สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ตุลาคม 2552
 

เดินจังหวะลูก .. ข้อคิดจากคุณธนา เธียรอัจฉริยะ (ดีแทค)

หากใครเคยหนังสือของดีแทค รับรองว่าหากเอ่ยถึงคุณธนา ต้องร้องอ๋อแน่ๆ เราก็เป็นคนหนึ่งที่อ่านหนังสือเล่มนี้ รู้สึกชอบในแนวคิดของผู้เขียนท่านนี้ เรียกว่า หนังสือการจัดการองค์กรเล่มไหนก็ไม่รู้แจ้งเห็นจริงเท่าเล่มนี้เลยล่ะ

เมื่อหลายวันก่อนได้รับเมล์ฉบับหนึ่ง ปกติถ้าเป็นเมล์เนื้อหายาวๆ มักจะขี้เกียจไม่ค่อยอ่านหรือใส่ใจเท่าไหร่ แต่สายตาเหลือบไปเห็นชื่อคุณธนา ไม่ได้ล่ะ ต้องอ่านซะหน่อยเพราะเค้าจะมีแง่คิดอะไรดีๆ แฝงมาเสมอ

วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ผมมีลูกสาวตัวเล็กๆ น่ารักสองคน คนโตชื่อ โมเนต์ อายุห้าขวบกว่าๆ คนเล็กชื่อเมนิ อายุสี่ขวบ กำลังอยู่ในวัยอ้อนพ่ออ้อนแม่ ไม่รู้ว่าใครติดใครกันแน่ รู้แต่ว่าผมต้องพยายามกลับบ้านให้ทัน ก่อนสองสาวนอนหลับเกือบทุกวัน เสาร์อาทิตย์ก็ตัวติดกันตลอด

คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็มักจะนึกถึงแต่ว่าจะสอนลูกให้เป็นคนยังไง ให้มีน้ำใจ ไหว้สวย ไม่งอแง นึกอะไรออกก็พยายามสอน ก็ไม่ค่อยได้นึกว่าจะเรียนรู้อะไรจากลูกได้ เพราะลูกยังเด็กยังเล็กอยู่ แต่ด้วยความที่อยู่ด้วยกันตลอด มีบ่อยครั้งที่ลูกผมพูดหรือแสดงท่าทีอะไรที่ทำให้ผมต้องหยุดคิด และทบทวนตัวเองเป็นประจำ

เมื่อไม่นานมานี้ ผมพาเด็กๆกับภรรยาไปเที่ยวอเมริกา ไปอยู่หลายเมือง สองอาทิตย์ที่ไปเที่ยว เป็นสองอาทิตย์ที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตผมได้มีโอกาสตะลอนๆ ไปทั้งครอบครัว ได้ผจญภัยเล็กๆ ตามที่ต่างๆ มีอุปสรรคบ้างนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม ได้เห็นตัวเล็กทั้งสองสนุกสนานกับของเล่นบ้าง ทิวทัศน์รอบทางบ้างเป็นความสุขเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ของคนเป็นพ่อเป็นแม่

ระหว่างทางในหลายๆ ครั้ง ผมกับภรรยาก็จะเดินดูโน่นดูนี่เป็นปกติในจังหวะก้าวย่างของเรา ก็จะได้ยินเสียงเมนิ ลูกสาวคนเล็กบ่นปวดขา เดินไม่ทัน เหนื่อย เวลาไปเดินในที่ที่คนเยอะ ก็มีเผลอไปจับมือคนอื่น คิดว่าเป็นพ่อแม่บ้าง เราก็ได้แต่ขำๆ ในตอนแรก แต่พอใช้ชีวิตด้วยกันตลอดเวลา มีจังหวะหนึ่งที่ลูกผมบ่นว่า เดินไม่ทันซึ่งปกติผมก็คงไม่ได้สนใจอะไร แต่จังหวะนั้นผมบอกลูกว่า เดี๋ยวจะลองเดินก้าวช้าๆ เท่าลูกดู

ผมก็เลยลองเดินช้าๆ ช้ามาก เพราะลูกผมยังเล็ก ก้าวได้สั้นๆ และไม่ไกล ผมพยายามเดินในจังหวะของลูก ช่วงแรกๆ ก็อึดอัดนิดหน่อย ต้องก้าวเท้าถี่ๆ สั้นๆ แต่พอลองบ่อยๆ เข้า ผมก็เริ่มมองเห็นมุมของเขาว่า ทำไมเขาถึงเดินไม่ทัน ปวดขา หรือเหนื่อย เวลาเดินจังหวะผู้ใหญ่

พอเริ่มเห็นมุมแปลกๆ ของเด็ก ผมก็เลยลองพยายามย่อตัวลงให้เท่าลูก ในมุมที่เรามองเงยหน้าขึ้นไป ทำให้รู้สึกว่าผู้ใหญ่ในสายตาเขาเหมือนยักษ์ที่อยู่สูง มองไม่ค่อยถนัด ถึงเข้าใจว่าทำไมเขาถึงจับมือคนผิดอยู่เรื่อยเวลาคนเยอะๆ

หลังจากนั้น ผมก็พยายามเดินช้าลงให้ได้จังหวะของเขา พยายามย่อตัวเวลาคุยกับลูก ลูกผมก็ดูจะสนุกขึ้น อารมณ์ดีขึ้นและชอบมากเวลาพ่อย่อตัวคุยด้วย ลูกผมสอนให้ผมรู้จักสนใจจังหวะของคนอื่น ลองใช้จังหวะของคนอื่นในการดำเนินชีวิตบ้าง ชีวิตของ คนทำงานหลายๆ ครั้ง ก็พยายามบงการให้คนอื่นเดินจังหวะเรา ไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา

พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็จะพยายามลองสังเกตจังหวะคนอื่นดูทุกทีที่ดิสนีย์แลนด์ ช่วงเที่ยงๆ ผมกับโมเนต์ลูกสาวคนโตไปต่อคิวยาวเหยียดเพื่อซื้ออาหารกลางวัน รอตั้งสิบกว่านาที อยู่ดีๆ ก็มีแม่ลูกตัวอ้วนๆ คู่นึงทำเนียนมาแซงคิวเอาโค้งสุดท้ายข้างหน้าผมคงเห็นว่าเราหน้าเอเชียดูใจดี ก็เลยเบียดซะอย่างนั้น ผมก็เลือดขึ้นหน้า โมโหสุดๆ กำลังจะโวยวายด้วยความฉุน ก่อนจะโวย ก็บอกโมเนต์เพื่อให้ลูกเข้าใจว่าพ่อจะต้องโกรธเพราะอะไร

โมเนต์สะกิดแขนผม แล้วทำหน้าชิลล์มากๆ บอกผมว่า "พ่อขา เขาอาจจะรีบก็ได้นะพ่อนะ" ผมอึ้งไปพักใหญ่ ในหัวหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง ดีใจที่ลูกมองโลกในแง่ดีแบบนี้ แถมรู้สึกตัวเองแย่มากๆ ที่ต้องให้ลูกสอนการมองโลก การให้อภัย ระหว่างรอแถวผมนึกถึงเพลงอื่นๆ อีกมากมายของวงเฉลียงอยู่ในหัว

เด็กหนีไม่ยอมเรียน โดดเรียนเพราะเหตุใด ใครตอบได้ไหม เด็กไปเพราะใจเบ่ง แม่ให้ไปขายของ ครูสอนไม่ดีเอง เด็กรักเป็นนักเลง อื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อวานก่อนผมพาเด็กหญิงสองคนไปทำฟัน คุณหมอตรวจเจอว่าโมเนต์ฟันผุต้องอุดฟันน้ำนม คุณหมอก็เลยทำการอุดให้ เราก็คอยบอกโมเนต์ว่าถ้าเจ็บให้ยกมือขึ้น เพราะอุดฟันเด็กห้าขวบ โดนเหงือก โดนปาก เด็กคงต้องเจ็บน่าดู ตลอดการอุดฟัน ผมก็ถามเป็นระยะว่าเจ็บรึเปล่า โมเนต์ไม่ยกมือว่าเจ็บเลยซักครั้ง ผมก็นึกว่าคงไม่เป็นไร อุดเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ผมก็ถามลูกว่า อุดฟันเจ็บมั้ย โมเนต์บอกว่า เจ็บมากเพราะโดนเหงือก ผมก็ถามต่อด้วยความสงสัยว่าทำไมไม่ยกมือหรือร้องล่ะ
โมเนต์บอกสั้นๆ ยิ้มอายๆ "หนูอดทน อยากให้พ่อดีใจ" หนูสอนพ่อเยอะเหลือเกิน...

อ่านแล้วชอบจังชอบวิธีคิดของผู้เขียนมากๆ เพราะชอบตั้งแต่อ่านเรื่องของดีแทคแล้วล่ะ ชีวิตจะทำอะไรให้ยากทำไม ในเมื่อมันเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ มองโลกจากสิ่งใกล้ตัว เข้าใจในสิ่งที่เป็นธรรมชาติ ชีวิตก็จะง่ายเยอะอ่ะ เรื่องนี้ก็เช่นกันผู้เขียนเล่าจากประสบการณ์คือสิ่งที่ได้เรียนรู้และเข้าใจจากคนใกล้นำมาถ่ายทอดเป็นแง่คิดดีๆ ในอีกหนึ่งมุมมอง .. ไม่รู้ว่าข้อความนี้คัดลอกมาจากหนังสือเล่มใดหรือเปล่า ต้องขออภัยที่มิได้อ้างอิง เพราะไม่ทราบที่มาที่ไปจริงๆ แต่ชอบมากๆๆ ใครรู้ช่วยบอกทีว่าชื่อหนังสือชื่ออะไรอ่ะคะ




 

Create Date : 23 ตุลาคม 2552
0 comments
Last Update : 23 ตุลาคม 2552 1:30:06 น.
Counter : 1899 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com