นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
1 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
ชีต้าร์ล่าหัวใจ 8

ตอน หึงแล้วยังไม่รู้ตัว

อาหารเช้าตั้งโต๊ะครบทุกคน คุณหญิงเอ่ยให้ชีตาร์เตรียมชุดราตรีเพื่อใส่ไปงานคืนนี้
“พอมีมั้ยจ้ะ”
“เอ่อไปเช่าคงได้ค่ะ” ฟังชีตาร์เอ่ยเช่นนั้น จิตราภรณ์แทบปล่อยคิด
“งั้นก็เอาค่าเช่าไป”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณท่านราคาไม่เท่าไหร่
“แต่งตัวเป็นยายเชยเข้าไปในงานระดับสูง คุณคงจะทำให้อายขายหน้าคุณหญิงทิพย์” ผู้หมวดหนุ่มกัด
“ดิฉันไม่คิดประชันโฉมใครหรอกคะผู้หมวด”
“ก็คงอย่างนั้นเพราะคุณไม่เอาไหนอยู่แล้ว”
เจ็บ เจ็บ ชะมัดเลย ชีตาร์ยอกลึกอก แต่หญิงสาวเสแสร้งได้แนบเนียนด้วยรอยยิ้มหวานเฉียบส่งไปให้คุณหญิงเอ่ยรับรองเสียงอ่อนว่า
“คุณท่านขารับรองต้าไม่ทำให้คุณท่านอายหรอกค่ะ บางทีอาจจะมีคนมองว่าสวยบ้างก็ได้”
“ดำอย่างกับถ่าน” ตำรวจหนุ่มกัดได้กัดดี และกัดถูกจุดโกรธเสียด้วยชีตาร์ย้อนทันควัน
“แหมถึงจะด่างจะดำดิฉันก็เก็บซุกไว้ ไม่อวดความขาวจ้อกวอกให้คนใช้ได้ติฉินนินทา ว่ามีหูดอยู่ตรงก้นก้อนเบ้อเริ่มให้ร่ำลือว่าขาว แต่ไม่ยักสะอาด”
“หยุด” คุณหญิงประกาศิต
“อะไรกันสองคนนี้ทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ กวางก็กระแนะกระแหนไม่เข้าเรื่องต้าเขาจะเป็นอะไรก็ไม่น่าจะเดือดร้อนถึงตัวเอง”
ชายหนุ่มหน้าตึงเมื่อถูกตำหนิ! ส่วนชีตาร์หลุบตาลงมองพื้น จิตตราภรณ์ชวนหญิงสาวออกไปคุยกันตามลำพัง กระทั่ง ไปเลือกเสื้อผ้าที่บ้านชีตาร์ ตู้ผ้าหลังใหญ่ฝังในผนัง แบ่งกั้นชุดราตรี ชุดอยู่บ้าน หรือชุดสำหรับการออกงาน อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องมาเลือกซ้ำซ้อนวุ่นวาย
“ชุดเยอะจังเลยค่ะ คงใส่ครั้งเดียวแล้วเลือกใช่มั้ยคะ”
“บางชุดไม่ได้ใส่เลย เพราะไม่ค่อยออกงาน งานสังคมนี่สิ้นเปลืองผ้าดีเนอะ พอใส่ซ้ำโดนเหน็บแล้ว”
“ก้อยไม่ค่อยได้ออกเหมือนกันค่ะ ทำงานข้างนอกดีไปอย่างไม่เปลืองชุด นี่พี่ตาลทำงานกับคุณแม่ รับรองครึ่งตู้นี้ได้ใส่หมดแน่เลยค่ะ”
“ถ้าเช่าจริง ร้านคงรวยเนอะ”
สองสาวสนทนากันอย่างถูกคอ หลังจากนั้นจึงได้พากันกลับบ้านคุณหญิงอีกครั้ง และขลุกอยู่ในห้องของจิตราภรณ์ ซึ่งอาสาเสริมความงาม อย่างที่คนเป็นช่างจำเป็นชมเปราะ
“ผิวพี่ต้าร์สวยจังเลยค่ะ หน้าได้รูป แต่งยังไงทำผมทรงไหนก็สวย นี่ถ้าเกล้าขึ้นล่ะก็เจ้าสาวงานไหนก็อายนะคะ”
จิตราภรณ์ทำผมให้ชีตาร์ซึ่งไม่ยอมเกล้าเพราะดูสวยเกิน
“อย่าเกล้าเชียว สวยเกินฐานะไม่ดีค่ะ”กล่าวจบสองสาวหัวเราะกันคิกคัก
“ให้พี่กวางตะลึงเลยไงคะพี่ต้า”
“ไม่เห็นเกี่ยวเลย รวบผมแน่นไปไม่เอาล่ะหัวตึง ไม่สบาย รัดครึ่ง ๆ ก็พอค่ะ”
จิตราภรณ์ตามใจ ติดกิ๊บเพชรแท้รูปดาวไถเม็ดโตเรียงรายบนเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นธรรมชาติ หยักศกลอนใหญ่ดูหวาน ราคาชุดสีงาช้างเป็นหมื่นถูกสวมเข้ารูป สองสาวรู้ไต๋กันดีไม่มีอำพรางกัน
ฐิติ เดินลงจากชั้นบน เขาเดินลงมาก่อนชีตาร์และนั่งสนทนากับมารดาไปพลาง คุณหญิงแปลกใจที่ลูกชายอยู่บ้านติด โดยไม่รู้ว่าฐิติลงมานั่งจับผิดเลขาของคุณหญิง
เมื่อชีตาร์เยื้องย่างลงจากบันได้ ชายหนุ่มมองหญิงสาวนิ่งนานราวถูกมนต์นางฟ้าสะกด ในใจของเขากระตุกวูบ เจ็บแปลบหลายครั้ง ‘ยัยเชย’ ที่ชายหนุ่มให้สมยา หรือแม้แต่จะยั่วแรงว่า ‘ยัยดำ’ ช่างงามหยดย้อยในชุดสีงาช้างสง่างามราวกับเจ้าหญิง ชีตาร์เห็นชัดในท่าทีของชายหนุ่ม เธอจึงทิ้งสายตาเชิญชวน ฐิติให้เกียรติหญิงสาวด้วยการเผลอลุกจากเก้าอี้นั่งอย่างลืมตัว
“อืมม์” คุณหญิงครางในคออย่างถูกใจในตัวเลขา “เช่าชุดมาจากร้านไหนจ๊ะต้า”
“ร้านดูย์ฟองค์ค่ะ”
“หา” ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องราคาค่าเช่าก็เรือนหมื่น”แล้วเงินเดือนเธอไม่ละลายหายไปกับชุดนี้หรือต้า”
“พอดีรู้จักเขาค่ะเลยยืมมาใส่ได้ฟรี ก่อนจบงานต้องรีบคืนค่ะคุณท่าน”
ฐิติเพิ่งรู้สึกตัวจากคำกล่าวของมารดา เรื่องเงินเดือนกับการแต่งกายเกินฐานะของหญิงสาว เขาลอบสำรวจเครื่องประดับและอาภรณ์ที่สวมใส่ทีละอย่าง
รองเท้าสีงาช้างราคาไม่ต่ำกว่าหมื่นห้า เพชรแท้บนผมนั้นอีก เอาปัญญาที่ไหนมาปรุงโฉมฐิติคิดในทางไม่ดีเอาเสียเลยว่า ชีตาร์คงฉกมามากกว่าจะเป็นของเธอเอง
คุณหญิงเดินนำ ชีตาร์เดินตาม โดยมีสายตาของชายหนุ่มมองจนลับสายตา
ชายผู้อยู่ในวังวนสองความคิดด้วยความไม่รู้ตัวว่าเพราะอะไรจึงไม่อยากให้ชีตาร์เข้าใกล้ หรือแม้แต่ไม่อยากให้ออกห่าง เก็บงำมาคิดขัดแย้งให้วุ่นวายใจ เขาอยากวิ่งไปกระชากชีตาร์กลับมาแล้วตะโกนว่า ไม่ต้องออกไปจากที่บ้านคืนนี้
กับอีกความคิดหนึ่ง เธอไปฉกชิงวิ่งราวมาจากที่ไหน ถึงได้ไม่มีเรื่องกระโตกกระตากมาให้ได้รู้เสียทีว่าชีตาร์เข้ามาที่บ้านเขาเพื่ออะไร
ยิ่งสายตาเชิญชวนที่ทอดมองมาที่เขานั้นจะจงใจหรือยั่วโมโหก็ตาม มันทำให้ฐิติ ผุดลุกผุดนั่ง นอนกระสับกระส่ายจนถึงเวลา ห้าทุ่มตรง

ห้าทุ่มรถหรูจึงเคลื่อนเข้าบ้าน
ในมุมมืดของบ้าน ชายร่างสูงเห็นเพียงมารดาลงมาตามลำพัง เขาแสร้งปิดปากหาวมือถือไฟฉายราวกับกำลังตรวจความเรียบร้อย เดินออกมาทักมารดา
“กลับมาแล้วหรือครับคุณแม่”
“จ้ะ แล้วนั่นยังไม่นอนหรือกวาง”
“ผมได้ยินเสียงกุกกักเลยลงมาดูครับ” เขาปิดปากแสร้งหาว “ฮ้าว อ้าวแล้วใครเก็บตกเลขาคุณแม่ไปครับ”
“ไวกูรณ์น่ะสิ ควงคู่กับต้าตั้งแต่แนะนำให้รู้จักกัน ไม่ปล่อยให้คนอื่นเข้าใกล้เลย แต่สองคนนั่นสมกันทีเดียว” คุณหญิงชื่นชม“ต้าคงจะตกถังข้าวสารคราวนี้ เขาร้องเพลงคู่กับตาไวเสียเพราะเชียว คงได้ลงข่าวซุบซิบบันเทิงแน่ตาไวควงสาวจนงานเลิกงานเขายังพาต้าไปด้วย”
ฐิติหูอื้อ ก่อนจะได้สัมผัสลมภายในควงสว่านอื้ออึงอยู่ในหูซ้าย ทะลุออกหูขวาก่อนจะพลุ่งขึ้นสมองและต่อมา ฐิติเริ่มรู้สึกว่า เขาหมดแรงอย่างประหลาด
คุณหญิงเอ่ยอย่างชื่นชมจากใจจริงและจงใจบอกให้ลูกชายได้รู้ อย่าได้ใกล้ชิด เลขาคนสวยเพราะบัดนี้ ชีตาร์อาจจะไปตกยุ้งข้างสารของมหาเศรษฐีเข้าให้แล้ว
ชายหนุ่มเดินกลับเข้าห้องไปอย่างเงียบงัน เจ้าของห้องเคยโห่ร้องอย่างยินดีที่ได้จูบชีตาร์ เคยกระโดดไปบนเตียงแล้วทำท่าดีใจยิ่งกว่าข่าวสอบนายร้อยติด แต่วันนี้ ท่าทีค่อยทรุดตัวลงนั่งบนเตียงราวกับว่าเขากำลังเป็นไข้ แต่เจ้าตัวไม่รู้ว่าไข้อะไร จึงได้หมดแรง นอนหงายแผ่หราเหมือนซากกบโดยผ่าท้องในห้องทดลอง ดวงตาทอดมองเหม่อขึ้นบนเพดาน
ภาพของชายหนุ่มหน้าตาดี โผล่ในห่วงแห่งความจำ ไวกูรณ์ทั้งหล่อและรวยแม้จะมองดูตี๋ แต่เป็นตี๋ระดับอินเตอร์นางเสือสาว ชีตาร์คงไม่ปล่อยเหยื่อให้หลุดมือ เพราะแม้จะเป็นแค่เป็นเมียน้อยก็สบายไปสิบชาติ
นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ เขาแค่ตำรวจไฮโซ เดือนตุลาถึงจะได้เลื่อนยศเป็นผู้กอง เทียบเงินกันแล้วเขากินมรดกเก่า เงินเดือนไม่ต้องพูดถึงผู้จัดการแฟมิลี่คู่รักน้องสาวยังกินเงินมากกว่าหลายเท่า
คืนนี้ทำไมจึงรู้สึกหดหู่ไปได้ถึงเพียงนี้ก็ไม่รู้ เขาผุดลุกขึ้นเดินอย่างข่มตาไม่หลับ
ส่วนไวกูรณ์นั่งตรงข้ามกับญาติผู้น้อง ที่ร้านอาหารระดับไฮคลาสหลังออกจากงานมาแล้ว
“ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนชีตาร์”
“เป็นเลขาไงเล่าพี่ไว คุณหญิงก็แนะนำแล้ว”
“นึกสนุกยังไงขึ้นมา ไหนบอกเรียนจบจะมาช่วยพี่ แล้วดูทำตัวเข้าสิไปทำเป็นเลขา”
“ก็เลขาน่ะสิค่ะพี่ไว” เธอย้อนถ้อยทำหน้าแสนซื่อ
“คุณหญิงไม่รู้ใช่มั้ยว่าชีตาร์เป็นใคร”
“ก็คงจะไม่รู้ เพราะแรก ๆ ท่านก็หวงลูกชาย”
“หมายความว่าเข้าไปบ้านนั้นเพราะฐิติหรือ”
“เกลียดคนรู้ทัน” เธอค้อนญาติผู้พี่
“ไปอย่างไรมาอย่างไรชีตาร์”
“เขา กับแฟนเขา ไฮโซสุดฤทธิ์ใช่มั้ยล่ะ ขับรถชนกับรถของตุ่น”
“ผู้จัดการแฟมิลี่”
“นั่นล่ะ เขาก็ดูถูกเราสองคนเชียวละ ต้าเลยแก้เผ็ดเข้าบ้างล่ะว่าคนจนมันก็คนเหมือนกัน”
“อืมม์นั่นสิน่ะ ยิ่งคนจนกิตติมศักดิ์ยิ่งไม่ธรรมดา แล้วไงจะอยู่ฐานะนี้อีกนานมั้ย”
“สองเดือน ไม่มากกว่านี้หรอกค่ะ ต้ามีงานรออยู่”
“นั่นสิมาแบ่งเบาพี่ไปบ้างเหนื่อยจะแย่อยู่แล้วได้ต้าช่วยดูทางนี้พี่จะได้มีเวลาไปหาเมียบ้าง”
“อ้าวพี่ไวยังไม่มีอีกหรือคะปูนนี้แล้ว”
“พึ่งยี่สิบเก้า กับอีกสิบสี่เดือนเท่านั้น พูดซะยังกับพี่แก่เหลือเกิน ผู้ชายไม่ทึนทึกหรอกว่าแต่เราเหอะ”
“มีเมื่อไหร่ก็ได้น่า พี่ไวหาไม่อยากหรอก”
“เออคงใช่” เขาพยักหน้ารับหงึก ๆ สาวสวยรวยขนาดนี้คว้าใครแล้วเขาไม่มองก็ตาถั่วเต็มทน ว่าแต่เจ้าฐิติยอดเจ้าชู้จะไม่มองเชียวหรือ
“ฮ้าว”
“เอ้าท์ อ้าปากจนเห็นลิ้นไก่แล้วต้า”
“ไม่เป็นไรพี่ชายเห็นความไม่เอาไหนของน้อง แต่คงไม่คิดขายน้องหรอก กลับเหอะพี่ไว ต้าง่วงแล้วละ”
“เออ เที่ยงคืนแล้วด้วยจะให้ไปส่งที่ไหนดี”
“บ้านคุณหญิงทิพย์นั่นแหละค่ะ พรุ่งนี้มีงานอีก”
“ถามจริงต้า”
“ค่ะพี่ไว”
“ชอบฐิติหรือเปล่า”
“เกลียด”
“แสดงว่าไม่ชอบ แต่รักมันแหงเลย” พี่ชายสรุป
“ไม่ล่ะพี่ไว แค่หมดสนุกต้าก็พอแล้วละ” จำเลยปากแข็ง ไวกูรณ์มิได้คาดคั้นถามญาติผู้น้อง ทั้งที่ค่อนข้างแน่ใจว่า ชีตาร์ต้องชอบฐิติอย่างมากทีเดียว

ไฟรถสว่างจ้า ฐิติไหวตัวจากมุขชั้นบนทอดตามองลงมาที่ทางหินอ่อนทอดยาวจากประตูรั้วอัลลอยด์ ไฟทางจากโคมนางฟ้าส่องสลัวร่างโปร่งในชุดสีงาช้าง ปักมุกชมพูอ่อน สะท้อนแสงเป็นเลื่อมพราย
ประตูใหญ่ด้านหน้าปิดจากภายใน ฐิติเดินกึ่งวิ่งลงจากชั้นบน อ้อมไปทางหลังตึก ประตูไม้สักถูกไขกุญแจกุ๊กกิ๊กก่อนจะเปิดออกติดประตูเหล็กอีกชั้นและกั้นมุ้งลวดไว้
ชีตาร์ปิดประตูแล้วจึงก้าวเดินไปห้องพักของตัวเอง ร่างสูงของฐิติยืนพิงผนังปลายตามองหาเรื่องมาที่หญิงสาว ชีตาร์เชิดหน้านิดหยุดยืนเผชิญหน้า อย่างรอทะเลาะด้วยความเต็มใจ
“สะพานข้ามทางช้างเผือกน่าจะได้ผล” ชีตาร์เอียงคอมองฉงนในถ้อยคำแดกดันของชายหนุ่ม ฐิติอารมณ์เสียอย่างไร้เหตุผลในความคิดของชีตาร์ เขายังกระแนะกระแหนว่า
“อย่าทำท่าเหมือนคนอ่อนต่อโลกเลยน่าคุณเลขา ในที่สุดเธอก็เข้าสังคมชั้นสูงได้ และน่าที่จะจับปลาวาฬได้เสียด้วย”ยิ่งพูดน้ำเสียงของชายหนุ่มยิ่งเหยียดหยัน ชีตาร์รู้เท่าทัน จึงราดน้ำมันใส่กองเพลิงไปอีกนี้หาเรื่องนี่หว่า
“อาร้าย” เธอลากเสียงยาวหน้ายุ่ง“ผู้หมวดขาเที่ยงคืนแล้ว ยังอุตส่าห์อดหลับอดนอนมายืนรอมาหาเรื่องดิฉันอย่างนี้ แอบแฝงอะไรหรือเปล่าคะหมวดขา”
“ผมพึ่งรู้ว่าคุณเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ที่แท้คิดจะเข้าสังคมชั้นสูงโดยผ่านทางคุณหญิงทิพย์ หัวหมอดีนี่”
“เข้าใจได้ก็ดีแล้ว ถอยไป” ชีตาร์กระแทกเสียงใส่อีกฝ่าย ก่อนเดินผ่านหน้าอีกฝ่ายไปอย่าง สวย เริด เชิด และหยิ่ง
“คุณเลขา”ฐิติตามพรวดถึงร่างชีตาร์ เขาจับร่างสูงโปร่งพลิกเข้ามาสู่อ้อมกอดได้รวดเร็ว ชีตาร์ดิ้น นายตำรวจตามประกบติดร่างสูงโปร่งราวกับจะค้นหาหลักฐานจากผู้ร้าย แต่ต่างกันที่ ถ้าเป็นคนร้ายต้องหันหลังให้เขาค้น แต่นี่ เขาใช้หน้าอกแกร่งดันหน้าอกนุ่มชิดติดผนัง จับข้อมือทั้งสองของเธออกตรึงกับประตูไม้ ชีตาร์ดิ้นขลุกขลัก ร้อนไปทั้งกาย แยกความรู้สึกไม่ได้ระหว่าง พอใจและไม่พอใจ
ฐิติต่อว่าอีกฝ่ายอย่างชิดติดริมฝีปากหยักย้อยเต็มอิ่ม สีแดงของลิปติกมันวาวล้อแสงสลัว ยั่วใจให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง แต่ยังปากดีต่อว่าต่อขานหญิงสาวไม่หยุด
“นายไวคงได้รู้รสจูบที่ไม่ได้ความของเธอแล้วสิชีตาร์ เสือสาวที่อยากขม้ำเหยื่อรวยๆเต็มที” เขายั่ว
“อ้อ ฉันจูบกับพี่ไวอย่างเมามันอย่างเหลือรับเชียวล่ะ”เธอเย้ยหยันกลับ
“อย่าปากดีไปเลย ปากเธอไม่มีรอยจูบให้เห็นหรอกน่า”
ดูกันออกด้วยหรือ! ชีตาร์คิด ก่อนเกลื่อนความคิดอย่างรวดเร็ว ด้วยการดันหน้าอกกระแทกอกแกร่งจงใจ
“แล้วมันเรื่องอะไรมาจับล็อกฉันอย่างนี้ผู้หมวด”
“จะจับไว้อย่างนี้ล่ะ” เขาพาลดื้อ ๆ
“ฉันผิดอะไรไม่ทราบ”
“ผิดสิ เธอมันพวกสิบแปดมงกุฎ วางแผนมาเป็นเลขาของคุณแม่เพื่อไต่เต้าไปจับผู้ชายรวย ๆ ใช่มั้ย สำเร็จไปขั้นแล้วนี่ เพราะคืนนี้เจ้าของเบ็นซ์แปดล้านตามมาส่ง”
“ถ้าฉันจับคุณไวกูรณ์ได้มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน ตัวของฉันกับเงินคุณไว”
ลูกผู้ชายอะไรจะทำให้ขาดสติเท่ากับพิษหึงไม่มีอีกแล้ว
ฐิติระดมจูบลงไปที่นวลแก้มหอม จูบแรงก่อนซุกไซร้ไปทั่วจากแก้มซอนละเรื่อยไปที่ซอกคอ ริมหู เรื่อยลงไปที่ปลายคาง หยุดนิ่มที่ริมฝีปาก ฉกลิ้นวูบเข้าแทรกแซงภายใน ชีตาร์อ้าปากค้างจึงถูกตวัดลิ้นรุกไล่ราวกับว่าชายหนุ่มหาทางไปไม่เจอจึงไล้วน ดูดดื่มรสพลั้นซึ่งยังฉาบไล้ในกระพุ้งแก้มหญิงสาว ชีตาร์อ่อนเต็มที มือชายหนุ่มลดลงมาแตะที่เอว และต้นขาของหญิงสาว จับต้นขายกขึ้นและดึงเข้ามาแนบชิดความตื่นตัว ชีตาร์ยิ่งอ่อนแรงหมดกำลัง ยกมือโอบรอบคอชายหนุ่ม ฐิติลูบไล้ต้นขาหญิงสาว ถึงรอยผ่ากระโปรง มือเรียวยาวสัมผัสผิวเนียนนุ่ม ใจชายยิ่งรุ่มร้อน เลิกชายกระโปรงหญิงสาวขึ้นสูงขึ้นไปเรื่อย ชีตาร์รู้สึกวามเย็นของแอร์กระทบจึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ คิดได้ถึงความละอายใจ หญิงสาวรวบรวมกำลังคืนกลับกระทืบเท้าลงบนเท้าฐิติเต็มแรงจนเขาร้องลั่น
“โอ๊ยยยยยยยยยยย”
ชายหนุ่ม กุมเท้ากระโดดเหย็ง ชีตาร์รีบเผ่นเข้าห้องก่อนที่ใคร ๆ จะแตกตื่นมาเห็นฐิติเห็นนางเสือเผ่นเข้าห้องส่วนตัวไปแล้ว เขาฉุกคิดว่าเปล่งเสียงร้องดังคับบ้าน น่าที่จะทำให้ใครตื่น ดังนั้นจึงรีบกระเผลกขาเดินกลับขึ้นห้องทันที
คุณหญิงหูไวลงมาก่อนใคร ตามด้วยจิตราภรณ์ ภาพที่เห็นคือฐิติกระเผลกขึ้นบันได ท่านรีบถามห่วงใย
“อะไรกวางร้องลั่นเป็นอะไรลูก”
“ผมตกบันไดครับคุณแม่”
“ตายจริงแล้วลงมาทำอะไรล่ะ เอ๊ะเรานี่แปลกขึ้นทุกทีแม่เห็นเราขึ้นนอนไปตั้งนานแล้วนี่ลงมาทำไม” ครานี้คุณหญิงไหวระแวง จิตราภรณ์รีบหาทางช่วยพี่ชาย เอ่ยเบี่ยงเบนความสนใจของมารดาไปอีกทางว่า
“เสียงอะไรก็ไม่ทราบค่ะคุณแม่ ก้อยได้ยินดังมากเลย นี่พี่กวางคงลงมาดู ใช่มั้ยพี่กวาง”
“นี่แม่ก้อยเราเปิดประตูออกมาทีหลังแม่ เสียอีกนะ อย่ามาทำแก้ตัวแทนพี่ชายไปหน่อยเลย”คุณหญิงขัดคำลูกสาว จากนั้นหันไปคาดคั้นเอาเรื่องกับลูกชาย “กวางคงไม่ได้มาเฝ้าเลขาของแม่ใช่มั้ย”
ลูกกวางและลูกก้อย ได้เห็นผู้ให้กำเนิดไม่มีอาการพึ่งตื่นเลย เพราะท่านมีท่าทางคาดคั้นเอาจริงจังหูตาสว่างแพรวพราว ลูกกวางไม่ยอมเป็นเหยื่อหรือกลายเป็นแพะโดยง่ายจึงไถลไปนอกเรื่องว่า
“โธ่แม่ครับผมมีแฟนแล้วนะครับคุณแม่ จะมาสนใจเลขาเชยๆของคุณแม่ทำไมกันครับ ลูกเต้าใครก็ไม่รู้”
“ให้จริงอย่างปากเถอะกวาง เพราะเรื่องนี้แม่ขออยู่แล้ว ว่าพวกลูกต้องคบหา หรือแต่งงานกับคนที่เหมาะสมกันเท่านั้น” จิตราภรณ์บูดขึ้นมาทันที เพราะเธอไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ของมารดาอยู่แต่แรก ถึงกับ ตั้งปณิธานไว้ หากมีการบังคับเมื่อไหร่เธอไปอยู่กับตนัยยอดรักของเธอเป็นแน่
“เอาล่ะ ไม่มีเรื่องก็ไปนอนได้แล้ว” คุณหญิงตัดบท สองพี่น้องจึงพากันกลับไปห้องส่วนตัว
ชีตาร์ได้ยินฐิติเอ่ยกับมารดาเรื่องกำพรืดของเธอและเรื่องเขามีคนรักอยู่แล้ว หญิงสาวนั่งเท้าคางครุ่นคิดด้วยความเงียบเหงาและ เจ็บปวดอย่างประหลาด ไม่เคยมีอะไรในชีวิตที่ทำให้เจ็บเท่ากับได้ยินคำพูดของเขาว่ามีคนรักแล้ว
เมื่อวานอาย วันนี้เจ็บ
พรุ่งนี้เล่า จะได้รับอะไรจากผู้ชายที่ชื่อฐิติ หญิงสาวครุ่นคิดอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ แต่ที่เจ็บยิ่งคือถอนใจไม่ให้รักฐิติไม่ได้เลย ยิ่งนานวันยิ่งรักอย่างหัวปรักหัวปรำรู้ว่าเจ็บ รู้ว่าอาย และชีตาร์รู้ตัวว่า รักเขาอย่างสุดแสนรักเหลือเกิน!!

ฝ่ายผู้ก่อเหตุที่ขว้างงูยังไม่พ้นคอ กลับไปนอนแตะริมฝีปากตัวเองรอยอิ่มอุ่น ชีตาร์ยังคงจูบไม่ได้เรื่องเพราะตะลึง แต่เพราะอะไรหนอ เขาจึงอยากจูบเธอเหลือเกิน
รสค็อกเทลยังติดปากจางทำให้ใจหนุ่มร้อนรุ่ม จนคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรือนร่างไร้อาภรณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
ชีตาร์ เธอกำลังล่าอะไรอยู่หรือนี่!!




Create Date : 01 กันยายน 2554
Last Update : 1 กันยายน 2554 8:58:34 น. 0 comments
Counter : 548 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.