โลกด้านมืดมีครึ่งใบ
ในแต่ละวันที่โลกหมุนไป ให้เรามีกลางวัน และกลางคืนอย่างละครึ่ง
ล้วนแล้วแต่เป็นความสมดุลของธรรมชาติ
ที่ให้เราเรียนรู้สัจธรรมที่ยิ่งใหญ่
ของการมีสองด้านของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้
เช่นเดียวกับชีวิตของคนเราที่มีทั้งสุขและทุกข์
เราทุกคนผู้เป็นเจ้าของโลกใบนี้
โลกที่มีสองด้าน
ด้านมืดด้านสว่าง
แต่มีไม่น้อยเลยที่เวลาคนเรามีความทุกข์
มักจะรู้สึกว่าโลกสองด้านนี้เริ่มจะไม่เท่ากันแล้ว
โลกด้านมืดมักจะคืบคลานอย่างเชื่องช้า
และกินเวลาด้านสว่างไปเสียมาก
ทั้ง ๆ ที่โลกยังหมุนอยู่เท่าเดิมเหมือนทุกวัน
แต่ความรู้สึกของเราที่่เปลี่ยนไปต่างหาก
ที่ดูเหมือนว่าจะทำโลกเปลี่ยนไปด้วย
เราจึงได้เห็น
คนที่มีความทุกข์มากมายจ่อมจมอยู่กับความมืดอยู่เนิ่นนาน
และตลอดเวลา
มืดมนในความคิด มืดมิดกับความหวัง
ปล่อยเวลาแห่งความท้อแท้กร่อนกินชีวิตไปเรื่อย ๆ
ไปตามโลกที่ยืดเวลาค่ำคืนให้ยาวนานกว่าที่เป็น
แม้นอกหน้าต่างจะมีแสงสว่างแต่หัวใจก็ยังมืดมนไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ยอมเปิดตาเปิดใจมาดูว่าขณะนี้ โลกมืด หรือสว่างอยู่
หลังจากนั้นก็จะรู้สึกว่า
โลกค่อย ๆ มืดไปเรื่อย ๆ จนเต็มใบ
และสุดท้ายก็มองไม่เห็นสิ่งใดได้อีก
นอกจากความฝันที่แตกสลายและชีวิตที่กำลังผุพัง
อย่าลืมว่าโลกนี้คือความสมดุล
มีช่วงเวลากลางคืนให้หลับพักผ่อน
ให้เอาความทุกข์ทั้งหมดวางทิ้งไว้ในขณะหลับ
เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งในรุ่งเช้าที่จะมีแสงสว่างสดใส
ให้เราได้เริ่มต้นความสุขอีกครั้ง
โลกด้านมืดมีครึ่งใบก็พอแล้ว อย่าทำให้มันมากไปกว่านี้
ถ้าเราไม่รู้จักทิ้งความทุกข์ไว้ในค่ำคืน
ปล่อยให้ตื่นมาด้วยหัวใจที่ยังมืดมิดอยู่
จะมีประโยชน์อะไรแม้ตะวันจะส่องแสงตาเรายังคงไม่เปิด
หัวใจเรายังปิดตาย ยังไม่มองไม่เห็นทาง
และคิดว่าโลกทั้งใบมีแต่ความมืดดำ
ไม่มีใคร หรือสิ่งใดจะบิดเบือนข้อเท็จจริงนี้ได้
ว่าโลกมันมีสองด้านเสมอ
มีเพียงคนที่หลับตาเท่านั้น...
ที่คิดว่ามันมีด้านเดียว
Create Date : 25 เมษายน 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 25 เมษายน 2555 0:30:15 น. |
Counter : 834 Pageviews. |
|
|
|
บทความให้แง่คิดได้ดี นะครับ