สาปปฏิญญา ณวลี
มันคือความฝันที่ติดอยู่ในจิตใจส่วนลึกทั้งโหยหาและน่าหวาดผวาในคราเดียวกันหากศศวรรธน์กลับไม่เคยต้องการให้มันเลือนหายไปเพราะจิตใจของเขาผูกพันกับคนในความฝันเกินกว่าสิ่งใดและมันก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ร่ำร้องให้เขาไม่อาจมีใจให้กับผู้ใด ยกเว้นสตรีโบราณนิรนามในห้วงนิทราของศศวรรธน์
เรือนไม้หลังงามหากอดีตของมันกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่นอกเหนือไปจากความเศร้าของอดีตมันยังเต็มไปด้วยอาถรรพ์ของวิญญาณอาฆาตที่ผูกจิตพยาบาทจากความรักหากทุกอย่างไม่ได้ทำให้ศศวรรธน์หวาดกลัวเหมือนดั่งเช่นทุกคนเพราะเขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่บอกกับเขาว่านี้คือสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดชีวิตและที่นี้เองผู้หญิงที่เป็นนางในความฝันถูกกักขังไว้ในบ่วงของคำสาป
สิ่งที่ศศวรรธน์กำลังต่อกรด้วยไม่ใช่ผู้มีเลือดเนื้อดั่งที่เขาเป็นหากแต่เป็นผีร้ายที่สิงสู่และรังควานทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขาผู้เป็นเหมือนดั่งต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมรักในอดีตแม้ศศวรรธน์จะรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันกำลังนำอันตรายมาสู่เขาและคนที่เขารักทุกคนแต่จะให้ศศวรรธน์ทอดทิ้งผู้หญิงที่เขารักไว้ในเงื้อมมือของปีศาจตนนั้นก็ไม่อาจทำได้แม้ว่าเธอจะเหลือเพียงวิญญาณที่ไร้รูปให้เขาได้สัมผัสเธออีกครั้งแต่เขาจะยืนหยัดเคียงข้างเธอ
หากความจริงก็สิ่งที่ศศวรรธน์ต้องยอมรับเขาคือมนุษย์ที่ยังมีลมหายใจส่วนเธอผู้อยู่ในความฝันและถูกตรึงไว้ในเรือนไม้แห่งนี้ไม่อาจอยู่เคียงข้างเขาได้อุปสรรคที่กั้นขวางระหว่างเธอและเขาไม่ใช่วิญญาณร้าย แต่คือสัจธรรมของการเวียนว่ายตายเกิดต่างหากความรักที่ติดตราอยู่ในใจทั้งสองจะเป็นไปได้เช่นไรหรือหนทางเดียวที่จะเป็นได้ก็คือ ปล่อยให้ความรักนี้อยู่ในความฝันปลดเธอให้หลุดพ้นบ่วงแห่งรัก และใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อรอคอยปาฏิหาริย์ที่อาจเกิดขึ้นทดแทนอดีตที่ต้องเจ็บปวดของคำสัญญาต้องคำสาป
ช่วงนี้ดูเหมือนว่าชะตาในการอ่านจะมาพร้อมกับเลือดและความน่าสะพรึงกันเลยทีเดียว หลังจากตัวเองขนพองสยองเกล้าไปกับกรงพสุธาเรื่องหนึ่งแล้ว ก็หยิบเอางานเล่มนี้มาอ่านต่อกันเลยทีเดียวค่ะสงสัยจะทดสอบความแข็งของจิตใจในการอ่านนิยายกันหรือไง แต่จริงๆ ไม่ใช่เลยนะคะ แบบว่ามือดีต่างหากหยิบมาสองเล่มติดกันเลย ไม่ได้ตั้งใจสร้างความหลอนให้ตัวเองเลย เพราะปกติเป็นคนขวัญอ่อนอยู่แล้ว (แต่หล่อนดันชอบซีรียส์ฆาตกรโรคจิตมาก)
ทุกอย่างเริ่มต้นจากคำสาป คำสัญญา ความแค้นและความรักที่ไม่สมหวัง พระเอกก็เป็นมาธีมความฝัน ความคิดคำนึงถึงใครบางคนที่ไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่มันไม่ได้มีแต่ความสวยงามเพราะมีบางอย่างที่บอกว่า สิ่งที่เขาฝันถึงเต็มไปด้วยความน่ากลัวจนไม่เคยเข้าใกล้ แต่ความโหยหาและความอาลัยในผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ทำให้เขารักใครไม่ได้ และไม่คิดจะรักด้วย แม้ว่าตัวเองจะมีคู่หมายที่แม่อยากจะให้ลงเอยเสียเหลือเกิน แล้ววันหนึ่งก็เหมือนสิ่งที่เขาฝันอยู่ตรงหน้า เรือนไม้ขนมปังขิงหลังงาม มรดกตกทอดตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษของเพื่อนสนิทที่เขาได้มาเยือนก็ตอบทุกอย่างที่เขาไม่รู้ หากที่นี้ก็ทำให้เขาได้รู้ว่าในความฝันมันเป็นความจริง ผู้หญิงที่เขาหลงรัก วิญญาณอาฆาตที่ต้องการแก้แค้นเขาจนมันเต็มไปด้วยอำนาจแห่งความชั่วร้ายที่คุกคามทุกคนที่เกี่ยวข้องกับแผนการที่จะปลดปล่อยความดำมืดของเรือนไม้งามให้สิ้นไป แต่ในความพยายามที่หนักหนา กลับมีบางอย่างที่เขาอาจไม่สมหวัง เธอที่ถูกจองจำไว้ไม่ใช่คนแต่เป็นเพียงวิญญาณที่ไร้ร่าง แล้วความรักที่ลึกซึ้งข้ามกาลเวลาจะลงเอยได้อย่างไร เมื่ออยู่กันคนละโลกเช่นนี้
จากที่เคยอ่านนิยายแนวซึ้งๆ แอบรักของณวลีมาหลายเล่ม คราวนี้มาคนละแนวทางเลยค่ะ เป็นความรักที่เต็มไปด้วยเลือดโชกกันบ้างล่ะงานนี้ พระเอกที่อยู่ในนิยายแนวนี้ ผู้ซึ่งมีอดีตและความฝันที่ฝังใจ จะมีลักษณะคล้ายๆ ก็คือ เขาจะเป็นพวกปักใจหลงรักนางในฝันมาก มากจนไม่มีสายตาแลให้ใคร ซึ่งก็เป็นข้อดีสำหรับคนที่ชอบพระเอกประเภทไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยยกเว้นนางเอก และคุณสมบัติที่เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับเรื่องนี้คือกล้าและจิตแข็งแกร่งประหนึ่งหัวใจเสริมใยเหล็กกันเลยทีเดียว เพราะช่วงผีหลอกวิญญาณหลอนในเล่มนี้ ถ้าไม่นิ่งพอ อาจจะได้มีภาวะจับไข้หัวโกร๋นได้ง่ายๆนะคะ ขนาดคนอ่านเองยังต้องแบบว่าขออ่านข้ามไปก่อนนะ อิฉันหลอนค่ะ ไม่ใจแข็งพอล่ะ ยิ่งเป็นพวกวิญญาณอาฆาตแรง แค้นฝังลึก ตายแล้วก็ยังไม่ไปไหน จองล้างจองผลาญไปถึงวิญญาณขนาดนี้ยิ่งน่ากลัวกว่าปกติกันเลยทีเดียว ทั้งๆที่จะว่าไปแล้วตัวพระเอกและนางเอกเรื่องนี้ทำอะไรผิด มันก็ไม่ได้ผิดตรงไหน คนที่แค้นพระเอกกับนางเอกเป็นพวกเลวด้วยตัวมันเองแท้ๆ แต่ดันความซวยมาตกที่สองคนนี้เข้า คำอาฆาตดันเป็นผลเสียด้วย พุทธคุณเองก็ยังสู้ไสยดำไม่ได้เลยงานนี้
แล้วแบบนี้มันจะมีนางเอกได้ไง ยังไงก็ต้องมีนะคะ เพราะเป็นนิยายรัก แต่จะบอกว่าเดาไม่ได้หรือเปล่าว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้ ไม่เชิงหรอกนะคะ ดูๆ ทางแล้ว ก็เดาอยู่ว่ามันต้องมาเป็นแนวนี้แหงๆ ขืนให้พระเอกรอจนนางเอกไปเกิดใหม่หรือว่าครองตัวเป็นโสดก็คงไม่ใช่ล่ะ นิยายคงไม่ยอมจบให้แบบนั้นแน่นอน ประเด็นของการลุ้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่การลุ้นว่านางเอกตกลงจะทำไงดีนะที่จะได้ครองรักกับพระเอกทดแทนอดีตชาติที่ไม่สมหวังแถมถูกจองจำไว้แบบนั้นอีก แต่คือการลุ้นว่าเมื่อไรที่พระเอกจะรู้ว่าไอ้ผีร้ายตนนั้นมันทำอะไรกับครอบครัวเขาลงไปบ้าง การปลดปล่อยวิญญาณนางเอก การกำจัดคำสาปของคำสัญญาไปให้ได้ คือคิดตามตลอดว่าจะทำไงดีล่ะ หรือมันควรจะเป็นมุกคลาสสิคของนิยายผี ต้องนิมนต์พระ แต่ก็คงไม่ใช่แล้วล่ะ ถ้ามันง่ายดายขนาดนั้นก็คงไม่สิงสู่ได้เนิ่นนานเกือบศตวรรษหรอก เล่นมุกหลอกเราให้เกือบตายใจและแอบดีใจว่าเย้ๆๆๆ จัดการได้แล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ยังแปลกใจว่าทำไมง่ายนัก สุดท้ายก็ไม่ใช่ เพราะมันซับซ้อนกว่าที่เราเดาไว้อีก ตอนแรกก็คิดจนหัวจะแตกแล้วว่าทำทุกหนทางแล้วมันก็ยังมีฤทธิ์มีเดชอีกจะเอายังไงกับมันดีล่ะ ปมของอาถรรพ์ที่แรงกล้าขนาดนี้มันมาเฉลยท้ายๆเรื่องเลยค่ะ เดาไม่ถูกเลยทีเดียวว่ามาแบบนี้เองหรือ ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักและแรงอาฆาตอยู่เช่นกัน แต่มันซับซ้อนกว่าที่เดาเอาไว้แต่แรก ได้ลุ้นก็ตรงนี้ล่ะ เนื้อเรื่องและการเล่าเลยไม่ซ้ำๆกันเรื่องสไตล์นี้ที่เคยอ่านมาแล้ว เริ่มต้นอาจจะมีอารมณ์ของเรื่องคล้ายกัน จะมาบิดเรื่องและหักมุมก็ในเรื่องความสยองขวัญล้วนๆนี้ล่ะคะ
ดังนั้นสิ่งที่สนุกในเรื่องนะคะ สำหรับฟีน่าไม่ใช่ความรักของพระเอกและนางเอก เพราะมันแบบว่าเคยๆ เห็นมาจากนิยายเล่มอื่นอยู่ ประเภทเรารักกันแบบคนละโลกก็ได้ ความรักที่จับต้องไม่ได้แต่เราอยู่กันด้วยใจ ก็หวานอกหวานใจประมาณหนึ่งอยู่ เพียงแต่ยังไม่ถึงกับสุดๆ มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าชอบความปักใจของพระเอกที่ตอนท้ายเรื่องมันมีจุดหักเหที่ทำให้คนอ่านอาจจะคิดไปสองทางว่าหรือเขาจำเป็นต้องตัดใจ แต่ฟีน่าเดาไว้แล้วว่ายังไงก็ตามทีมันต้องลงเอยคล้ายๆ ประเพณีนิยมของรักคนละโลก คนหนึ่งมีชีวิต คนหนึ่งมีแต่วิญญาณที่จะมีหนทางในการลงให้สวยอยู่ไม่กี่วิธีและในเล่มนี้ก็เป็นคลาสสิคฮิตซึ่งมันก็เป็นการดีสำหรับคนอ่านนิยายรักนะคะ ขืนให้จบแบบอื่นคงจะอ่านจบแล้วมานั่งบ่นเลยล่ะ จบแบบไปรอรักกันชาตินี้ฉันไม่ปลื้ม ฉันจะให้รักกันชาตินี้นะ แล้วจะมาบอกทำไมว่ามันเป็นมุกยอดนิยม ชอบให้จบแบบนี้ไม่ใช่หรือ คนชอบบ่นค่ะ อย่าถือสาอะไรเลยนะคะแล้วถ้าความสนุกของเรื่องไม่ใช่รักก็อย่างที่บอกว่ามันคือการแก้ปมของคำสาป อย่างที่บอกไว้นะคะ ในส่วนความน่ากลัวของฉาก ฟีน่าก็จัดว่าเป็นคนขวัญอ่อนในระดับหนึ่ง ที่ไม่ค่อยนิยมอ่านนิยายสยองขวัญมากนัก เพราะมันติดในใจมากกว่านั่งดูที่กลัวก็ไม่ฟัง ไม่สนใจ แต่พออ่านแล้วต้องค่อยๆ พิจารณาและคิดตามในแต่ละฉากทำให้รู้สึกสยองมากกว่า ยิ่งฉากที่พูดสภาพของวิญญาณในเล่ม กระโดดข้ามไปเลยค่ะ เดี๋ยวในหัวสมองจะจินตนาการภาพตามไปด้วย นอนจะไม่หลับเอาได้ ความน่ากลัวนี้ถือว่าเล่ามาได้น่าสะพรึงเลยค่ะ มากันทั้งเล่มเลย ถูกคอคนชอบนิยายสยองขวัญกันเลยทีเดียว
และอีกอย่างที่เป็นสิ่งเตือนใจเราได้ก็คือบาปบุญคุณโทษมีจริง การอาฆาตแค้นไม่ได้ให้คุณอะไรกับเราเลย เหมือนการปลิดชีวิตตัวเองเป็นบาปที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะชีวิตของเรามีคุณค่าเกินกว่าจะทำลายมันด้วยตัวเอง รวมทั้งคนเราที่เกิดมารู้จักกัน มีวาสนาต่อกัน ส่วนหนึ่งก็คือบุญและกรรมลิขิตไว้เช่นกัน คนเราต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวพันกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ต้องมาร่วมทุกข์หรือสุขด้วยกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดการผูกจิตพยาบาทใครไม่ได้ส่งผลดีเลยโดยเฉพาะกับตัวเราเอง เพราะมันจะบ่วงที่ผูกมัดเราไว้ หรือแม้แต่ความรักก็เป็นตัวพันธนาการให้เรายังมีห่วงหาอาลัยจนเราไม่รู้เลยว่ารักมันก็ทำให้ทุกข์ได้ถ้าไม่รู้จักปลดปล่อยคนที่เรารักให้ไปสู่ทางสงบ อ้าว จากนิยายรักกลายเป็นเทศนาได้เช่นไรกัน แต่ถ้าได้ลองอ่านก็อาจจะเข้าใจเช่นนี้ค่ะ นิยายเล่มนี้อาจจะไม่ได้แนวรักหวานใสแบบวาดรักบนลายรุ้งหรือว่าห้วงวิวาห์รักร้อยนะคะ เป็นแนวเลือดสาดในระดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกแนวของณวลีที่เขียนออกมาแล้วน่าสนใจเล่มหนึ่งเลยนะคะ เพราะมีเรื่องราวให้เราลุ้นจนเกือบจบเรื่องเลยทีเดียวทั้งเรื่องรักและเรื่องผีในเล่มนี้ ใครที่ไม่ขวัญอ่อนมากไป เล่มนี้ก็น่าสนใจมาลองนะคะ แต่ถ้าใครกลัวผี ฟีน่าก็ขอเตือนแบบตรงไปตรงมาว่าอาจจะไม่เหมาะกับคุณนะคะ หรือไม่ก็จงอย่าอ่านในตอนกลางคืน อ่านในเวลากลางวันจะดีที่สุด เพราะความวังเวงและภาพที่คุณจินตนาการอาจจะทำให้หลอนและนอนไม่หลับเลยทีเดียวค่ะ