นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
วิวาห์อารมณ์ 4

ตอนที่ 4 ผู้ชายทระนง
หลายคนมองดารกาซึ่งเนื้อตัวเปียกปอน สาว ๆ พากันหน้าแดงด้วยผ้าเปียกแล้วแนบเนื้อซึ่งถือกันว่าน่าอายเหลือเกินเพราะเป็นกางเกงนางแม้นตกใจรีบเข้ามาถามไถ่ ดารกาอ้อมไปขึ้นเรือนทางด้านหลังมีชานกั้นทำเป็นที่อาบน้ำ พี่เลี้ยงมากวัยรีบไปหาผ้ามาผลัดเปลี่ยน
“คุณหนูไปตกน้ำตกท่าที่ไหนมาคะตายนั่นแขนเขียวช้ำทีเดียว”
เธอเหลียวดูข้างแขน ได้เห็นรอยช้ำเขียวเป็นจ้ำ เธอพึ่งรู้สึกเจ็บเมื่อถูกทักนี่เอง แม้นส่งผ้าให้นายสาวผลัดเปลี่ยน ดารการับไปผลัดอย่างรวดเร็วตามนิสัยปราดเปรียว เมื่อแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแห้งเรียบร้อยแล้ว ดารกาจึงหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
แม้นเช็ดผมให้ดารกาอย่างทะนุถนอม พอแห้งหมาด ๆ นางหายามาทาให้ แต่มิวายบ่นไปตามเรื่อง หากหญิงสาวกลับคิดถึงผู้ชายเข้มดุคนนั้น ตาคม ๆ ละม้ายคล้ายใครกันหนอ ดารกานึกไม่ออกเลย?
ฝ่ายชายหนุ่มมาดเข้ม ก้าวขึ้นเรือน หลังจากหญิงสาวมาถึง เปรมถูกทักถามด้วยความสงสัยตลอดทาง เพราะเสื้อผ้า ที่สวมใส่เปียกปอน เขาพกพาความไม่พอใจเดินไปผลัดผ้าที่เรือนฝั่งตน ซึ่งหมู่เรือนไทยของกำนันปริกจะสร้างแยกเรือนลูกและเรือนพ่อแม่อย่างเป็นสัดส่วน ทั้งนี้เพราะท่านรักและให้ความสำคัญต่อลูกชายเพียงคนเดียวซึ่งท่านภูมิใจนักหนา
สาวใช้คนสนิทเคาะประตูถาม
“คุณเปรมต้องการอะไรเพิ่มมั้ยคะ”
“ไม่ละ แล้วนี่พ่อกับแม่ไปไหนกันหมดล่ะพี่บุญ”เปรมตอบทะลุกำแพงออกมา
“พาคุณหลวงไปวัดค่ะ คุณหลวงมาถึงกันตั้งแต่เมื่อวานนี้”สาวใช้ตอบกลับอย่างทะลุประตูเข้าไปเช่นกัน
ชายหนุ่มฉุกคิดได้ฉับไวถึงผู้หญิงจอมแก่นคนนั้นว่าน่าจะเป็นชาวกรุงจึงก๋ากั่นมากเหลือทน แต่คงไม่ใช่คุณหนูแดงลูกสาวผู้ดีเป็นแน่
เอ คุณหลวงจะพาคุณหนูมาด้วยหรือเปล่าหนอ อาจจะไม่พามาเพราะเป็นสาวสังคมไปแล้วก็เป็นได้เพราะป่านนี้คงจะเป็นสาวแล้ว …เปรมครุ่นคิดอยู่ในใจ
บ่ายมากแล้วพวกคุณหลวงพากันกลับมาที่บ้านทรงไทย คุณเลื่อนขอตัวไปพักผ่อนด้วยความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า นางแม้นออกจากห้องพักของดารกาพบคุณหญิงถามไถ่กันสองคำจึงรู้ว่าลูกสาวหลับไปแล้ว
เปรมออกจากห้องส่วนตัว ชายรูปงามเห็นคุณหลวงเอนหลังกับหมอนอิงที่หน้ามุข โดยมีบิดามารดา ของเขานั่งสนทนาเป็นเพื่อน ชายหนุ่มเดินออกไปจนใกล้แล้วจึงเดินเข่าเข้าไปไหว้ทุกคน คุณหลวงขยับกายเขม้นมองท่วงท่าคมสันของอีกฝ่าย เมื่อจำได้ว่าเป็นใคร ท่านจึงทักออกมาด้วยความชอบใจ
“นี่หรือเจ้าเปรม เติบใหญ่ถึงเพียงนี้แล้วหรือ เออลุงฟังพ่อเจ้าว่า เจ้ารับราชการ”
“เป็นทหารครับอยู่กองบัญชาการทหารบก”
“ไม่เบาทีเดียวเป็นเด็กของ ผบ.ใช่มั้ย น่าจับตามาก ผบ.คนนี้”
คุณหลวงทิ้งท้ายไว้แค่นั้น พูดมากไม่ได้เพราะลูกชายเล่นการเมืองอีกทั้งทหารชอบลุกขึ้นมารัฐประหารกันอยู่บ่อย ๆ การเมืองขณะนี้ก็เต็มไปด้วยคอรัปชั่น
คุณหลวงอ่อนล้าเพราะพูดอะไรเลิศชายไม่ฟัง ด้วยคนเป็นลูกชายถือดีว่าเคยเป็นเสรีไทยและทำประโยชน์เพื่อชาติมามากแล้ว เขาถือตนบำเพ็ญประโยชน์มาก จึงเหิมเกริมไม่น้อย
ส่วนหนุ่มตรงหน้าคุณหลวงคนนี้ ท่าทางเอาเรื่อง ท่านยังจำได้ว่า เมื่ออายุสิบสี่เปรมเคยบอกอยากเป็นทหารเพราะอยากรบกับญี่ปุ่น ถึงวันนี้เขามาตามเส้นทางที่วาดหวังเอาไว้ บอกให้รู้ว่าเขามีความมั่นใจในตัวเองสูง กำนันปริกบอกเล่าเรื่องลูกชายให้คุณหลวงฟังด้วยความภาคภูมิใจ คุณหลวงเก็บงำมาถามชายหนุ่มอย่างตรงไปตรงมาในเวลานี้ว่า
“ค้าขายเป็นด้วยหรือเปรม เห็นพ่อเราเขาบอก ว่าขึ้นท่าข้าวเองเลย”
“มิได้ดอกครับท่าน ผมเพียงแต่กำหนดให้เขาขายอย่างตรงไปตรงมา ชาวบ้านแถบนี้เขาจึงมาขึ้นที่นี่ไม่ขึ้นกับพ่อค้าคนกลางซึ่งเอากำไรมากและกดราคาต่ำ สมาคมต่างชาติก่อตั้งกันมากเพื่อเอาตัวเองให้รอดผมเห็นใจสันหลังของชาติที่เหนื่อยยากและไม่ได้ผลเต็มที่ แม้ทำไม่ได้ทั้งหมดแต่เพียงส่วนเดียวผมก็ยังเห็นว่าน่าที่จะทำได้ผมจะจดทะเบียนให้พวกเขาตั้งสหกรณ์ในกลุ่ม โดยให้พ่อเป็นหัวหน้า”
“เปรม”หลวงราชครางชื่อชายหนุ่มด้วยความชื่นชม
ชายหนุ่มช่างมีความคิดที่คนคอรัปชั่นน่าที่จะรับฟังไว้
เรือโดยสารที่จะนำคณะกฐินหลวงราชพานิชไปทอดเตรียมพร้อม คุณเลื่อนเดินออกมาจากห้องพักเกือบพร้อมกับดารกา เธอทักทายแม่วาดเสียงกังวานใสจนชายร่างสูงสง่าผู้แต่งกายสุภาพหากองอาจอยู่ในที่เดินมาจากเรือนพักถึงทางเชื่อมเรือนถึงกับหยุดชะงัก เสียงแจ้วนี้เองที่ทะเลาะเบาะแว้งกับเขา
หญิงสาวนุ่งซิ่นสีชมพูแก่เสื้อเข้ารูปแขนยาวจีบพองคาดเข็มขัดนาคผมยาวดำมัดไว้เพียงครึ่งด้วยผ้าโบสีเดียวกับเสื้อ ดูอ่อนหวานกว่าตัวร้ายในคลองเป็นไหน ๆ เขาให้พวกผู้หญิงต่างวัยเดินไปก่อนแล้วจึงตามไป ข้าวของเต็มเรือ ดารกาชี้ไปที่เรือแจวขนาดสิบวา ร้องขอต่อแม่วาด
“แม่วาดขา แดงไม่อยากไปเรือยนต์ค่ะแดงจะไปเรือแจวได้มั้ยคะ”
คุณเลื่อนโคลงศีรษะไปมาแล้วถอนใจรู้ว่าขัดไม่ได้เพราะยิ่งโตก็ยิ่งตามใจ
“ช่วยเขาหน่อยนะแม่วาดคนกรุงเขาเห่อเรือแจว” คุณเลื่อนสิ้นความเดียดฉันท์อย่างสนิทใจ
“แดงจะพายเองนะคะ” เธอบอกอย่างซุกซนเข้าใจว่าแค่จับพายพุ้ยน้ำก็ไปได้ อย่าเลยค่ะคุณหนูคนพายไม่เป็นจะล่มเสียเปล่า เดี๋ยวอิฉันจะหาคนพายให้เปรมก้าวลงเรือนมาที่ท่าน้ำ แม่วาดเหลือบเห็นจึงเรียกลูกชายให้มาไหว้คุณเลื่อน
“พ่อเปรม มากราบคุณผู้หญิงสิลูก”
ชื่อพ่อเปรม มีอิทธิพลมากเสียจนดารกาเหลียวขวับไปทางด้านหลังในทันที หัวใจเธอเต้นรัวราวกลองเพล เพราะคนที่เธอเห็นว่าดุดันนักหนา กับพี่เปรมของเธอคือคน คน เดียวกัน
หญิงสาวคิดวุ่นวายถึงการกระทำที่ผิดพลาดของตนเอง ซึ่งทำเรื่องน่าอายให้เขาเห็นเสียมาก ทั้งซนจนตกต้นไม้ และดื้อรั้นโต้เถียงพี่เปรมของเธอจนดังลั่นคลอง ทำให้พี่เปรมขัดใจ หาไม้มาจะตีเธอ เธอไม่น่าทำก๋ากั่นใส่พี่เปรมที่เธอคิดถึงคนนี้เลย ขณะคิดหญิงสาวแสดงความเสียใจออกมาจนออกนอกหน้า เปรมชายตามาเห็นเข้าพอดี หัวใจของหนุ่ม ที่คิดว่าตนเองมีความหนักแน่นกลับพลันหวั่นไหวกับสายตาที่พยายามสานสบ อย่างยอมรับผิดเต็มที่
คุณเลื่อนรับไหว้ชายร่างสูงแล้วต้องยอมรับว่าเขาดูดีและน่าเกรงขามในที สายตาหยิ่งทระนงไม่เคยเปลี่ยนจับตาที่ใครไม่เคยหลบ ดารกานบนิ้วไหว้อีกฝ่ายไปแกน ๆ นางแม้นนิ่งอึ้งอย่างคนใบ้ เพราะบางอย่างในตัวของชายหนุ่มทำให้เธอไม่อาจดูถูกได้อีกแล้ว นั่นคือความสง่างามและความทระนงองอาจสมชายชาติทหาร ซึ่งผิดกล้าคิด กล้าทำ และมีความรับผิดชอบ
“พ่อเปรมพายเรือให้คุณหนูไปทีเถิด เธออยากนั่งเรือแจว”แม่วาดบอก
“แดงไปเรือยนต์ก็ได้ค่ะแม่วาด”เธอรีบบอก
ผู้ใหญ่พากันอมยิ้มกับความโลเลของหญิงสาวจอมเอาแต่ใจ คุณเลื่อนก้าวลงเรือตามด้วยนางแม้นและแม่วาด ดารกาชายตามองเสี่ยวหน้าคม เขาก้าวไปที่เรือแจวเธอเปลี่ยนใจไปขึ้นเรือแจวอีก
“อ้าวดูหนูแดง” คุณเลื่อนอุทานหากไม่ได้คิดว่าคนละชนชั้นอีกต่อไปแล้วหลวงราชหัวเราะเบิกบานเอ่ยกับทุกคน
“ช่างเถิด พ่อเปรมคงไม่พาน้องตกน้ำไปหลอก เอาล่ะปริกไปวัดกัน”
เครื่องยนต์ติดลั่นคลองนำหน้าไปก่อนละลอดคลื่นทำให้เรือเล็กโคลงเคลง หากร่างสูงก้าวมั่นคงด้วยชำนาญ
“รับแดงด้วยสิคะพี่เปรม”
เธอเอ่ยถ้อยสนิทสนม เปรมนึกค่อนกับความก๋ากั่นของเธอเขายื่นมือรับนุ่มเสียจนชายหนุ่มใจเต้นแรงกับสัมผัสแรกดารกาก้าวขึ้นเรือไม่เป็นไปเหยียบข้างแคมทำให้เรือเอียงเธอใจหายอุทานลั่น
“คุณพระช่วยแดง”
ร่างใหญ่ที่ฉุดประคองเธอด้วยความอ้อมกอดหยุดยืนนิ่งจนเรือค่อยนิ่ง
“คุณนั่งให้ดีและนั่งให้นิ่ง”เขาสั่งคลายวงแขนออก
“เจ้าค่ะนาย” เธอกระแทกเสียงประชดพร้อมค้อนคมให้ชายหนุ่ม
เปรมทำหน้าที่แจวเรือ มองทางน้ำและริมฝั่งคลองดารกาพยายามสบตาอีกฝ่าย หากเขาเมินเฉยอย่างที่ทำให้หญิงสาวเจ็บจี๊ดในดวงใจ ก่อนชวนคุยชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมคุย
“ไกลมั้ยคะ พ่อเปรม” สรรพนามท้ายคล้ายยั่วให้เปรมแสดงอาการออกมาให้เห็นสักอย่าง ไม่ใช่ทำหน้าขรึมอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ แต่การสัพยอกของหญิงสาวไม่ได้ผลเพราะเปรมยังคงวางเฉยเช่นเดิม
“ไม่ไกลครับ”
“พ่อเปรมเหนื่อยมั้ย”เธอตั้งใจยั่วเขาให้โกรธแน่ ๆ ชายหนุ่มคิด “คงไม่เหนื่อย”
เธอตอบเองและพูดต่อ
“เพราะพ่อเปรมท่าทางเหมือนทหาร ทหารเอยทหารบกจะยกพลขึ้นหรือยกพลลง” เธอร้องเป็นเพลงครานี้ชายหนุ่มกลั้นไม่ได้จึงหัวร่อออกมาคำหนึ่ง กล่าวเตือนด้วยหวังดี
“คุณแดง โตแล้วต้องเรียบร้อยให้สมกับกุลสตรี”
“แดงโกหกไม่เป็นนี่ กับพี่เปรมก็นับถือเป็นพี่”เธอให้เหตุผล จับตามองอีกฝ่าย ดวงตาคู่หวานสวยเปล่งประกายพราวระยับจนชายหนุ่ม ไม่อาจตีความหมายเข้าข้างตัวเองได้ จึงเสมองต้นไม้ ต้นไร่ริมตลิ่ง พลางคิดว่า ก๋ากั่นแล้วยังทำเจ้าชู้
“พี่เปรมปั้นตุ๊กตาให้ใครบ้างคะนอกจากแดง”เธอถามเป็นนัยไม่คาดหวังว่าจะได้ยินคำตอบที่ตนควรดีใจ
แต่ชายหนุ่มมากวัยกว่าไม่คิดไกลขนาดเธอจึงตอบตามซื่อ
“ไม่มี”
“จริงหรือ ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าแดงเป็นคนพิเศษ เป็นสเปเชียลของพี่เปรมใช่มั้ยคะ”
เปรมร้อนวูบไปทั้งกายกับคำพูดส่อเสียด ให้เข้าใจได้เป็นสองทาง เขาทำใจให้มั่นคง ข่มอารมณ์ให้เรียบเฉย ก่อนถามเสียงทุ้ม นิ่ง ไร้ความเป็นพิเศษ อย่างที่หญิงสาวกลาวออกมา
“คุณแดงเรียนชั้นอะไรแล้ว”
“มอแปดค่ะ จบแล้วจะเรียนต่อ”
“ไม่แต่งงานหรือ”
ไม่แต่งค่ะ แดงจะหอบผ้าไปกับเขาเฉย ๆ”เธอกล่าวพร้อมหัวเราะร่วน หญิงสาวทำให้คนหนุ่มสะท้านอกกับความคิดแปลกแหวกแนวและคิดว่าช่างไร้ยางอายเหลือเกิน
นี่หรือคุณหนูหลวงราชพานิช นึกจะหัวเราะร่วนไม่อายผู้ชาย!
“คิดต่อว่าแดงอยู่ในใจหรือคะพี่เปรม”
“ผมจะว่าเช่นนั้นได้อย่างไร”
“สายตาพี่เปรมตำหนิแดง นี่นา” หญิงสาวมองทะลุดวงตาหน้าต่างหัวใจของเปรมได้อย่างลึกซึ้ง ชายหนุ่มนึกทึ่ง แต่ไม่ปฏิเสธ ดารกาทำน้อยใจ จึงชักสีหน้าชายหนุ่ม ตัดพ้อออกมานิดว่า “แดงคงทำให้พี่เปรมรำคาญหูมากเต็มที แดงจะไม่พูดกับพี่เปรมแล้ว”
“คนพาล”
“พี่เปรมอยากว่าแดง”
“พี่ยังไม่ได้พูดสักคำ”
“แต่ดวงตาพี่เปรมฟ้องนี่คะ”
“ดวงตาคนคุณแดงก็ฟ้อง”เขาย้อนให้
ครานี้หญิงใบหน้าแดงกล่ำเพราะเลือดฉีดแรง เธอถามลั่นอึงอนในอก
บอกมานะว่าฟ้องอะไร!
เมื่อเปรมย้อนหญิงสาวไปแล้ว ดวงตาของเธอสื่อมาจากดวงใจ...เธอชอบเขาคิดเช่นนั้นแล้ว เปรมได้รับกระแสร้อนวูบซึมซับ เสียดแทงทุกเส้นเลือดในกาย
มันคืออะไร แต่รู้สึกแปลกเสียจนรู้สึกหายใจไม่คล่อง สามครั้งแล้วนับแต่ จับมือ โอบกอดยามเธอเสียหลักแล้วยังกิริยาสดใสร่าเริงนี่อีกเล่า ทั้งที่เขาบอกว่าไม่ชอบความล้ำสมัย ไม่เหมาะสมสำหรับกุลสตรีที่ดีงาม แต่เขากลับเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก
“แดงเก็บตุ๊กตาปั้นไว้ในตะกร้า แดงทาสีให้ด้วยนะคะพี่เปรมทายสิว่าแดงใช้สีอะไรบ้างอย่างจูงกระเบน” คนพูดเก่งยังชวนคุย
“สีแดง”
“สีแดงถูกต้องค่ะ อ่ะ แดงให้รางวัล”เธอปลดโบผูกผมส่งให้ เขาไม่ยื่นมือออกมารับ แล้วทำท่าเฉยดารกาเห็นชายหนุ่มไม่มีไมตรีกลับมาให้จึงทำหน้าง้ำไม่พอใจ จึงขึ้นเสียงสูงเข้าใส่อีกฝ่าย
“เอ๊ะพี่เปรม บอกว่าให้รางวัลไงคะรับไปสิ”
“ติดกับผมคุณแดงก็ดูดีแล้วนี่ครับ”ชายเลี่ยงตอบเบือนหน้าลงไปในสายน้ำสีขุ่นในลำคลองกว้าง
ดารกาปล่อยโบทิ้งน้ำอย่างไม่ไยดีอีก เปรมเห็นเช่นนั้นอดเสียดายไม่ได้จึงรีบเก็บมาไว้ในอุ้งมือทั้งเปียก ดารกาชอบใจเย้าอีกฝ่ายว่า
“อ้อ รับจากมือไม่ได้ต้องรับผ่านน้ำ”
ทำอย่างฝรั่งไปได้นึกจะทำก็ทำ ดารกาเกิดยุคผิดหรือเปล่านี่...ชายหนุ่มนิ่งคิดด้วยใจเต้นผิดจังหวะไปบ้าง
หญิงสาวนั่งเงียบจนเปรมทนไม่ได้ต้องถาม
“ร้อนหรือถึงเงียบไป”
“แดงกลัวพี่เปรมรำคาญจึงเงียบค่ะ”แล้วเธอก็เงียบจริง ๆ เงียบอย่างที่เปรมอยากชวนเธอคุยต่อ หากว่า เขาปิดความต้องการนั้นใส่ประตูหัวใจ สลักกลอนแน่นหนา...หัวใจที่มีเจ้าองแล้ว ไม่ควรเปิดรับหญิงใดเข้าไปร่วมห้องอีก...
คืนนั้นมีงานกินเลี้ยงดูกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ชาวบ้านนำรำวงมาเล่น แม่วาดเอ่ยชวนให้ดารการำ เธอหันกลับไปชวนแม่วาดขึ้นรำไปด้วยกัน
ตลอดเวลาเปรมลอบสังเกตดูไม่วางตา และไม่ให้ใครจับได้ คุณแดงคงเป็นสาวสังคมที่กร้านนักหนาเธอจึงไม่มีความอายใดๆ ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้น ความคิดยังแปลกล้ำกุลสตรี
คุณเลื่อนไม่รังเกียจชายหนุ่มอีกแล้วเพราะฐานะ หน้าที่การงาน และความเป้นคนทระนงองอาจของเปรม ทำให้รู้ว่า ยากนักที่จะมีใครมารังเกียจคนอย่างเขาได้ลง
“คุณหนูช่างหน้าเอ็นดูเสียจริง”กำนันปริกเอ่ยปากชมกับคุณหลวง ผู้ให้กำเนิดทั้งสองก็รู้สึกเอ็นดู ที่ลูกสาวเข้ากันได้กับชาวบ้าน จนเป็นที่รักของชาวบ้านทุกคน
ดารกาหยุดพักเป็นครู่จึงไปชวนชายหนุ่มผู้ยืนกอดอกไกลออกมาจากเวทีรำวงพอควร แต่สายตายังคงทอดมองการร่ายรำอย่างสนุกสนานของชาวบ้านอย่างเพิ่งละสายตาจากดารกามามองชาวบ้าน เพราะหญิงสาวกำลังเดินมาหาเขา...เปรมไม่อยากให้ถูกจับได้ว่าแอบมองอีกฝ่าย
หญิงสาวชาวกรุงเข้าไปหาชายหนุ่มที่ตนรักมาตลอด ชักชวนอีกฝ่ายจากใจจริงไม่มีเสแสร้งแกล้งทำ
“พี่เปรมขาไปรำวงกันเร็วค่ะ”
“ไม่ดอกครับ เชิญคุณแดงเถอะ”
“เอ๊ะ เจ้าของบ้านช่างไม่มีน้ำใจต้อนรับแขกเสียจริง”เธอต่อว่าเสียงสูง แม่วาดได้ยินเข้า จึงยุลูกชายอีกเสียงหนึ่ง หลังจากขออนุญาตคุณเลื่อนแล้ว
เปรมจำใจออกรำแข็ง ๆ จนคู่รำกลั้นยิ้มไม่ใคร่ได้
“ถือปืนถนัดกว่าใช่มั้ยคะ”เธอถามเขา แต่เปรมไม่ได้ยิน จึงเอียงหูเข้าไปใกล้
“ว่าอะไรนะคุณแดง”
“ถือปืนง่ายกว่ารำวงใช่มั้ยคะ”ครานี้เขาถึงกับหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเก้อเขิน ทำมือแข็ง โยกตัวไปตามเรื่อง อย่างหาความงามอ่อนช้อยให้เหมือนหนุ่มอื่น ที่รำป้อสาวไม่ได้เลยสักนิดเดียว
เวลาผ่านไปพอควรคณะกฐินจึงกลับเรือนพักบ้านนายปริก ดารกางอแงจะกลับพร้อมเปรมคุณเลื่อนรีบทักท้วง
“ไม่งามหรอกลูกมืดค่ำดึกดื่นแล้ว”
“พระจันทร์สว่างออกค่ะคุณแม่ไม่มืดสักนิด”
“เออแน่ะลูกคนนี้ช่างไถลไปได้”
“แดงไม่เห็นเสียหายหรอกค่ะ พี่เปรมตั้งหน้าตั้งตาพายเรืออย่างเดียว”
หลวงพานิชได้ยินจึงตามใจลูกสาว ราวกับจะเปิดทางให้เช่นกัน แต่คุณเลื่อนเห็นว่าไม่งามนักจึงเอ่ยเสียงเบาพอได้ยินตามลำพังกับลูกสาวจอมดื้อเงียบว่า
“ถ้าอย่างนั้นให้แม้นไปด้วยนะหนูแดง”
“ไม่ค่ะคุณแม่ เดี๋ยวเรือหนัก แดงจะไปกับพี่เปรมค่ะ”ตอบผู้ให้กำเนิดพลาง ร่างอรชรได้สัดส่วนของหญิงสาวกระแซะพี่เลี้ยงให้ไปขึ้นเรือลำใหญ่ แม้นต้องทำตาม คุณเลื่อมองค้อนลูกสาว ซึ่งแอบหลบข้างทาง
เรือยนต์ลำใหญ่มีหลังคาล่วงหน้าไปแล้ว
เปรมถือตะเกียงไปที่เรือไม่ทันสังเกตว่ามีร่างอรชรอ้อนแอ้นตามไปเงียบ ๆ จนครู่หนึ่งเขาเหลือบสายตามาเห็นจึงอุทานอย่างตกใจเพราะคาดไม่ถึง
“คุณแดง อ้าวยังไม่ไปอีกหรือ”
“แดงมากับพี่เปรม ก็ต้องกลับด้วยกันสิคะ”
ดารกาตอบรับอย่างร่าเริง ก้าวลงเรืออีกครั้ง ครานี้ลงเรือเป็น ทำให้ไม่โคลงอย่างคราวแรก เธอก้าวลงไปนั่งทำหน้าระรื่น เปรมวางตะเกียงไว้หัวเรือและกลางเรือ แสงจันทร์กระจ่างนวล
“หนาวมั้ยคะพี่เปรม”ดูเธอถามราวกับให้ท่าหากดวงหน้าซื่อคงถามจากใจจริง
“ไม่ครับ”
หญิงสาวเอามือแตะโป๊ะตะเกียง แสงสีส้มสะท้อนความงามละมุน เปรมเผลอมองเต็มตา ดารกาไม่รู้สึกตัวกล่าวไปเรื่อยเปื่อย
“คุณแดงหนาวหรือ”
“แม้นเคยสอนเป็นผู้หญิงห้ามพูดว่าหนาว”
“ทำไมล่ะครับ”
“เขาบอกเป็นการให้ท่าผู้ชายค่ะ แต่พี่เปรมเป็นพี่ ไม่เป็นไร”เธอตอบในตาพราวระยับล้อแสงตะเกียง
“ แดงหนาวจังเลยค่ะ แต่ก็รู้สึกแปลก ๆ อุ่นใจอย่างไรบอกไม่ถูก”
ชายหนุ่มแอบถอนใจให้คลายความอึดอัดลงไปบ้าง เพราะบางครั้งดารกาดูก๋ากั่น แก่นแก้วล้ำยุค สมัย และชายหนุ่มบอกตัวเองว่าไม่ชอบกิริยาแบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เปรมเห็นกิริยาไร้เดียงสาซ่อนอยู่ในท่าทีทันสมัยของหญิงสาวนัก ดังนั้นเปรมจึงดูไม่ออกเลยว่า หญิงสาวเป็นคนเช่นไรกันแน่?
“นาทีพี่เปรมเคยพาแดงไปเก็บบัวอยู่ทางไหนคะ”
“ไปอีกไกล”
“พาแดงไปนะคะพรุ่งนี้”
“พี่ต้องกลับแล้ว ลามาได้แค่วันเดียว แล้วคุณแดงไม่ต้องไปโรงเรียนหรือ”
“ไปค่ะแต่อยากเกเร แดงคิดถึงที่นี่ม้าก มาก แดงจำได้นะคะเรื่องยิงนกตกปลา”
“นั่นสิครับ”เขาไม่ลืม
“พี่ตกปลาได้คุณแดงจับปล่อยหมด”
“แล้วพี่เปรมก็ตีมือแดง”
“ทำไมไม่ฟ้องคุณท่านล่ะครับพี่ตีมือ”เปรมย้อนถาม
เธอยิ้มน้อย ๆ ฟันเรียงขาวเป็นระเบียบสะท้อนไฟ สารภาพเสียงหวานละห้อยว่า
“แดงกลัวไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่เปรมอีกค่ะ”
น้ำเสียงของหญิงสาวผ่านหูชายหนุ่มแล้วไปเบ่งบานในใจของเขาจนรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เปรมหวาดระแวงว่า
หญิงสาวจะรู้มั้ยหนอ เธอได้ทำให้ผู้ชายตัวโตคนนี้หวั่นไหวไปเพียงใดแล้ว
แม้หน้าที่การงานของเปรมกำลังก้าวหน้าหญิงสาวมากหน้าหลายตาเข้ามาให้เลือกที่คิดว่าพึงใจจนเกิดความรักนั้น ยังไม่ทำให้อ่อนไหวขนาดนี้ ผู้ชายทระนงคนนี้ถูกหญิงสาวจอมก๋ากั่นทำให้นอนไม่หลับไปค่อนคืน!



Create Date : 05 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2554 16:44:20 น. 0 comments
Counter : 503 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.