Group Blog
All Blog
|
มนตราซาตาน... บทที่ 24 ๒๔ ลูกไก่ในกำมือ
ภายในห้องนอนกว้างใหญ่บรรยากาศเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศที่ยังทำงานไม่มีหยุดพักตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อคืนนี้แสงสว่างจากนอกหน้าต่างปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อหญิงวัยกลางคนปรือเปลือกตาตื่นนอนตามความเคยชินดูท่าเช้านี้จะนอนเพลินจนตะวันเริ่มสายโด่งตามความคิดของคุณศจี แม้ท่านจะอายุเฉียดไม้ใกล้ฝั่งทว่าสายตายังมองเห็นทุกสิ่งไม่พร่ามัวมากนัก ไม่ต้องอาศัยแว่นสายตาเฉกเช่นผู้สูงอายุทั่วไปเสียงผ่อนลมหายใจแผ่วเบาข้างๆ ดึงหญิงมากวัยมองตามร่างบอบบางที่หมอบฟุบอยู่กับเตียงนอนร่างกายขยับเคลื่อนไหวตามจังหวะหายใจ เมื่อสำรวจจนแน่ใจว่าเป็นหลานสาว ฝ่ามืออวบอูมก็เอื้อมสัมผัสผมสลวยพร้อมลูบไล้เบาๆ แรงสัมผัสอ่อนโยนทำให้หญิงสาวที่เผลอหลับระหว่างนั่งเฝ้าญาติผู้ใหญ่ทั้งคืนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงียพร้อมยกมือลูบใบหน้าของตนเพื่อขับไล่ความง่วงนอน มานั่งฟุบอะไรตรงนี้ไม่ขึ้นมาหลับนอนข้างยายให้สบายตัวน้ำเสียงเย็นออกปากพูดคุยพร้อมขยับกายลุกขึ้นนั่งโดยมีหลานสาวช่วยประคับประคองอีกแรง ดี้คิดว่าจะนั่งเฝ้าคุณยายสักพักแต่ดันเผลอหลับไปซะก่อนน่ะค่ะ เหนื่อยใช่ไหมเราคงเจอปัญหาหนักสินะ จากสถานการณ์ตึงเครียดเมื่อคืนนี้ ผู้ใหญ่ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์จะออกมาสาหัสเพียงไรหากท่านไม่วิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกไม่สบายตามร่างกายคงอยู่รอคอยหลานสาวจนกว่าจะกลับถึงคฤหาสน์ ศศิชาหลบตานิ่งคิดสีหน้าแสดงออกถึงความละอายใจเมื่อตนเองทำให้บุคคลในครอบครัวต้องปั่นป่วนหลังจากหายตัวออกจากงานเลี้ยงฉลองทว่าความห่วงใยต่อคุณยายมีมากกว่าจะกลัวความผิดเธอจึงหย่อนกายนั่งลงด้านข้างคุณศจีเพื่อสารภาพในสิ่งที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมด ดี้ขอโทษนะคะสำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ดี้ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้น เล่าให้ยายฟังได้ไหมว่าเกิดเรื่องอะไรกับหลานน้ำเสียงเย็นกล่าวอย่างอ่อนโยน อยากรับทราบถึงเหตุผลจากปากของหลานสาวโดยไม่คิดตำหนิสิ่งใดทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีสาเหตุด้วยกันทั้งสิ้น ศศิชาระบายลมหายใจเบาๆพร้อมมองหน้าคุณยายที่ส่งยิ้มอารีให้ เพียงความไว้เนื้อเชื่อใจที่ได้รับทำให้ความกังวลเลือนสลายกลายเป็นกำลังใจพร้อมอธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้คุณศจีรับฟัง ความรู้สึกภายในจิตใจถูกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวตั้งแต่ศศิชาเริ่มคลั่งไคล้ฟาโรจนมีโอกาสได้ร่วมงานกันความหลงใหลที่มอบให้กับดาราชื่อดังทำให้ญาติผู้ใหญ่แอบขำขันและนึกย้อนกลับไปถึงอดีตของตนอารมณ์ชวนฝันของเด็กสาววัยแรกแย้มคงเคย แอบรักไม่ว่าจะคนใกล้ชิด เพื่อนสนิท รุ่นพี่ หรือแม้แต่ดาราขวัญใจ เฉกเช่นหลานสาวคนนี้ แค่คลั่งไคล้ดาราหนุ่มเท่านั้นรึสายตาพราวพร้อมรอยยิ้มกริ่มทำให้ความวูบวาบระอุอุ่นบนนวลหน้าเนียนจนเกิดสีแดงระเรื่อศศิชาหลบสายตารู้ทันของผู้ใหญ่ที่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน เพียงท่าทางที่แสดงออกของเธอคุณศจีคงรับรู้ได้ทันทีว่าความรู้สึกที่มีให้แก่ฟาโรคงไม่ใช่แค่คลั่งไคล้เท่านั้น ค่ะ...แค่ชื่นชอบเขาเท่านั้นเอง แน่ใจรึว่าไม่ได้หลงรักเจ้าหนุ่มนั้นไปแล้ว คุณยาย...เสียงหวานลากยาวส่อแววเขินอายพร้อมเก็บอาการลอบยิ้มที่ปิดอย่างไรก็ไม่มิด แล้วตกลงพ่อหนุ่มนั่นมีความสัมพันธ์กับยายวีตามข่าวที่ได้ยินมาไหมแว่วว่าเป็นคนรักและเป็นเจ้าของช่อดอกไม้แห่งรักด้วยมิใช่รึคำถามของคุณศจีสร้างความหวิวไหวในใจ สีหน้าเก็บอาการเขินเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสลดพร้อมรู้สึกหดหู่ในคราวเดียวกันหากไม่มีต้นตอ ข่าวลือคงไม่เกิด และถ้าไม่มีแรงกระเพื่อม กระแสความแรงคงไม่ดังจนเป็นข่าวใหญ่โตเพียงข้ามคืน ข่าวคงเป็นจริงมั้งคะดี้ก็เห็นทั้งสองสนิทสนมกันดี หากภาพข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงมนตราของซาตานที่เสกร่ายขึ้นมาเธอคงปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เป็นประเด็นในการสนทนาเวลานี้ทว่าความใกล้ชิดของฟาโรกับวรดาก็สนิทชิดเชื้อถึงขั้นไปมาหาสู่และเคยอยู่ด้วยกันภายในห้องสองต่อสองทำให้ความคิดและความจริงตรงกันจนแอบออกปากเข้าข้างตนเองไม่ได้สักทาง ระหว่างพูดจากับญาติผู้ใหญ่ถึงเรื่องราวความในใจเกี่ยวกับฟาโรหัวใจหวั่นไหวกลับมีภาพใครอีกคนทับซ้อนขึ้นมา ซาตานผู้มีท่าทางเย็นชา ทว่าแววตาและรอยยิ้มช่างอ่อนโยนป่านนี้ซันเซ็ทจะเป็นอย่างไรบ้าง และเมื่อคำร้องขอของนอร่าแทรกผ่านอากาศ ทำให้ ความคิดถึง ที่มีต่อซันเซ็ทเลือนสลายในทันที แล้วเมื่อไรหลานจะมาทำงานที่บริษัทเสียทียายอยากให้หลานมารับช่วงกิจการต่อ หากวันหนึ่งวันใดยายเกิดล้มหายตายจากจะได้หมดห่วงคำพูดคล้ายเป็นการสั่งเสียดึงใจกระตุกวูบ ไม่อยากให้เกิดการพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รักอีกแล้ว ทำไมคุณยายพูดอย่างนั้นละคะเราสองคนยังต้องอยู่ด้วยกันอีกนานค่ะ และดี้ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะไปลาออกจากการเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฟาโร คุณศจีมองหลานสาวที่พูดจาหนักแน่นและคิดว่าการตัดสินใจของเธอคือทางแก้ปัญหาของเรื่องราวที่อาจดังกระฉ่อนหลังจากงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้และเพื่อความสบายใจของคุณศจีเอง ท่านจึงไม่คิดห้ามปรามเมื่อต้องการให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ===== ศศิชาออกจากห้องนอนของตนหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสิ้นเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางออกจากบ้านตามที่ได้บอกกล่าวคุณศจีไว้ขณะดึงประตูปิดหางตาก็เห็นใครบางคนเดินมาหยุดยืนด้านข้างฉุดความสนใจให้เธอหันมองเมื่อเห็นว่าเป็นวศินเธอจึงเบือนหน้าหนีและให้ความสนใจกับการปิดประตูต่อจำได้ว่ายังเคืองเขาไม่หายกับเรื่องวิวาทเมื่อคืนนี้ จะไปไหนแต่เช้าฮึวศินเริ่มพูดจาเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสกรุ่นโกรธจากท่าทางและแววตานิ่งเฉยของน้องสาวที่เขาห่วงกังวลที่หนึ่งเพราะความหวังดีซึ่งเขาไม่อยากให้เกิดเรื่องเคืองใจระหว่างศศิชากับมารดาของตนเมื่อคืนก็กลับดึกดื่น ไม่พักสักวันหรือไง เดี๋ยวพี่โทรลางานกับซีให้เอาไหม ไม่เป็นไรค่ะดี้อยากไปเคลียร์ทุกอย่างให้จบ ศศิชาเบี่ยงกายพร้อมเดินหนีพี่ชายโดยไม่มองหน้าเขายังนึกเคืองอย่างไม่ทราบสาเหตุเพียงแค่เขาคือลูกชายของบุคคลที่ทำร้ายเธอเมื่อคืนนี้แม้ไม่อยากพาลพาโลแต่ก็อดไม่ได้เมื่อใบหน้าของทิพปภายังวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเจ็บช้ำเพียงเพราะญาติผู้ใหญ่ไม่เคยรับฟังเหตุผลของเธอก่อนจะว่ากล่าวตักเตือนหรือลงไม้ลงมือสั่งสอน วศินคว้าแขนของน้องสาวไว้ไม่ให้เดินหนีไปไหนในเมื่อเธอยังไม่เข้าใจความหวังดีของเขา โกรธอะไรพี่หรือเปล่าทำไมถึงมึนตึงใส่กันอย่างนี้ เปล่าค่ะศศิชายืนนิ่งกับที่พร้อมดึงมือออกจากการจับกุม ทว่าฝ่ามือของพี่ชายก็ยังดึงรั้งแขนของเธอไว้อย่างนั้นไม่ยอมปล่อยพี่วินมีธุระอะไรกับดี้คะ พี่แค่ห่วงกลัวว่าเราจะโกรธคุณแม่ เลยอยากอธิบายเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นวศินพยายามแก้ตัวแทนมารดาที่ท่านใช้ความรุนแรงเกินเหตุ หลังจากศศิชาหายตัวออกจากงานเลี้ยงและไม่สามารถติดต่อเธอได้เขากับนลัทก็ออกตามหาคนหายจนทั่วบริเวณใกล้เคียงโรงแรม เมื่อไปเจออุบัติเหตุบนท้องถนนที่ทำให้รถติดหนักจนเป็นอัมพาตไม่สามารถตามหาน้องสาวต่อได้ยิ่งสร้างความเป็นห่วงและกังวลเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อสอบถามผู้คนละแวกนั้นที่มุงดูเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา เนื่องจากเป็นเรื่องแปลกเมื่อรถยนต์หลายสิบคันชนกันระเนระนาดและผู้ประสบเหตุต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่สามารถควบคุมรถที่กำลังขับได้อย่างกะทันหันรถแต่ละคันหักเหไปคนละทิศทางราวกับถูกคลื่นลมโหมกระหน่ำซัดไป โดยชายคนหนึ่งอ้างว่ารถยนต์ของเขาเกือบชนหญิงสาวที่เดินทอดน่องอยู่ริมฟุตปาธ วศินจึงอดคิดไม่ได้ว่าบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงอาจเป็นน้องสาวของตนทว่าไม่มีใครพบเจอหรือได้เบาะแสของหญิงสาวคนนั้นหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายสงบลงทำให้วศินใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย ศศิชารับฟังเรื่องราวที่พี่ชายสาธยายนิ่งๆไม่แสดงอาการประหลาดใจให้ผิดสังเกต เมื่อสถานที่และช่วงเวลาที่วศินบอกเล่าเกี่ยวกับอุบัติเหตุเป็นจุดเดียวกันกับที่เธอเจอคู่ปรับระหว่างซาตานกับปีศาจหรือเพราะการต่อสู้ของทั้งสองทำให้อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้ พี่วินไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ดี้ดูแลตัวเองได้ ดี้ไม่เป็นไร แล้วตอนนี้ดี้ก็กำลังจะไปลาออกเพื่อมารับหน้าที่อย่างที่คุณยายหวังไว้ฝากบอกคุณป้าด้วยนะคะว่าดี้ไม่ได้มีเจตนาสร้างความกังวลใจให้และไม่ได้ติดใจอะไรทั้งสิ้นมันสมควรแล้วกับการถูกลงโทษอย่างนั้นศศิชาพยายามสลัดความอคติออกจากใจและนึกเสียว่าญาติผู้ใหญ่สั่งสอนเพราะหวังดีอย่างที่วศินบอกกล่าว ไม่ติดใจอะไรก็ดีแล้วเอาเป็นว่าพี่ขอไถ่โทษแทนคุณแม่โดยการขับรถพาเราไปส่งที่บริษัท ตกลงไหมวศินเขย่าแขนของน้องสาวเบาๆ ให้เธอหันมาสบตากับเขาและตอบตกลงตามที่ร้องขอศศิชาเหล่มองพี่ชายและฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้เกิดความหมางใจต่อกันอีก ระหว่างทั้งคู่เดินลงจากบันไดหินอ่อนก็เห็นหญิงสาวหุ่นเพรียวย่างกรายเข้ามาจากประตูคฤหาสน์วรดาเสยผมดัดลอนใหญ่ลวกๆ และทุบเบาๆ ตรงท้ายทอยคลายอาการมึนเมาที่ยังไม่สร่างซา เมื่อเงยหน้าอีกครั้งก็เจอพี่น้องของตนเดินลงจากบันไดมาพร้อมกัน สองพี่น้องจะไปไหนกันเหรอวรดาทักทายขณะหยิบสายสะพายของกระเป๋าใบพอเหมาะออกจากไหล่และปล่อยลงข้างลำตัว ทำไมกลับมาป่านนี้ยายวีหายไปทั้งคืนแถมไม่ติดต่อกลับบ้านจนคุณแม่ปวดหัว วศินไม่ตอบคำถามของน้องสาวแต่กลับไต่สวนเธอแทน ศศิชาชักแขนออกจากฝ่ามือของพี่ชายเมื่อเห็นวรดาเหลือบมองพร้อมลอบยิ้มเธอคงต้องปล่อยให้พี่น้องได้ทักทายถามไถ่ถึงพฤติกรรมของวรดาที่เริ่มเหลวไหลมากขึ้นระยะหลังมานี้หล่อนเที่ยวกลางคืนแทบทุกวันโดยไม่บอกกล่าวให้คนในครอบครัวรับทราบสักคน วีไปหาฟาโรพอดีมีเรื่องเคลียร์กันนิดหน่อย เพียงได้ยินชื่อของคนที่มีผลต่อจิตใจอย่างมากก็ทำให้ศศิชานิ่งเงียบและเงี่ยหูฟังทุกคำพูดของวรดาทว่ามีเพียงเท่านั้นที่หลุดออกจากปากของหล่อน ดวงหน้าคมด้วยเครื่องสำอางแต่งเข้มส่อแววไม่สู้ดีคล้ายมีเรื่องไม่สบายใจจึงไม่มีใครซักถามต่อปล่อยให้วรดาเดินสวนทางขึ้นห้องส่วนตัวด้วยสภาพอิดโรย วศินละสายตาจากน้องสาวในไส้และมองศศิชาพร้อมพยักหน้าให้เธอเดินตามออกจากคฤหาสน์เมื่อเห็นว่าเสียเวลามากแล้ว ระหว่างทางเดินจวนจะถึงรถยนต์ของวศินโทรศัพท์มือถือส่งเสียงเพลงรอให้เจ้าของเครื่องรับสายศศิชาล้วงหยิบเครื่องมือสื่อสารจากกระเป๋าสะพายใบโปรดและกดรับสายของเพื่อนสนิททันทียังไม่ทันได้เอ่ยทักทายนลัทก็ตวาดผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นชุดจนหูเกือบชา ศศิชายกมือปิดปากพยายามอดกลั้นไม่ให้เสียงหัวเราะเล็ดรอดเกรงว่าเพื่อนในสายจะยิ่งทวีความกรุ่นโกรธกว่าเดิมเนื่องจากเธอไม่ติดต่อกลับหานลัทเลยทุกทางตั้งแต่เมื่อคืนนี้ แม้ศศิชารู้ดีว่าเพื่อนเป็นห่วงกังวลมากเพียงใดแต่ ณจุดนั้นด้วยหลากหลายอารมณ์ถาโถมเธอก็ไม่มีกระใจจะรับสายหรือตอบข้อความของใครทั้งนั้น หยุดบ่นซะทีน่าเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่บริษัท ดี้มีเรื่องอยากบอกซีศศิชาตัดบทเมื่อเห็นแววความโกรธของนลัทไม่ยุติลงง่ายๆ หวังเพียงเพื่อนจะเข้าใจต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออยากสารภาพในกี่ไม่อีกอึดใจข้างหน้านี้ ===== รถยนต์ทรงยุโรปสีขาวสว่างค่อยๆขับเคลื่อนออกจากหน้าตึกสูงตระหง่านเมื่อส่งหญิงสาวลงยังปลายทางเป็นที่เรียบร้อยตามตั้งใจศศิชารอคอยให้รถยนต์ของพี่ชายห่างไกลจนพ้นสายตาจึงย่างกรายเดินเข้าภายในอาคาร ความปั้นปึงที่เคยมีใส่พี่ชายคล้ายจะเลือนสลายจนหมดสิ้นตั้งแต่ศศิชาก้าวขึ้นรถยนต์ของเขาวศินพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบเมื่อต้องพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดระหว่างเธอกับมารดาของเขาโดยวศินอยากรับรู้ถึงความรู้สึกของน้องสาวที่มีต่อมารดาเกรงว่าเธอจะโกรธเคืองญาติผู้ใหญ่จนไม่ยอมให้อภัย ตลอดการเดินทางวศินเล่าเรื่องราวต่างๆขณะตามหาเธอให้วุ่นเมื่อคืนนี้จนศศิชาเองรู้สึกผิดอยู่ในใจทว่าเธอคงบอกความจริงกับเขาไม่ได้ทั้งเรื่องของซันเซ็ทและภาพมายาที่ถูกซาตานเสกร่ายให้เป็นฟาโรเมื่อคืนนี้ศศิชาได้แต่นั่งนิ่งเก็บงำความลับไว้ต่อไป ร่างบอบบางเดินผ่านประตูกระจกที่เลื่อนเปิดอัตโนมัติและมีหน่วยรักษาความปลอดภัยแย้มยิ้มทักทายศศิชาส่งยิ้มตอบกลับและค่อยๆ หุบยิ้มเมื่อเดินผ่านในระยะหนึ่ง เธอสาวเท้าเดินด้วยความคิดหลากหลายอย่างวนเวียนในใจกังวลสารพัดว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง สาเหตุที่เธอออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้าส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากพบเจอบรรดาแฟนคลับของฟาโรเกรงว่าเธออาจถูกทึ้งร่างเป็นชิ้น โทษฐานมีข่าวโดยที่ดาราชื่อดังไม่รู้ตัวหากเลี่ยงการพบเจอกับฟาโรซึ่งหน้าได้คงดี ศศิชาเดินไปหยุดยืนหน้าลิฟต์เพื่อรอคอยประตูเลื่อนเปิดสติสัมปชัญญะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มัวแต่คิดทวนถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นจนไม่ทันเห็นใครบางคนเดินมาหยุดยืนด้านข้าง เหม่ออะไรอยู่ล่ะครับมายเฟรนด์น้ำเสียงละมุนดึงให้หญิงสาวที่วนเวียนอยู่ในห้วงภวังค์หันมอง อ้าว...ไมเคิลมาแต่เช้าเลย วันนี้มีคิวถ่ายแบบเหรอคะ ศศิชาส่งยิ้มเลิ่กลั่กเมื่อถูกทักแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวสายตาหยาดเยิ้มของชายหนุ่มที่จ้องมาทำให้คนถูกมองรู้สึกประหม่าในทันที นายแบบหนุ่มผายมือเชิญให้หญิงสาวก้าวเดินก่อนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกศศิชาไม่ปฏิเสธที่จะก้าวเท้าทันทีอย่างให้เกียรติจนทั้งสองเข้าไปยืนอยู่ภายในลิฟต์เป็นที่เรียบร้อยไมเคิลถามไถ่ถึงชั้นปลายทางของหญิงสาวก่อนจะกดปุ่มตามเลขนั้นและกดปิดประตูพร้อมเดินทาง ผมไม่มีคิวหรอกครับวันนี้ผมแค่แวะมาหาคุณ แววตากรุ้มกริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังจนคู่สนทนาแปลกใจเขาต้องการมาหาเธอด้วยเรื่องใด เกิดเป็นข้อสงสัยให้ศศิชาเลิกคิ้วเรียวคล้ายถามไถ่ผมรู้สึกคิดถึงคุณอย่างอธิบายไม่ได้ ไม่รู้เพราะอะไรดวงตาคมเบิกกว้างจนนัยน์ตาหวานไหวระริก หัวใจเต้นตึกตักและยอมเลี่ยงหลบตาเมื่อไมเคิลจดจ้องเธอไม่มีกะพริบ คุณพูดเล่นอย่างนี้ดี้ก็เขินแย่สิคะ ผมไม่เคยล้อเล่นต่อความรู้สึกที่มีให้คุณนะเลดี้คุณทำให้ผมหลงใหลในรอยยิ้มและความร่าเริง แม้จะเคยได้ยินเพื่อนร่วมงานแอบซุบซิบถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบายของไมเคิลมาบ้างทว่าน้ำเสียงและแววตาจริงจังกลับทำให้เผลอเข้าใจว่าเขาตั้งใจบอกกล่าวอย่างนั้นจริงๆจนไม่น่าจะเสแสร้งไปได้ ศศิชาพยายามควบคุมการเต้นของหัวใจให้คงที่ไม่อยากให้มันสั่นไหวไปมากกว่านี้เธอภาวนาขอให้การเคลื่อนที่ของลิฟต์ถึงชั้นปลายทางโดยเร็ว ดวงตาคมหวานเสมองไฟสว่างสีส้มที่บอกลำดับชั้นแก้เขินพร้อมทำใจดีสู้เสือสนทนากับเขาต่อ คุณพูดเหมือนดี้ทำคุณไสยใส่อย่างนั้นล่ะศศิชาพูดจาโดยไม่ได้หันมองคนด้านข้าง ทว่าในความรู้สึกจับสัมผัสได้ว่าไมเคิลค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ๆ และยังจดจ้องเธอไม่วางตา ความร้อนวูบวาบแผ่ซ่านตามร่างกายจนถึงใบหน้าจนอยากยุติความรู้สึกกดดันเสียทีและเป็นไปตามหวังเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมใครบางคนเดินเข้ามายืนแทรกตรงกลางระหว่างชายหญิงทั้งสอง ศศิชาขยับถอยหลังจนติดผนังลิฟต์ไมเคิลก็หลบไปยืนอีกฟากอย่างนึกเสียดายโอกาสในใจและแค้นเคืองชายหนุ่มอีกคนที่เข้ามาขัดจังหวะแผนตีสนิทหลอกให้เหยื่อตายใจที่เกือบสำเร็จอยู่รอมร่อ โทษทีที่เข้ามาขัดจังหวะทำเหมือนฉันเป็นสสารของโลกก็ได้นะ จะได้คุยกันต่ออย่างสบายใจ ฟาโรกล่าวเสียงเรียบพร้อมยกมือกอดอกและมองไฟลิฟต์เคลื่อนที่ทีละชั้นแม้จะรู้สึกว่าตนเองเป็นก้างขวางคออย่างนั้นก็ตาม หนีเสือปะจระเข้ชัดๆหญิงสาวนึกคิด รู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ขับขันเมื่อยืนท่ามกลางกระแสอำมหิตของชายหนุ่มทั้งสองที่ค่อยๆแผ่ซ่านจากสีหน้าและการวางตัว ศศิชาสะดุ้งสุดตัวคล้ายตื่นตระหนกเมื่อเสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือดังเตือนให้รับสายเธอยกเครื่องมือสื่อสารกดรับสายของนลัทด้วยมือไม้สั่นเทา ดี้กำลังจะถึงศศิชาพูดคุยกับเพื่อนและบอกตำแหน่งของเธอให้นลัทรับรู้ ทว่าฟาโรก็ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์มือถือจากเธอทันที ผู้จัดการยังไปหาคุณไม่ได้ผมมีเรื่องคุยกับเธอก่อน เสร็จธุระเมื่อไหร่จะรีบพาไปส่งไม่รอให้ปลายสายได้ทักท้วงเขาก็กดปิดเครื่องทันทีและเก็บโทรศัพท์ของเธอไว้ราวกับเป็นสมบัติส่วนตัว เผด็จการ...ศศิชาแอบบ่นอย่างแผ่วเบาทำให้ไมเคิลที่ได้ยินหลุดขำ ทว่าฟาโรกลับทำเสมือนไม่รู้สึกรู้สาใดๆเขายังคงยืนกอดอกนิ่งเฉยและให้ความสนใจยังไฟสีส้มที่ระบุหมายเลขจนสิ้นสุดยังชั้นปลายทางประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมฟาโรคว้าแขนของหญิงสาวให้เดินตามอย่างกระชั้นชิด ศศิชาทำหน้าเหรอหรามองฟาโรทีมองไมเคิลทีอย่างสับสนและไม่เข้าใจความต้องการของเขาไมเคิลเหยียดยิ้มและส่งสายตาฟาดฟันให้ฟาโรที่ออกปากขอหญิงสาวในกำมือ โทษนะไมเคิลฉันขอยืมตัวผู้จัดการของฉันสักชั่วโมงหรืออาจมากกว่านั้นหากไม่บรรลุเป้าหมายฟาโรเหล่มองชายหนุ่มอีกคนที่ยักไหล่และยกคิ้วสูงในมาดกวนใส่ก่อนจะหันหาศศิชาด้วยสายตาหยาดหยด ผมรอพบคุณที่ห้องผู้จัดการนลัทนะครับเลดี้ไม่ทันสิ้นเสียงไมเคิล ฟาโรก็ออกแรงกระชากแขนลูกไก่ในกำมือให้เดินตามอย่างรวดเร็ว แม้เธอจะขัดขืนและแสดงความไม่พอใจอยู่บ้างทว่าต้องยอมจำนนต่อเขาด้วยแรงหนักที่บีบข้อมือมากขึ้นโดยไม่ทราบว่าหนทางข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฟาโร!คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง!ศศิชาพยายามสะบัดแขนให้พ้นจากฝ่ามืออบอุ่นที่บีบรัดไว้ราวกับกลัวเธอหายสาบสูญ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอไม่ต้องห่วงหรอก หากเธอไม่ดื้อก็อยู่กับฉันไม่นาน คงมีเวลาไปหาไอ้ฝรั่งขี้นกนั่นน้ำเสียงกระแทกกระทั้นเหน็บแหนมโดยฟาโรเองก็ไม่ทราบว่าหงุดหงิดด้วยเรื่องใดเพียงแค่เห็นหน้า ไอ้ฝรั่งขี้นก ที่เขาหมายถึงก็พานโมโหโกรธาอย่างไม่ทราบสาเหตุและแรงฝืนของหญิงสาวที่ถูกฉุดกระชากให้เดินตามอย่างไม่ลดราวาศอก ยิ่งทำให้เขาเดือดดาลอีกเท่าตัว มีอะไรคุยกันตรงนี้ก็ได้ไม่เห็นต้องลากกันแบบนี้ ฉันเจ็บ! เธอนี่วางตัวเก่งนะต่อหน้าไมเคิลยังทำเป็นใสซื่ออยู่เลย พออยู่กับฉันทำไมฤทธิ์เยอะนักล่ะ เพราะคุณมันป่าเถื่อน!ปล่อยฉันซะทีสิ! หากคุณยังลากฉันอยู่แบบนี้รับรองว่าคุณเจ็บตัวแน่!ยังไม่ทันได้ออกแรงประทุษร้ายฟาโรดังที่คิด ร่างบอบบางของเธอก็ถูกเหวี่ยงให้เข้าห้องที่เปิดออกอย่างรวดเร็วโดยไม่ยอมปล่อยข้อแขนที่เจ็บปวดจนกระดูกแทบหักเสียที ฟาโรปิดประตูห้องพร้อมกดล็อกทันทีและจับหญิงสาวลากให้เดินต่อห้องเก็บเสื้อผ้าซึ่งเป็นห้องประจำที่เขาชอบมาหลบนอนบ่อยๆและเป็นห้องที่ศศิชาคุ้นชินเมื่อเธอลักลอบเข้ามาแอบดูฟาโรเช่นกันร่างอ้อนแอ้นถูกผลักลงไปกองบนโซฟา เมื่อเห็นสีหน้าดุดันของดาราหนุ่มรวมถึงตนเองตกอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานศศิชารีบดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันทีเตรียมวิ่งหนี ทว่ากลับถูกฟาโรคว้าแขนไว้พร้อมรวบจับหัวไหล่สองข้างและดันร่างบอบบางไปยืนชิดติดกำแพง เธอยังไปไหนไม่ได้นัยน์ตาสีน้ำทะเลจ้องมองพียงนิ่งๆทว่ากลับรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นราวกับไม่คิดปรานีใดๆ คุณมีอะไรกับฉันศศิชาหลบเลี่ยงสายตาทรงเสน่ห์คู่นั้นขณะพูดจา หากเธอเลิกขัดขืนอาจเป็นผลดีต่อตนเองและคงช่วยลดแรงยั่วยุของฟาโรได้บ้างไม่มากก็น้อย เมื่อเธอยอมฝืนใจสงบนิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามคาดฟาโรคลายแรงลงแต่ยังไม่ถึงกับปล่อยไหล่กลมกลึงของเธอเสียทีเดียว เขายอมปล่อยมือเพียงข้างเดียวเพื่อหยิบอะไรบางอย่างจากด้านหลังพับหนังสือพิมพ์ถูกดึงออกจากกางเกงยีนส์สีดำที่เหน็บไว้พร้อมกับเปิดหน้าที่กำลังจะเป็นประเด็นในการซักถามหลังจากนี้อย่างจงใจ ช่วยอธิบายให้ฟังทีว่าเธอทำได้ไงให้ฉันไปเดินเป็นคู่ควงในงานวันเกิดของทายาทเศรษฐีศศิชาอึกอักเล็กน้อยก่อนจะเลือกนิ่งเฉยและไม่พูดจาในสิ่งซึ่งเธอรู้ดีแต่ไม่อาจอธิบายให้ใครรับรู้ได้ว่าเรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะซาตานเป็นต้นเหตุ ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไร แน่ใจเหรอว่าเธอไม่รู้!ฟาโรตวาดเสียงแข็งพร้อมเพิ่มแรงบีบไหล่ของเธออีกครั้งถึงอย่างไรวันนี้ต้องคาดคั้นเอาความจริงให้ได้ คำพูดของอาร์ตวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา เธอไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ศศิชาเงียบกริบไม่ปริปากพูดจาสักคำดวงตาคมหวานเบือนหนีการคาดคั้นและปล่อยให้บุคคลตรงหน้าจ้องมองอยู่อย่างนั้นไม่เลิกรา ที่ไม่พูดเพราะเธอไม่รู้เรื่องหรือไม่อยากอธิบายกันแน่หญิงสาวเลื่อนสายตาหวาดหวั่นมองชายหนุ่มตรงหน้าที่ตั้งคำถาม เหตุใดฟาโรจึงพูดจาเหมือนรู้อะไรมาเช่นนี้เมื่อคืนนี้ฉันนอนเป็นตายอยู่ที่คอนโดแต่กลับมีข่าวเธอเดินควงฉันหน้าสล้อนอยู่ในงานเลี้ยงของตัวเองแบบนี้ยังไม่รู้เรื่องอีกงั้นเหรอ เธอเป็นแม่มดหรือไงผู้จัดการ ฟาโรเหยียดยิ้มพร้อมพูดจาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคล้ายกวนประสาทอยากให้เธอปะทุอารมณ์โกรธและยอมเผยธาตุแท้ออกมาหากต้องเจ็บตัวจนเข้าโรงพยาบาลอย่างอาร์ตเขาก็พร้อมรับทุกสถานการณ์เพียงได้รู้ว่าเธอทำได้อย่างไรให้เขาไปปรากฏอยู่ในงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ ฉันไม่มีอะไรอธิบายทั้งนั้นเพราะทุกสิ่งที่ใครต่อใครได้เห็นรวมทั้งคุณด้วย มันก็แค่ภาพลวงตา ภาพลวงตางั้นเหรอแล้วใครกันล่ะที่ทำภาพเหล่านั้นขึ้นมา ฟาโรดันร่างบอบบางให้ติดข้างกำแพงเมื่อเริ่มอดทนต่อไม่ไหว ฉันบอกให้ปล่อย!ศศิชาเริ่มขัดขืนอีกครั้ง หากยังซักถามกันอยู่แบบนี้เธอคงได้หลุดพูดความจริงออกไปแม้เขาอาจไม่เชื่อ แต่คงเป็นวิธีเดียวที่จะตัดปัญหาได้ดีที่สุดเวลานี้ หญิงสาวผลักมือของดาราหนุ่มทว่าเขาก็ยังเหนี่ยวรั้งเธอไว้อย่างนั้นจนทั้งสองเริ่มยื้อยุดแรงขืนกันจนความโกรธปะทุออกมา ฟาโรโน้มใบหน้าก้มต่ำพลางซุกไซร้ไปตามลำคองามระหงที่ไร้เครื่องประดับใดๆเมื่อเธอถอดสร้อยหินถักเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ศศิชาพยายามผลักไสแม้หัวใจจะเต้นระรัวรุนแรงไม่คิดว่าเขาจะใช้ไม้นี้กับเธอ หยุดเดี๋ยวนี้นะฟาโร! แน่จริงก็ลองทำร้ายผมแบบที่ทำกับอาร์ตสิฟาโรไม่ผ่อนกำลังตามคำร้องขอของเธอ ทว่ากลับยิ่งรุกเร้าหนักขึ้นมือของศศิชาที่พยายามทุบร่างกายเขาก็ถูกรวบไว้และดันจนติดกำแพง แรงกดหนักทำให้เธอดิ้นไม่หลุดสองขาที่เหลือพยายามเตะและดันผู้ชายป่าเถื่อนทว่าเขาก็ใช้หน้าแข้งกดทับขาเธอเอาไว้จนศศิชาถูกตรึงอยู่ข้างกำแพงอย่างนั้น เมื่อใบหน้าคมคายเลื่อนไล้จากลำคอมาจนถึงดวงหน้าหวานและพวงแก้มเนียนใสริมฝีปากเร่าร้อนประกบจูบปากบางสีชมพูระเรื่อจนได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงชั่วครู่ก่อนจะนิ่งสนิทคล้ายหลงเคลิ้มไปกับความวาบหวามที่เขาหยิบยื่นให้แรงกดหนักทั้งแขนและขาค่อยๆผ่อนลงตามความรู้สึกวูบวาบที่ไหลเวียนในร่างกายจนร้อนระอุ ทว่า... โอ๊ย!!ฟาโรร้องลั่นพร้อมปล่อยหญิงสาวจนเป็นอิสระและเธอก็วิ่งหนีออกมาตั้งหลักมองดูดาราหนุ่มยกนิ้วปาดที่ริมฝีปากพร้อมดุนลิ้นแตะสัมผัสรสชาติเลือดที่ศศิชากัดประทับร่องรอยเอาไว้เธอนี่เอาตัวรอดเก่งนักนะไหนว่าหลงใหลฉันซะเต็มประดากับเรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องขัดขืน ศศิชายืนมองดาราหนุ่มด้วยความเจ็บแปลบหัวใจยังเต้นระส่ำระสาย ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาก็ยังดูถูกเธอเสมอ ฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรแล้วทำไมถึงคิดว่าฉันมีพลังบ้าๆแบบนั้น หรืออยากกล่าวหาว่าฉันเป็นแม่มดก็ตามใจคุณแต่ฉันขอบอกไว้ตรงนี้ว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องทั้งหมดมันมีอะไรที่คุณยังไม่รู้อีกมากมายในโลกนี้ ศศิชาก้มเก็บกระเป๋าสะพายที่หล่นอยู่กลางห้องตั้งแต่ตอนที่ถูกกระชากเข้ามาเธอล้วงหยิบผ้าพันคอไหมพรมที่ตั้งใจถักและมอบให้เขาในวันวาเลนไทน์ทว่าดันเกิดเรื่องเสียก่อน ผ้าพันคอผืนนี้ฉันจงใจถักเพื่อมอบให้กับดาราชื่อดังที่หลงใหลมานานและเขาจะยังเป็นฮีโร่ของฉันตลอดไป ผ้าพันคอถูกวางลงบนชั้นวางของก่อนศศิชาจะหันหลังและเดินออกจากห้องปล่อยให้ฟาโรยืนนิ่งๆ พร้อมทิ้งแขนลงข้างลำตัวพลางคิดในใจ ฉันกำลังคิดและทำบ้าอะไรอยู่เมื่อประตูห้องปิดลงฟาโรได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงตัดความรู้สึกวูบวาบในกายที่ยังปะทุขึ้นมาเมื่อนึกถึงรอยจูบและกลิ่นหอมจากเรือนร่างของเธอ ฟาโรสงบสติอารมณ์อยู่ชั่วครู่ก่อนจะสาวเท้าเดินไปหยุดตรงชั้นวางของและยกผืนผ้าพันคอไหมพรมขึ้นมาสำรวจจนเต็มตาแม้จะเป็นงานฝีมือที่ไม่ได้ยากเย็นอะไร ทว่าเธอก็เต็มใจทำเพื่อมอบมันให้แก่เขาจริงๆ To be continued... อ่านบทนี้กันให้ดีๆ นะคะ เดี๋ยว บทหน้ามาถามคำถาม ชิงรางวัลกันค่ะ
โดย: มาโซคิส วันที่: 7 เมษายน 2557 เวลา:21:02:48 น.
โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 7 เมษายน 2557 เวลา:23:11:09 น.
คุณแกะๆๆ หายไปไหมมาคะ ไม่ไปถนนเลย คิดถึงๆ
โดย: มาโซคิส IP: 124.122.35.233 วันที่: 7 เมษายน 2557 เวลา:23:30:21 น.
ฟาโรรร โหดร้ายย
ส่วนนายฝรั่งขี้นกต้องมีเบื้องหลังอะไบางอย่างแน่ๆ โดย: นู๋บิว IP: 1.47.69.161 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:7:30:23 น.
ฟาโรโหดกับหนูดี้เหลือเกิน
โดย: mooda IP: 223.205.69.104 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:7:54:17 น.
ฟาโรยังคงความปากร้ายและทะนงตนค่ะ แต่ก็แอบหวั่นไหวแล้ว7666น้าาาาา
โดย: มาโซคิส IP: 124.121.40.103 วันที่: 8 เมษายน 2557 เวลา:12:50:14 น.
7666 คืออะไรอ่ะคะ คุณมาโซ???
โดย: crystal IP: 101.109.251.32 วันที่: 10 เมษายน 2557 เวลา:14:36:27 น.
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
คุณ เอมี่ 7666 สงสัยมาโซ ใส่โค้ดตอนโพสติดไปค่ะ ฮ่าๆ โดย: มาโซคิส IP: 110.168.50.43 วันที่: 13 เมษายน 2557 เวลา:21:24:29 น.
กรี๊ดดด ฟาโร โหดร้ายมาก
โดย: mint IP: 58.136.222.67 วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:14:08:39 น.
ฟาโรร้ายกาจจริงๆ นะคะ อิอิ
โดย: มาโซคิส IP: 49.230.122.173 วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:7:36:05 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |