Group Blog
All Blog
|
มนตราซาตาน... บทที่ 19 ๑๙ มนตราคุ้มครอง
ภายในโรงพยาบาลเอกชนนลัทและดรุนัยยืนอยู่ใกล้ประตูกระจกหน้าห้องไอซียูที่เปิดไฟใช้งานขณะมีเหตุฉุกเฉินปรเมษตรงหานลัททันทีเมื่อเดินทางมาถึงหลังทราบข่าวว่าพนักงานของบริษัทคนหนึ่งเข้าโรงพยาบาลอย่างกะทันหันโดยมีอาการคล้ายถูกทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอมทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องมีราวกับใคร ดรุนัยเล่าว่าหลังจากทุกคนเดินทางกลับกันเกือบหมดเขาก็ขึ้นมาเก็บของที่ชั้นบนของอาคาร เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก็เห็นอาร์ตนอนสลบไสลจึงเข้าไปสำรวจพบว่าตามร่างกายของเขามีรอยฟกช้ำและมีเลือดออกตรงมุมปากจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนก่อนจะโทรบอกนลัทให้ทราบเรื่องทันที เมื่อถึงโรงพยาบาลขณะยังไม่มีใครทราบสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นแพทย์ระบุเพียงอาร์ตถูกทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัสต้องตรวจเช็คอย่างละเอียด อาจมีผลกระทบกระเทือนทางสมองรอดูอาการให้แน่ใจว่าต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนหรือไม่ เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นโคม่าเวลานี้ ศศิชาและวศินเดินคู่กันมาอย่างเร่งรีบเมื่อถึงโรงพยาบาลที่นลัทได้โทรติดต่อเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วโดยวศินอาสามาส่งน้องสาว เมื่อเห็นว่าเธอกำลังไหว้วานให้คนขับรถประจำคฤหาสน์นำรถออกจากลานจอดพอดีศศิชายังไม่ทราบเรื่องมากนัก รู้เพียงอาร์ตเข้าโรงพยาบาลก็ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน เมื่อคิดว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเธอเป็นต้นเหตุแม้จะยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นได้อย่างไร หญิงสาวชำเลืองมองผู้บริหารและค้อมศีรษะเล็กน้อยแทนความเคารพก่อนเดินเข้าหานลัทเพื่อถามไถ่ถึงสาเหตุที่ยังเป็นปัญหาคาใจทว่าไม่มีคำตอบใดนอกจากคำวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น ศศิชาคว้าแขนของเพื่อนให้เดินออกจากบริเวณนั้นและอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด นี่แกไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมพลังอะไรของแกถึงทำร้ายนายอาร์ตปางตายอย่างนั้น นลัทคว้ามือของศศิชามาจับไว้เพื่อพิสูจน์พลังที่ว่าหรือเธอจะเป็นแม่มดที่แฝงกายอยู่กับมนุษย์ทั่วไป นลัทแอบขำขันในใจโดยศศิชารีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว เกรงว่าเพื่อนจะมีอันตรายอีกคน ดี้ไม่ได้พูดเล่นนะซี!มันเป็นความจริง ถ้าซีไม่เชื่อรอถามนายนั่นก็ได้ ถ้า... ศศิชาหยุดคำพูดไว้ในลำคอ หากนายอาร์ตไม่ตายไปเสียก่อน ทำให้เธอนึกถึงซันเซ็ทขึ้นมา หรือบุรุษผู้นั้นจะเป็นตัวการทำร้ายอาร์ตกันแน่ ถ้าอะไร? เปล่า...ไม่มีอะไร ซีเดินไปหาคนอื่นก่อนนะ เดี๋ยวดี้มาไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ศศิชาก็สาวเท้าเดินไปทางมุมตึกปล่อยให้นลัทยืนงงและเดินกลับไปยังหน้าห้องไอซียูตามเดิม โดยตอบวศินที่ถามไถ่ถึงน้องสาวว่าเธอเกิดกระหายน้ำและไปหาอะไรดื่มเท่านั้น
ประตูบันไดหนีไฟถูกเปิดออกไปยังลานจอดรถบนอาคารซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันกับห้องไอซียู ศศิชากวาดสายตามองไปโดยรอบแสงไฟสลัวทำให้มองเห็นรอบบริเวณชัดเจน ไม่ได้มืดมิดจนน่ากลัวมากนัก ซันเซ็ท...นายอยู่ไหนออกมาหาฉันหน่อยได้ไหม ศศิชาก้าวเดินไปตามลานจอดรถที่เงียบสงบช้าๆเพื่อตามหาบุรุษชุดดำซึ่งชอบปรากฏกายในช่วงเวลาค่ำคืน และด้วยเวลาตีสามเศษคงไม่เป็นการรบกวนเกินไปหากอยากเจอและถามไถ่ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับอาร์ต ฉันอยากให้นายออกมาอธิบายเรื่องของนายนั่นฉันไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องบ้าบอแบบนั้นได้ไงแต่ฉันเชื่อว่านายต้องรู้เรื่องทั้งหมด ระหว่างก้าวเดินไปเรื่อยๆความรู้สึกเจ็บแปลบก็เกิดขึ้นตรงข้อเท้าของเธอจนต้องหยุดยืนเพื่อสำรวจความผิดปกติและมันก็ทำให้เธอแปลกใจเมื่อมีร่องรอยบางอย่างปรากฏตรงข้อเท้านั้น ความฝันที่เกิดขึ้นก่อนเธอจะสะดุ้งตื่นก็กลับมาเยือนในความคิดอีกครั้งต้นไม้ใหญ่กลายเป็นปีศาจโอบมัดและพันร่างกายเธอเอาไว้เถาวัลย์สีเขียวเข้มพันธนาการรอบข้อเท้าจนเจ็บปวด กิ่งก้านของมันเหนี่ยวรั้งร่างบอบบางเอาไว้จนมีลูกธนูยิงเจาะกลางลำต้นและเธอก็ตื่นจากฝันร้ายเมื่อนลัทโทรเข้ามา เรื่องพิสดารจากความฝันทำให้เธอทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้งหากมันเป็นแค่ฝัน เหตุใดจึงมีร่องรอยเกิดขึ้นและเจ็บปวดเสมือนจริงเช่นนี้คำถามซึ่งไม่อาจมีคำตอบให้กับตัวเอง เธอมีสิ่งใดจะเจรจากับฉันอย่างนั้นหรือน้ำเสียงเข้มดึงให้ศศิชาหันมองบุรุษชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหลัง เขาคงพร้อมแล้วกับการตอบคำถามและทำให้เธอลืมเรื่องฝันประหลาดไปชั่วคราว เมื่อมีเรื่องสำคัญกว่านั้น นายเป็นคนทำให้อาร์ตมีอาการสาหัสอย่างนั้นใช่ไหมศศิชาถามเสียงแผ่ว ไม่อยากให้ใครที่อาจเดินอยู่บริเวณนั้นได้ยินหรือคิดว่าเธอเป็นบ้ายืนพูดคุยคนเดียว ชายผู้นั้นคิดร้ายกับเธอถึงต้องเจ็บหนักอย่างนั้น ซันเซ็ทกล่าวนิ่งๆ โดยนัยน์ตาสีสนิมส่อแววเฉยชาจนไม่รู้ว่าเขากำลังนึกคิดสิ่งใด มันก็แค่คนที่เกลียดขี้หน้ากันทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกัน ทำไมนายต้องจัดการเขาจนสาหัสอย่างนั้นด้วยล่ะ ช่วงนี้รอบกายเธอมีแต่สิ่งอันตรายรายล้อมฉันต้องปกป้องเธอ และมนตราที่คุ้มครองเธอนั้นจะทำลายแต่บุคคลที่คิดร้ายเท่านั้น นายก็รู้ว่าโลกมนุษย์มีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันอยู่หากวันหนึ่งมีคนคิดไม่ดีกับฉันเป็นสิบ นายไม่ต้องทำร้ายพวกนั้นจนปางตายหรือไง ฉันจำเป็นต้องคุ้มครองเธอ นายฟังนะ...เมื่อก่อนฉันเห็นนายเป็นซาตานที่มาเก็บดวงวิญญาณของคนอื่นรอบตัวฉันแม้แต่ผู้ร้ายที่คิดวางยาสลบ ฉันก็เห็นนายมาเอาดวงวิญญาณของเขาไป แล้วอาร์ตล่ะนายต้องเอาดวงวิญญาณของเขาด้วยหรือเปล่า ชายผู้นั้นชะตาชีวิตยังไม่ถึงฆาต ฉันไม่อยากให้นายทำร้ายใครในโลกนี้ต่อให้คนๆ นั้นจะคิดร้ายกับฉันแค่ไหนก็ตามไม่ว่าซันเซ็ทจะมีพลังอำนาจเหนือทุกสิ่งในโลกนี้แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของใครด้วยน้ำมือของเขา ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ย่อมเป็นผลบุญผลกรรมที่มนุษย์แต่ละคนสร้างขึ้นและชดใช้เองเท่านั้น ส่วนเรื่องของฟาโรนายก็ไม่ต้องสนใจข้อแลกเปลี่ยนอะไรแล้วล่ะ ฉันว่าเงื่อนไขนั้นอาจเป็นโมฆะก็ได้เพราะเขาไม่มีทางเป็นของฉันน้ำเสียงอ่อนกล่าวอย่างหมดหวังก่อนจะเดินกลับเข้าในตัวอาคารของโรงพยาบาล ปล่อยให้บุรุษชุดดำทอดสายตามองตามหลังร่างบอบบางจนพ้นจากสายตา ข้ายังมีเวลากับข้อแลกเปลี่ยนนั้นและมันเพิ่งเริ่มต้นสำหรับเจ้า เซเลเน่
เช้าวันใหม่ตามเวลานัดหมายศศิชาก้าวออกจากลิฟต์ภายในคอนโดหรูหรากว่ายี่สิบชั้น เพื่อเดินไปยังหมายเลขห้องที่ปรากฏอยู่บนจอโทรศัพท์มือถือข้อความทางแชทไลน์ซึ่งฟาโรได้บอกไว้ถึงสถานที่พักอาศัยของเขา ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลและเดินทางกลับคฤหาสน์ในช่วงเช้ามืดพร้อมวศินศศิชายังไม่ได้นอนหลับสักตื่น เธอวิตกกังวลเกี่ยวกับหน้าที่การงาน โดยไม่ทราบว่าฟาโรจะพอใจในทุกอย่างหรือไม่เมื่อใครหลายคนตามที่เคยได้ยินมา สร้างความไม่พอใจให้กับเขาจนถูกตะเพิดมาแล้วนักต่อนักไหนต้องหวาดระแวงเกรงจะไปไม่ทันเวลานัดหมาย สารพัดความตื่นเต้นจนลนลาน ทำให้เธอรีบจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวไม่ยอมพักผ่อนและรอให้ถึงเวลาเดินทางเพื่อมายังคอนโดแห่งนี้ ข่าวคราวของอาร์ตแม้อาการจะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่เขาก็ยังไม่รู้สึกตัวระหว่างที่ศศิชาเข้าเยี่ยม และเมื่อทุกคนต่างแยกย้ายเดินทางกลับเหลือเพียงดรุนัยที่อยู่เฝ้าคนป่วยอาการหนัก รอให้นลัทติดต่อกับญาติของเขา หรืออาจมีเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาเปลี่ยนเวรเฝ้าแทนในช่วงเวลากลางวันทำให้ศศิชาที่คิดว่าตนเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้รู้สึกคลายความตึงเครียดได้บ้าง ประตูสีขาวสะอาดตาถูกเคาะเป็นจังหวะเพื่อรอให้เจ้าของห้องเปิดต้อนรับเธอผู้มาเยือนแต่เมื่อประตูเปิดออกทำให้ศศิชายืนชะงักค้างไปหลายวินาทีเนื่องจากมีหญิงสาวที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีส่งยิ้มทักทาย มาแล้วเหรอเลดี้เมื่อวานวีไม่ทันได้ทักเธอเลย เห็นว่ามีประชุมด่วนรอยยิ้มหวานราวกับน้ำผึ้งอาบยาพิษไม่ได้ทำให้ศศิชารู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานที่เห็นหล่อนกับฟาโรเดินเคียงคู่กันกลับตอกย้ำบาดแผลให้เจ็บปวดมากกว่าเดิม จนต้องเตือนตนเองว่าไม่มีสิทธิ์คิดอะไรเกินเลยไปกว่าหน้าที่และควรยินดีกับญาติสนิทที่ได้ครอบครองฟาโรทั้งตัวและหัวใจ ศศิชาฝืนยิ้มทั้งที่น้ำตาตกในหัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆ คล้ายมันกำลังจะหมดเรี่ยวแรง ร่างบอบบางแทบล้มทั้งยืนทว่าต้องทนประคองตนเองไว้ไม่ให้ใครในห้องนี้รับรู้ถึงความรวดร้าวภายในใจ ตั้งแต่เจอวรดาเมื่อวานนี้ที่บริษัทศศิชาก็ไม่ได้สนใจหล่อนอีกว่าจะกลับบ้านหรือไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหน ณ เวลานั้นมีเพียงอารมณ์โกรธและเกลียด ผสมปนเป แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงความรู้สึกเลวร้ายความโกรธเกลียดเหล่านั้นก็สงบลงจนกลายเป็นชินชา และควรทำใจต่อความจริงซึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าเช่นนี้เมื่อทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างที่เธอไม่อาจก้าวก่ายได้เลยสักทาง เมื่อคืนดริ๊งกันดึกหรือไงกลิ่นเหล้าหึ่งไปหมด เสื้อผ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนด้วยนะวีศศิชาแสร้งยิ้มระหว่างเดินเข้าห้องและลอบมองหาชายหนุ่มอีกคนที่นัดหมายให้เธอมาเจอภาพบาดตาในวันนี้ทว่าไม่มีเขาอยู่ในห้องกว้างขวางนั้น มีเพียงเสียงน้ำจากฝักบัวทำให้รู้ว่าเขาคงกำลังทำภารกิจส่วนตัว วรดาเหล่มองญาติสาวและแอบยิ้มมุมปากจะให้หล่อนแก้ตัวอย่างไรได้ในเมื่อกลิ่นมันฟ้องจนถูกจับได้คาหนังคาเขาและหล่อนเชื่อว่าศศิชาคงไม่นำเรื่องราวเหล่านี้ไปฟ้องมารดาของตนอย่างแน่นอน นิดหน่อยเองพอดีเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี เลยชวนกันไปดื่มเพิ่งกลับมาถึงคอนโดก่อนหน้าเธอมาแปบเดียวเอง พอดีวีจอดรถไว้ที่นี่เลยแวะขึ้นมาดื่มกาแฟซะหน่อยคนรับฟังไม่สนว่าคำแก้ตัวของวรดาฟังขึ้นหรือไม่ แต่กลับทำให้ศศิชารู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดเมื่อญาติคนสนิทไม่ได้นอนค้างอ้างแรมอย่างที่เข้าใจ งั้นเหรอ เอ...หรือเธอคิดอะไรเลยเถิดถึงทำหน้าซีเรียสอย่างนั้น ต่อให้ไม่พูดจาหล่อนก็พอมองออกถึงความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกันศศิชากำลังผิดหวังหรืออาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหล่อนกับฟาโร และวรดาก็จงใจให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เปล่านะวีดี้ไม่ได้คิดอะไรเลยเถิดสักหน่อย ถึงวีจะเป็นคนรักของฟาโรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับดี้แต่น่าจะบอกกันบ้างว่าจริงๆ วีรู้จักกับเขา ปล่อยให้ดี้โง่ดักดาน ไม่รู้ว่าญาติของตัวเองเป็นถึงคู่ควงดาราดังอย่างนี้ หากเธอคิดว่าวีเป็นคนรักของฟาโรและเธอก็หลงรักเขา ลองเสี่ยงแย่งเขาไปจากวีดูไหมล่ะ จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วฟาโรแคร์เธอหรือเปล่า ต่อให้ไม่มีวรดาในโลกใบนี้ฟาโรก็คงไม่หันมองผู้หญิงอย่างเธอ และไม่มีทางที่เขาจะสนใจถึงอย่างไรเธอก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้นเสี่ยงด้วยซ้ำ วีนี่ชอบล้อเล่นไม่เปลี่ยนเลยนะอุตส่าห์มีฟาโรไว้ในครอบครอง ยังใจดีบอกให้ดี้แย่งเขาอีกรู้ไหมว่าผู้หญิงกว่าครึ่งประเทศอิจฉาและอยากเป็นวีแค่ไหนน้ำเสียงแผ่วกล่าวทั้งที่ฝืนยิ้มศศิชาพยายามหลบหลีกการสบตากับดวงตาคมเฉี่ยวที่จ้องมองอย่างรู้ทัน ผู้หญิงกว่าครึ่งประเทศรวมเธอในนั้นด้วยหรือเปล่าวีจะบอกอะไรให้นะ วรดาเดินมายืนข้างๆ ญาติสนิทและโอบไหล่ของเธอไว้เธอควรมั่นใจในตัวเอง หากคิดว่าชอบเขาก็กล้าเสี่ยงที่จะพูดความจริงหน่อยถ้าเธอยังทำเป็นไม่มั่นใจอยู่แบบนี้ เขาไม่มีวันหันมองเธอหรอกนะ หรือต่อให้ใครจะว่าเธออยากเป็นของเล่นของฟาโรแต่เชื่อวีสิ ว่าความรักแท้จริงจากผู้ชายอย่างเขาต้องมีให้ผู้หญิงสักคนแน่นอนและคนนั้นอาจเป็นเธอก็ได้ ศศิชายืนใจเต้นแรงไม่เข้าใจต่อคำพูดของวรดาเสียเลย ในเมื่อหล่อนเป็นถึงคนรักที่ฟาโรยอมเปิดเผยให้ใครต่อใครได้เห็นอย่างเป็นทางการไม่ใช่ผู้หญิงที่เข้าหาเขาเองอย่างที่ตกเป็นข่าวบ่อยครั้ง เหตุใดหล่อนจึงหว่านล้อมให้เธอมีความหวังอย่างนี้ทั้งที่ควรเตือนให้ตัดใจเสียมากกว่า ความสับสนถาโถมตกลงความสัมพันธ์ระหว่างฟาโรกับวรดาเป็นอย่างไรกันแน่ แต่แล้วความรู้สึกที่คิดว่าเกือบดีขึ้นมาก็ยิ่งแย่ลงเมื่อหางตาของศศิชามองเห็นสร้อยคอหินถักคล้ายกันกับที่ฟาโรมอบให้เธอความเจ็บแปลบแทรกผ่านหัวใจอีกครั้งจนปวดหนึบ เมื่อไหร่จะชินชาได้เสียที ทั้งที่เตือนตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของที่ระลึกจากฟาโร คงมีอีกมากมายที่มอบให้หญิงอื่น ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นอย่าสำคัญตนให้มากไปนัก ศศิชาตอกย้ำกับตัวเองในใจ เขาก็แค่วางกับดักให้ผู้หญิงที่ไม่รู้เท่าทันและหลงใหลได้ปลื้มตกลงไปในกับดักนั้นจนยากจะถอนตัวถอนใจ
เธอขับรถเป็นหรือเปล่า?ฟาโรตั้งคำถามกับผู้จัดการสาว เมื่อลงมายืนอยู่ตรงลานจอดรถของคอนโดสูงตระหง่านหลังจากส่งวรดาขึ้นรถและขับออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่สองสาวพูดคุยกันอยู่ในห้องส่วนตัวของดาราชื่อดังเมื่อเขาเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัว การพูดคุยระหว่างกันก็ต้องยุติลงในทันทีโดยความสัมพันธ์ระหว่างฟาโรกับวรดาก็ยังเป็นปริศนาอยู่อย่างนั้นศศิชาเองก็พยายามไม่นึกถึงและทำใจให้ลืมเรื่องราวทั้งหมดเสียที ไม่เป็นแม้ศศิชากำลังควบคุมความรู้สึกให้กลับมาเป็นปกติ ทว่าในน้ำเสียงหวานกลับฟังห้วนชอบกลจนฟาโรต้องหันมองหญิงสาวที่พยายามเก็บอาการซึ่งปิดบังอย่างไรก็ไม่มิด ทั้งที่บอกตนเองอยู่ปาวๆห้ามคิดอะไรเกินเลย ทว่าอาการเหวี่ยงก็ยังมีในความรู้สึกเมื่อเห็นฟาโรแล้วนึกหมั่นไส้เขาขึ้นมา แว้บหนึ่งที่ความคิดผุดขึ้นในใจกลับถึงห้องนอนเมื่อไหร่จะรีบนำสร้อยที่เขามอบให้เป็นของตอบแทนขว้างทิ้งเสียให้พ้นจากสายตา เธอต้องหัดขับรถเพราะบางทีฉันไม่อยากขับเอง เข้าใจหรือเปล่า เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาจะสอนให้แล้วกันหรืออยากไปเข้าคอร์สเรียนเอง ฉันจะออกค่าเรียนให้ ลำพังให้ไปหัดขับรถก็เป็นพระคุณจะแย่นี่ยังหวังดีออกค่าเล่าเรียนให้ด้วยจะถือว่าเขามีน้ำใจนำเงินที่ได้จากการปอกลอกหญิงสาวหยิบยื่นให้เธออย่างนั้นหรือศศิชาแอบคิดในใจ ไม่เป็นไรหากคุณอยากให้ฉันขับรถเป็นจริงๆ เดี๋ยวฉันให้พี่ชายสอนก็ได้ เขาคงพอมีเวลาสอนให้ฉัน ไม่ยักรู้ว่าเธอก็เป็นทายาทมหาเศรษฐีกับเขาเหมือนกันตอนแรกคิดว่ามีแค่วีกับพี่ชายของเธอซะอีก ลูกสาวที่ไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่สิบกว่าขวบคงไม่มีใครอยากเอ่ยถึงมากนักในวงสังคมชั้นสูงและเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบคลุกคลีอยู่แล้วยิ่งตัดชื่อของเธอออกจากกองมรดกเลยคงสบายใจกว่า หากให้มีส่วนแบ่งในทรัพย์สินที่เธอไม่ได้สร้างขึ้นมากับมือ ฉันก็ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนรักของญาติฉันเหมือนกัน ฟาโรนิ่งเงียบระหว่างกำลังเปิดประตูรถชั่ววินาทีที่แววตาของเขาดูลังเลคล้ายอยากบอกอะไรสักอย่างแต่ก็เงียบและปรับสีหน้าให้เป็นปกติตามเดิม ขึ้นรถสิเวลาของฉันเป็นเงินเป็นทอง อย่าให้เสียไปเพราะมัวแต่คุยกับเธอ ทั้งที่เขาเป็นฝ่ายชวนเธอคุยแท้ๆยังยัดเยียดให้เธอเป็นฝ่ายผิดจนต้องรู้สึกสำนึกจนได้ศศิชาเปิดประตูด้านหลังคนขับและก้าวขึ้นนั่งในรถเงียบๆไม่คิดจะเสวนากับเขาให้ขุ่นเคืองความรู้สึกต่อกัน ความเจ็บปวดจากเรื่องเก่ายังไม่ทันหายดีต้องเจ็บใจที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้เขาเสียเวลาเพิ่มอีกกระทง
ห้องถ่ายสตูดิโอภาพนิ่งดูคึกคักเป็นพิเศษเมื่อมีเหล่าดารานักแสดงและนายแบบนางแบบในสังกัดมารวมตัวเพื่อถ่ายโปสเตอร์ธีมวันแห่งความรักที่ใกล้มาถึงเต็มทีเสียงพูดคุยข้างๆ ดึงความสนใจให้ศศิชาหูผึ่งเมื่ออาร์ตเป็นประเด็นหลักของการสนทนานั้น ไอ้อาร์ตนอนโรงพยาบาลแบบนี้พวกคิงควีนทั้งหลายก็เหงาแย่เลยดิวะ พี่ก็พูดไปเดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า มันก็เสียหายพอดี ข่าวลือที่เคยได้ยินเพื่อนร่วมงานคนอื่นพูดคุยถึงการเบี่ยงเบนทางเพศของอาร์ตเริ่มมีมูลความจริงขึ้นมาบ้าง เมื่อได้ยินสองคนนี้สนทนากัน ก็ข้าเหงานิหว่าไม่มีใครอยู่ให้ด่า แถมต้องทำงานล่วงเวลาแทนมันอีก เหนื่อยชิบ! แต่ก็น่าแปลกนะมันไปมีเรื่องกับใครถึงขนาดเจ็บปางตายอย่างนั้น นี่ถ้าผมรู้ว่าใครทำให้มันเป็นแบบนี้ผมจะสั่งเก็บไม่ให้เหลือซากเลยคอยดู ศศิชายกมือปาดเหงื่อที่หน้าผากเมื่อรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมากะทันหันอย่าได้ป่าวประกาศให้ใครรู้กันเลยเชียว ว่าต้นเหตุของอาร์ตคือเธอคงโดนสั่งเก็บแบบที่แอบได้ยินมาเมื่อครู่นี้ แม้จะเป็นเพียงการหยอกล้อกันสนุกปากทว่ากลับทำให้เธอกลายเป็นวัวสันหลังหวะชอบกล เมื่อการถ่ายทำเริ่มต้นทุกคนก็ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นทีมงานหรือเหล่าคนดังก็ตามการถ่ายภาพคู่รักที่ยืนโอบกอดแนบชิดระหว่างชายหญิงด้วยการแต่งกายโทนสีชมพูหวานแหววทำให้ทุกสายตาที่ยืนมองการทำงานเกิดรอยยิ้มไปตามกัน มีเพียงศศิชาเท่านั้นที่จินตนาการไปว่าเธอได้ไปยืนขนาบข้างกับฟาโรแทนหญิงสาวคนที่ถ่ายคู่กับเขาในตอนนี้ เลดี้ครับรบกวนติดกระดุมเสื้อให้ผมหน่อยได้ไหม พอดีมือผมเจ็บน่ะครับ ไปโดนอะไรมาคะขอดี้ดูมือหน่อยได้หรือเปล่า ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำข้าวระบายยิ้มน้อยๆพร้อมส่งมือให้ผู้จัดการสาวได้สำรวจ แม้มันจะดูไม่ผิดปกติอะไรมากนักทว่าเหตุผลที่ไมเคิลบอกกล่าวก็น่าเชื่อถืออย่างไม่น่าสงสัยเคลือบแคลง พอดีผมตวัดมันไปโดนเก้าอี้น่ะครับมันคงระบม ให้ดี้หายามาทาดีกว่าไหมคะอาการเจ็บจะได้ทุเลา และกันไว้ไม่ให้มันบวมไปมากกว่านี้ เดี๋ยวมือสวยๆ ของคุณจะถ่ายรูปออกมาขี้เหร่นะคะศศิชาปล่อยมือของนายแบบหนุ่มให้เป็นอิสระหลังจากสำรวจตรวจดูร่องรอยของบาดแผลที่ไม่มีให้เห็นแม้แต่รอยขีดข่วนโดยไมเคิลหัวเราะชอบใจเมื่อถูกแซวว่าความหล่อเหลาอาจลดดีกรีลงหากมือของเขาเกิดอาการเจ็บอย่างนี้ ศศิชาทำหน้าที่ตามที่ชายหนุ่มร้องขออย่างเต็มใจโดยไม่ทันสังเกตเห็นใครบางคนที่เดินปรี่เข้ามาหาพร้อมกระชากมือเธอออกจากเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนซึ่งติดกระดุมจนสำเร็จพอดี ฉันอยากให้เลดี้เมคอัพเครื่องสำอางฟาโรกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วนก่อนจะดึงให้ศศิชาที่ยืนตะลึงเดินตามเขาไปติดๆปล่อยให้ไมเคิลหรี่ตามองทั้งสองพร้อมเหยียดยิ้ม เมื่อถูกแย่งชิงหญิงสาวซึ่งเขาได้ขอความช่วยเหลือไปดื้อๆอย่างไม่มีมารยาทเอาเสียเลย นี่คุณ!จะให้ฉันทำอะไรก็บอกกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องลากฉันมาแบบนี้ไมเคิลเขาวานให้ฉันติดกระดุมเพราะมือเขาเจ็บ และฉันก็มีแค่สองมือ รบกวนใจเย็นก่อนได้หรือเปล่า เธอมันไร้เดียงสากับไอ้ฝรั่งขี้นกสินะถึงตามมารยาของมันไม่ทัน แค่มันออดอ้อนเข้าหน่อยก็ทำเป็นหลงปลื้มคิดว่ามันอยากได้ความช่วยเหลือเสียเต็มประดาหากคิดจะทำงานกับฉัน อย่าหลงคารมผู้ชายง่ายๆ แบบนี้ มันไม่มากเกินเหรออยู่ดีๆ ก็กล่าวหาคนอื่นมารยา และมาต่อว่าฉันปาวๆ แบบนี้ศศิชาสะบัดแขนจนหลุดพ้นจากฝ่ามือที่กำข้อมือของเธอไว้แน่นจนปวดปร่าหากคุณไม่พอใจให้ฉันทำงานด้วย ก็เชิญไปหาผู้จัดการคนใหม่แล้วกันศศิชาเตรียมเดินหนี ทว่าข้อมือของเธอกลับถูกคว้าไว้อีกครั้ง และคราวนี้ฟาโรออกแรงกำแขนเธอแน่นกว่าเดิมในเมื่อเขากลายเป็นคนไม่มีเหตุผล ก็ไม่จำเป็นที่เธอต้องพูดจาด้วยดี ฉันไม่ให้เธอไปไหนจนกว่าจะเมคอัพเครื่องสำอางให้เสร็จ เธอต้องอยู่ใกล้ฉันจนกว่าจะเสร็จงานนี่คือคำสั่ง เป็นอีกครั้งที่ฟาโรกระชากให้ศศิชาเดินตามไปจนถึงทีมงานที่เตรียมรอแต่งหน้าประทินโฉมให้แก่เขาโดยฟาโรยึดอุปกรณ์ทั้งหมดและส่งต่อให้ศศิชารับไว้เพื่อทำหน้าที่ตามที่เขาสั่งการ เมื่อการถ่ายทำเริ่มต้นอีกครั้งศศิชาถือโอกาสเดินหนีออกจากสตูดิโอด้วยสีหน้าไม่พอใจ คิ้วเรียวขมวดยุ่งก้าวเดินฉับๆ ตรงไปยังห้องทำงานของนลัทซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสูตดิโอถ่ายภาพสักเท่าไหร่ ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็วตามอารมณ์หงุดหงิดที่อยากระเบิดใส่ใครสักคนศศิชากระแทกกายนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานด้วยความโกรธเคือง หากเก้าอี้มีชีวิตและพูดได้มันคงเตือนให้เธอออมแรงและอย่าใจร้ายรุนแรงกับมันนักเลย แว่นตากรอบสีม่วงเข้มถูกดึงออกจากใบหน้าและวางลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้านวลใสเพื่อควบคุมอารมณ์หงุดหงิดให้เย็นลงพยายามไม่นึกถึงความเอาแต่ใจของฟาโร และลบล้างคำพูดดูแคลนของเขา อยากจดจำแต่ความคลั่งไคล้ที่มีให้เขาเสมอมาเพื่อให้หายจากอาการโกรธเคืองเสียที ไม่เข้าใจความคิดและการกระทำของเขาเสียเลยบางครั้งก็ทำเสมือนเธอ ไม่มีตัวตน อยู่ในโลกนี้ บางทีก็แสดงคล้าย หวงก้าง โดยเฉพาะกับไมเคิลราวกับเขาเป็นคู่อริกันมาแต่ชาติปางก่อนอย่างนั้น ศศิชาพยายามท่องพุทโธและสูดลมหายใจลึกๆจาก พุท-โธ ที่เคยระรัวเร็วตามอารมณ์เดือดพล่าน ก็ค่อยๆช้าลงจนกลายเป็นกำหนดลมหายใจได้ตามคำปฏิบัติเพื่อให้มีสติอยู่กับตัว เมื่อเริ่มสงบจิตใจได้เกือบเป็นปกติเสียงจากข้อความแชทไลน์ก็ดังให้เธอต้องรีบหยิบขึ้นมาดูการติดต่อเผื่อนลัทหรือเพื่อนร่วมงานคนใดเรียกพบเธอเป็นการเร่งด่วนทว่าชื่อที่ปรากฏแก่สายตาก็ทำให้อารมณ์เดือดดาลกลับมาจนแทบอยากเหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งเสียเดี๋ยวนั้น <หายไปไหน มาหาฉันที่ห้องแต่งตัว เดี๋ยวนี้! > ศศิชาพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เริ่มย้อนทวนความคิดและจิตใจเธอหลงรักฟาโรได้อย่างไร ในเมื่อเขาเป็นผู้ชายที่แปรปรวนและเปลี่ยนอารมณ์เป็นว่าเล่นตามวลีเด็ดที่เห็นบ่อยครั้งจนชินตา สามนาที สี่อารมณ์ เมื่อคำสั่งของฟาโรเป็นสิ่งซึ่งขัดไม่ได้เกรงว่าเขาจะโมโหร้ายขึ้นมาจนทีมงานคนอื่นตกกระไดพลอยโจน ทำให้ศศิชาคว้าแว่นใส่และรีบเร่งไปหาเขายังจุดนัดพบเพื่อป้องกันไม่ให้ใครต้องถูกลูกหลงแทนเธอ เมื่อมาถึงหน้าห้องแต่งตัวตามที่ฟาโรบอกกล่าวเธอจึงเคาะประตูส่งสัญญาณก่อนเปิดมันออกช้าๆและเดินเข้าด้านในอย่างเงียบเฉียบที่สุด และยังไม่ทันเจอกับดาราหนุ่มศศิชาก็ต้องหยุดฝีเท้ากับที่เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวพูดจาคล้ายกำลังสนทนากับใครสักคน ศศิชาขยับแว่นตาให้เข้าที่เพื่อเพ่งมองไปยังโซฟาซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมห้องแต่งตัวภายในนั้นปราศจากผู้ใดนอกจากชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังคลอเคลียแนบชิดแทบจะรวมร่างเข้าด้วยกัน ทำไมคุณถึงไม่มาหาพิมเลยล่ะคะหรือเบื่อกันแล้ว นางแบบสาวที่เพิ่งมีข่าวกับฟาโรไปหมาดๆ และข่าวนั้นก็ทำให้หล่อนโด่งดังจนมีงานหลายอย่างติดต่อเข้ามาจากนางแบบหน้าใหม่เลื่อนขั้นเป็นนางแบบสาวไฮโซจนมีชื่อเสียงในวงแฟนคลับหนุ่มที่ชอบสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ดวงตาเย้ายวนใจ พิมพ์มาดานั่งไพล่ไปบนตักของฟาโรสองแขนโอบกอดรอบคอและนำฝ่ามือลูบไล้ไปบนใบหน้าคมคาย กระโปรงไหมพรมสีชมพูสั้นแค่คืบรั้งขึ้นมาจนเห็นเนื้อหนังมังสาขาวนวลน่าสัมผัสโดยฟาโรก็ไม่ปฏิเสธที่จะลูบไล้ยังต้นขาขาวนวลนั้น พร้อมกับโอบรอบเอวอ้อนแอ้นหลวมๆ ตามการเสนอตัวของหล่อนเช่นกัน ช่วงนี้ผมเหนื่อยไม่ค่อยได้นอน เลยไม่ได้ติดต่อพิม คงไม่งอนผมหรอกใช่ไหม ใครจะกล้างอนคุณล่ะคะในเมื่อเห็นกันอยู่ว่าคุณงานล้นมือขนาดไหน แต่พิมได้ข่าวว่า วันก่อนคุณควงคนรักตัวจริงมาเปิดตัวที่นี่หรือคะ เพื่อนต่างหากพิมก็น่าจะรู้ว่าผมควงกับใครได้ที่ไหน เดี๋ยวก็ถูกบอสด่ากระเจิงจนต้องเลิกติดต่อกันอีกอย่างคราวไมกิไง จำไม่ได้เหรอ พิมพ์มาดานำใบหน้านวลเนียนเข้าใกล้และซุกไซร้ไปตามข้างแก้มไล่ไปจนถึงซอกคอของฟาโรโดยที่เขาเอนศีรษะพิงพนักโซฟาอย่างนั้นไม่มีการโต้ตอบใดๆปล่อยให้นางแบบสาวคลอเคล้าตามแต่ใจต้องการโดยไม่ทันสังเกตเห็นใครที่กำลังยืนมองทั้งสองด้วยความทุรนทุรายอยากเข้าไปกระชากให้ชายหญิงคู่นั้นออกห่างจากกัน ศศิชาได้แต่ระงับความโกรธที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งโดยเธอไม่รู้ว่าอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะอยากทวงสิทธิ์ของคนรักให้กับวรดาหรือเพราะความรู้สึก หวง ที่เขาเป็นดาราในฝันของเธอกันแน่ศศิชารวบรวมความกล้า หายใจลึกๆ เตรียมพุ่งเข้าหาทั้งสองที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยอารมณ์ตัณหาซึ่งระอุขึ้นมาไม่เลือกสถานที่เอาเสียเลย ทว่าไม่ทันได้ก้าวออกไปปรากฏตัวแขนของเธอก็ถูกดึงรั้งเอาไว้ด้วยฝ่ามืออบอุ่นและคุ้นชินซันเซ็ทนำนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปาก ส่งสัญญาณให้เธอเงียบเสียงโดยไม่ต้องเอ่ยเรียกชื่อเขาพร้อมชี้ชวนให้ศศิชามองไปยังฟาโรและพิมพ์มาดาอีกครั้ง ประตูอีกบานที่เชื่อมกับห้องแต่งตัวซึ่งอยู่คนละฟากกับที่ศศิชาเดินเข้ามาปรากฏนางแบบสาวลูกครึ่งเข้ามากระชากพิมพ์มาดาให้ออกห่างจากผู้ชายของหล่อนฝ่ามือหนักเหวี่ยงตบลงบนใบหน้านวลจนแดงฉานเป็นรอยฝ่ามือ นังหน้าด้าน!ริมายั่วผู้ชายของฉัน อย่าหวังว่าจะได้เขาไปกกง่ายๆ ฟาโรไม่ได้ห้ามปรามหญิงสาวสองคนที่กำลังตบตีกันเขาทำเพียงถอนใจทิ้งและกดโทรศัพท์หานลัทให้ช่วยมาจัดการเรื่องราวทั้งหมดโดยเขายืนส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนเดินจากไปปล่อยให้นางแบบทั้งสองออกแรงตบตีกันอย่างนั้นจนกว่าจะมีใครมาห้ามปราม หรือให้ทั้งคู่ยอมสงบลงแต่โดยดี การกระทำของฟาโรและนางแบบทั้งสองอยู่ในสายตาของศศิชาและซันเซ็ทตลอดเวลาร่างบอบบางเซพิงไปที่บุรุษด้านข้างจนเขาต้องรับเธอเอาไว้ เรี่ยวแรงเหือดหายแทบล้มทั้งยืนไม่นึกเลยว่าฟาโรจะเลือดเย็นเพียงนี้ปล่อยให้หญิงสาวที่หลงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นทะเลาะตบตีโดนไม่ห้ามปรามใดๆ ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ปล่อยให้ผู้หญิงสองคนต่อสู้กันโดยไม่สนใจใยดี แล้วก็เดินหนีไป รอให้คนอื่นมาเคลียร์อย่างนี้เหรอความผิดหวังพร่างพรูออกมาตามคำพูดของเธอ น้ำเสียงสั่นไหวจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ และผิดหวัง ต่อผู้ชายที่เธอคิดว่าหลงรัก หลงใหลและคลั่งไคล้จนไม่อาจมีใครมาแทนที่เขาได้อย่างแน่นอน อยากระบายน้ำตาหรือไม่ฉันจะให้เธอยืมแผ่นหลังจนกว่าจะพอใจ และหายเศร้าคำพูดของซันเซ็ทราวกับค้อนอันใหญ่ที่ทำลายปราการความแข็งแกร่งจนพังทลาย ศศิชาโผเข้ากอดคนตัวสูงที่ผงะกายเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจบุรุษชุดดำตกตะลึงชั่วครู่และกลับมานิ่งเฉย ปล่อยให้เธอกอดอยู่แบบนี้สักพักก่อนจะยกมือขึ้นกดศีรษะของหญิงสาวให้แนบชิดไหล่ของเขาราวกับปลอบประโลมปล่อยให้เธอระบายน้ำตาที่หลั่งไหลเพราะความเจ็บช้ำใจอย่างนั้นตามต้องการ To be continued... อยากให้ซันเซ็ทเป็นพระเอกจังเลยค่ะ ให้ดี้ไปอยู่อีกโลกนึงเลย 555
โดย: crystal IP: 180.180.232.71 วันที่: 24 มีนาคม 2557 เวลา:21:08:59 น.
อิอิ รอลุ้นกันนะคะ ว่าซันเซ็ท เป็นพระเอก หรือเปล่า
ขอบคุณค่ะ ที่ติดตาม โดย: มาโซคิส IP: 203.130.144.108 วันที่: 25 มีนาคม 2557 เวลา:14:57:57 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |