|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แชร์ประสบการณ์ซื้อ Applecare+ ให้ Ipad แล้วพ่วงกับ Apple pencil
ไม่นานมานี้ผมได้ซื้อ Ipad Air4 รุ่นปี 2020 มาหนึ่งเครื่อง จุดประสงค์คือไว้สำหรับจดบันทึก ประชุมออนไลน์ จัดการวางแผน บริหารจัดการชีวิต ฯลฯ
ซึ่งลักษณะงานของผมคือการทำงานที่ไซด์งาน บางครั้งก็ไม่สามารถหาปลั๊กไฟเสียบใช้งาน Notebook ได้ ซึ่งค่อนข้างมีปัญหาแบ๊ตเตอรี่หมดก่อนที่จะประชุมหรือทำงานจบ
Ipad จึงสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ตรงที่สามารถใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน เวลาฉุกเฉินก็สามารถใช้ไฟจาก Power bank เลี้ยงไว้ได้ และอีกเหตุผลที่สำคัญคือการจดบันทึกการประชุมหรือใช้แทนสมุดในชีวิตประจำวันค่อนข้างใกล้เคียงกับการใช้สมุดจริง ๆ คือจดได้ทันทีที่ต้องการ ไม่ผิดหวังเลยครับ
พอลักษณะการทำงานของผมต้องออกไซด์งาน จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในการทำตกซึ่งส่งผลให้ ipad ของผมต้องจากไปก่อนวัยอันควร ก็เลยมีความสนใจที่จะซื้อ AppleCare+ เพราะมีประกันอุบัติเหตุเพิ่มให้ 2 ครั้ง/ปี ตลอดระยะเวลา 2 ปีเต็ม และสามารถใช้พ่วงกับ Apple Pencil ที่ผมใช้งานได้ด้วย (ถ้าใครอยากรู้เงื่อนไขการรับประกันต่าง ๆ ให้ไปเปิดดูที่เว็บไซด์ของ Apple นะครับ)
การซื้อ AppleCare+ ของ Ipad เพิ่ม ไม่ได้ยุ่งยากเลยแค่เข้าไปหน้า Setting ของ ipad ก็จะมีคำแนะนำให้เราซื้อ AppleCare+ ซึ่งจะแสดงวันที่นับถอยหลังว่าเราจะเหลือวันที่จะซื้อเพิ่มได้กี่วัน หลังจากนั้นจะไม่สามารถซื้อเพิ่มได้ (60 วันหลังจากที่เราซื้อเครื่อง)
แค่ใส่ข้อมูลต่าง ๆ ใส่บัตรเครดิต กดไปตามขั้นตอนเรื่อย ๆ แค่นั้นก็เรียบร้อย
แต่ข้อควรระวังก็คือหลังจากที่เราซื้อ AppleCare+ ให้กับตัว Ipad ของเราแล้วและคิดว่าตัวประกันจะไปเชื่อมกับตัว Apple pencil หรือตัว Keyboard ของ Apple ที่เราใช้งานอัตโนมัติบอกเลยว่าคุณคิดผิด (ข้อมูล ณ เวลาที่ผมซื้อ วันที่ 7 กันยายน 2564)
ตอนแรกผมก็เข้าใจผิดเหมือนกันแต่ก็เกิดเอะใจขึ้นมาเลยนำเอาตัว Serial Number ของ Apple Pencil ไปเช็คก็เว็บของ Apple ปรากฎว่าตัว Apple Pencil ของผมจะยังได้รับคุ้มครองแบบแบบจำกัดตามมาตรฐานอยู่
เราจึงต้องทำเรื่องผูกตัว Apple Pencil กับตัว AppleCare+ ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. โทรหา Apple service TH ที่เป็นเบอร์ของประเทศไทยเจ้าหน้าที่ใช้ภาษาไทย (สามารถหาเบอร์ได้จากเว็บของ Apple) ซึ่งรอสายค่อนข้างนานมากแต่ก็มีเพลงให้เราเลือกฟังเป็นการคั่นเวลาไป
หลังจากเจ้าหน้าที่รับสายแล้วเค้าจะขอข้อมูลดังต่อไปนี้ (ถ้าจะให้สะดวกให้เราเตรียมไว้ก่อน) - ใบเสร็จที่ระบุวันที่ซื้อของ Ipad และ Apple Pencil ของเรา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะส่ง link มาให้เราเพื่อทำการ upload ใบเสร็จเข้าไปในระบบ - สอบถาม Serial Number ของเจ้าตัว Ipad และ Apple pencil ของเรา - หมายเลขข้อตกลงที่เราซื้อ AppleCare+ (เลขข้อตกลงจะอยู่ใน email ยืนยันการคุ้มครอง)
2. หลังจากที่เจ้าหน้าที่ที่เป็นคนไทยได้รับข้อมูลเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อย ก็จะโอนสายต่อไปให้กับทางศูนย์ที่ต่างประเทศซึ่งตรงนี้เราต้องใช้ภาษาอังกฤษครับ
ทางเจ้าหน้าที่ต่างประเทศก็จะให้เรา Confirm ข้อมูลอีกครั้งคือ - ตัว Serial Number ของตัว Ipad และ Apple Pencil ของเรา - หลังจากเราให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของ Apple แล้วจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 3 นาทีก็จะเพิ่มข้อมูล Apple Pencil ในระบบให้เราเรียบร้อย
หลังจากนั้นจะใช้เวลาในการ update ข้อมูลในระบบประมาณ 25 ชั่วโมง แต่ผมลองเช็คข้อมูลแล้วจริง ๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงระบบก็ update การรับประกันเจ้าตัว Apple Pencil ให้ผมเรียบร้อยครับ
ขั้นตอนในการผูกเจ้าตัว Apple Pencil เข้ากับ Applecare+ ที่เราซื้อให้กับ Ipad ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร กรณีที่เรามาซื้อเพิ่มด้วยตนเองในภายหลัง ซึ่งผมเข้าใจว่าถ้าเราซื้อเครื่องพร้อมกับ AppleCare+ ที่ร้านเลยน่าจะไม่ยุ่งยากอะไร ทางร้านคงจัดการให้เรียบร้อย
สำหรับบล๊อกนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับ ^^
Create Date : 10 กันยายน 2564 |
Last Update : 10 กันยายน 2564 7:18:17 น. |
|
2 comments
|
Counter : 4466 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พลอย IP: 118.174.191.247 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2564 เวลา:21:53:41 น. |
|
|
|
โดย: mr.popsong วันที่: 25 พฤศจิกายน 2564 เวลา:12:13:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|