Group Blog
|
You're my Idol ขอเพ้อรักแค่..หมดใจ Chapter 4 Chapter 4
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแสงแดดอ่อนๆกระทบตามันคงเล็ดลอดเข้าทางหน้าต่างห้องจนเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ สายตากวาดมองไปรอบห้องเมื่อวิญญาณกลับเข้าร่างจนฟื้นคืนชีพความรู้สึกหนักอึ้งบนร่างกาย ฉันไล่สายตามองบนเรือนร่างตัวเองจนต้องตกใจสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันทีจนมือใครบางคนร่วงหล่นจากร่างกายลงไปกองอยู่บนพื้น ฉันพยายามสะกิดคนข้างๆ ที่นอนคว่ำหน้าแขนขากางเกะกะให้รู้สึกตัวเขาพลิกหน้าหันมาทางฉันแต่ยังคงหลับตาสนิทไม่สนใจสิ่งรอบข้าง เผยให้เห็นใบหน้าใสๆชัดเจนจนแน่ใจแล้วว่าเขาคือไนท์กี้ และจำเป็นต้องหยุดชะงักมือที่กำลังสะกิดเขาทันทีเมื่อสายตานิ่งเรียบกำลังจ้องมองมา ตื่นมาก็วุ่นวายกับฉันเลยหรือไง น้ำเสียงเรียบเนิ่บแต่ทำไมกลับรู้สึกเหมือนโดนต่อว่าคล้ายเป็นคนทำลายชีวิตจนเขารำคาญฉันนั่งมองเขานิ่งๆ เหมือนโดนสะกดจิตด้วยใบหน้าใสๆใจเต้นแรงจนรู้สึกว่ามันดังออกมานอกอก เอ่อ.. ก็..เมื่อกี้.. มันหนักเพราะแขนนายวางบนตัวฉันนิ น้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ทำให้เขากระตุกยิ้มมุมปาก เขาเรียกว่ากอดยัยโง่ พูดจบไนท์กี้ก็หันหน้าพลิกหนีไปอีกทาง นอนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ฉันกลับร้อนวูบที่ใบหน้าคล้ายมีพลังงานความร้อนวิ่งผ่าน ฉันถูกไนท์กี้ กอด ฉันไม่รู้ว่าเขามานอนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไร สายตาได้แต่จ้องมองร่างสูงที่นอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนโดนแช่แข็งด้วยความรู้สึกแปลกใจ ดีใจ ข้องใจ สงสัย หวาดกลัว ปนเปกันหมดจนไม่รู้จะอธิบายยังไง ไอยู เธอตื่นแล้วเหรอ เสียงฮีชอลดึงฉันให้ตื่นจากภวังค์หันสายตาไปหาเขาที่นอนตะแคงมองหน้าฉันด้วยสายตาที่คมโตจนต้องเตือนสติตัวเองให้ตอบคำถามเขาซะที ตะ ตื่นแล้ว พี่ฮีชอลล่ะ ถ้าฉันยังไม่ตื่นงั้นเราคงคุยกันในฝันแล้วล่ะ เธอนั่งอยู่ข้างใคร สายตาเหลียวกลับไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งตามสายตาของฮีชอลที่มองลงมาพร้อมคำถามไนท์กี้? ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรชายหน้าสวยก็ตอบคำถามให้ตัวเองพร้อมหันสายตากลับมามองฉันอีกรอบจนต้องพยักหน้ารับโดยด่วนเมื่อฮีชอลรู้ว่าคนที่นอนข้างๆ ฉันคือสาวหล่อ ชายหน้าสวยก็กระโจนจากเตียงลงมานั่งยองๆอยู่ข้างๆ เอานิ้วเรียวยาวจิ้มสะกิดไหล่ไนท์กี้สองสามทีจนเขารู้สึกตัวพลิกหันกลับมาทางเราทั้งคู่ อะไรอีกล่ะ ฮีชอลฉันจะนอน นี่นายติดนิสัยเซ้าซี้จากอบเฉยมาหรือไงคิ้วขมวดชนกันบนใบหน้าใสพูดคุยทั้งที่หลับตาคล้ายรำคาญเต็มที ไนท์กี้แกอยากตายคามือฉันหรือไงจะลุกขึ้นมาดีๆ หรือจะให้ฉันเหวี่ยงออกไปนอนนอกห้องน้ำเสียงส่อแววอำมหิตพร้อมสายตาดุดันที่จ้องมองยังใบหน้าใสๆ ทำให้ไนท์กี้จำใจลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิหันหลังพิงขอบเตียงแล้วเหล่สายตามองมาทางฉันชั่วครู่ก่อนหันสายตาไปปะทะกับฮีชอลที่ต้องการจะคุยกับเขาเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง ... นายจะพาไอยูกลับเมืองไทยเมื่อไร ฮีชอลเลิกคิ้วส่งคำถามยังใบหน้าใสเบื้องหน้า ไม่ให้กลับอยู่มันที่นี่ล่ะ ทำไมต้องวุ่นวายกับฉันซะจริงมือแข็งแรงยกขึ้นเกาศรีษะแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายหันสายตานิ่งๆมองมาทางฉันที่นั่งช๊อคจนพูดอะไรไม่ออก นี่เขาคิดจะทิ้งฉันไว้ที่นี่โดยไม่ส่งฉันกลับเมืองไทยจริงๆงั้นเหรอ เป็นคำถามที่โผล่ขึ้นมาในสมองอันน้อยนิด นายพูดจริงหรือพูดเล่นไนท์กี้งั้นเราจับไอยูเปลี่ยนสัญชาติกันเลยดีไหม รอยยิ้มสุดสยองของชายหน้าสวยหันมองมาทางฉันพร้อมสายตาคมโตที่เบิกกว้างทำให้ฉันเสียวสันหลังวาบ ขนลุกไปทั้งตัว นะ นายทำยังงี้ได้ไงก็.. นายบอกจะพาฉันกลับไงฉันพยายามดึงสติให้กลับมาสู้กับจอมบงการที่ชอบใช้อำนาจบังคับขู่เข็น พูดเป็นแล้วหรือไงไนท์กี้เลิกคิ้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นแปลกใจหันสายตามองตรงมายังฉันที่นั่งก้มหน้าสลับกับมองหน้าไนท์กี้และฮีชอลอย่างเกรงกลัว อยู่กับฉันที่นี่เถอะไอยูฉันจะได้หายเหงา นะ นะเสียงออดอ้อนดึงแขนฉันเข้าไปกอดก่อนโน้มร่างกายเอาใบหน้าแนบชิดที่ไหล่แล้วเกลี่ยใบหน้าไปมาจนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจะให้อยู่ที่นี่ได้ยังไงในเมื่อบ้านฉันอยู่เมืองไทย จริงอยู่ที่ฉันอยากมาเกาหลีอย่างมากเพราะต้องการเจอไนท์กี้สุดที่รักแต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดมันไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้สิ่งเหล่านี้มันคือโชคดีหรือโชคร้ายสำหรับฉันกันแน่ ... นะ นะ ไอยู ฮีชอลยังคงเอาข้างแก้มเกลี่ยที่ไหล่ฉันไปมา จนมือเรียวยาวยื่นมาดึงแขนชายหน้าสวยให้ออกห่างจากตัวฉัน ฮีชอลนายไปซบฮีบอมของนายโน้น มือแข็งแรงปล่อยแขนฮีชอลพร้อมชี้นิ้วไปยังแมวขนเกลี้ยงสีเทาที่นั่งมองมาทางเราสามคนด้วยแววตาสงสัยว่านินทาอะไรมันหรือเปล่า ย๊าส์!! ไนท์กี้เดี๋ยวแกจะต้องตายด้วยบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน ฮีชอลอุทานด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดคล้ายโดนขัดใจอย่างรุนแรงกระแทกตัวตวัดแขนขึ้นมากอดอกนั่งส่งสายตาฟาดฟันไปยังไนท์กี้อย่างลืมตัวว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงอีกแล้วและจะหาบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อมาคุ้มกันดูแลได้อย่างไร ป๋าเกิงหรือเจย์ดีล่ะไนท์กี้เริ่มบทสนทนากับฮีชอลถึงบุคคลที่ฉันไม่รู้จัก ฉันหันมองหน้าทั้งคู่สลับกันไปมาด้วยความมึนงงไนท์กี้แสยะยิ้มให้ชายหน้าสวยที่เปลี่ยนสีหน้าโกรธเคืองเมื่อครู่เป็นจริงจังขึ้นมาทันที อย่าพูดอะไรให้มันสะเทือนใจได้ไหม สายตาผลุบลงต่ำนั่งสงบนิ่งอยู่พักนึงก่อนจะเหลือบมองมาทางฉันอีกครั้ง เธอยังไม่รู้จักเจย์สินะไอยูฉันนั่งมองหน้าฮีชอลนิ่งๆ เพื่อฟังบางสิ่งที่ฮีชอลต้องการระบาย ฮีชอลเล่าว่าในอดีตที่ผ่านมาเขาเคยรู้จักเจย์ก่อนที่จะมาเจอกับฮันเกิงเจย์ เหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่คุ้นเคยและผูกพัน รู้สึกดีๆให้แก่กัน แต่ฉันกลับมีความรู้สึกว่าฮีชอลจะผูกพันมากมายกับชายหนุ่มที่ดูจะเพอร์เฟคไปซะหมดฮีชอลเจอกับเจย์ในรายการวิทยุคลื่นหนึ่ง ทั้งคู่จัดรายการได้เข้าขากันมากฮีชอลจะชอบบอกเสมอว่าเขาดูดีกว่าผู้หญิงบางคนซะอีกแม้จะมองเห็นแค่ข้างหลัง และเจย์จะสนับสนุนทุกครั้งว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเขาในรายการวิทยุผิวพรรณดีเหมือนผู้หญิงจนทำให้ทั้งคู่รู้สึกถูกชะตาเพราะความคิดคล้ายๆ กัน การพบปะพูดคุยกันหลังจากเลิกงานหรือนอกเวลางานจึงเกิดขึ้นเสมอถึงจะไม่ได้มาเจอกันตัวเป็นๆ ก็ต้องได้พูดคุยกันโดยผ่านช่องทางแชทที่ใช้ตัวหนังสือพิมพ์ถามตอบไปมาหรือไม่ก็ต่อสายตรงทางโทรศัพท์ จนทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้น กระทั่งวันหนึ่งปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อฮีชอลเจอกับฮันเกิงเจย์เริ่มเห็นความสนิทสนมของฮีชอลและฮันเกิงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับเขาจึงพยายามค่อยๆถอยห่างเดินออกมาจากชีวิตฮีชอลโดยไม่บอกถึงสาเหตุว่าเพราะอะไร ทำให้ฮีชอลรู้สึกผิดหวังเสียใจแต่เพราะยังมีฮันเกิงอยู่เคียงข้างเขาจึงไม่เจ็บปวดสาหัสเท่าไร ทำให้เจย์หายไปจากวงจรชีวิตแต่แล้วไม่นานเจย์ก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งโดยแอบติดต่อคุยกันโดยที่ฮีชอลปิดบังเรื่องนี้กับฮันเกิง เลิกรำลึกถึงอดีตซะทีฮีชอลชู้รักกับคนรัก แล้วสุดท้ายก็หลุดมือทั้งคู่ไนท์กี้ตัดบทเรื่องราวที่ฮีชอลเล่า ฉันกำลังจินตนาการเห็นภาพตามจนต้องหยุดชะงักความคิดลงสายตาเหลือบมองยังคนเล่าเรื่องที่โดนขัดจังหวะ รอบร่างกายฮีชอลคล้ายมีพลังงานความโกรธมาคุอยู่ทั่วแววตาจิกกัดไนท์กี้ที่ทำเฉยชาไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดในโลกนี้อีกแล้ว ไอยู ฮีชอลพยายามควบคุมอารมณ์แล้วหันเหสายตามองมาทางฉันทำเอาสะดุ้งโหย่งที่ต้องสบตากับตากลมโตคู่นั้น ... เธอเห็นฉันแล้วนึกถึงสีอะไร อยู่ๆ ฮีชอลก็ตั้งคำถามที่ฉันไม่เข้าใจขึ้นมาแต่คงจะเงียบต่อไปไม่ได้อีกแล้วเพราะฉันเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตตัวเองตอนนี้ที่สุด เอ่อ สีไรดีล่ะ ฉันกำลังชั่งใจใช้ความคิด เพราะเท่าที่เห็นฮีชอลเป็นคนที่มีครบทุกสีสันเลยก็ว่าได้ เลือกสักสีสิ สีม่วงแล้วกันนะ ฉันตอบออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ นี่เธอว่าฉันหลงตัวเองหรือไงไอยู..คนอย่างฉันไม่เคยหลงตัวเองนะ ฉันงดงามกว่าผู้หญิงแบบพวกเธอจริงๆ รอยยิ้มภูมิใจปรากฏบนใบหน้าสวยๆ ทำให้ฉันรู้สึกหายใจคล่องขึ้น ... แล้วรู้ไหมเจย์มองฉันเป็นสีอะไร ฉันมองคนถามแล้วส่ายหน้าให้เขา สายตาส่อแววสงสัยรอคอยคำตอบ ... เจย์บอกว่า.. เขาเห็นฉันแล้วนึกถึงสีแดงกับสีชมพูถึงแม้สีแดงจะดูโชคร้าย แต่สีชมพูมันหมายถึงความงดงามเลยนะเห็นไหมว่าฉันเป็นผู้ชายที่สวยงาม เผลอๆ งามกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก เจย์ช่วยคอนเฟิร์มมาแล้ว แล้วนายไม่บอกอบเชยไปล่ะว่า.. เจย์ถามนายว่าเขาคือสีอะไรนายตอบว่าสีน้ำเงินความหมายคือคนที่อยากเป็นแฟนด้วย แล้วเจย์ตอบนายว่าอะไร.. ฉันหันมองไนท์กี้ที่พูดแทรกขึ้นมาจนจบประโยคสายตาก็หันไปทางฮีชอลต่อเนื่อง เขานั่งเอานิ้วชี้เรียวยาวจิ้มชนกันอยู่ท่าทางรู้สึกเขินๆจนต้องหลบสายตาฉันกับไนท์กี้ เจย์เขานิ่งอึ้งไป..ก็เจย์คงตื่นเต้นที่ฉันอยากให้เขามาเป็นแฟนจนพูดไม่ออกนะสิ ไอยูอยากฟังเรื่องราวของฉันต่ออีกไหมจะได้ไปคุยกันสองคนฉันไม่อยากให้ไนท์กี้เข้ามาวุ่นวายแล้ว ขัดใจฉันตลอดน่ารำคาญ สายตาคมโตเหลือบมองไนท์กี้ราวจะกินเลือดกินเนื้อ จนฉันรู้สึกสยองขึ้นมาอีกครั้ง พอเถอะวันนี้ฉันจะพาอบเชยไปหาซื้อเสื้อผ้า ใส่อยู่ชุดเดียวเหม็นจะตาย สีหน้านิ่งเรียบมองมาทางฉันก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำไป จริงด้วยไอยู เมื่อวานออกไปเมียงดงก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้สนิทเลยดีแล้วล่ะหาโอกาสเที่ยวซะ ก่อนได้กลับเมืองไทย ช่วงนี้ปิดเทอมอยู่ไม่ใช่หรือไงถือว่าพักสมองไปในตัวแล้วกัน มือเรียวยาวยื่นมาตบบ่าฉันเบาๆนี่ไงสาเหตุที่ฉันบอกว่าอยู่ที่นี่คงไม่ต้องใช้สมองคิดอะไรเองแล้วล่ะเพราะมีคนออกความคิดและบังคับให้ฉันทำตามใจถึงสองคน To be continued.. |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |