สมุดบันทึกผู้หญิงชอบเที่ยว "ภัทรานิตย์" -- www.atourthai.com --

"เที่ยวเมืองไทยด้วยหัวใจ แล้วคุณจะรักเมืองไทยอย่างยั่งยืน"


<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 กันยายน 2549
 

รำลึกสนามบินดอนเมือง



ช่วงนี้เป็นวินาทีของท่าอากาศสุวรรณภูมิ ไม่ว่าช่องไหนๆ ก็สุวรรณภูมิ จะว่าไปแล้วก็น่าใจหายอยู่เหมือนกันนะที่ต้องปิดสนามบินดอนเมืองที่ใช้มานานร่วม 90 ปี แทบไม่น่าเชื่อว่าสนามบินแห่งความฝันสุวรรณภูมิจะเป็นจริง จะว่าไปแล้วส่วนหนึ่งของสนามบินแห่งนี้ก็ต้องขอบคุณท่านนายกทักษิณ แม้ว่าช่วงนี้กระแสปฏิรูปจะมาแรง แต่ก็ต้องยกความดีให้ท่านที่ช่วยสานต่อความฝันสุวรรณภูมิแห่งนี้ เพราะรัฐบาลหลายๆ ชุดก็สานต่อโครงการนี้กันมาเรื่อยๆ จนมาแล้วเสร็จที่รัฐบาลชุดนี้ หลากหลายกระแสเกี่ยวกับสนามบินแห่งใหม่นี้ที่เราได้ยินหนาหูก็คงจะเป็นเรื่องที่ประเทศหนึ่งใช้เงินอุดทุกรัฐบาลทำให้สนามบินแห่งนี้ล่าช้า เพราะว่าถ้าสนามบินแห่งนี้แล้วเสร็จจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งทวีปเอเชียแทนที่นั่นเอง อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าก็ไม่สามารถตอบได้ แต่ ณ วันนี้วันที่ชาวไทยจะภาคภูมิใจกับสนามบินแห่งใหม่ สนามบินของคนไทยทั้งชาติซึ่งสามารถจุคนได้ถึงร้อยล้านคนเลยทีเดียว และสิ่งที่สำคัญคือการเปิดเส้นทางใหม่ที่จากเดิมการบินไปนิวยอร์กใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง ต้องแวะหลายเมืองเนืองจากเส้นทางบินอ้อมวนขวาโลกจากฝั่งทวีปเอเชียบินไปยังฝั่งทวีปอเมริกา แต่เส้นทางใหม่นี้บินจากประเทศไทยสู่นิวยอร์กโดยบินอ้อมด้านบนของโลกข้ามไปสู่ทวีปอเมริกาใช้เวลาแค่ 16 ชั่วโมงบินสู่นิวยอร์ก เรียกว่าประหยัดเวลาไปได้ถึง 10 ชั่วโมง เมื่อใช้เวลาน้อยลง ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินสากลในทวีปเอเชียต่อไปในอนาคตนั่นเอง
เรามาย้อนดูประวัติศาสตร์อันยาวนานของสนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้กันบ้างดีกว่า กว่าจะมาเป็นสุวรรณภูมินั่นยาวนานแค่ไหน

ปี 2503 รัฐบาลไทยว่าจ้างบริษัท Litchfield Whiting Bowne and Associate ศึกษาและวางผังเมืองกรุงเทพฯผลการศึกษามีข้อเสนอให้ภาคมหานครของไทยเตรียมจัดให้มีสนามบินพาณิชย์แห่งใหม่ ซึ่งจะแยกเป็นสัดส่วนจากสนามบินทหารที่ดอนเมือง โดยให้สนามบินใหม่มีระยะห่างจากใจกลางเมืองและทิศทางที่เหมาะสมกับการขึ้นลงของเครื่องบินระหว่างสนามบินใหม่กับสนามบินดอนเมืองด้วย

ปี 2504 กระทรวงคมนาคมได้ศึกษาเปรียบเทียบสถานที่ก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่หลายบริเวณ และเห็นว่าบริเวณพื้นที่ตำบลบางโฉลง ตำบลราชาเทวะ และตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เหมาะที่จะเป็นที่ตั้งท่าอากาศยานแห่งใหม่ โดยจะอยู่ห่างจากสนามบินดอนเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตามระยะเส้นตรงประมาณ 29 กิโลเมตร

ปี 2506-2516 กรมการบินพาณิชย์ กระทรวงคมนาคมได้จัดหาที่ดินท่าอากาศยานแห่งใหม่ โดยจัดซื้อและเวนคืนที่ดินประมาณ 20,000 ไร่ ซึ่งใหญ่กว่าพื้นที่สนามบินดอนเมืองราว 6 เท่า และจะสามารถรองรับการจราจรของเครื่องบินสำหรับมหานครได้ไม่น้อยกว่า 60 ปีหลังจากการเปิดใช้งาน

ปี 2521 กระทรวงคมนาคมได้ว่าจ้างบริษัท Tippets Abbott Mocarthy Aviation ศึกษาทบทวนความเหมาะสมในการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่อีกครั้ง ผลการศึกษาพบว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีท่าอากาศยานแห่งใหม่รองรับภาคมหานคร เพราะสนามบินดอนเมืองมีพื้นที่จำกัด และผลศึกษายังคงยืนยันว่าบริเวณพื้นที่คลองหนองงูเห่า อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เหมาะสมที่สุด

บริษัท TAMS ได้ทบทวนผลการศึกษาเรื่องการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งใหม่ โดยพิจารณาคัดเลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสมในเบื้องต้น 7 แห่ง ได้แก่
1. อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เขตต่อกับจังหวัดนครปฐม
2 .อำเภอลาดหลุมแก้วและลาดบัวหลวง เขตจังหวัดปทุมธานีต่อกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3. สนามบินดอนเมือง
4. เขตหนองจอก กทม.
5. บริเวณหนองงูเห่า
6. อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
7. อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

ปี 2530 ศึกษาของคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภาเสนอว่าควรมีท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ และเห็นควรให้มีการสงวนที่ดินบริเวณหนองงูเห่าไว้ตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่

ปี 2533 การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา Louis Berger International ศึกษาและจัดทำแผนแม่บทระบบท่าอากาศยานทั่วประเทศ (Airport System Master Plan Study) เพื่อใช้ประโยชน์เป็นแนวทางการพัฒนาสนามบินของไทยในระยะยาว ผลการศึกษาในส่วนเกี่ยวกับท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ สรุปว่า ท่าอากาศยานดอนเมืองจะถึงจุดอิ่มตัวในปี 2543 และหากไม่มีท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจพาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม ซึ่งการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยได้รายงานผลการศึกษาดังกล่าวให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาถึงความจำเป็นต้องก่อสร้างท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ เพื่อเป็นสนามบินพาณิชย์หลักของภาคมหานคร

7 พ.ค. 2534 ครม. ได้มีมติอนุมัติให้มีการก่อสร้างโครงการท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอโดยมอบหมายให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ และเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2535 การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา General Engineering Consultants (GEC), กลุ่ม Netherlands Airport Consultants B.V. (NACO), Louis Berger International Inc., Design 103 Co., Ltd, Asian Engineering Consultants Corp., Ltd., Index International Group Co,. Ltd., และ TEAM Consulting Engineer Co., Ltd. มาทำการศึกษาเพื่อวางแผนแม่บทเพื่อการพัฒนา ออกแบบเบื้องต้น และควบคุมการออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม ตลอดจนช่วยบริหารงานก่อสร้าง ในวงเงินประมาณ 914 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี 6 เดือน โดยกำหนดเปิดใช้ท่าอากาศยานแห่งใหม่ในปี 2543

25 ส.ค. 2535 ครม. มีมติเห็นชอบงบประมาณประมาณ 80 ล้านบาท ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อจัดทำแผนพัฒนาระบบบริการพื้นฐาน รองรับการเชื่อมต่อโครงการท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 โดยเริ่มงานในปีงประมาณ 2536

15 ก.ย. 2535 ประกาศใช้ "ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 พ.ศ. 2535" ซึ่งกำหนดสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริหารไว้ดังนี้

ให้มีคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 (กทก.) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธาน (พลเอกเชาวลิต ยงใจยุทธ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธาน รองเลขาธิการ หรือ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการฯ

ให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 (สกท.) เป็นหน่วยงานภายในสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กทก.

คณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ รวม 6 ชุด และคณะทำงานเฉพาะกิจ 1 ชุด ได้แก่

คณะอนุกรรมการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 มีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบบริการพื้นฐาน สำหรับรองรับเชื่อมต่อกับท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 มีเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการประสานการโยกย้าย และกำหนดเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 และโครงข่ายบริการพื้นฐาน มีอธิบดีกรมการบินพาณิชย์ เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่ 2 และโครงข่ายบริการพื้นฐาน มีผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 และโครงข่ายพื้นฐาน มีปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน
คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาเกี่ยวกับรูปแบบอาคารอันเป็นสัญญลักษณ์สถาปัตยกรรมไทย มีนายวทัญญู ณ ถลาง เป็นประธาน
คณะทำงานเฉพาะกิจพิจารณาระบบระบายน้ำ และป้องกันน้ำท่วมในทุ่งฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร มีผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เป็นประธาน
7 พ. ค. 2538 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อสร้างท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 ที่ตำบลบางโฉลง ตำบลราชาเทวะ และ ตำบลหนองปรือ จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) เป็นผู้รับผิดชอบ

16 พ. ค. 2538 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งบริษัทจำกัดขึ้น เพื่อดำเนินการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ใช้ชื่อว่า บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10,000 ล้านบาท มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม

31 พ. ค. 2538 กระทรวงการคลังมีคำสั่งที่ 76/2538 วันที่ 31 พ.ค. ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการจัดตั้งบริษัทจำกัด โดยมีรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง (นางมณีมัย วุฒิธรเนติลักษณ์) เป็นประธานคณะทำงาน คณะทำงานฯ ร่วมกันพิจารณาให้บริษัทจำกัดที่จะจัดตั้งขึ้น มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 10,000 ล้านบาท จำนวนหุ้น 100 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท และให้ใช้ชื่อว่า "บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งใหม่ จำกัด" หรือ "New Bangkok International Airport Limited" กทก. ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2538 กำหนดให้โครงสร้างของคณะกรรมการบริษัทฯ ควรมี 7-15 คน สำหรับประธานกรรมการให้พิจารณาได้ 3 ทางเลือก ได้แก่ 1) ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ 2) ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานกรรมการ และ 3) เอกชนเป็นประธานกรรมการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ สำหรับตำแห่งกรรมการผู้จัดการก็เป็นเอกชนเช่นเดียวกัน

7 ธ.ค. 2539 บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ได้รับการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยมีกระทรวงการคลังและการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้น

27 ก.พ. 2539 บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ได้มีการจัดตั้งขึ้น มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 10,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลัง และ ทอท. ถือหุ้นร้อยละ 51.39 และ 48.61 ตามลำดับ

21 ก.ค. 2541 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ บทม. ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งที่ 2 ให้ทางวิ่ง 2 เส้น สามารถรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี โดยมีงบลงทุน 120,000 ล้านบาท รวมทั้งเห็นชอบให้เชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการท่าอากาศยาน

ปี 2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” เป็นชื่อ ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่

29 ก.ย. 2548 กำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 28 กันยายน 2549 ซึ่งเมื่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการแล้ว ก็จะโยกย้ายกิจกรรมด้านการพาณิชย์ทั้งหมดจากสนามบินดอนเมืองไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองจะใช้เฉพาะในกิจการของกองทัพอากาศ ตลอดจนการบินพาณิชย์เฉพาะเครื่องบินเที่ยวพิเศษเช่าเหมาลำ เครื่องบินส่วนบุคคล (General Aviation) และเครื่องบินสินค้าทั้งลำต่อไป

ประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 45 ปี นี่ก็ใกล้ถึงวันที่ 28 กันยายน 2549 มาทุกที อีกไม่กี่วันแล้วสินะที่สนามบินดอนเมืองจะกลายเป็นสนามบินแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย จะว่าไปแล้วเราก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของสนามบินแห่งนี้ด้วยเช่นกัน อดีตเราเป็นลูกจ้างประจำแผนก VN-E ของบริษัทการบินไทย เดินเข้าเดินออกสนามบินแห่งนี้เกือบทุกวันตลอดสองปีที่เราได้มีโอกาสทำงานที่นั่น เราทำงานอยู่อาคารต่างประเทศตึกหนึ่ง ทุกวันของการทำงานจะมีเสียงดังตลอดเวลา เพราะบนหัวเราก็คือสายพานลำเสียงกระเป๋านั่นเอง มีพี่ๆ เล่าให้ฟังว่าเวลาเปิดฝ้าเพดานไปเก็บสายก็เจอกระปุกพริก น้ำปลา ฯลฯ เกี่ยวกับของกินในบ้านเราด้วยล่ะ คาดว่าคงมีหลุดลงมาจากกระเป๋าโดยสารบ้างล่ะ พวกเราเป็นฝ่ายช่างซ่อมบำรุงคอมพิวเตอร์ในสนามบินดอนเมืองถือบัตรเบอร์ 7 เดินเข้าออกซ่อมเครื่องมันทุกแผนก แค่ตึกเราเองก็เดินเมื่อยแล้ว ยังมีตึกสอง และฝ่ายช่าง ครัวการบิน ฝ่ายคาร์โก้ ใครว่าที่นี่ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ ก็ว่ากว้างแล้วนะเพราะสามารถจุผู้โดยสารได้ถึงวันละ 35 ล้านคนเชียว คิดแล้วก็ใจหายอยู่เหมือนกันที่ทุกวันได้ยินเสียงเครื่องบินขึ้นลงสนามบินดอนเมืองทุกวันโดยเฉพาะตอนตีสอง (บ้านอยู่ใกล้ดอนเมือง) ต่อไปก็จะไม่ได้ยินเสียงอีกแล้ว แต่ก็นะเพื่อความเจริญของประเทศสนามบินแห่งนี้ก็ต้องปิดไปสู่สนามบินใหม่ สนามบินของคนไทยทั้งชาติ เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใหม่กับความภูมิใจที่คุ้มค่า “สุวรรณภูมิ”

บรรยากาศภายในห้อง VN-E สนามบินดอนเมือง :: ที่วันๆ ก็เฝ้ารับโทรศัพท์เครื่องคอมฯ เสีย แต่ก็สนุกเพราะเครื่องเสียนี่แหละที่ทำให้เราได้รู้จักพี่ๆ หลายแผนก และก็นี่เองอีกเช่นกันที่ทำให้หนุ่มๆ ห้องเราโดนแตะอั๊งจากพี่ๆ อีแอบทั้งหลายนั่งเอง



ที่นี่เป็นที่ทำงานที่สนุกที่สุด เพื่อนรักกันมากที่สุด แสบที่สุดเท่าที่เคยทำงานมา วีรกรรมแสบของแต่ละคนชนิดที่ว่า มีแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย แต่ไม่สามารถเล่าให้ท่านฟังได้เนื่องจากเกรงว่าบุคคลผู้ถูกกระทำจะรู้ตัว



วันๆ นอกจากรับโทรศัพท์ซ่อมเครื่องกันแล้ว พวกเรายังต้องทำหน้าที่ดูแล Server ของบริษัทอีกด้วย ชนิดที่ล่มไม่ได้เลย มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ทำเอาเครื่องบินเกือบขึ้นไม่ได้ เรื่องก็มีอยู่ว่าไปทำความสะอาด Server ห้องนักบิน แล้วแบบว่าลืมเสียบปลั๊กกลับเหมือนเดิม ก็หาอยู่ตั้งนานว่าทำไม Server ตัวนี้ไม่ขึ้นสักที ที่ไหนได้ ข้าเจ้าลืมเสียบปลั๊ก Server นั่นเอง



นี่ก็น้องๆ SBAC ที่มาฝึกงานตอนแรกก็มาขอฝึกงานกันแค่สี่คน ไหงไปๆ มาๆ ได้มาเกือบยี่สิบคน เยอะจนล้นห้องคิ๊วเลยล่ะ เสียงน้องๆ แต่ละคนก็ประมาณนกกระจอกแตกรัง แต่ก็ทำให้ห้องคิ๊วดูสดใสขึ้น เพราะสาวๆ ตรึมถูกใจหนุ่มๆ เชียวล่ะ ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยเจอน้องฝึกงานที่เยอะมากขนาดนี้มาก่อน แต่ก็น่ารักกันทุกคนนะ



และแล้วทั้งหมดก็จะคงอยู่ในความทรงจำของเราต่อไปตราบนานเท่านาน

หมายเหตุ คืนวันที่ 27 กันยายนนี้จะพยายามเก็บภาพเครื่องบินที่จะทยานขึ้นฟ้าลำสุดท้ายของท่าอากาศยานดอนเมืองให้จงได้ โปรดติดตามตอนต่อไป...

ปล. ถ่ายได้แต่วีดีโอ เพราะกดชัดเตอร์ไม่ทันง่ะ


Create Date : 25 กันยายน 2549
Last Update : 30 กันยายน 2549 21:36:52 น. 2 comments
Counter : 2163 Pageviews.  
 
 
 
 

เอาใจช่วยให้เก็บภาพได้ดังหวังค่ะ


ว่าแต่สนามบินดอนเมืองเราจะเอามาทำอะไรดีคะ
โรงหนัง100โรง รึลานไอซ์ดี 55
 
 

โดย: p_tham วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:7:16:51 น.  

 
 
 

....สวัสดีคะ.....

....ดีใจที่มีบล็อคเกี่ยวกับ สนามบินดอนเมือง....

....จริงๆ แล้วคิดที่จะทำบล็อคเรื่องนี้เหมือนกัน....

...."นับถอยหลัง สนามบินดอนเมือง" อ่ะคะ...

....บ้านอยู่ตรงข้ามกับสนามบินพอดี...ขับรถผ่านทุกวัน...

....เห็นเครื่องบินขึ้นลง....อยากบันทึกภาพเครื่องบินลำสุดท้ายด้วยเหมือนกัน...ทำไงดี....

....ดีใจ และขอบคุณสำหรับประวัติของสนามบินที่นำมาให้อ่านค่ะ....
 
 

โดย: angel_exx (ALFA-TANGO ) วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:10:28:17 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

patthanid
 
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 47 คน [?]




: การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ
: คืออีกก้าวของประสบการณ์
: ทุกๆ ก้าวที่ก้าวเดิน
: มีจุดหมายที่อยากสัมผัส
: โลกใบกลมๆ ใบนี้

ติดต่อผู้เขียน
Email :: patthanids@hotmail.com
Line :: @atourthai
Facebook :: Patthanid Cheang
Fanpage :: โสดเที่ยวสนุก

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539 ห้ามผู้ใดละเมิดโดยนำภาพถ่าย
รูปภาพ, บทความ งานเขียนต่างๆ รวมถึง
ข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดของข้อความใน Blog แห่งนี้
ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่ไม่ว่าเป็นการส่วนตัว
หรือเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็น
ลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
New Comments
[Add patthanid's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com