นมแมว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melodirum siamensis (Scheff.) วงศ์ : ANNONACEAE ไม้รอเลื้อยเนื้อแข็งลำต้นสีเขียวอมน้ำตาล หรือสีออกค่อนข้างคล้ำเกือบเป็นสีดำ ต้นมักสูงหรือยาว 1-3เมตรหรืออาจมากกว่านี้ก็ได้ ถ้าปลูกไว้นานหลายปี เป็นไม้เนื้อแข็งเหนียว แตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนกอ ตัดแต่งเป็นไม้พุ่มได้ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามเรียงเป็นระยะไปตามลำกิ่ง ใบรูปหอกปลายแหลมโคนแหลม เนื้อใบค่อนข้างแข็งสีเขียวเข้ม ขนาดใบยาวประมาณ8ซม.
ดอกจัดเป็นดอกไม้ดอกเดี่ยว หรือออกเป็นรวมกันเป็นกลุ่ม ตามข้อต้นโคนก้านใบ ตามบริเวณที่ค่อนไปทางปลายกิ่ง กลีบดอกสีนวล มี6กลีบแข็งเรียงซ้อนกันเป็น2ชั้น ชั้นละ3กลีบแต่ละกลีบค่อนข้างสั้น ดอกคล้ายกับดอกลำดวนแต่ดอกเล็กกว่าประมาณ1เท่า ดอกบานเต็มที่กว้างไม่เกิน1.5ซม.ดอกเล็กๆแต่หอมมากๆ ดอกจะเริ่มบานตอนเย็นและหอมแรงในตอนค่ำ แปลกที่ไม่ค่อยเห็นคนปลูก ไม้ต้นนี้เป็นไม้สัญชาติไทยแท้นะ ช่วยกันเก็บเข้าบ้านคนละต้นสองต้นรักษาไว้ไม่ผิดหวัง ลูกนมแมวสุกแล้วอร่อยด้วยอีกต่างหากขอบอก
นมแมวเป็นไม้กลางแจ้ง ออกดอกตลอดปี และดกมากเป็นพิเศษ ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม มักติดผลและเมล็ดปลายเดือนตุลาคมและแก่จัดปลายเดือนพฤศจิกายน
นมแมวซ้อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anomianthus dulcis (Dunal.) J.Sinclair.
วงศ์ : ANNONACEAE ไม้รอเลื้อยเนื้อแข็ง เถาค่อนข้างใหญ่แข็งแรงเปลือกต้นสีเทา เถาเลื้อยได้ไกล4-8เมตร มีกิ่งที่ปลายเป็นหนามแข็งอยู่ทั่วไปตามลำต้น เปลือกเรียบสีเทา เนื้อไม้เหนียว ใบสีเขียวเข้มรูปไข่กลับ กว้าง 5-7ซม.ยาว 10-15ซม.โคนใบสอบมนหรือหยักเว้าเล็กน้อย ปลายใบแหลม ใบอ่อนมีขนทั้งสองด้าน ใบแก่มีขนด้านล่างหนาแน่นกว่า ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวหรือช่อกระจุกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง 2-4ดอก กลีบซ้อนกัน2ชั้นสีเหลืองนวล กลีบดอกมี6กลีบ เรียงเป็น2ชั้น กลีบดอกเป็นแผ่นบาง ขอบกลีบบิดเป็นคลื่น เมื่อบานมีขนาด3-4ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆส่งกลิ่นช่วงบ่ายถึงกลางคืน บานอยู่ได้1-2วันแล้วโรย ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ผลเป็นผลกลุ่มมีผลย่อย7-15ผล ผลรูปกลมรีจนถึงทรงกระบอก ยาว1-1.5ซม.มีเมล็ด1-2เมล็ด ผลเมื่อแก่สีแดง รสหวานรับประทานได้ ได้ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกเป็นไม้ประดับและพืชสมุนไพร
พบขึ้นกระจายอยู่ตามป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ป่าละเมาะและทุ่งโล่งทั่วไป
นมแมวแดง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyathostemma argenteum (Blume) J. Sinclair วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกล2-3เมตร เปลือกสีน้ำตาลเข้มมีรูระบายอากาศสีขาวเป็นจุดจำนวนมาก ใบรูปขอบขนาน กว้าง1.5-2.5ซม.ยาว5-7ซม.เหนียวคล้ายแผ่นหนังด้านบนสีเขียวเป็นมัน เส้นกลางใบใหญ่นูนเห็นชัดกว่าด้านล่าง เส้นแขนงใบเห็นไม่ชัดทั้งสองด้าน ดอกเดี่ยวออกตามกิ่งตรงข้ามใบ ดอกสีม่วงแดง กลีบเลี้ยงสีเขียวกลีบดอกเรียงเป็นสองชั้น ขนาดดอกเมื่อบานเต็มที่มีเส้นผ่านศ๔นย์กลาง 1ซม. ผลเป็นผลกลุ่มมีจำนวน6-10ผล ผลรูปกลมรีหรือบิดเบี้ยว ยาว1.5-2ซม. ผลอ่อนสีเขียวเมื่อแก่สีม่วงเข้ม มีเปลือกหนาและมีเมล็ดมาก
ออกดอกเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด พบตามริมแหล่งน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ที่ระดับความสูง 200-300เมตร
นมแมวเขียว ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyathostemma hookeri King
วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยได้ไกล10-25เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล กิ่งแก่เรียบสีดำ มีช่องอากาศเป็นลายยาวสีขาวบิดเวียนลำต้น ใบรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง5-8ซม.ยาว 12-18ซม. โคนใบมน ปลายใบมีติ่งยาว ค่อนข้างหนาและเหนียวเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งแก่ ช่อละ3-4ดอก ดอกสีเขียว ก้านช่อดอกสั้นมาก กลีบเลี้ยงรูปไข่ หนา สีเขียวมีขนทั้งสองด้าน กลีบดอกหนามีขนาดใกล้เคียงกัน เรียงเป็น2ชั้น ดอกมีขนาด1.5ซม. ผลกลุ่มจำนวน4-7ผล ผลรูปทรงกระบอก กว้าง2ซม.ยาว3-4ซม. เปลือกผลหนา มีขนคลุมมีหลายเมล็ด ดอกออกเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด พบในป่าดิบชื้นทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่ระดับความสูง100-300เมตร
นมแมวช่อ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cyathostemma viridiflorum Griff.
วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยได้ไกล10-25เมตร กิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาล กิ่งแก่เรียบสีดำ มีช่องอากาศเป็นลายยาวสีขาวบิดเวียนตามลำต้น ใบรูปขอบขนานแกมไข่กลับ กว้าง5-8ซม.ยาว 17-22ซม. โคนใบหยักเว้าตื้น ปลายใบเรียวแหลมและมีติ่งยาว ใบค่อนข้างหนาและเหนียว เรียบเป็นมันทั้งสองด้าน ดอกออกเป็นช่อตามลำต้นและกิ่งแก่ ดอกอ่อนสีเขียว บานแล้วสีเหลือง ก้านช่อดอกยาวแตกออกเป็นแนวซิกแซกทีละ2กิ่ง มีใบประดับเล้กๆที่โคนก้านดอก1แผ่น กลีบดอกหนามีสันนูนตามแนวยาวกลีบดอกด้านนอกงองุ้มเข้าหากลางดอก ดอกบานขนาด2ซม. ผลกลุ่มมีจำนวน8-12ผล ก้านผลยาว1ซม.ติดอยู่บนแกนตุ้มกลม ผลรูปกลมรียาว2ซม.เปลือกผลเรียบสีเขียว มีหลายเมล็ด
ออกดอกเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายนขยายพันธุ์โดยเมล็ด พบขึ้นในป่าดิบชื้นทางภาคใต้ ที่ระดับความสูง 100-300เมตร
นมควาย ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria rufa Blume ชื่ออื่น : พีพวนน้อย ,บุหงาใหญ่, นมแมวป่า, หำลิง, ติงตัง, ตีนตั่งเครือ
วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เถาเนื้อแข็งเลื้อยพาดพันไม้อื่น ได้ไกล 5-9 เมตร ตามกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนละเอียดหนาแน่น สีน้ำตาลแดง แตกกิ่งน้อย ตามกิ่งมีใบน้อย ใบเดี่ยว รูปรีกว้าง 3-6 ซม.ยาว 7-15 ซม.โคนใบเว้าเล็กน้อย ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ใบด้านบนเกลี้ยง ยกเว้นเส้นกลางใบและเส้นแขนงใบมีขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ดอกสีแดงเข้มออกเป็นกระจุก 2-3 ดอกเมื่อดอกบาน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของดอกประมาณ 2-2.5 ซม. มีกลิ่นหอม ออกดอกเดือนเมษายน-เดือนมิถุนายน
ผลเป็นผลกลุ่ม มีจำนวน 6-9 ผล ผลย่อยรูปกลมรีถึงรูปทรงกระบอก กว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 3-4 ซม. ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีแดงส้ม มีเมล็ดมาก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เป็นไม้ป่าที่ยังไม่มีการปลูกเลี้ยงแต่ปลูกเป็นพืชสมุนไพร
ขึ้นกระจายในป่าดิบชื้น และป่าดิบแล้งทั่วประเทศ ที่ระดับความสูง 50-600 เมตร
นมควายน้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria hahnii (Finet & Gagnep.) J. Sinclair. วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เลื้อยเนื้อแข็งเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่นได้ไกล 5-8 เมตร เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาลอมดำมีช่องอากาศมาก ใบรูปรีแกมขอบขนาน กว้าง 4-6 ซม งยาว 13-18 ซม.เส้นกลางใบข้างบนเป็นร่องข้างล่างเป็นสัน มีขนหนาแน่นทั้งสองด้านใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมันด้านล่างสีอ่อนกว่า ดอกเดี่ยวออกตรงข้ามใบ ดอกสีเขียว เมื่อบานจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมอ่อนๆ มีใบประดับ 1-2 ใบ ผลกลุ่ม มีผลย่อย 10-22 ผล ขนาดผลย่อย รูปทรงกระบอก กว้าง 1.5 ซม.ยาว2-2.5ซม. ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีส้ม มีเมล็ด8-12เมล็ด ออกดอกเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด เป็นไม้ป่าขึ้นในป่าดิบแล้งทั่วประเทศ ที่ระดับความสูงไม่เกิน 400 เมตร
นมช้าง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Uvaria cordata (Dunal) Alston. วงศ์ : ANNONACEAE ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ เลื้อยได้ไกลถึง20เมตรกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนสั้นๆ ใบรูปไข่ หนาแข็งและกรอบกว้าง6-13ซม.ยาว13-23ซม. เส้นแขนงใบมี10-14คู่ ก้านใบยาว1ซม. ดอกเดี่ยว หรือเป็นกลุ่ม1-3ดอก ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอดสีแดงเข้ม ดอกบานมีขนาด4ซม.เมื่อดอกโรยกลีบดอกทั้งหมดจะร่วงและติดกันเป็นรูปดอก ผลกลุ่มมีผลย่อย20-35ผล รูปร่างค่อนข้างกลมรี กว้าง1.5-2ซม.ยาว2-3ซม.ผลอ่อนสีเหลืองส้ม ผลแก่สีดำมีเมล็ดมาก ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
พบในป่าดิบชื้นและในป่าดิบแล้ง ขึ้นกระจายทั่วประเทศที่ระดับความสูง200-1,200เมตร
กรอบสวยๆ จากคุณ lozocat ข้อมูลจาก//suan-theva.igetweb.com/index.php?mo=3&art=336825
|