หมึกสีดำของไผ่สีทอง
ความโศกทั้งหลาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท เป็นมุนี ศึกษาในทางปฏิบัติถึงมโนปฏิบัติ เป็นผู้คงที่ ระงับแล้ว มีสติทุกเมื่อ,, การไม่ทําบาปทั้งปวงหนึ่ง การยังกุศลให้ถึงพร้อมหนึง การชําระจิตใจของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง นี่แลเป้นคําสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

ทำบุญวันเข้าพรรษา

วันนี้เป็นวันแรกของวันเข้าพรรษา
เป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8

ข้าพเจ้าได้ไปทำบุญกับญาติๆ ที่วัดแถวๆ บ้านครับ
ไปถึงวัด ราวๆ ประมาณ 10โมง

ขึ้นไปบนศาลา จุดธูป เทียน ไหว้พระ

นำสิ่งของที่จะถวายมาจัด ใส่ถาดเพื่อถวาย

มีอาหารเพล
มีดอกไม้ ธูป เทียน
มีพระพุทธรูป 1 องค์
หลอดไฟ 9 หลอด
ตะเกียงสำหรับ จุดธูปเทียน 1 อัน
พร้อมน้ำมันพืช 1 ขวด
ต้นเทียน
ผ้าอาบน้ำฝน
ชุดสังฆทาน
ไม้กวาด
ชุดล้างพื้น ล้างจาน
ปัจจัย ใส่ซอง

ถีงเวลาเพล ก็ได้กล่าวคำถวายดังนี้

เริ่มจากพากัน กราบพระรัตนตรัย 3 หน

กล่าวคำนมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)

กล่าวคำอาราธนาศีล

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

พระสงฆ์ให้ศีล (กล่าวตามพระสงฆ์)
ไตรสรณาคมณ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
คำสมาทานศีล ๕
ปาณาติปาตา เวรมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมา ทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
.....
เสร็จแล้่วพากันกล่าวรับ
อามะภันเต

แล้วก็พากันกล่าวคำถวายสังฆทาน-ภัตตาหาร
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)
อิมานิ มะยัง ภันเต ภัตตานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน
ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ ภัตตานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคัณหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายซึ่งภัตตาหาร พระพุทธรูป เทียน หลอดไฟ ผ้าอาบน้ำฝน กับของที่เป็นบริวาร
ทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระสงฆ์ ขอพระสงฆ์จงรับซึ่งภัตตาหารกับของที่เป็นบริวารทั้งหลาย เหล่านี้เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า มีบิดามารดาเป็นต้น แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าทั้งหลายที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แก่เทวดาที่ปกปกรักษาตัวข้าพเจ้า และท่านทั้งหลายที่ต้องการ จนสิ้นกาลนานเทอญ

แล้วก็พากันถวายแด่พระสงฆ์
กำหนดน้อมจิตถวายแด่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์

พระสงฆ์กล่าว ให้กรวดน้ำ
ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง
เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา จันโท ปัณณะระโส ยะถา
มะณิ โชติระโส ยะถา ฯ

พระสงฆ์ให้พร (เราก็ประนมมือรับพร ตั้งจิตให้ว่าง)
๑. สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
๒. สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
๓. สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินัสสะตุ
มา เต ภะวัตวันตะราโย สุขี ทีฆายุโก ภะวะ
๔. อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน
จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง

พากันกราบพระรัตนตรัย 3 หน
เสร็จแล้วก็เอาน้ำไปหยาดลงที่ต้นไม้ แผ่เมตตา

คำแผ่เมตตา
อิทังบุญญะผลัง
ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้
ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ขอท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้โปรดโมทนา ได้โปรดอดโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า
และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช
ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช ได้โปรดโมทนา
และโปรดเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้า ในครั้งนี้ด้วยเถิด

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ แก่ท่านทั้งหลาย ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี
ขอให้ท่านทั้งหลายจงโมทนา พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาส นี้
ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย
ให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเทอญ
หากข้าพเจ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ขอความไม่มีไม่ได้ จงอย่าบังเกิดปรากฏแก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เสร็จแล้วจากนั้นก็ไปถวาย หยอดปัจจัย ลงตู้ เป็นค่าน้ำ ค่าไฟ
พร้อมทั้งชำระหนี้สงฆ์

กราบลาพระประธานที่วัด 3 หน

- กลับบ้าน -

ด้วยกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้า ได้ปฏิบัติสำเร็จแล้วในวันนี้
จงดลบันดาลให้เพื่อน-พี่-น้อง-ป้า-ยาย ชาวบล็อกฯ ทุกท่าน
ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ด้วยเบญจพิธพร
มีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่เข้มแข็ง...แข็งแรง
คิดทำการสิ่งใดที่เป็นสุจริต ให้สำเร็จสมดังมุ่งหมายทุกประการ
ทำการค้าให้เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ทั้งที่เป็นกิจการของท่านเอง
และที่เป็นกิจการของคู่ค้าของท่าน

ผู้ใดแสวงหาทางออกจากวัฏฏะสงสาร ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม
สำเร็จธรรม ก้าวล่วงสู่แดนนิพพาน สมปรารถนาทุกท่าน....เทอญ



ทำนองเพลง ลาวม่านแก้ว








 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
47 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2552 13:06:42 น.
Counter : 559 Pageviews.

 

ขอโมทนาบุญ กับการทำบุญวันเข้าพรรษานะคะ พี่ไผ่
เพิ่งกลับมาจากปฏิบัติธรรมที่บ้านวังเมืองค่ะ
ถือโอกาสเอาบุญมาฝากเลยนะคะ

เช่นกันนะคะ

ผู้ใดแสวงหาทางออกจากวัฏฏะสงสาร ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม
สำเร็จธรรม ก้าวล่วงสู่แดนนิพพาน สมปรารถนาทุกท่าน....เทอญ

 

โดย: พ่อระนาด 8 กรกฎาคม 2552 20:58:41 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่สีทอง...

ขอโมทนาบุญกับวันเข้าพรรษาด้วยอีกคนนะค่ะ
ขอให้นิทราหลับด้วยจิตใจอันผ่องแผ้ว ฝันดีคับ


ผู้ใดแสวงหาทางออกจากวัฏฏะสงสาร ขอให้มีดวงตาเห็นธรรม
สำเร็จธรรม ก้าวล่วงสู่แดนนิพพาน สมปรารถนาทุกท่าน....เทอญ

ปล..เห็นช่วงนี้ใช้กันบ่อย..ถ้าจะกรุณาแพมขอนิยาม "วัฏฏะสงสาร"ด้วยนะค่ะ...

 

โดย: mastana 8 กรกฎาคม 2552 22:04:27 น.  

 

อ้าว...เขียนชื่อผิดขออภัยน๊าค่ะพี่ไผ่สีทอง..

 

โดย: mastana 8 กรกฎาคม 2552 22:06:05 น.  

 



ความเสื่อมย่อมเกิดขึ้นกับทุกตัวคน
ทุกหลับตา …ทุกลืมตา
ยังจะประมาทกันอีกหรือ ?????


โมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กับบุญวันพระใหญ่ค่ะ

ช่วงนี้ป้าเข้าบล็อกแบบผลุบๆโผล่ๆเต็มที หากมาเยี่ยมน้อยไปไม่ว่ากันนะคะ
ถึงอย่างไรก็ยังระลึกถึงเสมอค่ะ

คมคำ : รู้สารพัดรู้ แต่ไม่รู้จักตัวเอง ก็ไม่เรียกว่ารู้จริง



 

โดย: ร่มไม้เย็น 8 กรกฎาคม 2552 22:20:58 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่ไผ่
ขอให้มีความสุข สดชื่น แจ่มใส นะคะ

 

โดย: พ่อระนาด 9 กรกฎาคม 2552 6:50:55 น.  

 



หวัดดีค่ะพี่ไผ่
ที่ผ่านมา มินก็เดินสายทำบุญเหมือนกันค่ะ
มีความสุข ใจก็เป็นสุข นะคะพี่

 

โดย: มินทิวา 9 กรกฎาคม 2552 7:58:30 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่












 

โดย: กะว่าก๋า 9 กรกฎาคม 2552 8:13:40 น.  

 

อนุโมทนา สาธุ ด้วยคนคะ

หนูเพิ่งจะเข้าใจนี่เองว่า

การถือศีล นี่มันยากมากๆ

ทั้งหิว ทั้งเมื่อย ทั้งปวดไปหมด

ยิ่งตอนนั้นสมาธิ เนี่ยะปวดมากๆ

แต่ก็อดทนไปได้อยู่คะ

ที่นี่ เรื่องการตื่นนอนนี่สิ

แต่หนูจะพยายามๆคะ

ช่วงนี้หนูทานเจ ด้วยสิคะ

ค่อยข้างอิ่มเร็วกว่าปกติ เพราะทานแต่ผัก

แต่สบายใจจังคะ รู้สึกน้ำตามันจะไหล

ซึ้งอะไรไม่รู้คะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 9 กรกฎาคม 2552 9:01:00 น.  

 

ขออนุโมทนาค่ะ..กัลยาณมิตรที่แสนดี


เราได้พาแม่ไปทำบุญวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ค่ะ
ก่อนวันเข้าพรรษา..วันนั้นเราสุขมากเลย
เพราะแม่ท้อแท้กับชีวิตจังเลย

ท่านไม่สบาย..ต้องนอนรักษาตัวในรพ.ถึง เดือนกว่าๆๆๆ
ทำให้ท่านไม่มั่นคงในการเดิน
ท่านเลยหวั่นกลัวเดินไม่ได้

เราปลอบใจท่านตลอดที่ได้เจอ..
เพราะท่านเป็นคนเคยเก่งทุกอย่าง
พอไปเยื่ยมเลยชวนท่านไปทำบุญ
ญาติพี่น้องบอกแน่ใจนะที่จะพาท่านไป
ลำบากมากนะต้องใช้คนอุ้มถึง4คนเพราะท่านยังเดินไม่ได้

พอเราชวนแม่ท่านไม่ปฎิเสธแถมไม่ท่านข้าว
ชวนเราทันทีเลยท่านคงเบื่อ
เราเห็นแววตาสดใสแล้วเราจะไม่ใส่ใจได้ไง
เราเลยบอกพี่น้องทุกคนว่า
เราพาไปได้..เรารับผิดชอบ
ดีว่ารถเราใหญ่หน่อยเลยบรรทุกรถเข็นได้อีกคัน
พร้อมคนไปร่วมบุญ 8คนพร้อมพี่เลี้ยง 2คน
55555
เพราะต้องใช้คนช่วยแยอะนะค่ะ

วันนั้นเรามีความสุขมากค่ะ
เราดีใจและเป็นสุขค่ะไม่ลำบากเลย
ที่เห็นท่านมีความสุขและมีหวังค่ะ

ยอมรับเลยค่ะไปถวายเทียนเราสวดได้แค่บทนำเอง
นะโม ตะค่ะ นะค่ะ
นอกนั้นแฮะๆๆๆหลวงพ่อท่านต้องนำเลย

อนุโมทนาบุญค่ะ

ปล..ขออนุญาติแอดนะค่ะ



มีความสุขหลังทำบุญนะค่ะ

 

โดย: cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) 9 กรกฎาคม 2552 9:53:10 น.  

 

**นะโม ตะสะ** 3จบ
ค่ะ



 

โดย: catt.&.cattleya.. 9 กรกฎาคม 2552 10:02:26 น.  

 

ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ
ขอให้บุญที่พี่ทำส่งผลให้พี่เเละครอบครัว
มีเเต่ความสุขนะคะ

 

โดย: อาลีอา 9 กรกฎาคม 2552 10:21:41 น.  

 

อิ่มบุญที่เอามาฝากจังค่ะพี่ไผ่..รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...ทำงานด้วยความสดชื่นค่ะ..

 

โดย: ตัวp_box 9 กรกฎาคม 2552 10:31:06 น.  

 

เผื่อเพื่อนๆ ท่านที่ยังไม่ทราบความหมายของคำว่า วัฏฏะสงสารครับ ขอก็อปมาไว้ให้อ่านด้วยนะครับ

*******************
สวัสดีครับ น้องแพม
เห็นเมื่อคืนไปทิ้งคำถามไว้ครับ

ขอนิยาม คำว่า "วัฏฏะสงสาร"

ความหมายมีมากมายครับ และมีหลายส่วน
ขอเล่าส่วนที่เป็นสถานที่ก็แล้วนะครับ จะได้เข้าใจง่ายๆ หน่อย

วัฎฎสงสารเป็นสถานที่ ให้ดวงจิตไปจุติ
แบ่งเป็น 31 ภพภูมิ
โลกที่เราอาศัยอยู่นี่ ก็เป็น 1 ภพภูมิ ใน 31 แห่งครับ

พวกเราทุกคน ก็ต่างต้องเคย เวียนว่าย ตายเกิด
ไปเกิด ไปจุติ ยัง 31 ภพภูมินี้
เวียนว่าย ตายเกิด มานานแสนนาน

เคยเกิดเป็น สัตว์นรก เปรต อะสุรกาย
สัตว์เดรัชฉาน ด้วยกันมาทั้งนั้น
เกิดเป็นคน เป็นชาย เป็นหญิง เป็นคนรวย เป็นคนจน เป็นคนมีความรู้มาก เป็นคนมีความรู้น้อย
เกิดเป็น เทวดา นางฟ้า เกิดเป็นพรหม
พอหมดอายุขัย หมดบุญวาสนา ก็ต้องเวียนว่ายฯ ไปจุติยังภพภูมิต่างๆ ตามกุศล และอกุศล

ตาย ตาย เกิด เกิด เกิดๆ ตายๆ มานับไม่ถ้วน
เรียกว่า อยู่ในกองทุกข์ อยู่ในทะเลแห่งทุกข์
อยู่ในวัฎฎะสงสารนี้ มาอย่างเนิ่นนาน

จนเบื่อหน่ายในการที่จะอยู่ใน สังสารวัฎฎ์ นี้
จึงหาทางที่จะให้ดวงจิต หลุดพ้น
ออกจาก วัฎฎะสงสาร

จึงมีครูของโลก เกิดขึ้น สอนให้ หลุดพ้นจากวัฏฏะ สงสาร เรียกว่า พระพุทธเจ้า ทรงสอนให้หลุดพ้น เรียกว่า นิพพาน

ท่านที่สามารถหลุดพ้น ไม่ต้องไปเกิด ไปจุติ ยังภพภูมิไหนๆ เรียกว่า พระอรหันต์

จึงมีวิธีปฏิบัติ เพื่อให้หลุดพ้น เรียกว่า พระธรรมคำสั่งสอน

เราจึงมาเริ่มศึกษาปฏิบัติ มาเวียนว่าย ตายเกิด สั่งสม บารมี ชาติละเล็ก ละน้อย จนรู้วิการหลุดพ้นจาก สังสารวัฏฏ์นี้

และสุดท้ายแล้ว เราทุกๆคน สัตว์ๆทุกตัว ก้ต้องหาทางหลุดพ้นกันได้หมด

จะเร็ว หรือช้า ต่างกัน ขึ้นกับ ความตั้งใจในการที่จะอยากหลุดพ้น

ยาวมั๊ยครับ น้องแพม
อธิบายแค่ สถานที่คร่าวๆ ก็คงพอนะครับ

มาหาทาง หลุดพ้น กันเถอะ
มีพระอรหันต์ มากมายนะครับ ท่านชี้ทางให้เรเลือกเดิน มีหลายทาง แล้วแต่เราจะชอบทางไหน
ทุกๆทาง ก็สามารถที่จะหลุดพ้นได้เหมือนกันหมด เลือกเอาแบบตามชอบใจนะครับ

เดี๋ยวเข้ามาเม้นเพิ่มเติมนะครับ หากสนใจนะครับ

วันนี้ขอให้ น้องแพม มีความสุขมากๆ นะครับ
ได้ดวงตาเห็นธรรม



โดย: หมึกสีดำ วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:36:36 น.

 

โดย: หมึกสีดำ 9 กรกฎาคม 2552 12:43:59 น.  

 

ขออนุโมทนาบุญ กับคุณไผ่ด้วยค่ะ

ไม่ได้ไปทำบูญ ที่ไหน แถมยังทำบาปด้วยหล่ะ จิตใจมัวหมอง ก็บาปใช่มั๊ย

เราทำผิด และมีคนว่ากล่าวตักเตือนแบบแรงๆ และแบบให้กำลังใจ และมีแบบไม่อยากให้อภัยด้วย ถึงตรงนี้ ก็ต้องช่างคนไม่มีความเมตตาเหล่านั้น ใช่มั๊ย เพราะใจใครก็ใจใคร ไม่มีเมตตาต่อเรา จะให้ทำยังไง

แต่เราต้องไม่คิดต่อ ไม่จิตทำใจเราเองให้มัวหมอง เห็นมั๊ย รู้ทฤษฎีหมดเลย แต่ทำไม่ได้อ่ะ เศร้าจังเล้ย

ดีจังเลยที่เอาคำตอบเรื่อง วัฏฏะสงสาร มาแปะให้คนอื่นๆอ่านกันด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

โดย: Mermaid AI 9 กรกฎาคม 2552 13:30:02 น.  

 


ตามมาจากบ้านแพมค่ะ

สวัสดีค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยคน.. ไม่ค่อยได้ทำบุญครบถ้วน แบบคุณหมึกสีดำ ที่เขียนไว้ด้านบน ...มาศึกษาไว้เป็นแนวทางค่ะ ..

 

โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ 9 กรกฎาคม 2552 15:39:31 น.  

 

มาอนุโมทนาบุญค่ะ

 

โดย: redclick 9 กรกฎาคม 2552 18:19:02 น.  

 

มาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

 

โดย: JohnV 9 กรกฎาคม 2552 18:39:37 น.  

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาสาธุด้วยคนค่ะ อยู่ไกลวัดไม่มีโอกาสทำบุญแบบนี้ค่ะ สุขใจไปด้วยเลยค่ัะ

 

โดย: Budratsa 9 กรกฎาคม 2552 18:46:05 น.  

 

เมื่อคืนสวด
คำสมาทานศีล ๕
ปาณาติปาตา เวรมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมา ทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
.....
เนื่องจากเป็นวันพระใหญ่

 

โดย: หมวยเล็ก_รักไม่ช่วยอะไร 9 กรกฎาคม 2552 20:27:12 น.  

 

ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ
ขอให้คุณหมึกสีดำพบแต่ความสุข ปราศจากโรคภัยใดใดค่ะ

 

โดย: busabap 9 กรกฎาคม 2552 20:49:49 น.  

 

สาธุ.....

ขอบคุณในความมีจิตเผื่อแผ่ แผ่บุญกุศลแก่ชาวบล้อก และยังไปเชิญมารับบุญถึงที่

ตอนกำหนดจิตรับว่า "สาธุ" นี่ ขนลุกค่ะ

วันนี้ครูเดียวไปตักบาตรตอนเช้ามาค่ะ เกือบหาพระให้ทำบุญไม่เจอเพราะออกสายแล้ว เกือบ 7 โมงแน่ะ

แต่ระหว่างที่ขี่รถก็อธิษฐานว่าขอให้วันนี้ได้ทำบุญตักบาตร สร้างความดีในช่วงเข้าพรรษาสักครั้ง อย่าให้ความตั้งใจในครั้งนี้ต้องสูญเปล่าเลย

และก็ได้พบพระรูปหนึ่งที่ท่านกำลังจะเดินทางกลับวัดพอดี มีความรู้สึกยินดีอย่างมากค่ะที่ได้ตักบาตรเช้า (ปกติจะไม่ยอมตื่น แต่วันนี้มันดีดตัวเองก่อน 7 โมงแฮะ)

ทำบุญแล้ว ยังไม่ได้กรวดน้ำเลยค่ะ ตั้งใจจะไปกรวดน้ำที่โรงเรียนเพราะมีต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ไม่มีโอกาส (ลืมก็บอกมาเหอะ..อิอิ)

ก็เลยคิดว่าจะสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอนเอา ไม่มีการหลั่งน้ำที่กรวดบนผืนดิน คงไม่เป็นไรมั้งคะ

ก็ยังสงสัยอยู่นะคะว่า ถ้าเราทำบุญแล้วไม่กรวดน้ำ หรือ เทน้ำลงผืนดิน (เค้าบอกต้องต้นไม้ที่หยั่งรากลงผืนดินด้วยนะ ในกระถางไม่ได้) บุญนั้นจะไปไหนคะ และถ้าเราตั้งจิตแผ่เมตตาก่อนนอน บุญจะถึงเหมือนกันหรือไม่ (ก็คิดว่าเหมือนเลยไม่กระตือรือร้นในการกรวดน้ำ แหะๆ)

ยังไงก็ช่วยให้ปัญญาในทางธรรมอีกสักนิดนะคะ

 

โดย: deawdai 9 กรกฎาคม 2552 21:25:37 น.  

 

สวัสดียามค่ำคืนค่ะ

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

ตอนแรกอัลนึกว่า คุณหมึกเป็น
พระสงฆ์ออนไลน์ซะอีก... มารู้ว่า
ไม่ใช่ พระสงฒ์ ก็จากหน้านี้แหละ

"ข้าพเจ้าได้ไปทำบุญกับญาติๆ ที่วัดแถวๆ บ้านครับ"

ถึงบางอ้อเลย 555+


ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ..ยิ้ม..

 

โดย: ปลิวตามลม 9 กรกฎาคม 2552 22:00:24 น.  

 

อรุณสวัสดิ์วันศุกร์คะ ช่วงนี้สาวมุดทำบล็อกมาเป็นสัปดาห์กว่าจะเข้าที่ แวะมาเล่าให้ฟังว่าสาวเองก็ได้ไปวัดมาคะ ทั้งเช้าและค่ำวันอาสฬาหบูชา ช่วงค่ำนอกจากเวียนเทียนแล้ว ยังได้ฟังสนทนาธรรมเป็นครั้งแรกในชีวิตอีกด้วย ปิดท้ายด้วยการหล่อเทียนพรรษาประทับใจจังเลยคะ เอาบุญมาฝากแบบเต็มๆเลยคะ

 

โดย: sawkitty 10 กรกฎาคม 2552 6:27:24 น.  

 

โมทนาสาธุค่ะ
เจริญในธรรมค่ะ

 

โดย: ชีวิตมีลีลา 10 กรกฎาคม 2552 9:15:28 น.  

 

อนุโมทนาด้วยกับบุญที่นำมาฝากกันค่ะ
ขอบุญนั้นน้อมนำสิ่งดี มีแต่สุขคืนคุณไผ่เช่นกันนะค่ะ

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 10 กรกฎาคม 2552 9:27:20 น.  

 

นอนไม่หลับเขาบอกให้แผ่เมตราแล้วจะรู้สึกดีขึ้นจริงเหรอคะพี่ไผ่..


 

โดย: ตัวp_box 10 กรกฎาคม 2552 10:22:23 น.  

 

สวัสดีครับพี่

ผมไม่เคยเชื่อว่ามีความรักอยู่จริงเลยนะครับ
ผมแค่ทำหน้าที่
หน้าที่ของคนรัก หน้าที่ลูก หน้าที่พ่อ หน้าที่สามี

วันนึง
ผมจะคืนหน้าที่ต่างๆเหล่านี้กลับไปยังจุดเริ่มต้น
ที่ผมจากมา....


ผมเคยคิดที่จะหาคำตอบว่า
ความรักมีอยู่จริงๆหรือไม่ ?
แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วครับ

ไม่ว่าความรักจะมีอยู่จริง
หรือไม่มีอยู่จริง
ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย

สำคัญแค่ว่า
ณ เวลานี้
ผมได้ทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุดแล้วหรือยัง




 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 10 กรกฎาคม 2552 11:04:41 น.  

 

โมทนาสาธุนะค๊า
รับบุญด้วยคน
Have a nice day ka

 

โดย: กิ่งไม้ไทย 10 กรกฎาคม 2552 11:18:19 น.  

 

เข้ามาซึมซับธรรมมะค่ะ

 

โดย: ฟ้าทลายโจร (ป้าอิ่ม ) 10 กรกฎาคม 2552 12:02:11 น.  

 


สวัสดีตอนเที่ยงๆวันศุกร์

ขอบคุณนะคะ แอดไว้ด้วยค่ะ

 

โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ 10 กรกฎาคม 2552 12:03:08 น.  

 

เรียนคุณหมึกสีดำ คะ

มีเรื่องติดขัดในระหว่างนั่งสมาธิคะ
คือว่า ข้าพเจ้าเห็นสิ่งมืดดำ
บางครั้งก็สว่างด้วยคะ
แบบนี้เรียกว่า จิตฟุ้งซ่าน ใช่ไหมคะ

อีกอย่าง เวลานอน มักฝันเห็นแต่
วิญญาณ พวกผี แล้วก็สัมภเวสี
มันหมายความว่าอย่างไรคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 13:07:47 น.  

 

ขอบคุณในคำตอบเรื่องการกรวดน้ำนะคะ

วันนี้ไปถวายสังฆทานมาค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะถวายให้เจ้าอาวาส แต่ท่านรับกิจนิมนต์เลยไม่เจอ

ก็เลยได้ถวายแด่หลวงตารูปหนึ่งค่ะ ท่านอาพาธอยู่ด้วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นค่ะ เดินไม่สะดวกเท่าไหร่ ก็เลยรู้สึกดีที่ได้ถวายท่านเพราะของที่ถวาย 2 ชุดเป็นยาค่ะ

และก็ถวายข้าวสารกับเครื่องปรุง แหะๆ กลัวพระฉันไม่อร่อย

เมื่อถวายเรียบร้อยก็เตรียมกรวดน้ำ แว่วๆ ท่านพูดว่า "ตรวจน้ำ" ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า คำคำหนึ่งที่อยู่ในหมวดที่คนมักจะเขียนผิดคือคำนี้ค่ะ

"กรวดน้ำ" คนมักจะเขียนผิดเป็น "ตรวจน้ำ" แต่แท้จริงแล้วคือ "กรวด" นะคะ (อันนี้เผื่อความรู้ทางภาษาไทยไว้ให้ชาวบล้อกทราบด้วยนะค้า)

กรวดน้ำแล้ว แต่คืนนี้ก็จะแผ่เมตตาเต็มรูปแบบเช่นเดิมค่ะ

 

โดย: deawdai 10 กรกฎาคม 2552 17:23:19 น.  

 

พี่หมึกสีดำ คะ ความคิดเห็นที่ 20 จากบ้านครูเดียว นะคะ พอดีไปอ่านมาเจอได้

การกรวดน้ำ มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลคะ ตามที่อ่านใสพระไตรปิฏก นะคะ

ตามประวัติบอกดังนี้คะ

การกรวดน้ำ ครั้งแรกนั้น ตามพุทธประวัติกล่าวว่า เมื่อพระเจ้าพิมพิสาร (ราชาแห่งราชคฤห์) ได้ฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ สวนตาลหนุ่ม แล้ว รุ่งขึ้นพระองค์ได้ทรงถวายภัตาหารแค่พระสมณโคดมและพระสาวก และได้ถวายอุทยานสวนไม้ไผ่ (เวฬุวัน) ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้าทรงรับด้วยอาการดุษฎี พระเจ้าพิมพิสารจึงทรงหลังน้ำจากพระเต้าลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้า เพื่อถวายเวฬุวนารามให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาแห่งแรกของโลก แต่ก็ไม่ได้ทำการอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับ ตกกลางคืนจึงมีเสียงเปรตร้องในเขตพระราชนิเวศน์และปรากฎกายให้เห็นก็มี

รุ่งขึ้นพระองค์ได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าและทูลถามความทราบแล้ว จึงทรงบำเพ็ญถวายอาหารและจีวรแก่พระพุทธเจ้า และพระสงฆ์ในวันรุ่งขึ้นต่อมา จากนั้นทรงหลั่งน้ำทักษิโณทกและกล่าวว่า "อิทํ โน ญาตินํ โหตุ" แปลว่า "ขอผลบุญกุศลครั้งนี้ จงไปถึงญาติพี่น้องของข้าพเจ้าด้วยเถิด" และได้กลายเป็นบทกรวดน้ำที่คนไทยนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน

คำศัพท์เกี่ยวกับการกรวดน้ำในครั้งนั้น

"อุททิโสทก" แปลว่ากรวดน้ำมอบถวาย ใช้กรณีเมื่อถวายของใหญ่โต ไม่สามารถยกประเคนใส่มือได้ เช่น ที่ดินและวัด (พระเจ้าพิมพิสารหลั่งน้ำจากน้ำพระเต้าลงพระหัตถ์ของพระพุทธองค์)

"ทักษิโณทก" กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลแก่คนตาย

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 18:43:43 น.  

 

เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดนะคะ จริงๆการกรวดน้ำ มีมาตั้งแต่พุทธกาลแล้วจริงๆ หนูอ่านเจอในพระไตรปิกฏก่อนหน้านี้นานแล้ว

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 18:45:08 น.  

 

เพราะฉะนั้น การที่พี่พิมพ์คำว่า ในสมัยพุทธกาลนั้น ไม่มีการกรวดน้ำครับ นั้นเข้าใจผิดคะ

แค่นี้ล่ะจ๊ะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 18:49:21 น.  

 

เรื่องแผ่เมตตานั้น แผ่แน่นอนอยู่แล้วคะ

ทั้งเมตตาทั่วไป ให้สัตว์

-สัพเพสัตตา....

-แล้วก็ อิทังเม มาตา ปิตุนัง..........

-สัพเพสัตตา ให้ตนเอง

-กรณียเมตตาสูตร ด้วยคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 20:13:50 น.  

 

จากนั้นถึงเริ่มนั่งสมาธิ
วันนี้นั่งได้นานขึ้นคะ
พอออกจากสมาธิแล้ว
รู้สึกขาเป็นเหน็บชา
ตอนนั้งไม่รู้สึกตัวอะไรทั้งนั้น
พอออกจากสมาธิ ถึงได้รู้ว่า ขาเหน็บชา

จากนั้น วันนี้จึงมาเดินจงกรม ต่อคะ

พรุ่งนี้ คิดว่าจะทำได้นานขึ้น หรือไม่ก็จะทำอีกตอนกลางคืนนี้คะ รู้สึกว่าใจเย็นขึ้นเยอะเลยคะ
ต้องหัดต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะปฏิบัติมานานแล้ว
แต่ก็ห่างหายไปนานมากพอกันคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 20:16:24 น.  

 

คุณพี่หมึก เคยบวชมาก่อนหรือเปล่าคะ
แล้วตอนนี้ปฏิบัติธรรมที่ไหนบ้างหรือเปล่า
บอกกันบ้างนะคะ เผื่อจะได้ไปบ้าง
ตอนนี้หนูฟังหลวงตาบัว
กับหลวงพ่อจรัญ อยู่คะ
ท่านอื่นก็ฟังด้วยคะ
แต่แนวปฏิบัติจะยึดหลัก
อย่างไรก็ต้องลองดูคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 20:18:23 น.  

 

อาการดีขึ้นแล้วค่ะแต่ยังต้องพักผ่อนอีกเยอะหน่อยค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันขอบคุณจริงๆค่ะ

 

โดย: นุ๋ดีค่ะ (kun_isara ) 10 กรกฎาคม 2552 20:20:14 น.  

 

ตอนปฏิบัติธรรม เมื่ออายุ 15
ตอนนั้นได้ไปบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่งคะ
ในจังหวัดเชียงใหม่ อาจเป็นเพราะยังเด็ก
ไม่มีเรื่องให้คิดอะไรมาก ตอนนั้น
การทำสมาธิก้าวหน้ามาก รวมทั้ง
เรื่องการปฏิบัติธรรมด้วยคะ
แต่เสียดาย ที่คุณพ่อขอให้สึกเสีย
ออกมาเรียนเหมือนคนทั่วไป
ก็เลยต้องสึกทั้งๆที่ตอนนั้นอยากบวชต่อ
ถ้าตอนนั้นได้บวชนะคะ ก็คงจะบวชไปตลอดชีวิต
แต่หลังจากนั้นก็นำมาปฏิบัติเองบ้างคะ

ห่างหายไปก็ช่วงเรียนมหาลัยนี่ละคะ
ก็เริ่มกลับๆๆมาปฏิบัติใหม่ รู้สึกว่า
ความรู้สึกตอนนั้น กับตอนนั้นมันหายไปแล้ว
ต้องมานั่ง มาเริ่มทำใหม่

ก็เพิ่งทำวัตร สวดมนต์เสร็จเมื่อครู่นี้เอง
หลังจากเดินจงกรมเสร็จก็นึกได้ว่า
เรื่อง กรวดน้ำ นั่นล่ะคะ เคยอ่านเจอใน
พระไตรปิฏกเลยแวะ มาตอบ อุตส่าห์นึกได้

อยากให้คุณพี่หมึกสีดำ ช่วยแนะนำ
การปฏิบัติธรรมให้บุปผาด้วยนะคะ
จะเป็นกรุณาอย่างยิ่งทีเดียวคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 10 กรกฎาคม 2552 20:24:31 น.  

 

สวัสดียามเย็นครับ คุณบุปฯ

การทำสมาธิ เป้าหมายทำไปเพื่อให้ใจสงบครับ
หากใจไม่สงบแล้วถือว่า การทำสมาธิ ไม่เป็นผลนะครับ

การทำสมาธิ ทำได้หลายแบบ สามารถศึกษาได้ตาม พระกรรมฐาน 40 กอง
เลือกเอาตามแต่จริตของตัวเอง ตามความหนัดของตัวเอง ไม่เหมือนกันทุกคน เพราะว่า บำเพ็ญบารมี มาต่างกันครับ

พระกรรมฐานเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักไหนๆ เวลามีผู้มาฝึกปฏิบัติ ท่านมักจะให้นั่งหลับตา การหลับตาเพราะอะไร เพราะว่าจิตของเรามันไม่สงบ มันไม่เคยฝึกจิตให้สงบ จิตมันมักจะวิ่งไปกระทบตาที หูที จมูกที ลิ้นที กายที แบบว่าเร็วมาก
จนเราเห็นภาพ และได้ยินเสียง ... ไปได้พร้อมๆ กัน

สังเกตเวลาเราดูทีวีนะครับ เมื่อเราหลับตา เราจะรู้สึกได้ว่าเราได้ยินเสียงดังเพิ่มมากขึ้นครับ จริงๆแล้ว เสียงมันก็เท่าเดิมนั่นแหล่ะ ที่ได้ยินดังมากขึ้นก็เพราะว่า จิตเราไปทำงานที่ประสาทตาน้อยลง และจิตเราก็ไปจดจ่ออยู่ที่หู จิตเราก็ได้วิ่งไปทระทบที่ประสาทหูได้มากขึ้น จึงทำให้การได้ยินเสียงดังมากขึ้น

ตามสำนักปฏิบัติธรรมต่างๆ ในเบื้องต้น จึงมักให้นั่งหลับตากัน จุดประสงค์ก็เพื่อให้จิตเราสงบได้เร็วขึ้น ถ้ามีความเข้าใจในเรื่องของจิตแล้ว เวลาทำสมาธิ จึงต้องหลับตา และดับหูไปด้วยโดยไม่ต้องสนใจในเสียงต่าง โดยไม่สนใจอาการของกาย ว่าจะหนาวจะร้อน ใจเราก็นิ่งอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง จิตเราจึงจะสงบได้ง่าย และเร็วขึ้น

และมีหลายท่านที่ยังไม่มีความเข้าใจ ต่อให้นั่งหลับตา เอาผ้ามีปิดหูปิดตา หากแต่จิตใจคิดเรื่องต่างๆ มากมาย คิดไป ร้อยแปดพันเรื่อง จิตก็ย่อมไม่สามารถ สงบระงับได้ เป็นการผิดวัตถุประสงค์ของการฝึกสมาธิ การทำสมาธิจึงไม่บังเกิดผล

ท่านที่ผ่านการฝึกจิตฝึกสมาธิได้ดีแล้ว ต่อให้นั่งหรือยืน จะหลับตาหรือลืืมตา หรือเดินไปเดินมา(ดินจงกรม) ท่านก็สามารถควบคุมจิตท่านให้็สงบได้เร็ว และง่ายดาย

******
คำถาม
มีเรื่องติดขัดในระหว่างนั่งสมาธิคะ
คือว่า ข้าพเจ้าเห็นสิ่งมืดดำ
บางครั้งก็สว่างด้วยคะ
แบบนี้เรียกว่า จิตฟุ้งซ่าน ใช่ไหมคะ
*****
คำตอบ
ในขณะที่คุณบุปฯ เจริญสมาธิ
เข้าใจว่าเจริญ อานาปานุสติกรรมฐาน ควบกับพุทธานุสติกรรมฐานด้วยครับใช่มั๊ยครับ
คือพิจารณาดูกองลม หายใจเข้า หายใจออก และกำหนดคำภาวนาพุทโธ

การกำหนดดูลมหายใจ เรียกว่า เจริญสมถะภาวนา
ในการเจริญสมถะ จะมีองค์ฌานมาเกี่ยวข้องด้วย
เริ่มจาก ขณิกะสมาธิ อุปจารสมาธิ ฌานที่1 ฌานที่2 ฌานที่3 ฌานที่4
รายละเอียด เดี๋ยวจะนำมาลงให้อ่านนะครับ

การที่คุณบุปฯได้เห็นสิ่งที่มืดดำบ้าง
สว่างบ้าง ท่านเรียกว่า กสินโทษ
คือไม่มีประโยชน์ คือให้ตัดทิ้งอารมณ์นั้นเสีย
โดยไม่ต้องสนใจ ให้พิจารณาดูแต่กองลมเท่านั้นครับ
การที่เห็นบ้าง ไม่ได้เรียกว่าจิตฟุ้งซ่านครับ
หากจิตฟุ้งซ่านจริง จะยังไม่สามารถทำสมาธิได้ครับ

เรื่องของแสงสว่าง เป็นการเพ่งกสิน เรียกว่า อาโลกกสิน หรือ กสินแสงสว่าง สามารถเกิดแสงสว่างขึ้นมาได้โดยกำหนดเป็นภาพนิมิต
เมื่อฝึกแล้วจะสามารถเกิดมีทิพจักขุญาณ
ใครจะได้หรือไม่ได้นั้นขึ้นกับวาสนาเดิมครับ

****
อีกอย่าง เวลานอน มักฝันเห็นแต่
วิญญาณ พวกผี แล้วก็สัมภเวสี
มันหมายความว่าอย่างไรคะ
****
ช่วงนี้ คุณบุปฯ ได้มีการเจริญสมาธิ ซึ่งถือว่าเป็นบุญใหญ่
เข้าใจว่า หลังจากทำสมาธิแล้ว คุณบุปฯ ไม่ได้แผ่เมตตาใช่มั๊ยครับ
ตอนกลางคืน เขาเลยเข้ามาขอส่วนบุญครับ
แนะนำให้แผ่เมตตา ทุกครั้ง หลังการเจริญสมาธินะครับ

และขอโมทนาบุญกับ คุณบุปฯ ด้วยนะครับ
ที่ฝันเห็น วิญญาณได้ ถือว่า การทำสมาธิ มีความก้าวหน้ามากครับ
คือสามารถ ทำให้จิตสงบ คือจิตรวมตัวเป็นสมาธิได้ดี จึงสามารถนิมิตเห็นวิญญาณได้ครับ

และหากรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ก็จะสามารถ นิมิตเห็นเทวดาได้ด้วยครับ..

ปล. ส่วนเรื่องกรวดน้ำ จะขอมาอธิบายอีกรอบนะครับ..

ขอให้คุณบุปฯ มีความสุขทั้งกาย และใจ เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะครับ ได้ดวงตาเห็นธรรมครับ



โดย: หมึกสีดำ วันที่: 10 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:09:34 น.

 

โดย: หมึกสีดำ 10 กรกฎาคม 2552 21:21:59 น.  

 

สวัสดีครับ ครูเดียว

"สำนวนทางศาสนาเขาเรียก “อุทิศ” แปลว่า เจาะจง
คือ ไม่เห็นต้องใช้น้ำ
การ “กรวดน้ำ” มันเริ่มสมัยเปรต มาทวงขอบุญกุศล
จากพระเจ้าพิมพิสาร
พระพุทธเจ้า ทรงบอกวิธีทำให้ว่า ให้พระองค์ ถวายภัตตาหาร
กับพระสงฆ์แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ซี ท่านก็ทำแบบนั้น

อีตอนอุทิศส่วนกุศล
ท่านเป็นคนมาจาก พราหมณ์
ที่มีธรรมเนียมว่า จะให้ของใคร ก็ต้องเอาน้ำราดมือผู้รับ
แสดงเป็นอาการว่า ยกให้
ท่านก็เอาน้ำในคนโท เทราดพระหัตถ์พระพุทธเจ้า
เลยรับกันต่อๆ มาว่า อุทิศส่วนกุศลต้องราดน้ำด้วย"

เราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับหรือไม่ได้รับก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่างๆที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไปแล้ว เราไปยับยั้งมันไม่ได้แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีให้มีกำลังเหนือบาป บาปต่างๆ ก็จะตามเราไม่ทันเหมือนกันเรียกได้ว่า เป็นการทำบุญหนีบาปไม่ใช่ทำบุญล้างบาปทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มีดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหวมีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือหนีบาปด้วยการปฏิบัติ


---------------------


โดย: หมึกสีดำ วันที่: 10 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:51:15 น.

 

โดย: หมึกสีดำ 10 กรกฎาคม 2552 21:25:37 น.  

 

คุณหมึกนะ... อัลไม่ได้แซวคุณเน้อ...
แต่เข้าใจตามนั้นจริง ๆ อาจด้วยบล็อก
ที่คุณนำเสนอ เป็นไปในทางพุทธธรรม
ก็เลยสรุปเอาเองแบบง่าย ๆ 555+

อืม...ได้อ่านคำถาม-คำตอบที่น่าสนใจ
อนุโมทนาบุญในการเผยแผ่พระธรรม
ด้วยค่ะ ..ยิ้มกว้าง.. และถ้า..ยิ้มสวย..
ได้จริง ๆ เมื่อไหร่ คงต้อง..สาธุ..กัน
แรง ๆ สักที ..ยิ้มยิงฟัน..

 

โดย: ปลิวตามลม 10 กรกฎาคม 2552 21:54:26 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหมึกฯ... มาเสิร์ฟกาแฟยามเช้าค่ะ...อนุโมทนา บล็อกนี้มีธรรม สนทนาธรรม ส่วนตัวเคยบวชเมื่อตอน 10 กว่าขวบค่ะ บวชอยู่หลายครั้ง

แล้วก็ห่างไปนานมาก ได้บวชอีกครั้งเมื่อ อายุ 21 ปี ก็ได้ผลแห่งการบวชในครั้งนั้นเกิดขึ้น จนรู้สึกได้ค่ะ

จึงศรัทธาพุทธศาสนา มีเหตุ มีผล..เกิดขึ้น ดับไป

หวังว่า มีโอกาสคงได้ปฏิบัติธรรมอีก




 

โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ 11 กรกฎาคม 2552 7:36:12 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่











 

โดย: กะว่าก๋า 11 กรกฎาคม 2552 8:13:33 น.  

 

- หวัดดียามสายจ้า

- มาซึมซับสิ่งดีดีในบ้านนี้ด้วยคนนะครับ

 

โดย: พี่รี่+ต๊อก 11 กรกฎาคม 2552 10:43:12 น.  

 

ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ขอบคุณคุณไผ่ ขอบคุณน้องบุปผาฯ ที่ให้ความสว่างและปัญญาทางธรรมค่ะ

ตั้งแต่เริ่มคิดที่จะถือศีล (แค่ 5 ข้ออ่ะนะ) และพยายามทำจิตคิดกุศล สวดมนต์ก่อนนอน แผ่เมตตาทั้งแก่สรรพสัตว์รวมถึงบทที่คุณไผ่เคยลงไว้ สังเกตว่าตัวเองมีความสุขและมีความสงบในจิตใจ มีสิ่งดีๆ เข้ามา ปัญหาบางอย่าก็คลี่คลาย (แถมวันนี้ได้เงินอีกต่างหาก เหอะๆ)

ไม่รู้ว่าคิดไปเอง อุปาทานหรือเปล่า แต่เพียงคิดดี คิดจะทำความดีให้มีสติในการดำเนินชีวิต (นี่ครูเดียวทำแค่เล็กน้อยมากนะคะเมื่อเทียบกับน้องบุปผาฯและคุณไผ่) ก็มีสิ่งดีๆ เข้ามา

ก็จะพยายามเจริญสติตนเองให้ตั้งอยู่ในศีล 5 คิดดี ทำดี พูดดี ตลอดค่ะ ส่วนเรื่องการนั่งสมาธิ (หรือที่ครูเดียวใช้นอนสมาธิอ่ะนะคะ) ก็ยังไม่ได้เริ่มจริงจัง เอาไว้จะหาโอกาสฝึกสมาธิเพิ่มค่ะ

ดีใจที่ชีวิตหนึ่งนี้ได้มีโอกาสพบกัลยาณมิตรธรรม แสดงว่าชาติก่อนครูเดียวคงพอมีบุญบ้างใช่มั้ยคะ ^^

 

โดย: deawdai 11 กรกฎาคม 2552 15:02:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


หมึกสีดำ
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกสีดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.