Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
หาดทราบปลายดาว 02


คุยกันก่อนอัพ

อยากไปเที่ยวทะเลจังน๊า...

แปลกดีนะคะว่าคนอยู่ไกลทะเลจะอยากไปนักหนา แต่ถามไปถามมาพวกอยู่ชิดติดริมทะเล
กลับมักจะบอกว่าไม่ค่อยได้ไปหรอกนะ

นึกถึงตัวเองค่ะ ใกล้ดอยแค่นี้แหละแต่ไม่ค่อยได้ขึ้นเหมือนกันแฮะ
แต่ดันอยากไปเที่ยวภูเขาไกลๆตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ^ ^
เขาเรียกกิเลสมันหนาแน่นไปไหมนี่...แป่ว

ยังไงเที่ยวใกล้ๆก็ย่อมดีค่ะ ไม่เสียทรัพย์บานปลาย ลดระยะเวลาเดินทาง
นานๆค่อยถ่อไปไกลเปิดหูเปิดตา แต่ไปแล้วต้องเที่ยวให้คุ้มค่ะ...ย๊ากกกกกก


Ploy666.


**************

หาดทรายปลายดาว 02
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



เรือเฟอร์รี่สีขาวสีขาวล้วนลอยเด่นตัดกับสีฟ้าครามของน้ำทะเล ท้องเรือจมสู่น้ำลึกขณะกราบข้างล่นตัดผ่านคลื่นจนมันม้วนเป็นเกลียวก่อนจะกลืนหายไปท่ามกลางเกล็ดสีเงินระยิบระยับจากประกายแสงอาทิตย์ยามสายจัดที่กระทบสู่ผิวน้ำ

ร่างสูงแข็งแรงของชายหนุ่มผิวคล้ำในเสื้อไม่มีแขนอวดกล้ามเนื้อตึงแน่นสวยงามจนน่าอิจฉา เขายืนชิดระเบียงดาดฟ้าเรือดูโดดเด่น ผมตัดสั้นถูกแรงลมปะทะจนยุ่งเหยิงให้ความรู้สึกลุยๆพอกับเป้สีหม่นๆข้างตัว แจ็กเก็ตอีกตัวถูกมัดแบบลวกๆไว้ที่เอวกันไม่ให้มันลอยหายไปตามลม แว่นกันแดดสีเข้มปิดบังไปครึ่งหน้ารวมถึงดวงตาที่น้ำอิงเดาเอาเองว่าคงทอดมองไกลออกไปยังทะเลที่โยนตัวเป็นระลอกเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

แม้จะถือกล้องดิจิตอลไว้ในมือเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวรายอื่นๆแต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับมันเท่าที่ควรในเวลานี้

น้ำอิงเบียดตัวซุกเข้าไปในเงาเพื่อหลบแดดแรงกล้าก่อนยิ้มให้แก่หญิงสาวชาวต่างชาติอีกคนที่เดินเลยออกไปนั่งยังเก้าอี้ยาวและเริ่มใช้โลชั่นชโลมผิวเตรียมเพิ่มสีแทนไปอวดตามค่านิยม

เรือเพิ่งเทียบท่าที่สมุยเมื่อครู่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เฮละโลลงไปกันจนเกือบหมดเหลือเพียงบางตาที่ซื้อตั๋วเรือเดินทางต่อไปจนสุดทาง รายใหม่มีขึ้นเรือมาบ้างหากก็บางตาเต็มทีจนคร้านจะใส่ใจ

น้ำอิงอยากให้เรือแล่นไปจนสุดขอบฟ้าหากทำได้...

หล่อนอมยิ้มและก้มลงจรดปากกาใส่สมุดโน้ตส่วนตัว

ไม่มีการเดินทางใดที่เงียบเหงาหากหัวใจเราเปิดกว้างพอ

ภาพร่างจากหมึกปากกาสีดำขีดตวัดเป็นเส้นโย้เย้แต่พอมองเห็นเค้าของเด็กชายผมสั้นเกรียนสามคนที่ยืนกอดคอกันยิ้มแต้อย่างมีความสุขในมุมเดียวกับที่ผู้ชายอีกคนเพิ่งเข้าไปยึดครองแทน

‘สามทหารเสือแห่งเรือเฟอร์รี่’

คนเขียนตวัดถ้อยคำเพิ่มเติมใต้ภาพไปอีกนิดว่า

...ลงที่เกาะสมุยกับยายตอนสิบเอ็ดโมงเช้า

หล่อนได้แต่หวังว่าเด็กพวกนั้นคงโชคดีสำหรับการมาเยี่ยมมารดาที่ทำงานอยู่บนเกาะนี้

เอาเถอะ อย่างน้อยวิวตรงนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยคนที่น่าสนใจไม่แพ้กันละนะ

น้ำอิงยิ้มขันก่อนเหลือบตาหันไปมอง แต่พื้นที่แถบระเบียงบัดนี้กลับว่างเปล่า ดูเหมือนว่าภาพก่อนหน้านี้ผุดพรายขึ้นจากเปลวแดดจะจ้ามาล้อเล่นกันแล้วก็หายวับไป

จะเอาอะไรกับคนแปลกหน้าที่คงเพิ่งขึ้นมาจากเกาะสมุย

คงอิ่มทะเลเสียจนไม่อยากจะสนใจตากแดดนานๆ ก็ดูผิวสีเข้มอย่างกับ ‘คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ’ ของโปรดหล่อนนั่นปะไร

คิดแล้วก็อดหัวเราะกับตัวเองเบาๆไม่ได้

กลับไปเห็นจะต้องเตือนตัวเองว่าให้น้อยๆหน่อยน้ำอิงจอมเพี้ยน โดยเฉพาะเรื่องคิดว่าหนุ่มแปลกหน้าเป็นขนมหวานนี่ไม่ควรมีในสมองของสาวสวย โสด และอนาคตไกล ที่อาชีพไม่เอื้อต่อการมีสัมพันธภาพทางใจกับใครสักคนแบบถาวร

อย่างน้อยหากจะรักใครสักคนเราก็น่าจะจัดสรรเวลาส่วนตัวให้ได้ก่อนดีกว่า

แม้จะฟังดูแปลกไปบ้างเมื่อคิดว่าหล่อนมีเวลาเคว้งคว้างบนเรือลำมหึมากับคนแปลกหน้าเป็นสิบๆชีวิตเพื่อเปิดหูเปิดตา แต่ไม่มีเวลาที่จะคบหาดูใจกับชายหนุ่มคนไหน

...ช่างเถอะ ชีวิตมันก็แค่นี้!...

เมื่อสรุปซะแบบนั้นน้ำอิงก็อารมณ์ดีพอจะยุติการหาความสำราญด้วยการแอบตั้งคำนิยามให้ชาวบ้าน หยิบเอาโทรศัพท์พกพาเครื่องจิ๋วมากดเลือกหาหมายเลขที่แทบจะจำได้ขึ้นใจ

“ฮัลโหล...เฮีย อิงเอาใบลาไว้บนโต๊ะนะเห็นหรือยังคะ” เสียงใสเจื้อยแจ้วบอกกลั้วหัวเราะ

น้ำอิงรีบยกหูออกห่างเมื่ออีกฝ่ายโวยวายลั่นมา

“น้ำอิง! อีกแล้วนะ ไปไหนวะเฮียมีงานด่วนต้องส่งลูกค้า” เฮียอเนกโล้งเล้งลั่นมาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก เหมือนกับว่าเขาจะไม่สนใจใบลาอะไรนั่นแม้แต่น้อยนอกเสียจากงานที่ต้องเสร็จทันเวลา

“ให้พี่สิงห์ดำหรือสิงห์แดงทำสิ”

“เขาชื่อมนตรีกับวารี”

“อิงเรียกตามรูปหน้าและสีผิว”

เจอมุขนี้ของลูกน้องสาวเข้าอเนกก็แทบจะหมดแรงเจรจา

“เดี๋ยวพวกมันรู้เข้าก็งอนลาออกยกออฟฟิศ มือดีๆหายากนะโว้ย”

“เฮียง้อแต่พี่สองสิงห์น่ะ...ไม่ง้ออิงบ้างเหรอคะ” น้ำอิงทำตาวิบๆกระพริบพรายอ้อนผ่านโทรศัพท์ไร้สายเพราะรู้ดีว่ามันจำให้สุ้มเสียง ‘อิน’ ไปกับอาการออดอ้อนเจ้านาย

แต่คราวนี้ผลลัพธ์ได้มาไม่ค่อยคุ้มทุนเมื่อเฮียอเนกทำท่าจะยังไม่ลืมว่าเมื่อครู่ตามตัวหล่อนเพราะอะไร

“ไม่ต้องมาพูดเลย มนตรีกับวารีเขาเป็นครีเอทีฟของบริษัทโฆษณาเราจะให้ไปทำงานของอาร์ตไดเร็คเตอร์แทนได้ไงวะ ตอนนี้เราอยู่ไหน...ปากน้ำปราณฯ” เขาเดาอย่างที่เคยคุ้นกันดี “รีบตีรถกลับมาด่วน จะมาถึงกี่โมงเฮียก็จะรอที่ออฟฟิศเนี่ยแหละ”

“ไกลกว่านั้นเฮีย เสียใจด้วยถ้าอิงกลับไปก็คงต้องรอเรือเที่ยวพรุ่งนี้แหละ”

“อยู่ไหน”

คนตอบชักขาขึ้นมาขัดสมาธิบนเก้าอี้ตอบเสียงใสว่า “พะงัน...รู้จักเกาะพะงันไหมเฮีย”

เงียบจนแทบได้ยินเสียงลมและคลื่นที่ซัดซ่าเข้าไปตามสายซึ่งเป็นเสมือนประจักษ์พยานพิสูจน์ตำแหน่งแห่งที่ของน้ำอิงไปได้ในตัวอย่างไม่ต้องย้ำ

“อิง...ไปได้ไงวะ”

คำที่หลุดลอดออกจากปากมาทีละคำนั้นบ่งบอกอาการอึ้ง ทึ่ง และปนด้วยความสนเท่ห์จนเจ้าตัวก็โวยต่อไม่ออก

น้ำอิงยกนิ้วมือขึ้นนับพลางไล่รายการให้ฟังว่า

“ก็จัดของใส่กระเป๋าลากออกจากบ้านมาจองตั๋วรถไฟไปสุราษฎร์เมื่อเย็นวานนี้ เมื่อเช้าก็ลงที่สถานีรถไฟต่อรถมาท่าเรือ จริงๆเขามีให้เลือกไปได้ตั้งสามอย่างนะเฮีย เรือนอน เรือด่วน แล้วก็เรือเฟอร์รี่ แต่พอดีอิงไม่ได้รีบแล้วก็เรื่องมากอะไรเลยเลือกเอาไอ้ที่มันลำโตสุดจะได้ไม่หวั่นว่ามันจะล่มง่ายไงคะ”

“ไปกับใคร” คราวนี้น้ำเสียงเฮียอเนกเหมือนจะคำรามในลำคอ

“เหมือนเดิม”

เสียงคู่สนทนาหายไปพักหนึ่งก็แผดลั่น

“คนเดียว!”

“เฮียเคยเห็นอิงไปกับคนอื่นด้วยเหรอ” หล่อนย้อนอย่างนึกสนุก

“โว้ย!” อเนกโวยออกมาอย่างอดไม่อยู่ “เดี๋ยวก็เปิดรับอาร์ตไดเร็คเตอร์รายใหม่แทนซะหรอก ทำไมนิสัยไม่กลัวตายบ้างเลย รู้ไหมว่าเขาไม่ให้ผู้หญิงไปเที่ยวไหนไกลๆคนเดียวมันอันตราย”

“ไม่เห็นเคยมีป้ายแปะนี่คะ”

หากป้ายนั้นจะแปะที่ความคิดและทัศคติของคนอื่น หญิงสาวก็พร้อมจะประกาศว่าหล่อนไม่ใส่ใจตราบเท่าที่มันไม่ได้กั้นขวางในหัวใจตนเอง

คนเต้นเร่าๆอีกฝั่งทะเลยังคงคิดในแง่ร้าย “เกิดไปโดนผู้ชายหลอกล่ะ”

“อิงเคยแต่หลอกคนอื่น”

“เออ...รู้”

ความนี้ผู้เป็นนายจ้างคับข้องใจจนสรรหาคำพูดไม่ออกเลยทีเดียว

“เฮียอย่าเพิ่งตื่นตูมไปเลยน่า อีกไม่กี่วันอิงก็กลับไปตายรังเองแหละค่ะ อิงจะไปไหนได้กี่มากน้อยกันยังไงก็ยังไม่อยากโดนเฮียตัดหางปล่อยวัดหรอก”

“กี่วัน” เขาขอความชัดเจน “ใบลาของเรานี่ทำไมไม่ระบุจำนวนวันหรือกำหนดการลาวะอิง”

“ก็ยังอิงยังไม่รู้นี่เฮียว่าจะเบื่อที่นี่เร็วหรือเปล่า”

สุดท้ายเสียงของอเนกเหมือนอยากจะร้องไห้ขึ้นมารำไรยามถามไถ่ว่า

“แล้วงานชิ้นใหม่ที่เข้ามาล่ะ”

น้ำอิงหัวเราะอย่างไม่อนาทรร้อนใจ “ใจเย็นๆน่าเฮียเดี๋ยวไมเกรนขึ้น เอางี้...งานด่วนเฮียน่ะถ้าคนอื่นไม่ว่างทำให้เฮียส่งเมล์มาละกัน ถึงที่พักเมื่อไหร่เดี๋ยวอิงเปิดดูเอง แค่นี้นะไม่อยากให้แบตฯหมด อิงต้องเอาไว้ลองโทรถามเรื่องที่พักอีกหลายแห่งล่ะ”

ก่อนกดปิดหล่อนยังมีแก่ใจจูบฟอดใหญ่ใส่เสียงส่งไปปิดท้ายอย่างรื่นเริง

สัญญาณโทรศัพท์ดังลั่นในวินาทีถัดมาอีกหลายหน น้ำอิงแค่ลดเสียงมันลงไม่ให้รบกวนชาวบ้านแต่ก็ยังดังพอได้ยินอยู่บ้าง จนอีกฝ่ายหมดความอดทนเลิกราไปเองในท้ายที่สุด

แต่ไม่...ก่อนที่ใครอีกคนซึ่งยืนด้านหลังบ่นลอยๆมาตามลมว่า

“นี่แหละนะคนเมือง!”
















Create Date : 05 กันยายน 2552
Last Update : 21 ตุลาคม 2552 18:36:21 น. 8 comments
Counter : 362 Pageviews.

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาอ่านจ๊ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:7:32:46 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอุ้มสี
ยินดีต้อนรับเข้าบล็อกจ้า ^o^


โดย: ploy666 IP: 124.157.188.113 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:12:11:28 น.  

 
บทหน้า น้ำอิงจะตอบว่า
"อะไรคะคนบ้านนอก" รึเปล่าเนี่ยะ เหอเหอ

นอกจากยุให้คนตีกันนอกจอแล้ว ยังยุให้ตัวละครตีกันอีก โฮะๆๆ
................................


โดย: deluck IP: 118.172.65.232 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:13:03:54 น.  

 
55+ ถ้าน้ำอิงเจอรักดี สงสัยคงเรียกว่า เด็กดอย มากกว่านะ


โดย: ploy666 IP: 124.157.188.113 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:17:53:00 น.  

 
นางเอกเรื่องนี้คล้ายๆมอลลี่เลย นึกอยากไปไหนก็ไป ลุยเดี่ยวประจำ แต่มอลลี่คงไม่เ้ก่งขนาดลุยข้ามมุมขวานหรอกเนอะ เอาแค่ในกรุงเทพกับตะเข็บปริมณฑลเอง หุหุ

น่ารักมาก นิยายเรื่องนี้ นางเอกแสบดี อยากอ่านต่อค่ะ


โดย: Tukta21 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:23:35:22 น.  

 
ถ้าไปสักหนแล้วจะติดใจนะมอลลี่
นู๋พลอยเชียร์เฉพาะผู้หญิงที่รู้ขอบเขตการตัดสินใจของตัวเองดีพอจ้า

ถ้าเด็กวัยรุ่นสักหน่อยก็อาจไขว็เขวง่ายเกินค่ะ ^ ^


โดย: ploy666 IP: 124.157.187.121 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:15:05:19 น.  

 
ถึงดอยก็ดอยอินเตอร์นะ(พม่า) โฮะๆๆ

.........................


โดย: deluck IP: 118.172.73.22 วันที่: 6 กันยายน 2552 เวลา:22:05:12 น.  

 
สามเหลี่ยมทองคำด้วยชิมิ รักดี -"-


โดย: ploy666 IP: 124.157.189.69 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:11:45:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.