีสีหน้ายังไงหนอ...
Create Date : 29 กันยายน 2552 |
|
6 comments |
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 18:34:02 น. |
Counter : 586 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: deluck IP: 118.172.73.74 30 กันยายน 2552 10:54:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 30 กันยายน 2552 12:41:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปณาลี 30 กันยายน 2552 22:52:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 1 ตุลาคม 2552 14:37:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรือไฟ 1 ตุลาคม 2552 21:11:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 124.157.190.203 2 ตุลาคม 2552 2:24:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
น้ำอิงเป็น... "โรคกระเพาะ"
แล้วเรื่องก็ปรับเข้าโหมดเศร้า
เพราะถือเป็นโศกนาฎกรรมที่ร้ายแรงมากมาย เหอ เหอ
ผมเดาตอนจบได้เก่งมะครับ ฮ่าๆ ...