นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
ห้วงเสน่หา ปรารถนาแห่งหัวใจ 12

ตอนที่13 รัก

ขิมนั่งทานข้าวในห้องอาหารหรูของโรงแรมเกรดดี เขาเขี่ยข้าวเล่นมากกว่าจะตั้งใจกิน เขารู้สึกเหงาอย่างประหลาดเมื่อชวนป่านแก้วออกมาทานข้าว แต่อีกฝ่ายไม่ว่างมาด้วย หากเป็นเมื่อก่อนหน้านี้ ขิมคงไม่รู้สกึอย่างที่เป็นอยู่เพราะถ้าไม่ควงคนนั้น เขายังมีสำรองอีกมาก แต่ เวลานี้เขาไม่ต้องการติดต่อใครเลย นอกจากเลือกที่จะมานั่งเขี่ยข้าวเล่นตามลำพังอย่างกินอะไรไม่อร่อยสักอย่าง
สายตาคมเหลือบมองตามแขนขาวอ่อนงามของหญิงสาวสวยโฉบเฉี่ยว ซึ่งเท้าลงบนโต๊ะอาหารของขิม เขาเงยขึ้นมองแล้วเบิกตากว้างยินดีอย่างเห็นได้ชัด ทักหญิงสาวอย่างคุ้นเคย
“ธิดากลับมาเมื่อไหร่ครับ นั่งก่อนสิ”
เขาเลื่อนเก้าอี้ให้ กุลธิดาทรุดกายลงนั่ง เธอเป็นหญิงสาวสวย ทันสมัยที่ผมสั้นทันสมัย ท่าทางเชื่อมั่นในตัวเอง เธอสะบัดปลายผมเล็กน้อย ก่อนตอบชายหนุ่ม
“กลับมาหลายวันแล้วล่ะ ดีใจจังเลยมาพบขิม”
“กลับมาหลายวัน แล้วทำไมไม่ไปหาผมล่ะ” เขาหยอดเสียงหวาน ยื่นหน้าเข้าใกล้คนนั่งตรงข้ามกุลธิดาจึงย้อนชายหนุ่มผู้เคยคุ้นก่อนเธอไปเรียนต่อเมืองนอก
“แล้วทำไมขิมไม่ไปหาธิดาบ้างล่ะ ธิดาแยกมาพักส่วนตัวที่คอนโดแล้วนะคะ”
“อืมม์”ขิมรับเสียงในคอ ทำท่ายินดี หากตัวเองรู้ว่า ไม่ได้ระริกระรี้เหมือนเมื่อก่อนเสียแล้ว
“ธิดาตามข่าวขิมเสมอเลยนะ คุณยังไม่ยอมเลิกเจ้าชู้เลย” เธอต่อว่าหนุ่มหล่อด้วยน้ำเสียงอ่อนเอาใจ นิ้วมือเรียกจิ้มริมฝีปากย้อยของเขา ขิมจับปลายนิ้วอีกฝ่ายแผ่วเบา
“ไปพักกับธิดาก็ได้นะคะ มีที่สำหรับขิม”
ชายหนุ่มรู้สึกความแน่นในใจราวกับว่าเขาไม่มีที่ว่างสำหรับหญิงใดอีกแล้ว ดังนั้นแม้จะชวนไปและได้รับการเชิญกลับ ชายหนุ่มไม่ตื่นเต้นสักนิดเดียว
ที่ประตูทางเข้า ป่านแก้วเดินตามหลังชายหญิงสี่คนเข้ามาภายในห้องอาหาร พนักงานเสิร์ฟชาย เดินนำกลุ่มคนทั้งหมดเข้าไปยังโต๊ะที่จัดไว้ เสียงพูดคุยกับเบาๆ ทำให้ขิมหันไปมองอย่างไม่ตั้งใจ เช่นเดียวกับป่านแก้วมองมาพอดี สองหนุ่มสาวต่างคนต่างชะงักไปเล็กน้อย ความรู้สึกคล้ายถูกของมีคมทิ่มแทงเกิดแก่คนทั้งสอง แต่ป่านแก้วยังมีแก่ใจส่งยิ้มมาให้ขิม พร้อมค้อมศีรษะให้กุลธิดานิดๆ
“รู้จักเธอหรือคะขิม”
“เพื่อนสนิทกัน” ขิมบอกไม่เต็มเสียงดีนัก ใจหายวับอย่างที่เจ้าตัวปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยว่า แสนหวง
ฝ่ายป่านแก้วจงใจนั่งหันหลังให้ชายหญิงทั้งคู่ ขิมส่งอาหารให้กุลธิดาพักใหญ่จึงพากันออกไป
ก่อนหน้านี้ป่านแก้วขับออกจากบริษัทก็ตรงไปที่ขิมเพื่อจะชวนมาทานข้าวด้วยกันในร้านที่เขาอร่อย ทำเสียงออดอ้อนแล้วก็ว่างสายไปเสียเฉยๆ ป่านแก้วนึกห่วงจึงมาดูที่บริษัทก่อนเวลาอาหาร
เธอได้เห็นคนที่เธอนั้นห่วง นั่งส่งสายตาหวานไม่พอ ยังจับมือถือแขนกับสาวสวยอย่างสนิทสนม ป่านแก้วนึกย้อนบอกตัวเองในอก...ขิมไม่เคยว่างจากการควงหญิงสาว
ขิมออกไปกับกุลธิดาแล้ว ป่านแก้วนั่งทานอาหารกับลูกค้าและปกรณ์จนได้เวลา หญิงสาวขอตัวแยกจากไป เธอรู้สึกเบาหวิวราวกับว่าหัวใจบินหายไปจากอก ลงท้ายตัวเองซบหน้ากับพวงมาลัยนิ่งไม่ขยับเขยื้อนรถออก
เสียงเคาะกระจก ดัง ก๊อก ก๊อก ป่านแก้วเหลือบมอง ขิมก้มตัวลงมามองสบตาอีกฝ่าย ทำปากขยับขึ้นลง ป่านแก้วกดกระจกลง จึงได้ยินเสียงอีกฝ่ายถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่สบายหรือป่าน”
“ขี้เกียจขับรถ ยังไม่กลับหรือขิม”
“รอป่าน”ขิมยืดอกบอกอย่างตรงกับใจ
“รอเรา” ป่านแก้วแทบไม่เชื่อหู เธออดส่ายตาหาผู้หญิงอีกคนเสียไม่ได้ ขิมยิ้มมุมปากเปิดประตูรถอีกฝ่าย จากนั้นดันหญิงสาวให้ขยับพ้นจากที่นั่งคนขับ เขาเข้านั่งประจำที่สตาร์ทรถ เอียงหน้าเขาไปหาแก้มนวล ป่านแก้วเกร็งกายแข้งทื่อ ขิมเอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า
“เราทำหน้าที่เป็นพลขับให้”
“รถของเธอล่ะขิม ราคาหลายล้าน ไม่ห่วงหรือคะ”
“ล็อกไว้แน่นหนา ถ้าหายให้ประกันเมืองนอกจ่ายให้บานเลย เอ้าสั่งมาจะไปไหน”
“แล้วไม่ทำงานเหรอวันนี้” ป่านแก้ว กลายเป็นคนมีปัญหาไปเสียแล้วถาม และถาม ขิมย้ำเสียงหนักแน่นว่า
“บอกแล้วว่าไงอยากอยู่ใกล้ป่าน”กล่าวพลาง หนุ่มรูปงาม ยื่นหน้าเข้าใกล้คนไออุ่นขิมรัดเอวบางเข้ามาใกล้ๆ ทำหน้าดุ แต่ดวงตาระยิบระยับอย่างมีความสุขล้นเหลือ
ป่านแก้วหันหน้าออกนอกรถซ่อนใบหน้าแดงกล่ำไม่ให้เขาเห็น ขิมดึงผมหยิกลอนของเธอหัวเราะเบาๆเคลื่อนรถออก
“หนีงานกันเหอะ” ชายหนุ่มชวนหญิงสาว ตามหัวใจที่ต้องการของตนเอง
“ป่านเป็นลูกจ้างไม่ใช่เจ้านายแบบขิม”
“อย่างนั้นลาออกมาอยู่กับเรา”
“อยู่อะไรฐานะอะไรไม่ทราบคะเจ้านาย”
“ป่านอยากอยู่แบบไหนก็ได้” เขาเปรย ตามองถนน ป่านแก้วเอนศีรษะพิงกับเบาะหลับตานิ่ง “พูดจริงๆ นะป่าน หรือถ้าอยากเป็นผู้จัดการก็ได้ ไม่เกี่ยงเงินเดือน”
“ป่านไม่ได้เรียนมาทางด้านงานโฆษณา ป่านทำไม่เป็นหรอกค่ะ”
“แต่ขิมเชื่อว่าป่านทำได้”
“ทำได้ไม่ดีป่านก็ไม่อยากทำ”
“งั้นไปเป็นแม่บ้านให้เรา” คนพูดท่าทางอารมณ์ดี พูดทีเล่นทีจริง
“อย่าเลยขี้เกียจใช้ไม่กวาดตีกบาลเธอ”
“เรื่องอะไรจะให้ตีง่ายๆ เล่า เชิญเป็นยายแม่มดได้เลย เอ้า” ขิมยอกย้อน แล้วหัวเราะชอบใจ
ป่านแก้วเลยพลอยหัวเราะอารมณ์ดี แต่นี่ป่านแก้วรักเขาแล้วหรือ ขิมล่ะรักป่านตอบหรือเปล่า ขิมจ๋า อยากถาม แต่ป่านกลัว!
ขิมขับรถไปส่งป่านแก้วจนถึงบริษัทตัวเองออกมาโบกแท็กซี่กลับ ชายหนุ่มเริ่มรับแล้วว่า เขาทำตัวเฉกเช่นหนุ่มน้อยเพิ่มริเริ่มรักครั้งแรกไม่มีผิด จึงได้ลงทุนตามรับตามส่ง เพียงเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกันบ้าง มันเป็นความปรารถนาของหัวใจที่ต้องการเช่นนั้นเอง!!
วันเวลาผ่านไปทุกเมื่อเชื่อวัน ความสนิทสนมเชื่อมความสัมพันธ์อันดีให้กลับมาเหนียวแน่นกว่าเดิม
ป่านแก้วชะโงกมองรถของขิมจอดนิ่งอยู่ในโรงเก็บรถ บัวศรีออกมาเปิดประตูให้เจ้านายพร้อมรายงาน
“คุณขิมบอกจะมาทานข้าวเย็นค่ะ”
“แล้วเตรียมอะไรไว้หรือยัง” เธอพาพี่ไปจ่ายตลาดมาแล้วค่ะกำลังทำกับเราวอยู่ในครัวความสนิทสนมก่อเค้าเป็นรูปร่างจากความสัมพันธ์กระชับเกลียว ขิมแวะเวียนมาหาป่านแก้วเกือบทุกวันที่มีโอกาส
“คุณขิมมาตั้งแต่บ่ายสองโมงค่ะ”
ป่านแก้วเดินผ่านห้องรับแขก แขกผู้มาเยือนหลับสบายอยู่บนเก้าอี้ความยาวของร่างกายทำให้ขาเลยแขนเลยเก้าอี้
หญิงสาวพาร่างบางเดินแผ่วผ่านไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองแซ็กยาวครึ่งแข้ง ออกมาอีกทีขิมก็ลุกขึ้นนั่งเปิดหนังสืออ่านเล่นรออยู่ที่เดิม
“จะมาชวนไปฟังเพลง”
“ลูกทุ่งหรือหมอลำ”
ขิมยีผมยาวหยิกเป็นลอนจนยุ่งเหยิง ท่าทางสนุกไม่เลิกจนป่านแก้วกำหมัดตุ้ยท้องอีกฝ่าย เขาทำตัวงอราวกับเจ็บเสียเต็มประดา
“อุ๊บ”
“อุตส่าห์หวีซะอย่าดิบดีมายีทำไม”
“ผมนิ่มสวยน่ายีเล่น ไปเหอะหมอรำ พยาบาลรำ อะไรก็ได้ขอให้ไปก็แล้วกัน”
“ป่านไปเปลี่ยนผ้าก่อน”
“ชุดนี้ก็สวยไปเหอะ ไปขับรถเล่นก่อนแล้วค่อยไปต่อ” คนพูดทิ้งความหมายท้ายประโยค
“คู่แล้วไม่แคล้วกัน”บัวศรีมองตามหลังเจ้านายถอนใจยาว
คุณนายลอบสังเกตตั้งแต่ขิมขับรถเข้ามา และพาป่านแก้วออกไป เธอแน่ใจแล้วจึงได้ถามบัวศรี ซึ่งออกมารดน้ำต้นไม้อีกคนอยากรู้ ส่วนอีกคนออกมาเพราะรู้ว่าต้องถูกถาม จึงรอกระแทกแดกดันอยู่ด้วย
“นี่แม่บัว นายเธอเขาไปไหนน่ะ”
“ไปหาพ่อ หาแม่เขาค่ะคุณนาย” บัวศรีกระแทกเสียงเป็นช่วง ตอบอีกฝ่าย
“แต่พ่อคนรูปหล่อมาที่นี่บ่อยนะ กลับดึกๆก็เคย แล้ววันนี้นายเธอจะกลับบ้านหรือเปล่า”
“คุณนายนั่งรอดูก็แล้วกันว่าเขาจะกลับหรือไม่กลับ”
“หมายความว่าไง”
“ตามแต่คุณนายอยากเข้าใจก็แล้วกัน อยากเข้าใจมานานตั้งแต่เรื่องเป็นเมียคุณพ่อแล้วนี่”
คุณนายพยักหน้ารับ ก่อนเอะใจว่าโดนสวนนิ่มๆขยับปากจะต่อว่า แต่บัวศรีเดินผละไปไกลเสียแล้ว
สองหนุ่มสาวนั่งเล่นริมหาดทราย ทอดสายตามองทิวทัศน์โดยไม่เอ่ยวาจาใดสักคำ ปล่อยอารมณ์ไปกับทัศนียภาพอันงดงามในขณะนี้ ดวงอาทิตย์กลมโตสีส้มแดงค่อยๆจมลงสู่ขอบน้ำทะเลกว้าง สายลมพลิ้วแผ่วพัดผมจนปลิวสยาย ขิมดึงอีกฝ่ายมาโอบกอดจนชิดอกกว้าง ป่านแก้วไม่ขัดขืนรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ปล่อยให้ชายหนุ่มก้มจูบซอกแก้มหอมละมุน หญิงสาวเบี่ยงหลบเล็กน้อยเงยขึ้นสบตาคมของชายหนุ่มนิ่งนาน
เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ กับความคิดที่ว่าเพื่อนเราต้องเป็นของเรา!!

ตะเกียงถูกหรี่แสงลงเมื่อเจ้าของร่างผอมสูงต้องการเพียงความสลัว มอเตอร์ไซค์ของประพันธ์จอดใต้ถุนบ้าน สัจจะตะโกนบอกเพื่อนจากระเบียงชั้นบน ประพันธ์ถือถุงพลาสติกบรรจุข้าวและกับข้าวหลาย
“พันขึ้นมาข้างบนเถอะ”
“ซื้ออะไรเยอะแยะ”
“ไม่ได้ซื้อเอามาจากร้ายกินอะไรหรือยังล่ะ”
“สงสัยรู้ว่านายจะมาเลยยังไม่มีอะไรลงท้อง”
“เออเอาวางไว้เดี๋ยวเราไปเอาจานมาใส่ให้ ทั้งสองลงมือกินข้าวกันอย่างง่ายๆ พูดคุยกันตามประสาเพื่อนเก่าที่มีเรื่องพูดกันไม่ขาด
“เข้าเวรหรือเปล่า”
“วันนี้ขอหยุดวันหนึ่ง”
“พูดยังกับไม่เคยหยุด”
ประพันธ์ยิ้มแห้งแล้ง นึกถึงเรื่องจริงที่เขาเป็นอยู่ ปีหนึ่งๆ เขาไม่เคยหยุดงานพักงานหลวงก็รับนานราษฎร์ ตลอดวันนี้อยากมาหาเพื่อนพูดคุยระบายความในใจสู่กันฟัง เขาพอใจยิ่งแล้ว เพื่อนสนิทที่รู้ใจกันและกันดี
“ทำไมไม่เรียนต่อวะพัน”
“จบชีวิตราชการแค่นายดาบก็ดีถมแล้ว”
สัจจะรู้ว่าเพื่อนสะพายแอกไว้บนบ่าตลอดไม่เคยได้วาง น้องหลายคนทุกคนก็ต้องการใช้เงิน กำไรจากร้านข้าวแกงเป็นค่าใช้จ่ายรายวัน
ประพันธ์อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงานเพียงแต่ไม่มีโอกาสได้เรียนสูงมากกว่านี้ หรืออาจบางทีภาระน้อยลง เขาอาจจะเรียนต่อเพื่ออนาคตตัวเอง
“ไปหาขิมกันมั้ย จ๊ะ”ประพันธ์ชวนสัจจะ
“มีคนมาติดต่อให้วาดภาพเหมือนคงไปไม่ได้ในวันสองวันนี้” สัจจะปฏิเสธอย่างเสียดาย เพราะอดีตที่หนักหนาของเขา ทำให้ต้องเลือกงานเสมอ เขาได้รับการติดต่อมาจากเจ้าของแกลอรี่ ให้วาดภาพผู้หญิงคนหนึ่ง เขารับปากไว้ เพราะได้ราคาดี สัจจะอยากสร้างตัวให้เข้าขั้นระดับเขาเป็นคนมีเงิน แต่ผลงานของเขาดีตามไปด้วยฝีมือ
เมื่อมีเงินเขาคิดถึง...แม่
ประพันธืออกปากด้วยความยินดี
“ดีนะสิเราได้ข่าวว่าภาพหนึ่งๆได้เงินดี ว่าแต่ ขอดูภาพที่นายใช้ผ้าขาวคลุมได้มั้ย” สัจจะไม่ตอบปล่อยให้ประพันธ์ไปเปิดภาพที่เขาต้องการปกปิดหญิงสาวผมหยิกลอกสวยงามราวกับมีชีวิตจริง
“ใคร เหมือนเคยเห็นแวบๆ”
“ผู้หญิงที่อยู่บนรถเก๋ง”
“เออใช่ อะไรจะเห็นแวบเดียวนายเก็บมาวาดเลยหรือ นายมันยอดคนจริงๆว่ะ”
“ฉันว่าถ้ายายป่านโตขึ้นมาแล้วเหมือนผู้หญิงคนนั้นก็ดีสิ”ดวงหน้าที่เคยเรียบดูใสกระจ่างเมื่อเอ่ยถึงป่านแก้วรักหรือถามตรงๆสัจจะอึ้งไปชั่วขณะเบือนหน้าไปมองดวงตะเกียง ในความมืดของจิตใจที่เจ็บ ปวดร้าว เด็กหญิงป่านแก้วคือแสงสว่างส่องชีวิต ประดับประคองให้เขาต่อสู้กับความทุกข์ยากเหนือกว่าความทรงจำของเพื่อนคนอื่นๆแม้ว่าในความเป็นจริงเขายังตามหาไม่พบบางครั้งเจอผู้หญิงท่าทางร่าเริงยิ้มง่ายอดนึกไม่ได้ว่าคนนั้นคือป่านแก้วหากเมื่อพบผู้หญิงคนนั้นอีกเพียงชั่วขณะถึงเก็บเอามานอนเฟ้อหา วาดได้เหมือนโดยไม่ต้อองมานั่งเป็นแบบครั้งเดียวติดตาตรึงใจได้เพียงนี้
“นายรักยายป่านมาตลอดเวลาใช่มั้ยจ๊ะ”
“มันไม่ใช่เรื่องน่าอวดเลยนี่” เขาพูดเรียบ แต่ใจเศร้านัก เพราะเขาอยากปิดบังไว้เพียงส่วนลึกของใจตนเองเท่นั้น
“ขอโทษเถอะเพื่อน” คนเป็นตำรวจ สีหน้าเจื่อนลงไป “เราแค่ เอ่ออยากพูดอย่างที่ใจคิดเท่านั้น ไม่ได้อยากล้อด้วยความสนุกหรืออะไร”
สัจจะถอนใจออกมาเบาๆก่อสารภาพว่า
“ตลอดมาเรามีป่านแก้วในความทรงจำคอยให้กำลังใจ ป่านแก้วเป็นเพียงความหวังที่ทำให้เราอยากได้ดี เพื่อเธอ เราไม่อยากเป็นคนเลวแม้แต่ครั้งเดียว เราไม่อยากให้ป่านแก้วมาเห็นเราในสภาพคนอ่อนแอ ติดยา หรือแม้แต่คนไม่มีค่าของสังคม”กล่าวแล้ว เขาปิดผ้าขาวคลุมภาพวาดดังเดิม
“แกรักป่านแก้วจริงๆเลยนะจ๊ะ เราเองอายุเท่ากับแกแท้ๆ เรายังไม่เคยคิดถึงเรื่องที่จะมีใครเลย แต่ยังไงเราก็อยากให้แกกับป่านได้รักกัน เราอยากเห็นแกสมหวัง”
สัจจะรู้ว่าประพันธ์พูดจากใจจริง เขายังคิด รอเสร็จงานจะไปหาขิม จากนั้นจะพากันตามหาป่านแก้ว หากหญิงสาวไม่มีใคร เขาจะบอกรักเธอ และก่อนที่จะเปิดความในใจ เขาจะบอกเพื่อรักของเขาก่อนว่าเขารักป่านแก้ว และถ้าขิมรักป่านแก้ว พวกเขาจะให้หญิงสาวเป็นคนตัดสินใจ เลือกที่จะรักใคร หรือหากไม่รักเลย พวกเขาจะคัดกรองหนุ่มที่จะเข้ามาร่วมชีวิตของหญิงสาวผู้ที่สัจจะรักมาตลอดเกือบเท่าอายุตนเอง...เขามีเพียงป่านแก้วมาตลอดนับแต่เริ่มรู้ตัวเมื่อสิบกว่าขวบเท่านั้นเอง




Create Date : 26 สิงหาคม 2554
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 13:48:07 น. 0 comments
Counter : 418 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.