Group Blog
 
<<
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 
ธรรมะจากโคโรนาไวรัส


ธรรมะจากโคโรนาไวรัส : โรคระบาดไม่ได้ทำอันตรายเรา

เท่าความกลัวโรคระบาด...





 

ศ.ดร.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร  เรียบเรียงปาฐกถา "ธรรมะจากโคโรนาไวรัส"

โดยพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล  ณ โรงเรียนทอสี เมื่อวันที่  23 ก.พ. 2563

ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาดังนี้


       ในโอกาสที่ท่านพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ได้มาบรรยายธรรมสำหรับผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนทอสี และปัญญาประทีป ในช่วงเวลาซึ่งโคโรนาไวรัส โควิด-19 เริ่มระบาด พระอาจารย์จึงได้ยกเป็นประเด็นในการบรรยายธรรม [บทความนี้เรียบเรียงจากคำบรรยายบางส่วนของพระอาจารย์จากความทรงจำของผู้เขียนเท่านั้น]
 

 
*****  คนเรามิได้ตายด้วยเชื้อโรคทุกคน *****
 

      การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดกับผู้คนมากมาย แต่ผู้ติดเชื้อไม่ได้ตายทุกคน เพียงประมาณร้อยละ 2 เท่านั้นที่เสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่มียารักษา ทั้งนี้เพราะคนป่วยจะสร้างภูมิคุ้มกัน กำจัดไวรัสได้เองในที่สุด แต่คนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สู้ไม่ได้จึงอาจเสียขีวิต ไม่แต่เฉพาะไวรัสเท่านั้น ร่างกายย่อมมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคหลายชนิด จึงป้องกันมิให้ติดเชื้อเหล่านั้น แต่สำหรับไวรัสใหม่อย่างโควิด-19 ไม่มีใครมีภูมิคุ้มกันมาก่อนเลย ถ้าเจอไวรัสนี้จึงติดเชื้อทุกคน
 
ภูมิคุ้มกันมีผลต่อโรคอื่นอย่างเช่นมะเร็งด้วย เพื่อนของพระอาจารย์ เป็นมะเร็งปอดเมื่ออายุ 30 ปี รักษาด้วยการผ่าตัด และเคมีบำบัดจนหาย 5 ปีต่อมามะเร็งกลับขึ้นมาใหม่ คราวนี้หมอบอกว่าไม่สามารถรักษาหายได้แล้ว เขาทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมา มัวแต่ทำงานหาเงิน แต่หมดโอกาสไม่ได้ใช้แล้ว จึงตัดสินใจเลิกงาน และมาทำงานจิตอาสา ดูแลเด็กกำพร้า คนชรา ได้พบว่าการทำงานช่วยเขาทำให้เกิดความสุข หลังจากเวลาผ่านไป ก็ยังไม่ตาย เมื่อไปตรวจซ้ำปรากฏว่ามะเร็งหายไปทั้งที่ไม่ได้รับการรักษาใด ๆ สันนิษฐานว่า การทำงานจิตอาสา ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อมะเร็ง ก้อนจึงฝ่อไปได้ จนบัดนี้เขาก็ยังมีชีวิตอยู่
 
ความทุกข์ก็เช่นกัน มิได้เกิดกับทุกคนที่เจอสิ่งเลวร้าย เช่น เมื่อได้ยินคำพูดด่าทอ หลายคนก็อาจจะรู้สึกเป็นทุกข์ แต่คนที่มีภูมิคุ้มกันทางใจ หรืออาจเรียกว่า “ภูมิคุ้มใจ” จะไม่เป็นทุกข์ คนที่มีภูมิคุ้มใจเขาพิจารณาเสียงด่า สักแต่ว่าเป็นเสียง ไม่ได้เอาความหมายมาด้วย จึงไม่ทุกข์ใจ  หากเราเปรียบคำพูดทิ่มแทงใจนั้น เหมือนตะปู เศษแก้ว ที่พ่นออกจากปากคนอื่น มาทิ่มแทงใจเรา ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มใจ นอกจากจะเจ็บปวดตอนที่ได้ยินแล้ว ก็ยังเก็บไปนึกถึงให้เจ็บใจอีกภายหลัง เหมือนกับว่ากวาดตะปูเศษแก้วที่ร่วงไปแล้วกลับมาบ้านแล้วเอา มาทิ่มแทงใจของตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
ความทุกข์จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรา “ไม่ถือ” เช่น ถ้ามีเด็กเอาปืนฉีดน้ำมาฉีดพระอาจารย์ ท่านก็ไม่ถือสาว่าอะไร เพราะเด็กไม่รู้เดียงสา  หากพระอาจารย์ถือ พระอาจารย์ก็คงจะโกรธ และอาจด่ากลับไปว่า “ไอ้เด็กเวร มาฉีดน้ำใส่ทำไม กูเป็นพระนะโว้ย” เป็นต้น แต่พระอาจารย์ไม่คิดหรือทำอย่างนั้น.  แม่คนหนึ่ง ได้ยินเสียงลูกสองคนแหย่กันในรถ หัวเราะเสียงดัง แม่รู้สึกรำคาญ จึงตวาดให้ลูกให้เงียบเสียงลง เด็กก็เงียบลง สักพักหนึ่ง ลูกชายพูดขึ้นว่า “คุณแม่ลองคิดเสียว่า เสียงลูกเป็นเสียงแห่งความสุขจากสวรรค์สิครับ” อีกไม่นานเด็กอดใจไม่ไหวแหย่กันอีก คราวนี้แม่จึงถึงคำพูดของลูกแล้วพิจารณาว่าเป็นเสียงสวรรค์ แม่กลับรู้สึกมีความสุข ทั้งที่เสียงยังคงดังเช่นเดิม
 
การสร้าง “ภูมิคุ้มใจ” ให้เกิดขึ้น ก็ด้วยการเจริญสติ หากเปรียบว่า จิตเป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบ เรียกว่า จิตตนคร กำแพงเมืองย่อมป้องกันข้าศึก คือความทุกข์ เอาไว้ข้างนอก ส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่ข้าศึก จะเข้ามาในเมืองได้ก็คือ ประตูเมือง. สติ ก็เป็นดังนายทวาร เฝ้าประตูทางเข้าออก  ถ้านายทวาร คือสติไม่อยู่ ความทุกข์ก็ย่อมเข้ามารบกวนจิตได้ หากสติเฝ้าอยู่ตลอดเวลา ความทุกข์ย่อมไม่อาจเข้ามารบกวนจิตได้
 

 
***** เชื้อโรคบางทีไม่ได้ทำให้คนตาย แต่ปฏิกิริยาต่อเชื้อโรคที่ฆ่าเรา *****
 

บางครั้งการติดเชื้อโรค และตัวสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกร่าง ก็มิได้เป็นอันตรายต่อร่างกายมากนัก แต่ ‘ปฏิกิริยา’ หรือวิธีการตอบสนองของร่างกายนั้นก่อให้เกิดปัญหา เช่น โรคปอดบวมนั้น เกิดเพราะว่ามีเม็ดเลือดเข้ามาประชุมกันในเนื้อปอดเป็นจำนวนมาก เพื่อกินเชื้อโรค จึงทำให้หายใจลำบาก แม้ว่าปฏิกิริยาเหล่านี้ทำให้ร่างกายกำจัดเชื้อโรคได้ แต่บางครั้งก็ทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออกตายไปเสียก่อนที่เชื้อจะหาย ภูมิคุ้มกันนั้นถ้าไม่มีก็ตาย แต่ถ้าเกิดมากก็ตายได้  โรคภูมิแพ้ก็เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต่อฝุ่น เกสร หรือสารใด ๆ ที่ทำให้คนบางคนก่อปฏิกิริยามากกว่าคนทั่วไป ทำให้เป็นผื่น บวม คัน บางครั้งก็หอบหืด เสียชีวิตได้ ทั้งที่ฝุ่น เกสร มันก็ไม่ได้มีอันตรายในตัวของมันเอง
 
ความทุกข์ก็เช่นกัน เมื่อเกิดขึ้นกับเราแล้ว ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับปฏิกิริยาต่อความทุกข์นั้น
 
การเป็นหนี้สิบล้าน ไม่ได้ทำให้เดือดร้อน เท่ากับการกลัวโดนทวงหนี้ ความกลัวทำให้คนบางคน ถึงกับฆ่าตัวตาย หนีปัญหา การเรียนไม่จบ ย่อมเป็นทุกข์ หลายคนก็หาทางออกโดยการทำงานที่ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา แต่สำหรับคนที่มองว่ารับไม่ได้ ก็เป็นเหตุที่นำให้สู่การฆ่าตัวตายก็มี
 
การเป็นมะเร็ง ไม่น่ากลัว เท่ากับความกลัวมะเร็ง  ความกลัวมะเร็งทำให้กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดถึงอนาคตที่จะต้องเปลี่ยนไป และพาให้ตัวเองไปรับการรักษา ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์กายอีกมาก เพื่อกำจัดมะเร็งออกไป จึงทุกข์ทั้งกายและใจ สำหรับคนที่พยายามรักษามะเร็งแต่ไม่สำเร็จ และสำหรับคนมองมะเร็งว่าเป็นธรรมชาติ ไม่ดิ้นรนที่จะกำจัดมะเร็งอีก เมื่อไม่กลัวตายเสียแล้ว จึงไม่ต้องทุกข์กายหรือทุกข์ใจเลยก็ได้
 
โรคระบาดไม่ได้ทำอันตรายเรา เท่าความกลัวโรคระบาด ความกลัวทำให้เราไม่กล้าเข้าสังคม ไม่กล้าใช้ชีวิต แสดงความรังเกียจกัน บางคนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทั้งที่ยังมิได้ติดโรค ในช่วงที่มีโรคระบาด เราก็ควรป้องกันตนเองมากกว่าปกติ ตามคำแนะนำทางสาธารณสุข แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องให้จิตใจเศร้าหมองไปกับข่าวสารที่เกิดขึ้น หรือทำมากเกินความจำเป็น
 

 
      สุดท้ายนี้พระอาจารย์จะไม่อวยพรให้ทุกคนประสบแต่ความสุขตลอดไป เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีอะไรยั่งยืน แต่ความจริงคือ แม้ในช่วงที่มีโรคระบาด ความสุขก็ยังคงมีอยู่รอบตัวเรา จึงขออวยพรให้ทุกคนได้เห็นความสุข ท่ามกลางภัยพิบัติที่พวกเรากำลังเผชิญ.
 
 
 
...............................................
 
 
ขอขอบคุณที่มาจาก : พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล



Create Date : 23 มีนาคม 2563
Last Update : 23 มีนาคม 2563 8:56:08 น. 37 comments
Counter : 1238 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณInsignia_Museum, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณSai Eeuu, คุณTui Laksi, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณkae+aoe, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtuk-tuk@korat, คุณmultiple, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณฝากความคิดถึงไปกับสายฝน, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณทนายอ้วน, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณkatoy, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณmariabamboo, คุณSleepless Sea, คุณเนินน้ำ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmcayenne94, คุณวลีลักษณา, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ


 
ขอบคุณสำหรับธรรมะจากโคโรนาไวรัสค่า ช่วงนี้รักษาสุขภาพด้วยนะคะ เป็นห่วง


โดย: Emmy Journey พากิน พาเที่ยว วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:11:11:05 น.  

 
เชื้อโรคบางทีไม่ได้ทำให้คนตาย
แต่ปฏิกิริยาต่อเชื้อโรคที่ฆ่าเรา ...

เหมือนที่คนเป็นโรคเอดส์ ไม่ตายเพราะเอดส์
แต่ตายเพราะโรคแทรกซ้อน
วิกฤตโควิดดูจะร้ายแรงกว่าหลายเท่านัก
ยังไงก็ขอให้ปลอดโรคปลอดภัยนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:11:19:19 น.  

 
ส่งกำลังใจคืนให้ค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:12:04:44 น.  

 
ท่านก็พูดถูก ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมกันหมด มันคงจะไม่เลวร้ายเหมือนในปัจจุบัน น่าเสียดายๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:13:53:43 น.  

 
ปฏิบัติตัวให้เหมาะสม ไม่ทำตัวเสี่ยง
ถ้าไม่พลาดจริงๆ ก็น่าจะปลอดภัยครับ

คนวัยหนุ่มสาวต้องระวังเอาไปฝากพ่อแม่ ปู่ย่าตายายที่บ้านด้วย

ใช้ชีวิตให้มีความสุขในความไม่ประมาทกันครับช่วงนี้ ^^


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:14:04:12 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปส่งกำลังในนะคะ..
โหวตหมดแย๊ววว ส่งใจแทน

จริงค่ะ ความกลัวทำให้หวาดระแวง
และไม่มีความสุขมากๆเลยค่ะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:14:40:09 น.  

 
พักนี้ต้องอ่านธรรมะเยอะๆครับ เรียกสติคืนมา อิอิอิ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:16:19:46 น.  

 
ชอบตรงที่พระอาจารย์สรุปครับ
เห็นด้วยเลยที่ท่านกล่าวสอนไว้



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:19:01:57 น.  

 
สาธุค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:20:53:35 น.  

 
สาธุค่ะ
คนติดไวรัส หลักร้อย แต่คนกลัวหลักล้าน


โดย: Tui Laksi วันที่: 23 มีนาคม 2563 เวลา:21:01:04 น.  

 


สาธุค่ะ
ได้ข้อคิดที่ดีมากค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:0:12:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:6:42:30 น.  

 
สาธุ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:8:27:28 น.  

 
สู้ๆ


โดย: kae+aoe วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:8:44:20 น.  

 
คนกลัวก็กลัว คนไม่กลัวก็ไม่กลัวจนไม่ระวังอะไรเลยค่ะ จนแพร่เชื้อให้คนอื่น 555

โควต้าหมด ไว้มาใหม่นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:11:10:28 น.  

 
"แม้ในช่วงที่มีโรคระบาด ความสุขก็ยังคงมีอยู่รอบตัวเรา"

สาธุค่ะ...


โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:15:50:39 น.  

 
ข่าวทั้งวันเลยค่ะ
บางทีก็เห็นคนที่อ่านแค่หัวข้อข่าวก็เอาไปแชร์ผิด ๆ กัน

น่าเบื่อเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:16:06:29 น.  

 
ชอบตรงสรุปตอนท้ายที่ว่า แม้ในขณะที่สถานการณ์วิกฤต ถ้ามองดีๆ ก็ยังมีความสุขอยู่รอบตัวเรา

อยู่ที่เราจะมองออกหรือไม่ แค่นั้นเองนะครับ

ยังไงคุณพี่ก็ ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ



โดย: multiple วันที่: 24 มีนาคม 2563 เวลา:17:23:58 น.  

 
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
อนุโมทนาบุญที่ได้สั่งสมมาในวันพระจ้า





โดย: หอมกร วันที่: 25 มีนาคม 2563 เวลา:8:10:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 25 มีนาคม 2563 เวลา:9:07:07 น.  

 
สวัสดีค่ะ


โดย: June July August วันที่: 25 มีนาคม 2563 เวลา:11:23:23 น.  

 
ให้กำลังใจเผื่อไปถึงคนรอบข้างด้วยนะคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 25 มีนาคม 2563 เวลา:14:00:58 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องเอ็ม

สาธุ ๆ ขอรับคำพรจากพระอาจารย์ไพศาลจ้ะ
และขอบใจน้องเอ็มที่นำคำสอนของพระอาจารย์
มาฝาก ครูชอบคำพูดของพระอาจารย์ คำว่า
"ภูมิคุ้มใจ" คำนี้ ตรงกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่เรา
จะต้องนำไปใช้ได้เป็นอย่างดี จ้ะ อย่าหวั่นวิตก
จนเกินไปกับโรคระบาดในขณะนี้ เนาะ

โหวดหมวด ข้อคิดและธรรมะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 25 มีนาคม 2563 เวลา:17:31:10 น.  

 
แวะมาเยี่ยมมมมมมมมม สาธุๆ


โดย: สมาชิกหมายเลข 5236191 วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:11:55:22 น.  

 
สาธุค่ะ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:15:57:39 น.  

 
วันก่อนนั่งดูคลิปของท่านอยู่ค่ะ ได้ข้อคิดที่ดี

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
**mp5** Dharma Blog



โดย: mariabamboo วันที่: 26 มีนาคม 2563 เวลา:16:15:00 น.  

 
สวัสดี และขอบคุณครับ


โดย: Sleepless Sea วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:19:05:35 น.  

 
มาทักทายค่ะ ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
วันนี้หมดตัวแย้วววว


โดย: เนินน้ำ วันที่: 27 มีนาคม 2563 เวลา:19:18:05 น.  

 
ขอบคุณคุณพีสำหรับกำลังใจนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:0:25:11 น.  

 
โบราณสมัยพระพุทธเจ้าอยู่ ก็มีโรคภัยอยู่แล้ว
น่าจะน่ากลัวกว่าสมัยนี้นะผมว่า..

ปัจจุบันคนเราก็กลัว วิตกมากกว่า..ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายสับสน... ไปเล่นตามที่เขาปั่นหัว ปั่นตลาด

ถ้ามีสติตามที่พระพุทธองค์สอนไว้ก็จะ ไม่กลัว
อะไรมาก ป้องกันไว้ก่อนครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:5:43:01 น.  

 
ความกลัวทำให้ระบบต่างๆในร่างกาย
ผิดปกติ ดูแลระมัดระวังตัวเอง
ตามสมควรก็พอ


โดย: วลีลักษณา วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:12:49:06 น.  

 
อ่านแล้วสบายใจขึ้นมากค่ะ
สาธุ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 28 มีนาคม 2563 เวลา:21:37:55 น.  

 
เอาจริงๆก็เครียดเหมือนกันนะครับ พอเลิกไถ FB ทั้งวันก็พอช่วยได้ครับ ทำโน่นทำนี่ไป ไม่รู้มากก็ไม่ทุกข์มาก ... ใช่มั๊ยครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:14:29:07 น.  

 
ซาบซึ้งยิ่งนัก
ขอบคุณสำหรับการเตือนสติได้เป็นอย่างดีครับ


โดย: Topp Hero วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:16:04:07 น.  

 
แวะมาสวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่บล๊อกค่ะ


โดย: honeynut วันที่: 29 มีนาคม 2563 เวลา:17:18:52 น.  

 
เคยไปที่วัดป่าสุขโต
แต่เสียดายไม่ได้พบพระอาจารย์
ได้ฟังแต่เสียงเทศน์...

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมครับ


โดย: wicsir วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:8:46:17 น.  

 
หายไปหลายวัน มาโหวตแล้วนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มีนาคม 2563 เวลา:12:23:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

**mp5**
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?]




สวัสดีครับ

ขอส่งความสุขให้กับทุกคน




New Comments
Friends' blogs
[Add **mp5**'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.