ลงจากถู ไปดูโขง...ลงแก่งผาได...ก่อนจะไปเชียงแสน



ชมแก่ง...ชมโขง
บนถนน สุดเขตประเทศไทย


Photobucketวันหนึ่ง
ผมนั่งดูแผนที่ในกูเกิ้ล
เห็นถนนสายหนึ่ง จากอำเภอ
เวียงแก่นขึ้นมาถึงริมแม่น้ำโขง
แล้วมาสิ้นสุด ที่ริมน้ำเชิงเขาที่
กั้นพรหมแดน ไทย-ลาว

ผมเป็นคนชอบขับรถเที่ยวไปตาม
เส้นทางใหม่ๆ ที่(ผม)ยังไม่เคยไป
และคิดว่าเส้นทางนี้น่าสนใจมาก
เพราะแม่น้ำโขงที่สุดปลายถนน
เป็นช่วงสุดท้ายที่ชมได้ก่อนจะ
ไหลเข้าไปในประเทศลาว...

ที่นี่ "แก่งผาได"
การเดินทาง
ลงจากภูชี้ฟ้ามาใช้ถนน สาย 1155
จนเจอสามแยก(เลี้ยวซ้ายไปเชียงของ)
แต่เราตรงเข้าไปในอำเภอ เวียงแก่น
แล้วเลี้ยวซ้ายที่บ้าน ม่วงยาย
จากนั้นขับตรงไปตลอดจนสุดทาง
ที่แก่งผาได รวมระยะทางจากภูชี้ฟ้า 65 กม.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ1.30 ชม.



PhotobucketPhotobucket


มีศาลานั่งพักผ่อนชมวิว
อยู่ท่ามกลางสวนหย่อม
ที่ได้รับการดูแลอย่างดี
ตบแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม

ขอตรบมือให้ครับ








Photobucket

Photobucket











Photobucket














Photobucket
ตอนแรก
ที่มาถึงที่นี่ ผมยังไม่เลี้ยวลงไปที่แก่ง แต่ขับเลยไป
เพื่อจะไปให้สุดเส้นทางที่เลยไปอีกประมาณ300 เมตร ถนนเลียบ
เชิงเทือกเขาผาหม่นที่เป็นแนวเดียวกับผาตั้งและภูชี้ฟ้าไปสิ้นสุด
ที่เกือบถึงแม่น้ำโขง เมื่อไปสุดถนนแล้วก็ต้องผิดหวังเพราะปลาย
ถนนหายไปเฉยๆ มีต้นไม้ขึ้นรกจนมองไม่เห็นแม่น้ำ มีป้ายเก่าๆ
ตัวหนังสือลบเลือนจนอ่านไม่ออก

ผมจินตนาการว่าถ้าถนนสายนี้ทำไปจนติดแม่น้ำโขง
แล้วทำป้ายหรือสัญญาลักษณ์สวยๆ ไว้ที่ปลายถนน
เมือ่มองออกไปจะเห็นแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามคือประเทศลาว
ขวามือคือเชิงเขาถัาข้ามไปก็คือประเทศลาวเช่นกัน
น่าจะสร้างความสนใจได้อีกมากทีเดียว....

จากนั้นก็ย้อนกลับมาที่แก่ง ลานจอดรถกว้างขวาง
แต่ไม่ค่อยมีร่มเงาไม้บังแดดตอนเที่ยงครึ่งให้รถเท่าไหร่
และระหว่างที่สองแม่ลูกไปเข้าห้องน้ำกัน เพื่อไมเป็นการ
เสียเวลา ผมจึงออกเดินไปริมตลิ่งหามุมถ่ายภาพไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นก็ลงไปที่แก่งในแม่น้ำ
เดินไป เดินมาหลายรอบแต่ไม่ค่อยได้มุมถูกใจ
และแดดก็ไม่เป็นใจ พลุบๆ โพล่ๆ ตลอดเวลา
เดินอยู่พักใหญ่ๆ ไม่เห็นมีใครตามลงมาเลยสักคน
ภาพในแก่งทั้งหมดจึงไม่มีนางแบบเลย





Photobucket
ภาพแรกที่มองเห็นจากบนตลิ่ง คือเวิ้งน้ำที่เว้าเข้ามากว้างพอสมควร ถ้ากางเต๊นท์นอนที่นี่ได้เล่นน้ำกันสนุก





PhotobucketPhotobucket
หรือจะพายเรือไปหลวงพระบางกันดีล่ะ !



Photobucket
ไม่รู้จะถ่ายอะไร เดินวนอยู่รอบเรือนี่ล่ะ!



PhotobucketPhotobucket



แอ่งน้ำใสๆ
ในแก่งเกือบจะอยู่กลางลำน้ำ
ส่วนบ้านที่มองเห็นไกลๆนั้น
เป็นร้านอาหาร ที่ชื่อร้าน....
ไม่มีชื่อ....หรือมี จำไม่ได้จริงๆ
แต่ไม่เป็นไร เพราะมีอยู่ร้านเดียว
ส้มตำ อร่อยมาก....สั่งเลย





Photobucket
นี่ก็เป็นอีกแอ่งหนึ่ง น่าลงไปแช่ให้หายร้อน




Photobucket
ตรงนี้เป็นอีกแก่งหนึ่ง แท่งหินโพล่ขึ้นจากน้ำคล้ายหน้าผา จึงเป็นที่มาของชื่อ"แก่งผาได"(หมุนตามไมล์ มั่วเอา)




Photobucket
สายน้ำสุดท้าย...ไหลเรื่อย...จนลับหาย ไปจากสายตาเรา




PhotobucketPhotobucket


สามสาวไม่ยอมลงไปที่แก่ง
แต่มานั่งหลบแดดในร้านอาหาร
ที่วันนี้มีลูกค้าเต็มร้าน
ผมขึ้นมาถึงเธอก็สั่งไปแล้ว
ล้วนแต่ของอร่อยทั้งนั้น

ปลาเผา (ได้กินสมใจแล้ว)
อาหารอีกสองอย่างแต่ที่สั่งเป็นอย่างแรก
และหมดก่อนเพื่อน จนต้องมีจานที่สอง
ตำปูปลาร้า....แซ๊ปอีหลีเด้อ
จนเกือบลืมว่าเฮาอยู่เจียงฮายเน้อ



PhotobucketPhotobucket

หาดทราย สายน้ำ......


มองลงไปจากบนร้านอาหาร
เห็นคนเดินเล่นที่หาดทราย
จึงวางช้อนหันมาคว้ากล้อง
บรรทึกภาพไว้ได้
แล้วนึกคำประกอบภาพ


เธอฝากรอยเท้าบนผืนทราย
แล้วเคยฝากใจกับใครหรือยัง






PhotobucketPhotobucketPhotobucket

เมื่อผู้หญิงสองคนกลับขึ้นมาแล้ว อีกไม่นานก็มีเด็ก ๆ สามคนลงไปเล่นที่หาดทราย ผมก็ถ่ายอีก พอไม่มีใครแล้วเรามาถ่ายกันเองบ้าง



Photobucket


หลังจากอิ่มอร่อยแล้ว
เมื่อเวลาล่วงเข้าบ่ายเราจึงเดินทางกลับออกมาจากแก่งผาไดมุ่งหน้า
ไปอำเภอเชียงแสน ผ่านถนนที่ก่อนเข้าอำเภอ"เชียงของ"กำลังมีการ
ก่อสร้างขยายเส้นทาง ระยะทางยาวหลายกิโลแล้วแวะซื้อกาแฟสด
ที่ในอำเภอเชียงของ จากนั้นก็เพลิดเพลินกับลำน้ำโขงที่ไหลเลียบ
ไปกับถนน มีจุดน่าจอดรถลงไปถ่ายรูปหลายจุด แต่เวลาไม่อำนวยซะแล้ว
และตั้งใจไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่"ทะเลสาบเชียงแสน"ให้ทัน
แต่ต้องหาโรงแรมที่เราจองให้เจอก่อน ถ้ามาหาตอนกลางคืนจะลำบาก







Photobucket


เมื่อตะวันชิงพลบ(ไปซะแล้ว)
หลังจากเจอและสำรวจโรงแรมเสร็จแล้ว
ก็รีบออกเดินทาง จากตัวเมืองเชียงแสน
มาไม่กี่กิโลก็ถึง แต่ก็มาไม่ทันดู
ตะวันตกดินจนได้
....เสียดายมาก....

เมื่อถึงถนนเลียบทะเลสาบ
ที่ดูจะเงียบเหงา แทบจะไมมี
นักท่องเที่ยวเลย....
หรือว่าดูพระอาทิตย์ตกแล้ว
เขาก็กลับกันไปหมด !!
เหลือแต่คนมาสาย(น่าละอาย)เท่านั้น

ผมก็ขับรถหาสะพานที่เคยเห็น
ในหนังสือท่องเที่ยวเมื่อหลายปีก่อน
แต่ขับเลียบไปตั้งไกล..ไม่เจอสะพาน?
จึงขับกลับมาที่ลานหญ้าริมทะเลสาบ
ซึ่งตอนนี้แสงสุดท้ายที่ฉาบทาท้องฟ้า
ใกล้จะหมดลงแล้ว....






PhotobucketPhotobucket


แต่ถึงแม้ว่าตะวัน
จะลับฟ้าไปแล้ว
ก็ยังทิ้งแสงสุดท้าย
ไว้ปลอบใจคนที่ถือคติ


"มาสาย ดีกว่าไม่มาเลย"
หุ....หุ และ หุ....หุ




PhotobucketPhotobucketPhotobucket




Photobucket
ออกจากทะเลสาบแล้วกลับเข้าเมืองอีกครั้ง กินข้าวมื้อค่ำ
ที่ร้านอาหาร "ครัวเชียงแสนริเวอร์ไซด์" ร้านอยู่ห่างจากหน้าอำเภอ
เลียบแม่น้ำโขงมาทางสามเหลี่ยมทองคำประมาณ สาม กม.
ร้านตั้งอยู่ชิดแม่น้ำโขงแต่ไม่ติดริมตลิ่ง ทำให้ไม่เห็นวิวแม่น้ำโขง
อาหารนั้น จัดอยู่ในขั้น พอใช้ได้ แต่บริการดูแล เอาใจใส่ดีมาก

อิ่มแล้วกลับเข้ามาเที่ยวงานปีใหม่ที่"หน้าที่ว่าการอำเภอ" มีเวทีใหญ๋
กำลังมีการแสดงของชนเผ่าพอดี บริเวณริมถนนหน้าอำเภอเป็นร้าน
ค้า ร้านขายของ ปาเเป้า ยิงปืน ฯ เหมือนงานประจำปีนั่นแหล่ะครับ

ขอเดินเที่ยวงานซะหน่อยแล้วค่อยกลับเขัาที่พักกันนะครับ




Photobucket
ร้านขายของในงาน



PhotobucketPhotobucketPhotobucket


Photobucket

วันนี้เราจบลงด้วยการเที่ยวงานปีใหม่ที่หน้าอำเภอ ตอนหน้าชมตะวันขึ้น..ที่เชียงแสน
สามเหลี่ยมทองคำ ขากลับไปนอนกว้านพะเยาด้วยกันอีกคืน
สวัสดีครับ




Create Date : 04 มีนาคม 2554
Last Update : 16 กรกฎาคม 2556 3:53:43 น. 20 comments
Counter : 2462 Pageviews.

 
very beauty


โดย: nangjai1 วันที่: 4 มีนาคม 2554 เวลา:23:05:09 น.  

 
เคยไปเดินในแ่ก่งอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนไปสามเหลี่ยมทองคำ พอหันกลับไปมองฝั่ง

รุ้สึกแบบว่า เวิ้งว้างมาก แต่ได้อารมณ์ไปอีกแบบ

entry หน้าไปเที่ยวต่อครับเนี่ย


โดย: นายหัวเด่น วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:10:55:36 น.  

 
บรรยากาศดีจังค่ะ ..
ชอบหาด สวยดี
.. แวะมาเที่ยวด้วย นะคะ


โดย: tifun วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:12:38:23 น.  

 
ป้าเกรซไปดูงานที่เจียงฮายก่อนปีใหม่ นอนที่ลีลาวดีรีสอร์ตทางขึ้นดอยตุงหนึ่งคืน ช้อปกระจายที่แม่สายแล้วก็ไปนอนเชียงใหม่อีกหนึ่งคืน เจอฝนตอนเช้าก็เลยประหยัดเงินไปหลายบาท (เกี่ยวกันไหมเนี่ย ฝนกับการประหยัด 5555) แต่ก็ยังไม่วายได้ผ้าที่กาดหลวงมาสามเมตร ก็คนมันชอบนี่นา

ขอบคุณนะคะสำหรับผ้า ยินดีรับค่ะแล้วจะทำเป๋าให้สาวน้อยเอาไว้สะพายไปเที่ยวหนึ่งใบตอบแทนค่ะ ถ้าไปเที่ยวทางเหนืออีกผ่านนครสวรรค์ แวะรับป้าเกรซไปด้วยนะ อิอิ

คุณอายุมากกว่าน้องชายป้าสองเดือน ลองไปที่นี่ซีคะแล้วจะรู้ว่าทำไมป้าจึงหมุนตามคุณไปเสมอ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=gw-quilt&month=05-2010&date=24&group=1&gblog=4



โดย: BabyGreace วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:11:17:51 น.  

 
สวัสดีครับ ผมย่อง ๆ เข้ามาดูวิว และอ่านคำบรรยาย
แล้ว ทำให้การเที่ยวสนุก ชวนไปเที่ยว

เลยอ่านเรื่องของคุณย้อนหลังไปอีก รู้งี้เข้ามาอ่านตั้ง
นานแล้ว เล่าเรื่องได้สนุก ถ่ายภาพสวยมุมกล้องดีมาก
ครับ ผมจะเข้ามาเยี่ยมอีกครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:12:20:59 น.  

 
ไม่เคยรู้มาก่อนว่าใกล้บ้านก็มีดีกะเขาเหมือนกัน น่าไปจังค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:15:30:35 น.  

 
สวยค่ะ แก่ง กับหาดทรายน้ำโขง

และแสงตะวันลับฟ้า


โดย: me-o วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:16:13:14 น.  

 
ตามมาเที่ยวริมฝั่งโขง
บรรยากาศดีไปอีกแบบน่ะค่ะ


โดย: Tick Juntavaro วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:19:47:35 น.  

 
แวะมาชมค่ะ


โดย: นู๋ที วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:7:45:33 น.  

 
สัมผัสริมโขง บรรยากาศดีคร้า


โดย: ASDK_MK วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:10:25:40 น.  

 
โห ภาพสวยมาก ๆ เลยค่ะ การจัดวางเลเอาต์ได้สวยมาก ๆ เฃ่นกัน

ใช้เวลาทำนานไหมคะกว่าจะได้บล็อกนี้มา ขอปรบมือให้กัความสำเร็จ

และความงามของบล้อกนี้ดังๆ เลยคะ



การบรรยายและบรรยาศดีมาก ๆ เลย



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:10:12:00 น.  

 
ทริปต่อไป จะไปที่ไหนค่ะ

รอดูรูปและเรื่องราวแน่นๆแบบนี้ ชอบค่ะ


โดย: me-o วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:19:30:14 น.  

 
แว๊ปมาดูอีกครั้งหนึ่งค่ะ ลองสังเกตุการทำบล็อกเก็บรายละเอียดดีมากๆ เลย

เพื่อนบล็อกคนอื่นบอกทำอย่างนี้กว่าจะเสร็จต้องใช้เวลาถึง 3 วันแหน่ะ

โอ้โห ยอมแพ้เลย อิอิ


โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:20:57:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณที่แนะนำเส้นทางน่าเที่ยวค่ะ

เส้นนี้เรายังไม่เคยไปเลย ไกลเหมือนกันเนาะ วิวสวยค่ะ

มีหลายที่ในเมืองไทย ที่ยังรอเราไปเที่ยวอยู่เนาะ







โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:18:38:48 น.  

 
อ๋อ เรื่องที่ไปที่มาเป็นอย่างนี้ที่เอง มาจากท่านน้ำฟ้าป่าเหว

รายนั้น คง ลอยไม่เบายิ่งคนมีคนชมทั่วบล้อก

หลายคนได้วิชามาจากท่านป่าเหวนี่ละคะ อิอิ

รินคงอีกห่างไกลไม่รุ้จะได้วิชานี้หรือปาว

เพราะท่านป่าเหวจะกินยาพาราก่อนที่จะมาสอนรินทุกครั้ง

อิอิ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:0:00:59 น.  

 

สวัสดีวันศุกร์ สุขหรรษาค่ะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:13:09:28 น.  

 
ดีใจที่มีบล็อกเกอร์หันมาวางเลย์เอ๊าท์อีกคนครับ

อิอิ เป็นเพื่อนกัน การเขียนบล็อกแนวทางนี้เป็นแนวที่ยากนะครับ ต้องฝ่าฟันพายุโค้ดกันเลยทีเดียว

สู้สู้นะครับ เพื่อนๆชาวบล็อกจะได้มีบล็อกแนวทางนี้ชมเพิ่มอีกบล็อกนึง


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:15:31:46 น.  

 
บล๊อกสวยจริงๆด้วยค่ะ

อิจฉาหนุ่มๆสาวคู่นั้นจริ๊ง หวานซะ

หลังไมค์มาแล้วนะคะ
ส่วนเป๋าหลานสาว เสร็จเมื่อไรจะส่งให้ทันที

ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: BabyGreace วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:9:45:59 น.  

 
วันนี้ไม่เห็นอะไรในบล้อกนี้เลยค่ะ...นอกจาก...

"ความสุข"

........

อาการเจ็บเพราะความเฟอะฟระของตัวเองดีขึ้นมากแล้วค่ะ แผลหายแล้ว เหลืออาการช้ำใต้ตาอีกนิดหน่อย ก็คาดว่าเดี๋ยวคงจางไป..ดูสิคะคุณหมุนตามไมล์..ขนาดแผลกายยัง "หาย" ได้เลย...แผลใจ ก็คงต้องหายได้เช่นกันอ่ะเนาะ


โดย: i'm not superman วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:10:16:57 น.  

 
สายสวัสดิ์ค่ะคุณหมุนตามไมล์

อาทิตย์นี้ หมุน..ตามไมล์ไปเที่ยวไหนอีกรึเปล่าคะ อิอิ


โดย: i'm not superman วันที่: 13 มีนาคม 2554 เวลา:9:45:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมุนตามไมล์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ดูย้อนหลัง คลิกที่ภาพครับ

ทำลิ้งค์ ๓

ทำลิ้งค์ ๒

ทำลิ้งค์ ๑

ทำลิ้ง 250

ทำลิ้งค์ ตอนที่๒

ทำลิ้งค์ ตอนที่๓

ทำลิ้งค์ ตอนที่๔

ทำลิ้งค์ ตอนที่๕
ทำลิ่ง
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หมุนตามไมล์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.