Bloggang.com : weblog for you and your gang
สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
เทคนิคการปลูกไม้กระถางให้สวยงาม
ความหมายของไม้กระถาง
ไม้กระถาง หมายถึง การนำพรรณไม้บางชนิดมาปลูกลงในกระถาง หรือภาชนะสวยงาม จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นไม้ประดับ ตกแต่งอาคารสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด และสามารถเคลื่อนย้ายไปประดับในสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย สะดวกในการดูแลรักษา และโยกย้ายสับเปลี่ยนพรรณไม้ได้ตามความพอใจ ในปัจจุบันไม้ประดับกระถางเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ที่มีพื้นที่ราคาแพง จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด จึงต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้มีชีวิตชีวาด้วยการใช้ไม้ประดับกระถางแทนสภาพอื่นที่ขาดหายไป
ประโยชน์ของไม้กระถาง
-ประหยัดพื้นที่ในการปลูก สามารถตั้งหรือแขวนไว้ในพื้นที่ที่จำกัดได้
-สะดวกในการโยกย้าย และสับเปลี่ยนพรรณไม้เพื่อประดับตกแต่งก็ทำได้ง่าย
-ภาชนะปลูกสามารถดัดแปลงมาจากวัสดุเหลือใช้ได้ เช่น กระป๋องพลาสติก และขวดแก้วรูปทรงต่างๆ
-ไม้กระถางสะดวกในการขยายพันธุ์ ไม่เปลืองวัสดุปลูก และเวลา
-ไม่แพร่กระจายโรคเร็วเหมือนปลูกในแปลงบนพื้นดิน หากมีอาการผิดปกติเนื่องจากโรคและแมลงก็แก้ไขได้ง่าย
-คงสภาพและจัดรูปทรงของต้นไม้ได้ดี สามารถนำไปใช้ประดับตกแต่งได้ทุกที่ และสามารถเปลี่ยนแปลงความสวยงามได้ตามต้องการ
-การดูแลบำรุงรักษาทำได้ง่ายไม่สิ้นเปลืองเวลามาก
พรรณไม้ที่นิยมปลูกในกระถาง
พรรณไม้ที่ใช้เป็นไม้กระถางได้ดีส่วนใหญ่เป็นพรรณไม้ที่ไม่มีรากแก้ว นอกจากจะนำมาตัดรากแก้วออกทำเป็นไม้แคระ การแบ่งกลุ่มของไม้กระถางอย่างกว้างๆ ตามลักษณะความต้องการแสงของต้นไม้ ได้ดังนี้
พรรณไม้กระถางในร่ม (Indoor Plants)
เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมปลูกประดับในสถานที่ร่ม หรือในอาคาร เช่น ว่านต่างๆ บอน เฟิร์น สาวน้อยประแป้ง โกสน พลูด่าง เดหลี วาสนา กำมะหยี่ หมากผู้หมากเมีย กล็อกซีเนีย อาฟริกันไวโอเลท ฯลฯ พรรณไม้เหล่านี้ต้องการแสงแดดเพียง 20 40% ชอบอากาศเย็น เป็นไม้ใบที่บอบบาง บางชนิดเปราะ บางชนิดเหนียว ใบเป็นมัน หรือสีต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีสีเขียวมีลายใบ
พรรณไม้กระถางกลางแจ้ง (Outdoor Plants)
เป็นพรรณไม้ที่นิยมปลูกประดับสวน ริมรั้ว ริมอาคาร ระเบียง ที่นิยมปลูกเลี้ยงกันมาก เช่น โป๊ยเซียน เบญจมาศ กุหลาบ ชวนชม เฟื่องฟ้า ว่านสี่ทิศ คริสต์มาส ดาวเรือง เป็นต้น เป็นกลุ่มไม้ที่ชอบแสงแดด ปลูกกลางแจ้งหรือร่มก็ได้ แต่จะต้องได้รับแสงแดดมากกว่า 50% ขึ้นไป สามารถปรับตัวได้ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ถ้านำไปประดับในที่ร่มนานเกินไปจะไม่เจริญเติบโตต่อ
กระถางหรือภาชนะปลูก
ชนิดของกระถาง ประกอบไปด้วยชนิดต่างๆ เช่น กระถางดินเผา กระเคลือบ กระถางลายคราม กระถางพลาสติก กระถางเซรามิค รวมถึงภาชนะอื่นๆ
กระถางดินเผา
ข้อดี คือ หาง่าย ราคาไม่แพงมาก ลักษณะของกระถางมีรูพรุนซึ่งช่วยระบายอากาศถ่ายเทความชื้นของดินและเครื่องปลูกได้ดี ทำให้รากพืชได้รับออกซิเจนเพียงพอ และเจริญเติบโตได้ดีทำให้อุณหภูมิของเครื่องปลูกไม่สูงเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อน สามารถทำลายและกำจัดศัตรูพืชได้ง่ายโดยการต้ม อบไอน้ำ หรือรมด้วยสารเคมีโดยไม่เสียรูปทรง
ข้อเสีย คือ มีน้ำหนักมากและราคาแพงเมื่อเทียบกับกระถางพลาสติก แตกง่าย เมื่อใช้ไปนานๆ แล้วจะมีตะไคร่น้ำขึ้นรอบกระถาง ทำให้ดูสกปรก และล้างทำความสะอาดยากกว่ากระถางพลาสติก
กระถางพลาสติก
ข้อดี คือ ราคาถูก น้ำหนักเบา ทำความสะอาดง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องตะไคร่น้ำ เก็บความชื้นได้ดีกว่ากระถางดินเผา ทำให้เครื่องปลูกแห้งช้า ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อยนัก
ข้อเสีย เนื่องจากลักษณะของกระถางทึบไม่มีรูพรุนทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกถ้ารดน้ำมากจะทำให้น้ำขังแฉะ อาจจะทำให้รากพืชเน่าตายได้ อุณหภูมิของเครื่องปลูกสูงมากในฤดูร้อนโดยเฉพาะกระถางพลาสติกสีดำ
กระถางที่ทำจากวัสดุอื่น
ซึ่งได้แก่ กระถางไม้ กระถางเคลือบ กระถางลายคราม กระถางดังกล่าวมีลักษณะต่างกัน จุดประสงค์เพื่อให้เกิดความสวยงามเวลานำไปตั้งหรือแขวนประดับตามสถานที่ต่างๆ
กระถางประดับที่ไม่ใช้ปลูกต้นไม้โดยตรง
คือกระถางประดับที่มีความสวยงาม หรือภาชนะที่สามารถใช้รองรับหรือเอากระถางปลูกต้นไม้ใส่ลงไปเพื่อให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น เช่น กระบุง ตะกร้าไม้ไผ่สาน หวาย อลูมิเนียม กระเบื้องเคลือบ หรืออื่นๆ กระถางชนิดนี้เน้นความสวยงามเป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่นำไปใช้ตกแต่งภายในอาคาร บ้านเรือน โรงแรม สำนักงาน หรือสถานที่อื่นๆ ส่วนมากจะมีราคาแพง การใช้งานต้องถนุถนอมหลีกเลี่ยงการโดนน้ำโดยเฉพาะกระถางประเภทที่ทำด้วยไม้ไผ่สาน หวาย จะทำให้ใช้งานได้นานขึ้น
ขนาดและรูปทรงของกระถาง
ขนาดของกระถางโดยทั่วไปจะใช้ตั้งแต่ขนาด 6นิ้ว 8นิ้ว 10นิ้ว จนถึงขนาด 12นิ้ว ถ้าเป็นกระถางดินเผาขนาดไม่ควรจะเกิน 12 นิ้ว เพราะเกินขนาดที่ดินเผาจะยึดเกาะได้แข็งแรงพอ และมักจะแตกหักได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องใช้ขนาดที่ใหญ่กว่านี้ ควรเลือกกระถางจำพวกกระถางเคลือบจะดีกว่า
กระถางมาตรฐานเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว กระถางมาตรฐานทั่วไป (Standard Pot) เป็นกระถางที่มีปากกว้าง ก้นกระถางแคบ โดยที่ปากกระถางจะมีความกว้างของเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับความสูงหรือความลึกของกระถาง เช่น กระถาง 6นิ้ว จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระถาง 6นิ้ว และมีความสูงหรือความลึก 6นิ้ว เช่นเดียวกัน กระถางชนิดนี้ใช้ปลูกต้นไม้ทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็น ไม้อายุสั้น หรือไม้ประดับที่มีอายุยาวนาน เช่น กุหลาบ ได้เพราะมีวัสดุหรือเครื่องปลูกมากพอที่ระบบรากจะเจริญเติบโตได้ ความลึกของกระถางจะช่วยให้สามารถพยุงพุ่มต้นได้ดี แต่มักจะมีปัญหาเรื่องดินแฉะ หากรูระบายน้ำอุดตัน ทำให้ระบบรากมีปัญหาได้
กระถางเตี้ย กระถางเตี้ย (Azalea Pots) มีลักษณะคล้ายทรงกระถางมาตรฐานทั่วไปแต่จะมีความลึกน้อยกว่า คือ ความลึกของกระถางเท่ากับพื้นที่ของเส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระถาง เหมาะสำหรับไม้ดอกมีพุ่มต้น และดอกชิดแน่น แต่ต้นเตี้ย เช่น กล็อกซีเนีย (Gloxinia) และอาฟริกันไวโอเลท (African Violet) เนื่องจากกระถางชนิดนี้มีลักษณะเตี้ย ก้นกระถางกว้างกว่ากระถางแบบมาตรฐาน ทำให้ต้นไม่ล้มง่ายมีความมั่นคง และดูสวยงามไม่เปลืองวัสดุปลูก
กระถางถาด กระถางถาด (Pans) เป็นกระถางก้นตื้น คือ ความลึกหรือความสูงของกระถางจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของเส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระถาง เช่น ปากกระถางกว้าง 8 นิ้ว แต่จะลึกเพียง 4 นิ้ว เป็นต้น กระถางถาด หรือ กระถางก้นตื้นนี้เหมาะสำหรับปลูกไม้หัว และไม้ประดับบางชนิดที่มีพุ่มเตี้ย และแผ่กว้าง เช่น ต้นคริสมาส นอกจากนี้กระถางยังใช้เป็นภาชนะเพาะเมล็ดพันธุ์ได้ดีอีกด้วย เนื่องจากมีก้นตื้นทำให้ดินเพาะเมล็ดไม่แฉะ ไม่เปลืองดินเพาะ น้ำหนักเบาเคลื่อนย้ายสะดวก
ดินหรือเครื่องปลูก
ในธรรมชาตินั้น ต้นไม้เจริญเติบโตหรือขึ้นได้ในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมของพรรณพืชแต่ละชนิด แต่การปลูกเลี้ยงไม้กระถาง เป็นการกำหนดให้ต้นไม้ต้องอยู่ในที่ที่จำกัดในภาชนะปลูก ดินหรือเครื่องปลูกจึงมีความจำเป็นต้องมีคุณสมบัติในการยึดลำต้น การอุ้มน้ำ การถ่ายเทอากาศ และง่ายในการที่รากจะไชชอนได้สะดวก การปลูกพืชในกระถาง รากพืชจะถูกจำกัดขอบเขตอยู่เฉพาะภายในกระถางเท่านั้น
ดังนั้นเพื่อให้พืชเจริญเติบโตตามความประสงค์ของผู้ปลูกเลี้ยง ดินหรือวัสดุปลูกควรมีความอุดมสมบูรณ์ มีคุณภาพดี ซึ่งคุณสมบัติโดยทั่วไปดังนี้
ดินร่วนโปร่ง น้ำหนักเบา ระบายน้ำได้ดี ถ่ายเทอากาศได้ทั่วถึง ดูดซับน้ำได้ดี
มีธาตุอาหาร หรือปุ๋ยที่พืชต้องการอย่างสมบูรณ์
ไม่มีความเป็นกรด เป็นด่างมากเกินไป
มีความแน่นพอที่จะยึดให้ลำต้นทรงตัวอยู่ได้
ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษต่อรากพืช
เนื่องจากดินปลูกไม้กระถางอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด ดินปลูกจึงควรมีลักษณะร่วนโปร่ง อุ้มน้ำ หรือเก็บความชื้นได้ดี สามารถระบายน้ำ และถ่ายเทอากาศได้ดี ดินทั่วไปมีคุณสมบัติทางเคมี และทางกายภาพที่แตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมเป็นเครื่องปลูกไม้กระถางจึงต้องมีการปรับปรุงคุณภาพโดยมีวัสดุอื่นๆ เป็นส่วนผสมดังนี้
อินทรีวัตถุ ประกอบด้วย เศษซากใบไม้ผุ เปลือกไม้แห้ง แกลบ ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าวสับ ฟางข้าว และเปลือกทั่ว เป็นต้น
ปุ๋ยคอก ประกอบด้วย ขี้วัว ขี้ควาย ขี้หมู ขี้ไก่ และขี้ค้างคาว เป็นต้น
ทราย อิฐป่น และถ่านป่น
วิธีการปลูก
การปลูกไม้กระถางนั้นอีกอย่างหนึ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือ ขนาดของต้นไม้ และกระถางควรให้เหมาะสมกัน ถ้าต้นไม้ยังเล็กอยู่ก็ใช้กระถางเล็กไปก่อน พอต้นไม้โตพอที่จะเปลี่ยนกระถางจึงเปลี่ยนกระถางตานขนาดของต้นไม้ เนื่องจากการปลูกไม้กระถางเป็นไม้ประดับนั้นต้องการความสวยงามเป็นหลักอยู่แล้ว
ถ้าปลูกเพื่อให้เพื่อให้ไม้ในกระถางเป็นไม้ที่โตเร็ว ควรปลูกต้นไม้ต้นเดียวในหนึ่งกระถาง หรือถ้าต้นไม้เป็นทรงพุ่มแตกกิ่งก้านแผ่มากก็ควรปลูกต้นเดียวในหนึ่งกระถางเช่นกัน ส่วนต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านน้อยทรงสูง แต่ถ้าต้องการให้เป็นพุ่มเพื่อความสวยงามก็ควรปลูกลงหลายต้นในหนึ่งกระถาง จำนวนต้นแล้วแต่ความเหมาะสมระหว่างต้นไม้กับขนาดของกระถาง ถ้าต้นไม้เป็นไม้ทรงสูงมีลำต้นเดี่ยวตั้งตรงแล้วแตกพุ่มตอนบน ก็ต้องปลูกลงต้นเดียวในหนึ่งกระถาง
เมื่อเลือกกระถางตามความเหมาะสมกับต้นไม้ที่จะปลูกแล้ว เราเริ่มปลูกตามขั้นตอนดังนี้
เอาเศษอิฐ หรือเศษกระถางแตกอุดที่รูระบายน้ำที่ก้นกระถางเสียก่อน ถ้าจะให้ดีต้องโรยทับด้วยกรวด อิฐมอญทุบ หรือถ่านอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนก็ได้ เพื่อให้ก้นกระถางโปร่ง และระบายน้ำได้ดี จากนั้นเอาดินหรือเครื่องปลูกที่เตรียมไว้ใส่กระถาง และทำมูลดินเป็นยอดแหลมเท่ากับความลึกของดิน
ที่ปลูก ก่อนปลูกหากไม้มีรากมากเกินไปควรตัดรากเก่าออกบ้าง เพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างระบบรากใหม่ที่แข็งแรง และแตกแขนงได้มากขึ้น
วางโคนต้นไม้ลงที่ยอดแหลมของมูลดิน และจัดระบบรากให้แผ่ออกรอบด้าน ทิ้งตัวลงตามแนวลาดของมูลดิน เติมดินรอบๆ โคนต้นเพียงเล็กน้อยก่อน แล้วกดดินบริเวณรอบๆ โคนต้นเบาๆ เป็นการไล่โพรงอากาศ และเพื่อให้ดินสัมผัสรากพืชได้กระชับขึ้น
จากนั้นเติมดินและกดเบาๆ จนเกือบเต็มกระถาง ให้ระดับดินอยู่ต่ำกว่าขอบกระถางพอประมาณ พยายามอย่าเติมดินจนเต็มหรือพูนกระถางจนเกินไป เพราะเวลารดน้ำจะทำให้น้ำไหลออกนอกกระถางแทนที่จะซึมลงกระถาง แต่ถ้าเติมดินน้อยเกินไปก็จะทำให้ดินยุบตัวจนเกิดรากลอย หรือทำให้บริเวณโคนต้นชื้นเกินไป เป็นสาเหตุให้เกิดโรคราได้ง่ายขึ้น
การให้น้ำ
ปกติการให้น้ำต้นไม้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการให้น้ำมากเกินไป น้อยเกินไป หรือให้น้ำไม่ถูกวิธีสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชเหมือนกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ ชนิดของพรรณพืช สภาพของดิน หรือเครื่องปลูก สภาพแวดล้อม เช่น ในร่ม กลางแจ้ง มีลมพัดผ่านหรือไม่ อุณหภูมิ และฤดูกาล เป็นต้น
ถ้าพืชได้รับน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ใบเหี่ยว เนื่องจากน้ำในดินมีไม่พอให้รากดูดไปเลี้ยงลำต้น ช่วงเวลาใกล้เที่ยงถึงบ่าย 3 โมงเย็น เป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดพืชจะคายน้ำมาก เมื่อคายน้ำมากแล้วรากต้องดูดน้ำมาชดเชยให้กับใบที่เสียน้ำไปกับอากาศ ถ้าชดเชยไม่ทันก็จะทำให้ใบเหี่ยว
ถ้าน้ำมากจนเต็มช่องว่างทั้งหมดของดิน และไล่อากาศออกทำให้ดินอิ่มตัวจนเกิดน้ำขัง ก็จะไม่เหมาะกับการเจริญเติบโตของพืช เพราะจำทำให้พืชขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการหายใจของราก เราเรียกความชื้นในดินระดับนี้ว่าระดับ Superfluous ถ้าดินมีน้ำขังเพียง 23 วัน พืชจะมีอาการเหี่ยวทั้งๆ ที่ไม่ขาดน้ำบางชนิดอาจตายได้ แต่ในทางกลับกันถ้าพืชได้รับน้ำน้อยเกินไปต้นก็เหี่ยวเหมือนกัน วิธีการให้น้ำไม้กระถาง
ควรรดน้ำที่โคนต้น อย่าใช้วิธีฉีดทั้งใบ เพราะจะทำให้พุ่มและใบกระจ่ายล้มได้ และทำให้น้ำกระจายออกนอกกระถาง ทำให้น้ำไม่ถึงระดับราก
ถ้าดินแห้งหดตัวหนีขอบกระถาง ทำให้น้ำไหลลงรูที่ก้นกระถางหมด และไม่ชุ่มถึงระดับราก ควรพรวนดินให้ฟูก่อนแล้งค่อนรดน้ำให้ชุ่ม ควรใช้น้ำที่ไม่แรง รดช้าๆ จนชุ่ม ไม่ควรฉีดน้ำแรงมาก เพราะจะทำให้น้ำชะหน้าดินออกจากกระถางทำให้รากลอย และแห้งได้
การรดน้ำที่ดีควรรดน้ำแล้วปล่อยให้ใบแห้งก่อนค่ำ เพื่อป้องกันการเกิดโรคในขณะที่ใบพืชชื้น ควรพิจารณาตามฤดูกาล และความชื้นของดิน
ไม้กระถางในร่ม ต้องการแสงน้อย เนื่องจากการคายน้ำ การหายใจ การดูดธาตุอาหาร น้อยกว่าไม้กลางแจ้ง การให้น้ำต้องสังเกตความต้องการน้ำของพืชด้วย เช่น สัมผัสดินปลูก ความสดใสของใบ ในขณะที่อากาศแห้ง ถ้าอากาศชื้น-เย็น ควรให้น้ำวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
ไม้กระถางที่มีใบใหญ่ จำนวนใบมาก ใบและต้นมีลักษณะอวบน้ำ จะต้องการน้ำมากกว่าไม้ใบเล็ก หรือจำนวนใบน้อย ความต้องการน้ำแตกต่างกันตามชนิดของพรรณไม้ ไม้กระถางอายุยืน พุ่มใหญ่ ระบบรากสมบูรณ์ จะต้องการน้ำมากว่าไม้กระถางขนาดเล็ก อายุน้อย หรือระบบรากยังไม่เจริญเต็มที่ และความชื้นของดินมีผลมาจากส่วนผสมของดินปลูกที่แตกต่างกัน ดินที่มีส่วนผสมของอินทรีวัตถุ ปุ๋ยคอกและวัสดุอื่น เช่น อิฐมอญทุบ ทราย จะอุ้มน้ำได้ดีกว่าดินร่วนธรรมดา ดินเหนียวระบายน้ำและอากาศได้ไม่ดี ดินแน่นแข็งตัวง่าย ทำให้ระบบรากเจริญเติบโตได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ชนิดของกระถางมีส่วนสำคัญในการให้น้ำด้วยเช่นกัน เช่น กระถางดินเผามีรูพรุนทำให้การระเหยน้ำได้ง่าย ทำให้เครื่องปลูกแห้งเร็วกว่ากระถางพลาสติก แก้ว หรือโลหะ ดังนั้นไม้ที่ปลูกในกระถางดินเผาจึงควรให้น้ำบ่อยกว่ากระถางชนิดอื่น
สภาพแวดล้อมเกี่ยวกับ แสง อุณหภูมิ ความชื้นและลม สิ่งเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับการให้น้ำด้วย เพราะมีส่วนทำให้พืชสูญเสียน้ำจากต้นด้วยการคายน้ำกับระเหยไปจากเครื่องปลูกด้วยเช่นกัน
ชนิดของพรรณไม้ที่ต่างกันความต้องการน้ำมากน้อยก็แตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นจึงมีข้อสังเกตบางประการที่พอจะบอกให้ทราบเกี่ยวกับการให้น้ำแก่พืช โดยดูจากสิ่งต่างๆ ดังนี้
คุ้ยผิวดินในระดับความความลึกประมาณครึ่งนิ้ว หากดินแห้งก็ควรให้น้ำได้แล้ว สังเกตดูจากสีของผิวดินหน้ากระถาง ถ้าสีของดินจางลงมาก หน้าดินดูแห้งก็ควรให้น้ำได้แล้ว แต่ถ้าสีของดินยังค่อนข้างทึบแสดงว่าดินยังมีความชื้นอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องให้น้ำขณะนั้น ดินในกระเริ่มหดตัวแยกออกจากขอบกระถางแสดงว่าดินแห้ง แต่ลักษณะนี้จะเห็นได้ชัดว่าเครื่องปลูกนี้มีส่วนผสมของดินเหนียวอยู่มาก วิธีแก้จึงควรพรวนดินให้ฟูก่อนรดน้ำ เพื่อให้ดินโปร่งและซับน้ำได้ดีขึ้น
ควรศึกษาและสังเกตนิสัยความต้องการน้ำของพืช เพราะแต่ละสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน แม้จะเป็นพืชชนิดเดียวกัน ก็อาจจะต้องการที่แตกต่างกัน
การให้ปุ๋ย
การใส่ปุ๋ยให้แก่ไม้กระถางควรพิจารณาถึงความอุดมสมบูรณ์ของเครื่องปลูกเป็นหลัก เครื่องปลูกที่มีดินร่วน ใบไม้ผุ และปุ๋ยคอกผสมอยู่ในปริมาณมาก อาจไม่ต้องให้ปุ๋ยเพิ่ม หรืออาจให้บ้างในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเครื่องปลูกที่มีใบไม้ผุ และปุ๋ยคอกผสมอยู่ในปริมาณน้อยหรือไม่มีเลยก็ควรใส่ปุ๋ยเพิ่มให้เพียงพอต่อความต้องการของพืช
โดยทั่วไปการใส่ปุ๋ยให้แก่ไม้ประดับกระถางมักใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น ยูเรีย (46-0-0) ช่วยเร่งการเจริญเติบโต โดยใส่หลังจากปลูกประมาณ 37 วัน และครั้งต่อไปใส่สัปดาห์ละครั้ง เพื่อเร่งให้ต้นไม้สร้างใบ แตกยอด กิ่งก้านได้ดีขึ้น เมื่อให้ปุ๋ยทุกครั้งควรรดน้ำตามเสมอเพราะน้ำจะเป็นตัวละลายให้พืชดูดน้ำไปใช้ได้สะดวก วิธีให้ปุ๋ยยูเรีย อาจจะใช้วิธีหว่านแล้วรดน้ำตามไป หรือละลายปุ๋ยในน้ำแล้วรดก็ได้
การให้ปุ๋ยไม้กระถางประดับในอาคารควรใส่ปุ๋ยเพียงเล็กน้อย ไม่ควรใส่มากเหมือนไม้กลางแจ้ง เนื่องจากภายในอาคารไม่เหมือนกับสภาพธรรมชาติปกติ จะทำให้พืชยืดลำต้นเร็ว และอ่อนแอไม่ทนต่อโรคแมลง ช่วงการใส่ปุ๋ย ควรใส่ระยะที่นำไม้ออกมาพักฟื้นภายนอกอาคาร ปุ๋ยที่ใช้อาจเป็นปุ๋ยเม็ดสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 โดยใส่ทางดิน ร่วมกับการใช้ปุ๋ยน้ำสูตรไนโตรเจนสูง เช่น 21-13-13 เสริมไปด้วยโดยการฉีดพ่นทางใบสัปดาห์ละครั้ง เมื่อเห็นว่าต้นไม้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นควรงดปุ๋ยทางใบให้เฉพาะปุ๋ยเม็ดทางดินอย่างเดียว โดยให้ปุ๋ยเคมีทุกๆ 3 เดือน ครั้งละ 12 ช้อนชาสำหรับไม้กระถางขนาด 812 นิ้ว โดยโรยรอบๆ กระถาง หรือฝังกลบ 23 จุด ชิดขอบกระถางปลูก รดน้ำให้ชุ่ม ไม้กระถางในร่มควรให้ปุ๋ยเคมีได้ในช่วงระยะเวลาที่พักไม้หลังจากใช้งานแล้ว ไม่ควรให้ปุ๋ยในระหว่างการตั้งประดับหรือระหว่างการใช้งาน
การดูแลรักษาโดยทั่วไป
การปลูกเลี้ยงไม้กระถาง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปฏิบัติดูแลรักษาอย่างดี และสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อให้ไม้กระถางมีอายุยืน และคงความสวยงามไว้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนกระถาง หรือต้นไม้บ่อยครั้ง การดูแลรักษาโดยทั่วไปจึงควรคำนึงถึงความสำคัญดังต่อไปนี้
ไม่ควรตั้งไม้กระถางในที่ที่มีลมแรงมาก หรือตั้งใกล้ที่มีไอร้อนมาก เช่น อยู่ใกล้เครื่องทำความร้อน ไม้กระถางส่วนมากไม่ชอบให้ลมพัดโกรกมาก หรืออุณหภูมิสูง เพราะจะทำให้พืชมีการระเหยน้ำมากจนต้นไม้นั้นเหี่ยวเฉาตายได้ โดยเฉพาะการใช้ไฟส่องแสงสว่างแรงๆ และใกล้ต้นไม้เกินไปทำให้ต้นไม้ทนความร้อนไม่ไหวทำให้เหี่ยวเฉาตายได้ในที่สุด
การนำไม้กระถางไปใช้งานหรือประดับในที่ต่างๆ จึงต้องคำนึงถึงช่วงเวลาการใช้งานของไม้แต่ละกลุ่มด้วย เช่น ไม้กลางแจ้งจำพวกหมากเหลือง ไทร ไผ่ วาสนา หากนำไปใช้ประดับในร่ม หรือในอาคาร ช่วงเวลาของการใช้งาน 6-8 สัปดาห์ ก็ควรสับเปลี่ยนไม้ชุดใหม่เข้าแทน เพื่อจะได้พักฟื้นไม้ประดับชุดเก่า
ส่วนไม้ในร่มหรือกึ่งร่ม เช่น โมก คล้า อะโกลนีมา เปปเปอโรเมีย ฟิโล เดนดรอน พลูด่าง เฟิร์น รวมทั้งกลุ่มไม้ดอก เช่น กล็อกซีเนีย กล้วยไม้ อาฟริกันไวโอเลท จะอยู่ได้นานกว่า เพราะไม้กลุ่มนี้ต้องการแสงจำกัดอยู่แล้ว อายุการใช้งานอาจจะถึง 810 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานของไม้ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ถ้ายิ่งใช้งานช่วงเวลาสั้นจะดีกว่าเพราะไม่ทำให้ต้นไม้โทรมหรือช้ำมาก ไม้จะฟื้นตัวเร็วและคงความสวยงามได้นาน ดังนั้นสำหรับไม้ประดับในร่มแล้ว จึงควรเตรียมไม้ประดับไว้หลายชุด เพื่อใช้สับเปลี่ยน
ไม้กระถางที่ใช้ประดับนอกอาคารนั้นสำคัญที่สุดก็คือการให้น้ำสม่ำเสมอ ถ้าขาดน้ำแล้วจะเหี่ยวเฉา ถ้าใช้จานรองก้นกระถางหล่อน้ำเอาไว้ก็อาจจะช่วยได้บ้าง
การดูแลทำความสะอาดใบ ก็นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะใบที่สะอาดคือใบที่แข็งแรง การล้างใบเป็นการล้างเอาฝุ่นละอองออกจากใบ นอกจากจะทำให้ใบสะอาดสวยงามแล้ว ยังทำให้พืชสามารถปรุงอาหารได้ดีขึ้นอีกด้วย วิธีล้างใบควรใช้น้ำสบู่อ่อนๆ จะไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อใบ ไม่ควรใช้ผงหรือน้ำยาซักฟอกประเภทกัดรุนแรงโดยเด็ดขาด
ส่วนโรคที่พบอยู่เสมอได้แก่โรคโคนเน่า มักเกิดกับพืชในระยะที่เป็นต้นกล้ายังตั้งตัวไม่ได้ แสดงอาการใบเหี่ยว เมื่อดูที่โคนต้นระดับผิวดินจะพบรอยเน่า และต้นล้มตายในที่สุด การป้องกันให้พยายามทำให้บริเวณโคนต้นโปร่ง มีการระบายอากาศดี มีแสงแดดส่องถึง และรักษาผิวหน้าดินปลูกอย่าให้ชื้นแฉะเกินไป
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
การป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูเป็นความจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในการดูแลรักษาไม้กระถาง เพราะแมลงเป็นศัตรูต่อการเจริญเติบโตของพืช ที่พบมากมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
ประเภทปากกัด ได้แก่ ตั๊กแตน หนอนผีเสื้อ ด้วง ฯลฯ ทำลายโดยกัดกินใบ ทำให้ต้นไม้ไม้สามารถปรุงอาหารได้ และชะงักการเจริญเติบโต แมลงปากกัดบางชนิดกัดแทะเข้าไปถึงกิ่งก้านหรือลำต้น ทำให้ท่อน้ำท่ออาหารของต้นไม้เสียหาย ถ้าถูกทำลายมากต้นไม้จะเหี่ยวและตายในที่สุด วิธีกำจัดโดยการใช้ยาประเภทถูกตัวตายหรือกินตายฉีดพ่น หากพบจำนวนไม่มากให้จับทำลาย
ประเภทดูดน้ำเลี้ยง ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยจั๊กจั่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน แมงมุมแดง เพลี้ยหอย ฯลฯ ทำลายโดยดูดน้ำเลี้ยงจากใบ แมลงปากดูดบางชนิดยังปล่อยสารพิษให้ต้นไม้ใบสีซีดเหี่ยวแห้ง ใบร่วงก่อนกำหนด ชะงักการเจริญเติบโต และแห้งตายในที่สุด วิธีกำจัดโดยการฉีดยาประเภทถูกตัวตาย
เนื่องจากการปลูกไม้กระถางประดับเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับคน หากสามารถหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดศตรูพืชได้มากเท่าไรหรือไม่ใช้เลยยิ่งดี โดยเฉพาะไม้กระถางที่ใช้ประดับในอาคารบ้านเรือน หากจำเป็นต้องใช้ยากำจัดแมลงควรกระทำอยู่ภายนอกอาคารและหลีกเลี่ยงยาที่มีอันตรายมากๆ มีฤทธิ์ตกค้างนานและมีกลิ่นรุนแรง ก่อนนำพรรณไม้เข้าประดับในอาคารควรงดฉีดยา หรือทิ้งไว้จนหมดกลิ่นและฤทธิ์เสียก่อน สิ่งสำคัญควรเลือกใช้ยาให้ถูกต้องกับแมลงที่ต้องการกำจัด แล้วนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะโดยทั่วไปยาฆ่าแมลงมีอันตรายต่อคนอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีอันตรายก็ยิ่งมากขึ้น
การกำจัดโรคพืช
โรคพืชที่พบบ่อยในไม้กระถางได้แก่ โรคโคนเน่า ลักษณะอาการแสดงออกที่บริเวณโคนต้นระดับผิวดินจะเน่าและต้นจะล้มตายในที่สุด ทางป้องกันหรือลดความเสียหายทำได้โดยการกำจัดวัชพืชและตัดแต่ง ช่วยให้โคนต้นโปร่งมีการระบายอากาศ แสงแดดส่องได้ทั่วถึง และพยายามรดน้ำให้น้อยลง รักษาผิวหน้าดินอย่าให้ชื้นแฉะเกินไป
การกำจัดวัชพืช
วัชพืชหรือหญ้าต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ในเครื่องปลูกจะเป็นตัวแย่งอาหารจากต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ไม่สวย และยังเป็นที่อยู่อาศัยหรือแหล่งสะสมของโรคแมลงบางชนิดด้วย การกำจัดวัชพืชควรทำในขณะที่วัชพืชยังเป็นต้นอ่อนยังไม่ออกดอกติดเมล็ด เพราะเมล็ดแก่อาจหล่นลงในเครื่องปลูกงอกเป็นต้นอ่อนได้ ทำให้ต้องเสียเวลาในการกำจัดต่อไปอีก วิธีการกำจัดวัชพืชอาจใช้วิธีถอนด้วยมือ แซะหรือขุดด้วย พลั่วมือ เสียม หรือจอบ โดยพรวนดินร่วมไปด้วย
การตัดแต่ง
การตัดแต่ง ไม้ประดับหลังจากปลูกประดับไปนานๆ ส่วนยอด กิ่งก้าน หรือใบจะยืดยาวเจริญไม่เป็นระเบียบ ขาดความสวยงาม จำเป็นต้องมีการตัดแต่งกิ่งออกบ้าง เพื่อรักษาทรงพุ่มให้สวยงามยิ่งขึ้น หากมีกิ่งหักเสียหายที่เกิดจากการเคลื่อนย้าย กิ่งมีโรคแมลงเข้าทำลาย หรือกิ่งแห้ง ควรตัดออกให้ดูสวยงามและยังเป็นการรักษาสุขภาพของต้นไม้ให้ดีขึ้นด้วย โดยใช้กรรไกรตัดแต่งหรือมีดคมๆ เพื่อไม่ให้แผลที่ตัดช้ำมากนัก
การใช้ไม้กระถางในการตกแต่ง
ในการใช้ไม้กระถางในการตกแต่งประดับให้สวยงามทั้งภายในและภายนอกอาคารนั้นอาจจัดได้ 2 ลักษณะด้วยกัน คือ
จัดไม้กระถางประดับเดี่ยว
คือการใช้ไม้กระถางแยกกันจัดประดับตกแต่ง ซึ่งอาจจะจัดเป็นแถวเป็นแนว หรือใช้เป็นคู่ซ้ายขวาก็ได้ การจัดไม้กระถางประดับแบบนี้เหมาะสำหรับลักษณะของพื้นที่แคบ หรือพื้นที่ที่มีส่วนยาวมากกว่าส่วนกว้าง เช่นสองข้างทางเดิน ตามระเบียงอาคาร หรือตามขอบฝาผนัง หรือริมขอบเขตแนวกำแพง สองข้างทางบันไดขึ้นลง การจัดแบบนี้ไม้เปลืองไม้กระถาง การจัดไม้กระถางประดับลักษณะนี้เน้นความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสำคัญ หรือถือหลักแนวเส้นตรงมีความสมดุลทั้ง 2 ข้าง และส่วนใหญ่เป็นพรรณไม้ชนิดเดียวกัน
จัดไม้กระถางประดับเป็นกลุ่มหรือเป็นหมู่
คือการจัดไม้กระถางหลายๆ กระถางรวมกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นหมู่เป็นพวก ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ใหญ่ กว้างขวาง เช่น ห้องขนาดใหญ่ ห้องประชุม ถ้าเป็นภายนอกอาคารก็มักจะเป็นลานกลางแจ้งที่มีขนาดใหญ่ เช่น ลานนั่งเล่นตามสวนสาธารณะ ลานตามมุมถนน หรือบางส่วนของถนน ตามมุมอาคารด้านนอก สถานที่ราชการ ในการจัดไม้กระถางประดับเป็นหมู่ หรือเป็นกลุ่มอาจจัดได้ 2 ลักษณะคือ จัดเป็นกลุ่มแบบเรขาคณิต หรือจัดเป็นกลุ่มแบบเส้นตรงหรือเส้นโค้งที่มาบรรจบกันโดยอยู่ในขอบเขตที่แน่นอนเช่น ใช้กระถางที่มีลักษณะสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม ต่อชิดกันเป็นกลุ่มให้มีลักษณะต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสภาพของสถานที่
Create Date : 30 มีนาคม 2552
2 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2552 9:56:36 น.
Counter : 11491 Pageviews.
Share
Tweet
ได้ความรู้ดีค่ะ...
โดย:
mutcha_nu
30 มีนาคม 2552 21:58:47 น.
มาเก็บความรู้ค่ะ
โดย:
ก้าวไปตามใจฝัน
8 เมษายน 2552 17:11:27 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
?
]
.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake
เพื่อนของกบ
ป้ามด
UnderSunShine (คุณนุ้ย)
แค่ฟ้ามีดาว^^(คุณอุ๊)
Paradijs(คุณไหม)
lozocat(คุณแคท)
ยอดสน
ญามี่
ขุนพลน้อยโค่วจง(คุณเขตต์)
ลูกนางฟ้าลงมาเกิด
Hawaii_Havaii(คุณอ้อย)
maew_kk
close2heaven
the river of Aquarius
thattron(คุณแอน)
KungGuenter(คุณกุ้ง)
N_BEE810
ดอกหญ้าเมืองเลย
เนยสีฟ้า(คุณเนย)
pk12th
หมูฟ้าใส
แพรวขวัญ
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
นู๋หญิงจ๋า(คุณหญิง)
ยายกุ๊กไก่
oranuch_sri(คุณนุช)
vannessa(คุณนุช)
fleuri
jj&TheGang(คุณแจน)
ลุงกล้วย
กะว่าก๋า
พลังชีวิต
ความเจ็บปวด
ถปรร
i-pinkberriiz's
รักษ์บ้านเกิด(คุณแอ๊น)
บ้านหวานเย็น
hiansoon
chabori (คุณไผ่)
ลุงแว่น
มิสเตอร์ฮอง
แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า
เกศสุริยง
ถั่วงอกน้อย
ไก่ย่างถูกเผามันจะถูกไม้เสียบ
kopdon
ปลายแป้นพิมพ์
Elbereth
ying_lp1
ถุงก๊อปแก๊ป
ชมพร
ooyporn
ดอกหญ้าใน Houston
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
cd2lucky
อุ้มสี
คนผ่านทางมาเจอ
แม่อ้วนคนสวย
แม่อ้วนใจดีที่สุด
Pastel pied
never the last
กำไลสีส้ม
CeciLia_MaLee
นายแว่นธรรมดา
praewa cute
ปูขาเก เซมารู
ลิงค์เพื่อนกัน
กต
กรมการกงสุล
hi5kobnon
Facebookkobnon
แม่บ้าน
h&c
ชีวจิต
naichef
hilunch
หมอชาวบ้าน
lisa
Group Blog
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ
ห้องพืชผักสมุนไพร
ห้องโรคกับอาหาร
ห้องรู้ทันโรค
ห้องสาระน่ารู้
ห้องบันทึกความทรงจำ
ห้องเกร็ดความรู้
ห้องแฟชั่นและความงาม
ห้องโชคชะตา
ห้องทำนายทายทัก
ห้องเทศกาลวันสำคัญ
ห้องสูตรอาหาร
ห้องพรรณไม้ดอกไม้
ห้องสมุดเยี่ยม
ห้องเล่าสู่กันฟัง
ห้องเก็บของ
Tag
ห้องออกกำลังกาย
ห้องบ้านรักษ์ธรรมชาติ
ห้องของสะสม
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ (2)
<<
มีนาคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
30 มีนาคม 2552
เทคนิคการปลูกไม้กระถางให้สวยงาม
All Blogs
ปาล์มหลากหลายพรรณ
หลากหลายพรรณนมแมว
กวางดูถูกไม้เลื้อยชื่อแปลก
รวมไม้คลุมดินสวยๆ
โนรีหลายสายพันธู์
ดอกไม้หอมสีม่วงราชาวดี
ช้างเผือก กล้วยไม้ดอกหอม
สายหยุดแดง
เอื้องหมายนา
คนทีสอ
หลากหลายว่านดอกสวยๆ
นกนอนทะเล
ศรีจันทรา
สะเภาลม
รวมภาพกล้วยไม้รองเท้านารี
ส่องฟ้าดง
มะลิ ดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์
ว่านจุกดอกสวยซะ....
โพลงไม้น้ำดอกสวย
ติ่งตั่งดอกสวย
เรื่องของกล้วยๆ
พรรณไม้สกุลโฮย่า
แคคตัสตะบองเพชรแสนสวย
มหาพรหมราชินี
ชบาหลากสีหลายพันธุ์
ค้อนหมาแดง
ฟ้ามุ่ย ความงามที่ทำให้ฟ้าหม่นหมอง
น้ำค้างกลางเที่ยง
ไม้สกุลเฟินข้าหลวง
กล้วยไม้ป่าตระกูลสิงโต (ตอนที่ 2)
กล้วยไม้ป่าตระกูลสิงโต (ตอนที่ 1)
ดอกไม้งาม ม่วงเทพรัตน์
พรรณไม้ตระกูลชบา
ดอกไม้ตระกูลติ๋วดอกสวย
ไม้ดอกสวยๆ ตระกูลเทียน
บรอมมีเลียดส์
สำเภางาม
กล้วยไม้ตระกูลเอื้อง
ถั่วกรามช้าง
ลั่นทมชื่อนั้นสำคัญไฉน
หลากหลายไม้ดอกประดับสวยๆ
จมูกปลาหลด
พรรณไม้สวยๆ ชื่อแปลก
แอฟริกันไวโอเล็ต
กุหลาบขาวเชียงดาว ไม้ดอกหายาก
รวงผึ้ง แสนสวย
ชมพูพิมพ์ใจสวยสมชื่อ
ปักเป้าดอกสวยน่ารัก
ใกล้ถึง valentine มาดูดอกไม้ชื่อเกี่ยวกับความรักกัน
ตุ้มหูนางฟ้า..ความงามที่เหมือนหยาดลงมาจากฟ้า
หลากหลายกุหลาบสวยๆ
รวมไม้ยืนต้นสวยหลากพันธุ์
แก้วมือไว
ไม้ยืนต้นตระกูลติ้วดอกสวยน่ารัก
รวมไม้พุ่มดอกสวย
คิ้วนางหรืออรพิมดอกไม้หายาก
สะแกวัลย์
ไม้คลุมดิน(Ground Cover Plant)
แฮปปิเนส
เนระพูสีไทยดอกไม้สีดำที่พบแห่งเดียวในโลก
รวมพรรณไม้เลื้อยสวยๆ
ปลูกบัวไม้น้ำสีสวยกันค่ะ
พืชจัดสวนมีพิษที่ควรระมัดระวัง ตอนที่ 2
พืชจัดสวนมีพิษที่ควรระมัดระวัง ตอนที่ 1
กล้วยไม้ป่า ตอนที่ 3 รองเท้านารีสวยมากขอบอก
กล้วยไม้ป่า ตอนที่ 2
กล้วยไม้ป่า ตอนที่ 1
รวมพรรณไม้ดอกไม้ประดับ
พรรณไม้น้ำตระกูลเตย
กล้วยไม้สกุลกุหลาบ
แวนด้่า
แคทลียา
ชิงช้าชาลี
หนวดปลาหมึก
ต้นพยับหมอก
มรกตแดงไม้ดูดสารพิษ
10 พันธุ์พืชที่หายากที่สุดในโลก
พวงแก้วกุดั่น
ลดาวัลย์
พวงคราม
เหลืองชัชวาลย์
มาลัยทอง
มอร์นิ่งกลอรี่
ถ้วยทอง
อมรเบิกฟ้า
รวมภาพดอกไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงพระราชทานนาม
กระเทียมเถา
เปลวสุริยัน
มหาพรหมราชินี ราชินีแห่งพฤกษา
อวดเชือก
เกี้ยวเกล้า
หัวใจทศกัณฑ์
อรคนธ์
สุวรรณพฤกษ์
พวงแส
มธุรดา
ไก่ฟ้าพญาลอ
พวงประดิษฐ์
ศรีมาลาสวยแปลกตา
โมกราชินี
ดอกมิกกี้เม้าส์
พรรณไม้หายากกระโถนฤาษี
พรรณไม้ไทยหายากต้นกันภัยมหิดล
สร้อยฟ้า
มังกรคาบแก้ว
ตะลุมพุก
ลั่นทมแดง
ตีนเป็ดทราย
หอมดอกโมกแดง
กุหลาบขาว
ราชาวดี
มะนาวไม่รู้โห่
กันเกรา....ไม้แห่งภราดรภาพ
มะลิไส้ไก่ ดอกหอมหายาก
มะลิฉัตร
บัวผันสีขาว
บุหงาส่าหรี
บุหงาลำเจียก
พุดแตรงอน
สัตบรรณ
คัดเค้า
โนรา
รำเพย
พุทธชาดก้านแดง
หีบไม้งาม
มังตาน
ลำดวนดอกไม้วันผู้สูงอายุ
สาละต้นไม้สำคัญในพุทธศาสนา
เสี้ยวดอกขาว
พวงแก้วมณี
เกล็ดกระโห้ด่าง
รสสุคนธ์
จำปาหลวง
สายน้ำผึ้ง
ราตรีสีทอง
จันทน์กะพ้อ
มะลุลี
จำปีสิรินธร
พุดแตรงอน
บุหงาเซิง
ลดาวัลย์
กุมาริกา
ประยงค์
ยี่หุบ
บัววิคตอเรีย
ชำมะนาด
หิรัญญิการ์
ทิวาราตรี
แย้มปีนัง
หอมหมื่นลี้
ชะลูดช้าง
เต่าร้าง
แก่นตะวัน
ทิพเกสร
สร้อยอินทนิล
ต้นพลองต้นไม้หายากในวรรณคดี
นางพญาเสือโคร่ง
เล็บมือนาง
กุหลาบเมาะลำเลิง
ต้นจิก ไม้พญานาค
ต้นไม้ต้องห้าม
ต้นไม้บังแดดให้ที่จอดรถ เอาต้นอะไรดี
จัดสวนรับลมหนาว
สนแผง
ต้นอโศกอินเดีย
สนฉัตร
พุทธรักษา ดอกไม้วันพ่อ
เพชรหึง กล้วยไม้ยักษ์ที่คนไทยเรียกว่าว่าน
การเวกมงคลนามแห่งความหอม และ ความไพเราะ
ทานตะวัน
ส่าเหล้าปัตตานี แม่ดอกก้านยาว
จันโอ-จันอินกลิ่นหอมจรุงใจ
สารภี
ดอกแต้วดอกไม้ในวรรณดีไทย
ช้องนาง
มหาหงส์
พะยอม
ต้นจำปีสิรินธร
ขันทองพยาบาทพรรณไม้หายาก
นมควายพรรณไม้หายาก
ขานาง
ยี่สุ่นกุหลาบอีกพรรณหนึ่ง
ประยงค์แย้มแซมมวยผม
รำเพย
นมสวรรค์
กรรณิการ์หอมแรง
ตันหยงไม้งามในวรรณคดีไทย
ช้างน้าวพรรณไม้มงคลพระราชทาน
กันเกราไม้มงคลใช้ลงเสาเอกปลูกบ้าน
นนทรีช่อสีเหลืองหอมอ่อนๆ
บุนนาค
ทรงบาดาล
รสสุคนธ์
พุดน้ำบุษย์
ลมโชยหอมกลิ่นดอกประดู่
ตะแบกไม้งามในวรรณคดีไทยชมพูอมม่วง
กัลปพฤกษ์ ไม้มงคลที่น่าหามาปลูก
ต้นทองกวาวสีสวยมากคุณค่า
โยทะกา : น้องเล็กของสามใบเถา สกุลใบแฝด
โศก : สัญลักษณ์ของความรักจากตะวันออก
กระดังงา : กลิ่นที่ล้ำค่าเมื่อนำมาลนไฟ
ดอกเฟื่องฟ้า (Paper flower)
เยอร์บีรา้ไม้ดอกต่างแดนที่ชนะใจคนไทยครบศตวรรษ
ปักษาสวรรค์ : จากนกแสนสวยมาถึงดอกไม้แสนงาม
ปีบ : ราชินีจากป่าภาคตะวันตก
บานบุรี : ความงามในสีเหลืองทองรูปแตร
แพงพวยฝรั่ง : คล้ายแพงพวยไทย แต่ไม่ใช่พี่น้องกัน
ขวัญนางแย้ม: ความหอมคู่คนไทยนับหลายร้อยปี
ชงโค : เสน่ห์แห่งใบและดอกจากพงไพร
แวววิเชียร อย่าลืมฉัน แบบไทยไทย
ชวนชมความงามรูปแบบที่น่าเชยชม
นมแมว :ความหอมอย่างไทยที่น่าดมและดื่มกิน
ดาวกระจาย ดอกไม้แห่งจินตนาการ
การะเกด : ไม้ไทยดั้งเดิมที่เคยรุ่งเรือง
กาหลง : มิใช่หลงเฉพาะเพียงกา
มณฑาหอมสวยแปลกตาและเป็นไม้มงคล
คัดเค้า: ความหอมอย่างไทย จากป่าไทย
เทียนหยด:ไม้ประดับที่ผลงดงามกว่าดอก
อังกาบ ดอกไม้ไทยที่ไม่ค่อยคุ้นหู
ต้นจันทน์หอม
ชมพูพันธุ์ทิพย์...ความสดใสท่ามกลางบรรยากาศรุ่มร้อน
ยี่โถ : ต้นไม้ต่างแดนสัญชาติไทย
พู่ระหง : ดอกไม้แห่งศักดิ์ศรีจากพญาหงส์
วิธีการดูแลสนามหญ้า
วิธีปลูกไม้ประดับนอกอาคาร
วิธีฟื้นฟูต้นไม้หลังน้ำท่วม
การดูแลต้นไม้หน้าฝน
วิธีปลูกต้นมะพร้าวที่บ้าน
หยกมหาลาภ
ดอกลำดวนดอกไม้วันผู้สูงอายุ
เทคนิคการปลูกไม้กระถางให้สวยงาม
ต้นไม้แปลกมารู้จักหม้อข้าวหม้อแกงลิง (Nepenthes)
ไม้มงคลในงานพิธีสำคัญ
พรรณไม้น้ำและวิธีการบำรุงรักษา
ไม้ประดับดูดสารพิษ
พรรณไม้ในวรรณคดี ตอนจบ
พรรณไม้ในวรรณคดี ตอนที่ 2
พรรณไม้ในวรรณคดี ตอนที่ 1
10 พรรณไม้กับบ้านไทย
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ตอนจบ
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ตอนที่ 2
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ตอนที่ 1
กุหลาบดอกไม้แห่งความรัก
ต้นไผ่ไม้มงคลของจีน
โป๊ยเซียนต้นไม้ที่ชาวจีนนิยมปลูก
ทราบกันไหมดอกไม้วันครูคือดอกอะไร?
ข้อแนะนำในการปลูกต้นไม้ในกระถาง
บัวตองไม้งามเมืองสามหมอก
บัว...พรรณไม้มงคล 'ราชินีแห่งไม้น้ำ'
ดอกบานเย็น หรือ ดอก Four O' Clock
สวยด้วยดอกไม้
ต้นคริสต์มาส
ดอกไม้ประจำพระองค์
ดอกไม้ประจำวันพ่อแห่งชาติ
ดอกแก้วกัลยา
10 ไม้ประดับควรมีบนโต๊ะทำงาน
ใบไม้สวยๆ มาชมกัน
....ชวนกันดูดอกไม้ป่าสวยๆ....
+++ความหมายของดอกไม้+++
ตำนานดอกกุหลาบ
การปลูกต้นไม้เพื่อฮวงจุ้ยที่ดี ทำให้เจ้าของบ้านเจริญรุ่งเรือง
พรรณไม้งามนาม...ควีนสิริกิติ์
ปลูกต้นไม้ตามทิศ
Top 10 ดอกไม้ที่อันตรายที่สุดในโลก
พันธุ์ไม้กับวันเกิด
ไม้มงคลกับราศีเกิด
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนที่ 6)
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคใต้ (ตอนที่ 5)
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคเหนือ (ตอนที่ 4)
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคตะวันออก (ตอนที่ 3)
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคกลาง (ตอนที่ 2)
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัดในภาคกลาง (ตอนที่ 1)
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kobnon's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.