Group Blog
|
You're my Idol ขอเพ้อรักแค่..หมดใจ Chapter 5 Chapter 5
ฉันกับไนท์กี้ออกจากอพาร์ตเม้นท์ของฮีชอลด้วยชุดคู่แฝด..ชายหน้าสวยจัดการแปลงกายเราสองคนตามใจเจ๊สั่งเรียบร้อย ด้วยเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสามส่วนยาวแค่เข่า ไนท์กี้ใส่รองเท้าหนังหัวโต ส่วนฉันก็ผ้าใบคู่ใจที่ใส่มาจากเมืองไทยแว่นตาสีดำพร้อมหมวกปีกยาวที่เก็บรวบผมยาวไว้หมดเพื่ออำพรางตัว เราสองคนเดินไปด้วยความสูงเลื่อมล้ำต่างกันชัดเจนโดยฉันสูงแค่ระดับต้นคอของสาวหล่อหน้าใส ทำไมเขาถึงสูงได้ขนาดนี้นะ สถานที่เดิมที่ฉันต้องกลับไปเหยียบอีกครั้งก็คือเมียงดง เพราะเป็นสถานที่ใกล้ที่สุดและมีทุกสิ่งให้เลือกสันฉันเดินตามหลังไนท์กี้ที่เอื้อมมือมาจับกุมมือไว้แน่นเกรงว่าจะหลงทางจากกันเนื่องจากผู้คนพลุกพล่านชุลมุนวุ่นวายเป็นอย่างมากเขาพาเดินเข้าซอยนั้นออกซอยนี้ ทะลุไปทุกตรอกซอกซอยจนเราทั้งคู่ถือถุงสัมภาระข้าวของเครื่องใช้เต็มไม้เต็มมือไปหมด พอแล้วมั้งไนท์กี้มันเยอะจนเงินเก็บของฉันคงหมดธนาคารแล้วล่ะ ฉันหยุดยืนนิ่งๆแล้วขืนแรงดึงมือที่กุมไว้ให้เขาหยุดเดินฟังฉันพูดบ้าง เธอจะกลัวอะไรอบเชยฉันซื้อของพวกนี้ให้เป็นการตอบแทนที่เธอนั่งเครื่องบินเป็นเพื่อนฉันกลับมาเกาหลีไม่ต้องห่วงฉันไม่คิดเงิน แล้วก็ไม่มีดอกเบี้ยด้วย รับประกันได้ สาวหล่อเอ่ยพูดแต่สายตากลับมองหาอะไรบางอย่างจนฉันต้องมองตามสายตาเขาด้วยความแปลกใจ แล้วนายมองหาอะไร ฉันตั้งคำถามส่งให้คนที่กุมมือไว้ไม่ยอมปล่อย ฉันหิวแล้วกำลังมองหาร้านอาหารประจำ มันต้องเดินไปทางไหนซักทางฉันพยักหน้าเข้าใจเหตุผลและช่วยเขามองหาอีกแรง แต่คงไม่ช่วยอะไรเท่าไรเพราะแถวนี้ฉันเคยมาเหยียบแค่สองหนเท่านั้น เราสองคนเดินเข้ายังร้านอาหารที่ไนท์กี้มองหาจนเจอเขาจัดการสั่งเมนูให้ฉันเรียบร้อยข้าวหน้าหมูตุ๋นเกาหลีเป็นอาหารจานแรกที่รู้สึกว่ารสชาติเหมือนร้านสกายลาร์คเมืองไทยทำให้กินได้คล่องคอ เมื่อจัดการจนอิ่มท้องเราทั้งคู่เดินออกจากร้านโดยที่ไนท์กี้ไม่ลืมดึงมือฉันไปกุมไว้ตามเดิมบรรยายกาศมันทำให้ชวนฝันเพ้อไปไกลว่าเราสองคนเหมือนเป็นคู่รักหวานแหว๋วที่เดินจับมือกันมาช็อปปิ้งไม่มีผิดจนฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เดินก้มหน้ามองพื้นดินอย่างรู้สึกเขินอายขึ้นมา เป็นอะไรอบเชย น้ำเสียงห้าวเอ่ยขึ้นทำให้สิ่งที่กำลังเพ้อฝันหลุดลอยออกนอกโลกกลับมามีสติปัจจุบันอีกครั้ง เอ่อ ปละ เปล่า ฉันปฎิเสธตอบคำถามด้วยเสียงอึกอักทำให้สายตาคนข้างๆ มองมาอย่างหาสาเหตุ แน่ใจเหรอ ทำไมดูเธอแปลกๆยังกับคนบ้าเดินยิ้มอยู่ได้ คำพูดทำร้ายจิตใจเหมือนโดนฟ้าผ่าจนแทบสำลักน้ำในแก้วที่ถืออกมาจากร้านอาหารเนื่องจากไม่อยากทิ้งเพราะความเสียดาย ... อยากไปเที่ยวไหนฉันจะพาไปถือเป็นโบนัสขอบใจก่อนกลับเมืองไทยแล้วกันฉันหันไปมองสบตาใบหน้าใส ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อกี้ยังต่อว่าอยู่ไม่ทันขาดคำแต่ตอนนี้กลับใจดีจะพาไปเที่ยวขึ้นมาฉันปรับอารมณ์ตามไม่ทันจริงๆ ได้แต่ยืนนิ่งๆ คิดถึงสถานที่ ที่น่าสนใจที่เคยแวะเข้าไปสำรวจจากในอินเตอร์เน็ตถึงแหล่งท่องเที่ยวของประเทศเกาหลีเมื่อครั้งที่เก็บเงินไว้เพื่อมาเที่ยวที่นี้ให้ได้ ... คิดเยอะอีกแล้วมานี่ฉันพาไปเอง ไนท์กี้ไม่รอให้ฉันได้คิดอะไรก่อน เขาดึงมือแล้วลากให้เดินตามไปอย่างรวดเร็ว ฉันยืนรอไนท์กี้ที่เดินหิ้วสัมภาระที่ซื้อมาขึ้นไปเก็บยังอพาร์ตเม้นต์ของฮีชอลซักพักเขาก็กลับลงมาหยุดยืนเบื้องหน้า ส่งสัญญาณให้เดินตามไปยังริมถนนเพื่อเรียกรถแท็กซี่ฉันได้ยินไนท์กี้พูดเป็นภาษาเกาหลีกับคนขับรถแท็กซี่ว่ายงเพียงแว่วๆก่อนจะดันร่างกายน้อยๆ เข้าไปนั่งในรถโดยมีไนท์กี้ตามเข้ามาติดๆ แท็กซี่เคลื่อนตัวออกรถทันทีเมื่อประตูถูกดึงปิดสนิทไนท์กี้อธิบายให้ฟังว่า ยงเพียง สกี รีสอร์ทเป็นสถานที่เล่นสกีหิมะที่นิยมมากที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดคังวอนโดอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางทิศตะวันออกใช้เวลาเดินทางประมาณ2-3 ชั่วโมง เขาอธิบายให้ฟังแค่นั้นก่อนไหลตัวลงมาพิงซบลงบนไหล่ ดูท่าทางเขาคงไม่ได้เมาแต่เครื่องบินอย่างเดียวแล้วล่ะเกรงว่ากับรถแท็กซี่ก็คงจะเมามากมายเช่นกัน เลยจำใจต้องปล่อยให้เขาครอบครองไหล่ฉันไว้อย่างนั้นตลอดการเดินทาง รถแล่นมาจอดยังสถานที่ ที่ต้องการจากที่นั่งจับเวลาระหว่างขึ้นรถจนมาถึงยงเพียง สกี รีสอร์ท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่งฉันกับไนท์กี้พาร่างกายลงจากรถยืนบนพื้นดิน หน้าที่ต่อไปคือช่วยประคองสาวหล่อหน้าใสเดินเข้าไปยังด้านหน้าของยงเพียง นี่นายเมารถด้วยหรือไงไนท์กี้ อืม เขาตอบคำถามอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลใจเลย แบบนี้จะไปไหนแต่ละทีก็ลำบากแย่สิ แล้วทำไมไม่พกยาแก้เมารถเมาเรือไว้ด้วยล่ะ ฉันไม่ชอบกินยาอย่ายุ่งกับฉันเลยน่าเสียงห้าวแสดงความรำคาญตัดพ้อเล็กน้อยจนฉันต้องหยุดปากสงบนิ่งห้ามส่งเสียงอะไรออกมาอีก ฉันประคองไนท์กี้เดินจนเขาหยุดยืนอยู่หน้าล๊อบบี้ทางเข้าที่ขึ้นมายังชั้นสองไนท์กี้เป็นคนเข้าไปเจรจาจัดการเสร็จสรรพก่อนเดินออกมาจูงมือพาฉันให้เดินตามเขาอย่างว่าง่ายสถานที่โดยรอบจะเป็นกระจกมองเห็นบรรยากาศภายนอกชัดเจน พื้นดินสีขาวคล้ายเกร็ดหิมะปกคลุมไปรอบบริเวณกว้างใหญ่ มีทั้งเส้นทางเรียบตรงคล้ายลานไอซ์สเก็ต และทางลาดชันจากบนภูเขาลงมาสู่ด้านล่างวัดระดับจากสายตาแล้วน่าจะสูงกว่าตึกสิบชั้นก็ว่าได้ เดี๋ยวเราขึ้นไปดูห้องพักก่อนนะค่อยลงไปเช่าสกี ไนท์กี้หันมาพูดคุยเมื่อเห็นฉันหยุดยืนมองสิ่งแปลกใหม่ที่มีให้เห็นระรานตาฉันพยักหน้ารับก่อนวิ่งตามเขาไปยังบันไดทางขึ้น ไนท์กี้บอกว่าห้องพักเราอยู่ชั้นสี่ที่นี่ไม่มีลิฟต์ต้องเดินขึ้นบันได ที่เลือกอยู่ชั้นสี่เพราะบรรยากาศชั้นสูงๆสวยกว่าชั้นล่างหลายเท่า เราทั้งคู่เดินขึ้นบันไดมายังชั้นสี่ตึกสูงแห่งนี้มีลักษณะคล้ายโรงแรมหรูความสูงแค่ห้าชั้นแต่มีเรียงรายหลายตึกน่าจะเพียงพอกับผู้ท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยเป็นจำนวนมากในแต่ละวันห้องพักที่เราทั้งสองย่างกายเข้าไป เป็นห้องนอนเตียงคู่ลักษณะเหมือนโรงแรมทั่วไป ฉันเดินสำรวจรอบห้องจนมาถึงประตูกระจกเลื่อนที่เปิดออกไปยืนนอกระเบียงได้บรรยากาศอลังการงานสร้างมาก ภูเขาสูงที่มีหิมะสีขาวปกคลุมพื้นที่เห็นชัดเจนเมื่อได้มองจากที่สูงความเย็นของไอน้ำแข็งสัมผัสถูกผิวกายคล้ายยืนอยู่ในช่องฟิตตู้เย็น เป็นไงโบนัสถูกใจไหม ไนท์กี้เดินมายืนด้านหลังฉันโดยเอามือสองข้างจับประตูกระจกบานเลื่อนไว้แล้วชะโงกแค่หน้าใสๆออกมาส่งยิ้มให้ ฉันหันไปพยักหน้าเบาๆ และหันกลับมามองสิ่งแปลกใหม่ที่ได้มาเจอโดยไม่ละสายตา ฉันไม่รู้ว่ายืนอยู่นอกระเบียงนานแค่ไหนเวลาผ่านไปเท่าไร ยืนมองภาพเบื้องหน้าแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนความคิดกลับเข้ามาในสมองอีกครั้งคนที่คิดถึงลอยเข้ามาในความคิด ฉันหันหลังกลับไปมองหาไนท์กี้ภายในห้อง สาวหล่อหน้าใสนอนเหยียดตัวตรงอยู่บนเตียงนุ่มของรีสอร์ทคาดว่าคงนอนเอาแรงหรือไม่ก็ยังเมารถไม่หายแน่ๆฉันหันหลังให้ระเบียงเดินกลับเข้ามาในห้อง นั่งลงบนเตียงนิ่มๆอีกเตียงที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าใสๆดึงดูดให้จ้องมองเขาอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีวันเบื่อ ฉันเคยคลั่งไคล้คนที่นอนอยู่เบื้องหน้าอย่างมากมายเมื่อตอนที่เห็นเขาผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์จนตอนนี้ เวลานี้ ฉันได้เห็นหน้าเขาใกล้ๆ ตัวเป็นๆมันเหมือนกับฝันไปและความรู้สึกที่มีให้เขามันเริ่มเปลี่ยนไปจนตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหนตอนนี้ฉันอยากอยู่ใกล้เขา ไม่อยากห่างไปไหน อยากคอยดูแลเวลาที่เขาไม่สบายอยากคอยห่วงใยมองเห็นเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา ฉันนั่งมองหน้าไนท์กี้จนเขาลืมตาตื่นขึ้นและมองมายังฉันที่หลบสายตาหนีแสร้งหันมองไปทางอื่นเกือบไม่ทันสาวหล่อขยับกายลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าแสดงความอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัดเจน มีอะไรหรือเปล่าทำไมต้องจ้องฉันขนาดนั้นด้วย ไนท์กี้เอ่ยถามพร้อมลุกเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กๆที่ปลายเตียง หยิบขวดน้ำออกมาเทลงแก้วแล้วดื่มมันจนหมดรวดเดียว คล้ายกระหายน้ำอย่างหนัก ปละ เปล่าว่าแต่เราจะลงไปข้างล่างกันหรือยังล่ะ ฉันอยากไปเหยียบหิมะเต็มทีแล้วนะ ฉันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปยังเรื่องอื่น ว่าแต่เธอเล่นเป็นหรือเปล่าสกีหน่ะ ฉันส่ายหน้าให้คนตั้งคำถามเป็นคำตอบ ก็เมืองไทยมันไม่มีหิมะนิจะให้ฉันไปเล่นที่ไหนได้ล่ะ ฉันมองสบตากับไนท์กี้ที่ยิ้มบางๆก่อนเดินหันหลังไปยังประตูทางออก งั้นลองไปดูกัน ฉันเดินตามหลังเขาไปติดๆจนเราเดินพ้นออกจากห้องพักไปไนท์กี้เดินนำลงมายังชั้นล่างสุดเพื่อไปยังสถานที่ให้เช่าอุปกรณ์สำหรับเล่นสกี อากาศเมื่อเดินเข้ามายังบริเวณนี้หนาวเย็นสุดขั้วจนต้องยืดกอดตัวเองให้ความอุ่นฉันยืนรอไนท์กี้ที่เดินหายเข้าไปยังที่ให้เช่าอุปกรณ์ ซักพักเขาเดินกลับมาพร้อมของเต็มมือทั้งรองเท้าหนังสีดำคล้ายรองเท้าบูทกันน้ำ แผ่นกระดานเรียวยาวที่ไนท์กี้เรียกว่าสโนว์บอรด์ไม้เหล็กเรียวเล็กขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับเป็นไม้เท้ายันพื้น เสื้อโค้ชคลุมกันหนาวกันเปียกตัวใหญ่มากตรงคอปกเสื้อมีขนนุ่มๆ เหมือนทำจากขนสัตว์ดูท่าทางจะให้ความอบอุ่นเป็นพิเศษหมวกไหมพรมที่ให้ความหนาเป็นอย่างดี ถุงมือหนัง และแว่นตากันหิมะ ไนท์กี้อธิบายวิธีใช้ให้ฟังก่อนที่เขาจะพาฉันเดินเข้าห้องแต่งตัว เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจเราทั้งคู่เดินมาหยุดยืนใกล้ๆทางเข้าสู่ลานหิมะกว้าง ฉันถอดถุงมือที่ใส่ค่อยๆ ย่างก้าวเดินช้าๆย่อตัวลงนั่งเอามือสัมผัสเกร็ดน้ำแข็งละเอียดสีขาวที่เรียกกันว่าหิมะ ความรู้สึกเหมือนจับก้อนน้ำแข็งที่เย็นเยือกจนมือแดงและชาไปหมด ระวังมือแตกนะมันเย็นมาก ไนท์กี้ก้าวยาวเดินมานั่งลงใกล้ๆดึงมือฉันไปใส่ถุงมือให้ตามเดิม ฉันไม่กล้ามองสบตาของคนหน้าใส ... ดูนะว่าทำกันยังไงไนท์กี้ค่อยๆ สอนเล่นสกีทีละขั้นทีละตอนอย่างช้าๆตั้งแต่วิธีก้าวเดิน วิธียืนเหยียบอยู่บนสโนว์บอรด์ที่เป็นแผ่นกระดาน การใช้ไม้ค้ำพื้นหิมะการทรงตัวเวลาไหลไปข้างหน้า ฉันพยายามทำตามที่สาวหล่อสอนทุกขั้นตอน แรกๆก็หกคะเมนตีลังกาอยู่บ้างแต่พอไนท์กี้พาดึงมือเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆก็เริ่มเดินได้คล่องขึ้น จนในที่สุดก็เล่นได้เองโดยไม่ต้องพึ่งอาจารย์ผู้สอนฉันสามารถเอาไม้ค้ำพื้นแล้วเลื่อนตัวไปบนหิมะได้อย่างใจต้องการ ได้แล้วนะ ฉันหันไปยิ้มให้ครูฝึกสอนจำเป็นก่อนขยับเลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยความสนุกสนานเส้นทางในการเล่นสกีจะเป็นการวนไปในทิศทางเดียวกันเพื่อป้องกันการชนกระแทกกันรุนแรงเพราะโดยส่วนใหญ่คนที่เล่นจนคล่องแล้วจะลื่นไหลไปกันอย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่เพิ่งหัดเล่นอย่างฉันจะอยู่เกาะติดตามขอบลานสกี ไนท์กี้พาฉันขึ้นไปบนภูเขาหน่อยสิ ฉันอยากไหลลงมาแบบคนอื่นอะ น่าสนุกดี สายตาอ้อนวอนถูกส่งให้ไนท์กี้พาขึ้นยังที่สูง ยังไม่คล่อง เล่นอยู่แถวนี้ดีกว่ามั้งมันอันตรายนะฉันทำหน้าเบ้ใส่ไนท์กี้คล้ายโดนขัดใจที่เขาไม่ยอมตามใจพาขึ้นไปด้านบนภูเขา ฉันหันมองดูรอบบริเวณ ผู้คนมากมายกำลังเพลิดเพลินไปกับการเล่นสกีสายตาเลื่อนมองไปยังความสูงบนศรีษะมีกระเช้าลอยฟ้าที่ต่อกันเรียงรายค่อยๆเลื่อนตามรางไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่บนยอดเขา ฉันอยากขึ้นไปบนนั้นมากจนความคิดพิสดารเกิดขึ้นมาในสมองหันซ้ายหันขวามองหาไนท์กี้ไม่เจออยู่บริเวณนั้น สองขาค่อยๆก้าวเดินตามทางเพื่อขึ้นไปตามเนิ่นสูงชันทีละน้อยจนในที่สุดก็ปีนขึ้นมาได้สำเร็จ ถึงจะไม่ใช่ภูเขาสูงสุดแต่มันก็เป็นเนินลาดชันที่สามารถลื่นไถลลงไปเหมือนสไลเดอร์ที่เคยเล่นสมัยเด็กๆ ด้วยความสนุกสนาน ฉันลื่นไถลลงมาแล้วเดินกลับขึ้นไปทำอยู่อย่างนั้นหลายรอบ บริเวณใกล้เคียงไม่มีผู้คนเลยซักคนฉันจึงเล่นได้เต็มที่จนลืมเวลาและลืมใครบางคนที่มาด้วยกันไปซะสนิทฉันเล่นสกีไปเรื่อยเปื่อยจนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง รอบๆ ลานสกีมีแสงไฟสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่มหึมาที่เปิดให้ส่องสว่างในเวลาใกล้มืดลงทุกทีฉันเริ่มคิดถึงไนท์กี้ป่านนี้เขาคงตามหาฉันให้วุ่นแล้ว ระหว่างที่กำลังถอยหลังตั้งหลักเตรียมไถลตัวจากความสูงเป็นครั้งสุดท้ายเท้าเกิดเหยียบโดนอะไรซักอย่างหัก เมื่อหันกลับไปมองรู้สึกใจหายวูบ สิ่งที่เห็นมันเป็นผาสูงชันและมืดมากถ้าตกลงไปคงหาทางขึ้นมาได้ลำบากฉันพยายามทรงตัวนิ่งๆ แล้วก้าวเท้ากลับเข้ามาอย่างช้าๆ นี่ยัยบ้าปล่อยให้ฉันตามหาซะทั่ว มือของไนท์กี้ผลักไหล่จนร่างกายเอนเซไปด้านหลังฉันเอามือคว้าแขนเขาไว้ก่อนที่ร่างกายเราสองคนจะร่วงลงไปยังหน้าผาด้านล่าง เฮ้ยยย!! กรี๊ดดด!! เสียงกรีดร้องประสานกันดังลั่นประสาทสัมผัสไม่รับรู้อะไรนอกจากมือคว้ากอดร่างไหนท์กี้ไว้ สองกายสามัคคีกลมเกลียวกลิ้งหมุนหลายตลบจนมานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นเกร็ดน้ำแข็งที่มีความหนาวเย็นและมืดมิด ความเจ็บปวดเข้าควบคุมจนระบมไปทั่วร่างกายฉันนอนแน่นิ่งมองตามความสูงที่เห็นเลือนรางขึ้นไปยังด้านบน แสงไฟสปอร์ตไลท์สว่างจ้าอยู่ไกลลิบๆ นี่.. เธอเป็นไงบ้างอบเชย เสียงคนคุ้นเคยดังข้างหู ดึงแขนฉันแล้วกระตุกแรงๆ เพื่อเรียกสติให้กลับมาสายตาเหลือบมองใบหน้าใสที่ตะโกนเรียกอยู่ข้างๆ ด้วยความรู้สึก จุก เจ็บ และชาไปหมดนี่ฉันกำลังจะตายหรือเปล่า เมื่อไนท์กี้เห็นฉันไม่ตอบไม่เคลื่อนไหวส่วนใด เขาก็คลำสำรวจร่างกายและพยายามดึงฉันให้ลุกขึ้นนั่ง ... เธอเป็นอะไรมากไหมทำไมไม่พูดกับฉันยัยบ้า! แรงดึงทำให้ฉันลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จความมึนงงกำลังยึดพื้นที่สมองไว้คล้ายคนเบลอๆ เหมือนเพิ่งตื่นจากความฝันจนเสียงห้าวดังพอจะเรียกสติฉันให้หายมึน ... จะพูดได้หรือยังอบเชยเดี๋ยวก็ทิ้งไว้ที่นี่ซะเลย! ความรู้สึกกลับมาเมื่อได้ยินคำว่าถูกทิ้งในชีวิตนี้สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คงเป็นคำๆ นี้ สายตาหันมองไนท์กี้ที่มีรังสีอำมหิตมาคุปกคลุมใบหน้าใสทีละน้อย จุกอ่ะ แล้วก็เจ็บด้วย ฉันก้มหน้าสำรวจตัวเอง ร่างกายครึ่งท่อนส่วนขาโดนฝังไว้กับเกร็ดน้ำแข็งสีขาวจนทำให้รู้ว่าที่ร่างกายมันชาเพราะได้รับความเย็นจากหิมะนั่นเอง ลุกไหวไหมมีอะไรหักหรือเปล่า เสียงคำถามพร้อมลุกยืนดึงมือฉันให้ลุกขึ้นสำรวจทั่วทุกส่วนของร่างกายน้ำแข็งที่ทับขาไว้ร่วงลงบนพื้นเศษหิมะถูกปัดออกจนหมดสิ้นจากเสื้อผ้า ไนท์กี้จับตัวฉันพลิกซ้ายทีขวาทีเพื่อช่วยสำรวจจนพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ... นี่เธอโง่หรือเปล่าอบเชยมาทำบ้าอะไรแถวนี้ ป้ายบอกอันตรายห้ามเข้าใหญ่เท่าบ้าน เธอมองไม่เห็นหรือไงฉันพยายามนึกตามถึงสิ่งที่ไนท์กี้บอกแต่ก็นึกไม่ออกว่ามีป้ายใหญ่เท่าบ้านตรงไหนเพราะเท่าที่เห็นก็มีแผ่นป้ายใหญ่เต็มลานสกีไปหมดและที่สำคัญคือฉันอ่านไม่ออกเลยไม่แปลกที่จะมองไม่เห็นคำว่าอันตราย ไนท์กี้ก้มลงแกะแผ่นกระดานสโนว์บอรด์ที่เท้าออกจนเหลือแค่รองเท้าสวมไว้ ส่วนไม้ค้ำคงร่วงอยู่ด้านบนตอนที่ร่างกายหล่นลงมายังด้านล่าง คือ.. ฉันไม่ทันมองฉันตอบแบบเลี่ยงความผิดเพื่อให้ดูดีที่สุด ไนท์กี้ถอนใจหนัก หลับตาสงบสติอารมณ์เม้มปากเป็นเส้นตรงชั่วครู่แล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติมองไปรอบบริเวณที่เรายืนเขาแหงนมองขึ้นไปตามกำแพงหิมะเพื่อหาหลักที่พอจะใช้มือจับปีนป่ายขึ้นไปยังด้านบนที่มีความสูงประมาณตึกสองชั้น เรายังโชคดีนะที่หล่นลงมาจากความสูงแค่นี้ ไม่งั้นคงมีคนคอหักตายกันบ้างล่ะแต่ฉันว่าดูท่าทางคงขึ้นลำบากน่าดู เราเดินไปดูรอบๆ ดีกว่าว่าพอจะมีทางให้เรากลับขึ้นข้างบนได้บ้างหรือเปล่าไนท์กี้อธิบายพร้อมหันหน้ามาสบตากันอีกครั้งก่อนเดินมาใกล้ๆแล้วจับแขนฉันไว้ ... เดินไหวหรือเปล่าฉันพยักหน้าเดินตามแรงจูงที่ดึงให้ขยับก้าวเท้าตาม รอบๆบริเวณที่เราทั้งสองเดินผ่านไม่มีสิ่งใดนอกจากความมืดสลัวต้นไม้สูงเรียงรายถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทั่วบริเวณเราเดินห่างจากจุดที่ตกลงมาไกลขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ายิ่งเดินก็ยิ่งมืดขึ้นต้นไม้แน่นหนาขึ้นและคงปราศจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน มันน่ากลัวนะไนท์กี้ฉันว่าเรากลับไปยืนที่เดิมแล้วตะโกนเรียกคนอื่นมาช่วยดีกว่านะ สมองน้อยๆ พยายามออกความคิดเห็นเพื่อหาทางกลับขึ้นไปยังด้านบน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าจะเดินสุ่มไปแบบนี้เรื่อยๆ เธอจะบ้าหรือไงจะไปยืนตะโกนให้ใครมาช่วยตรงที่เจ้าหน้าที่สั่งห้ามเข้า เผลอๆถ้าเขาจับได้ว่าเธอลักลอบเข้ามาโดยพละการ เธอนั่นล่ะที่จะซวยอบเชยไม่ต้องออกความคิดเดินตามฉันมาเงียบๆ ก็พอ ฉันยกมือข้างที่เป็นอิสระขึ้นมาปิดปากเอาไว้แล้วเดินตามเขาต่อไปแต่โดยดี เราเดินมาเรื่อยๆเริ่มห่างไกลแสงสปอร์ตไลท์ทุกทีจนเจอบางอย่างเบื้องหน้า ไนท์กี้หยุดยืนบางสิ่งที่คล้ายป้อมหลังใหญ่มีแสงไฟสีส้มเปิดอยู่เขาไม่รอช้าปล่อยมือฉันแล้วบอกให้ยืนรอเฉยๆ อยู่ตรงนี้อย่างออกคำสั่ง ขาขยับก้าวยาวถี่เดินไปยังป้อมข้างหน้าทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือไนท์กี้หายเข้าไปด้านในป้อมใหญ่สักพักจึงเดินกลับออกมาพร้อมชายหนุ่มอีกคนที่สวมหมวกคล้ายหน่วยกู้ภัยยืนคอยอยู่หน้าประตูป้อม ... มาเร็วเราต้องรีบเข้าไปข้างในพายุกำลังมา สาวหล่อหน้าใสไม่รีรอพูดพร้อมดึงมือฉันให้เดินตามเข้าไปยังภายในป้อมคัมซาฮัมนีดา ไนท์กี้พูดประโยคที่พอฟังออกช้าๆพร้อมก้มศรีษะคล้ายขอโทษและขอบคุณผู้ชายที่ยืนรอรับอยู่ด้านหน้าจนเขาพยักหน้าตอบกลับก่อนวาดมือเชิญให้เราทั้งสองเข้ายังด้านในแล้วเขาทั้งสองคนก็สนทนากันต่อด้วยภาษาเกาหลีซักพักใหญ่ ภายในป้อมหลังนี้เมื่อก้าวเหยียบสัมผัสด้านในมันดูโล่งตามากไม่มีสิ่งใดนอกจากโต๊ะหนึ่งตัวคล้ายโต๊ะทำงานเล็กๆ มีเก้าอี้วางสอดอยู่ใต้โต๊ะถัดไปเป็นเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งมีผ้าสีขาวคลุมปิดเตียงไว้ครึ่งหนึ่ง และห่างออกไปอีกนิดเห็นตู้ใบเล็กๆคล้ายตู้เย็นในรีสอร์ทที่ฉันพัก สองเท้าพาร่างกายตรงไปนั่งยังเก้าอี้อย่างถือวิสาสะเพราะรู้สึกขามันเริ่มอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงเหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างหนักจนปวดเมื่อยไปหมดเมื่อการสนทนาระหว่างไนท์กี้กับชายอีกคนจบลงเขาก็เดินเข้ามายืนพิงโต๊ะข้างเก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ ส่วนชายที่คล้ายหน่วยรักษาความปลอดภัยก็เดินหายออกไปจากป้อม คืนนี้เราคงต้องพักที่นี่เจ้าหน้าที่บอกพายุกำลังมา น่าจะมีฝนตกหนักมาก เราโชคดีมาเจอที่นี่ก่อนที่เขาจะออกไปลาดตระเวนดูความปลอดภัยรอบๆภูเขา คงจะกลับมาอีกทีก็เช้ามืด แล้วเขาจะตามหน่วยช่วยเหลือมารับเราไปส่งด้านนอก แล้วเมื่อกี้นายพูดอะไรกับเขาเหรอฉันได้ยินคำว่า คัมซาซาไรนี่ล่ะ ฉันมองหน้าไนท์กี้ที่หลุดขำยกมือขึ้นปิดปาก คัมซาฮัมนีดา เขาพูดเลิกคิ้วให้คล้ายทวนประโยคที่ถามอีกครั้งก่อนฉันพยักหน้ารับ คำนี้แปลว่าขอบคุณ แล้วคำอื่นล่ะไม่ได้ยินหรือไงฉันพูดออกยาว ได้ยินสิแต่ฉันฟังไม่ทันหรอกพูดเร็วกันยังกับจรวดมิดไซร์ฉันทำหน้าเบ้หยักไหล่ให้สาวหล่อหน้าใสที่หัวเราะชอบใจเพราะฉันฟังภาษาเขาไม่รู้เรื่อง หิวไหมเจ้าหน้าที่คนนั้นแบ่งขนมแล้วก็น้ำดื่มให้เราหยิบกินในตู้เย็นได้ตามสบาย ไนท์กี้เดินสำรวจทั่วบริเวณป้อมก่อนเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มออกมาหนึ่งขวดพร้อมเทรินใส่แก้วพลาสติกที่วางอยู่ในกระดาษห่อบนหลังตู้เย็นเล็กๆยื่นส่งมาให้ฉันรับไว้และเขาก็เทน้ำใส่แก้วอีกใบเพื่อตัวเขาเองดื่มดับกระหาย ฉันยกน้ำในแก้วดื่มจนหมด ซักพักเสียงคล้ายเม็ดฝนร่วงลงกระทบหลังคาดังสนั่นหวั่นไหวบวกกับเสียงลมแรงที่พัดบางสิ่งบางอย่างด้านนอกให้เอนไหวจนน่ากลัวความหนาวเหน็บที่สัมผัสได้มากขึ้นอีกเท่าทวีคูณ ... พายุคงมาแล้ววันนี้เป็นวันซวยจริงๆ ดันมาติดอยู่แบบนี้ ไม่งั้นคงนอนหลับสบายไปแล้ว ไนท์กี้เหล่สายตาเหยียดยิ้มที่มุมปากมองมาคล้ายฉันเป็นตัวปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้อย่างสาหัส ฉันขอโทษใครจะรู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ฉันก้มหน้าก้มตารับผิดหลบใบหน้าใสๆที่จ้องมองมา ฉันยังไม่ทันว่าอะไรเธอเลยนะอบเชยอย่าร้อนตัวสิ ไนท์กี้พูดพร้อมเดินลงไปนั่งบนที่นอนเล็กๆถอดรองเท้าขยับร่างกายขึ้นไปนั่งซุกกายกอดตัวเองอยู่บนเตียง ... มานั่งด้วยกันสิจะได้ไม่หนาวไนท์กี้มองหน้าเชิญให้ไปนั่งข้างๆฉันไม่ปฎิเสธเดินตามไปอย่างว่าง่ายก้าวขึ้นไปนั่งตามคำเชิญ เราสองคนนั่งกันอยู่นิ่งๆในความเงียบสงบ เสียงหัวใจเต้นตึกตักเร็วและแรงจนมันไม่เป็นจังหวะ ทำไมฉันถึงตื่นเต้นมากมายขนาดนี้จากความเย็นที่ทำให้ร่างกายหนาวเหน็บตอนนี้รู้สึกคล้ายความร้อนระอุวิ่งผ่านร่างกายจนเหงื่อเริ่มแตกเป็นเม็ดผุดขึ้นที่ใบหน้า ... นี่เธอเป็นอะไรหรือเปล่าอบเชยคำถามของคนข้างๆ ดังขึ้นในความเงียบจนฉันสะดุ้งหันมองยังหน้าใสที่เอนเข้ามาใกล้เขาถอดถุงมือออกพร้อมเอื้อมมือสัมผัสที่หน้าผากฉันเบาๆ ... เธอมีไข้ เสียบเรียบห้าวดูกังวลใจเล็กน้อยส่งสายตามองมาอย่างห่วงใย เป็นไปไม่ได้ฉันหัวแข็งจะตายไปไนท์กี้ มันคงแค่ร้อนหน่ะ ช่างมันเถอะ ฉันปัดมือแข็งแรงออกจากหน้าผากตัวเองเบี่ยงกายหนีใบหน้าใสแต่มันเริ่มรู้สึกปวดศรีษะขึ้นมาตะหงิดๆ ไออุ่นจากลมหายใจเริ่มรับรู้ถึงความร้อน ต่อให้เธอหัวแข็งแล้วอึดแค่ไหนถ้ามาอยู่ในที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกระทันหันแบบนี้ยังไงร่างกายเธอก็ปรับสภาพไม่ทันหรอกยัยบ้า น้ำเสียงห้าวตวาดใส่ฉันเล็กๆไนท์กี้รูดซิบถอดเสื้อคลุมตัวใหญ่ออกจากแขนข้างหนึ่งแล้วดึงร่างกายฉันให้เข้าไปซุกตัวอยู่ในเสื้อที่เขาถอดออกสัมผัสอบอุ่นความใกล้ชิดทำให้ความร้อนยิ่งเพิ่มขึ้น ฉันพยายามขืนตัวหนีอ้อมกอดที่โอบรัดกายไว้แต่เรี่ยวแรงเหมือนหดหายจนต้องยอมนั่งอยู่นิ่งๆพิงอกอบอุ่นแล้วหลับไป ฉันลืมตาตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนหลายคนกำลังพูดจาด้วยภาษาแปลกๆข้างๆ หู หญิงสาวในชุดพยาบาลสองคนกำลังเอาไฟฉายเล็กๆ ส่องเข้ามาที่นัยน์ตาแล้วเอามือตบหน้าเบาๆคล้ายเรียกสติ ฉันลุกขึ้นนั่งมองหาคนรู้จักรอบบริเวณ หันไปหันมาเจอไนท์กี้ยืนอยู่หน้าประตูราวกับว่าเขาไม่อยากเข้ามาเกะกะเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลที่กำลังให้ความช่วยเหลือสายตาเหลือบเห็นผู้ช่วยนางพยาบาลบางคนยกมือถือขึ้นกดถ่ายรูปไนท์กี้อีกด้วย ร่างกายอ่อนแอโดนหามขึ้นไปนอนบนเปลผู้ป่วยฉุกเฉินและมีผู้ชายสองคนยกหัวยกท้ายเปลเดินออกนอกป้อมสภาพโดยรอบบริเวณมีละอองน้ำค้างหยดตามขอบหลังคาและปลายกิ่งของต้นไม้พอให้เห็นร่องรอยของฝนที่ตกทั้งคืนและเพิ่งหยุดได้ไม่นานเขาทั้งสองเดินพาเปลหามฉันไปยังรถตู้พยาบาลที่เปิดไฟหมุนสีน้ำเงินโดยมีไนท์กี้ตามขึ้นมานั่งในรถตู้บริเวณปลายเท้า ว่าไง ดีขึ้นบ้างหรือยัง สายตาไนท์กี้ดูห่วงใยคนป่วยที่นอนอยู่ในเปลฉันเพิ่งสังเกตุเห็นว่าไนท์กี้หลงเหลือแค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่เราใส่ออกจากอพาร์ตเมนต์ของฮีชอลมาฉันจึงเหลือบมองมาที่ร่างกายตัวเองพบว่าเสื้อกันหนาวสองตัวถูกสวมใส่อยู่บนเรือนร่างทั้งหมดเขาคงพยายามสร้างความอบอุ่นให้ฉัน สายตาซาบซึ้งถูกส่งกลับไปยังใบหน้าใสที่ส่งยิ้มให้บางๆมุมปาก ทำไมคนอื่นถึงรู้ว่าฉันไม่สบายล่ะเสียงแหบพร่าที่ดังอยู่ในลำคอเปล่งดังคล้ายกระซิบกระซาบพอทำให้คนข้างๆได้ยินอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เจ้าหน้าที่คนที่เราเจอเมื่อคืนไงเขาแจ้งให้ ฉันพยักหน้าให้ไนท์กี้ก่อนปิดตานอนหลับสติวูบดับมืดไปด้วยความอ่อนแรงและโล่งใจ ยังแต่งไม่จบเลยค่ะ ฮ่าๆ
ค้างมาจะจะสามปีแล้วเรื่องนี้ เอามาลงเล่นๆ ค่ะ โดย: มาโซคิส วันที่: 22 มกราคม 2556 เวลา:22:41:15 น.
|
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
พี่มาโซไม่เอาเรื่องนี้ลงกระทู้ด้วยเหรอคะ