เรื่องย่อปกหลัง...

หนังสือเจ็ดเล่ม...เสมือน‘หน้าต่างกาลเวลา’เจ็ดบานยามเปิดพวกมันพร้อมกัน...ใต้อำนาจดวงดาวสำคัญ จะกอปรสร้าง ‘เรือนเวลา’ยอดสิ่งมหัศจรรย์...เกินกว่าใครคาดคำนวณ...

ใครคนหนึ่งที่ล่วงรู้ความลับนี้ส่งคนออกไล่ล่าหาหนังสือทั้งเจ็ดเล่มไม่สนใจวิธีการ ไม่แยแสว่าต้องเข่นฆ่าผู้ใดบ้าง ขอเพียงได้ครอบครองใช้มันอ่านอนาคตของทุกสรรพสิ่ง แสวงหาผลประโยชน์มหาศาล สร้างฐานอำนาจกล้าแกร่งแต่มนุษย์...จะเอาชนะกาลเวลาได้จริงๆ หรือ?

“เรือนเวลา” เป็นนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีที่ชลนิล เขียนขึ้นมา ด้วยวรรณศิลป์อันช่ำชอง เดินเรื่องเร็ว สนุก ตื่นเต้น แยบยล”

คำนิยมจากหนังสือ ๑๐๐เล่มหนังสือดีวิทยาศาสตร์ โดย รศ. ดร. ชัยวัฒน์ คุประตกุล และคณะ

เล่าเอง...หนังสือชื่อ “แม้ม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร...”มีทั้งหมด 7 เล่มถูกสร้างขึ้นในช่วงก่อนการเปลี่ยนการปกครองโดยครูเฒ่า และมอบให้กับศิษย์เอก 7คนหนังสือนี้มีความพิเศษอยู่ที่ผู้ที่ถูกคัดเลือกจะสามารถมองเห็นสิ่งที่จะเป็นไปในอนาคต...ครูเฒ่าหวังเพียงว่าลูกศิษย์ทั้ง7 จะร่วมมือกันทำให้มันเกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองอย่างมหาศาลแต่...กลับมีศิษย์คนหนึ่งที่ไม่คิดเช่นนั้น เขาหาผลประโยชน์ใส่ตัวและล้างตระกูลของเพื่อนร่วมครูจนหมดสิ้นเพื่อหวังครอบครองหนังสือทั้ง7 เล่ม...เวลาล่วงมานานหลายสิบปี จากวัยฉกรรจ์เป็นวัยชราแต่ทวดก็ยังคงปรารถนาที่จะได้ครอบครองหนังสือเล่มที่ 7

คัท เด็กชายวัยสิบขวบ เข้าไปในห้องใต้ดินของพ่อแม่พบกับหนังสือที่น่าสนใจ เขาเปิดดูและพบว่าสามารถมองเห็นอนาคตได้...คัทเริ่มสนุกกับการมองเห็นเรื่องราวต่างๆตามประสาเด็กคัทพักอาศัยอยู่กับทัตสุระพี่ชายที่เป็นหนุ่มออฟฟิซธรรมดาแต่กลับเป็นคนที่ซ่อนคมและมีบ้านติดกับชาลีเพื่อนวัยเด็กของทัต

ชาลีมีสายเลือดของทวดและรู้จักสนิทสนมกันดีกับหมอกนักร้องหนุ่มขวัญใจสาวๆแต่เบื้องหลังเขาคือผู้ถือคำสั่งของทวดทุกคนในตระกูลจะต้องเกรงใจเขาและหน้าที่สำคัญของหมอกคือการตามหาหนังสือเล่มที่ 7ให้เจอ...แม้ว่าเขาจะเคยขัดคำสั่งทวดจากการเว้นชีวิตคนตระกูลผู้ครอบครองหนังสือเล่มที่6พุดหญิงสาวอ่อนหวานที่ต้องตาบอดเพราะเกือบตายในกองไฟถ้าหากหมอกจะไม่ใจอ่อนยอมช่วยออกมาแม้ว่าจะตาบอดแต่พุดกลับมีสัมผัสพิเศษและมองเห็นอนาคตได้เพียงแวบๆความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูห่างเหิน แต่กลับห่วงใยกันอย่างลึกซึ้ง

คัท ถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่เป็นหนังสือถึงเวลาที่ทัตสุระจะต้องช่วยน้องชาย แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งทัตสุระ คัท หมอก พุดและชาลีจะต้องเป็นหนึ่งในเสาแห่งเรือนเวลาเพื่อพิสูจน์สิ่งที่ทวดอยากรู้และอยากทดลอง...

อ่านจบ...อ่านผลงานของคุณชลนิลมาสามเล่มแล้วบอกเลยว่าไม่มีผิดหวังค่ะ แต่ละเรื่องมีเนื้อหาชวนตื่นเต้นตลอด เรื่องนี้เล่นกับความอยากกิเลสของคนอยากรู้เห็นอนาคต อยากได้ อยากมี...มีตัวละครที่มีความโลภจนล้นใจ ตัวละครที่วางเฉยตัวละครที่ต้องกระทำขัดแย้งกับความต้องการของตน...เรื่องนี้มีหมดเลยค่ะ

พระเอกทัตสุระ...ดูเป็นผู้ชายธรรมดามากๆ ใช้ชีวิตปกติสามัญชนทั่วไปเลยค่ะแต่กลับเป็นคนที่ซ่อนคม มีอะไรซุกซ่อนอยู่ในบุคลิกธรรมดานี่แหละที่พอเผยออกมา...โห...ยังกะแปลงร่างได้

พระเอกอีกคนอย่างหมอก...เป็นตัวละครที่มีความขัดแย้งมากที่สุดเนื้อแท้เป็นคนจิตใจอ่อนโยน แต่เพราะต้องการทดแทนบุญคุณท่วมหัว ทำให้ต้องเป็นคนที่มีทั้งด้านสว่างและด้านมืด

มาทางด้านนางเอก...คนแรกชาลี...เป็นผู้หญิงที่มีความร่าเริง สดใส แบบใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข รักอิสระ รักการเรียนรู้สิ่งต่างๆเหมือนนกที่ชอบโผบินไปสู่โลกกว้าง อีกคนคือ...พุด สาวอ่อนหวาน ที่ดูเหมือนชีวิตจะอาภัพ แต่เธอกลับปล่อยวางมีความสุขกับการได้อยู่ใกล้หมอกเพียงเท่านั้นเองที่เธอต้องการ...ถ้าหมอกคือสีดำ พุดก็คือสีขาวบริสุทธิ์แม้จะต่างกันสุดขั้ว แต่ก็เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ...

ตัวละครหลักที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ คัทเด็กอะไรเนี่ย ยิ่งอ่านยิ่งรักนะคะ ดูเป็นเด็กโตเกินวัย ฉลาด...นี่ถ้าโตกว่านี้อีกสิบปีพี่ทัตไม่ได้เป็นพระเอกแน่ๆค่ะ

ทวด...ตัวละครที่ก่อให้เกิดการรวมตัวของทุกคนคนนี้สำคัญมากๆค่ะ ทุกการตัดสินใจของทวดจะส่งผลกระทบกับชีวิตอื่นๆด้วย...ขึ้นอยู่กับว่าทวดจะตัดสินใจแบบไหน

เนื้อเรื่อง...ดำเนินได้รวดเร็ว ชวนติดตามตลอดชอบค่ะ...ไม่เน้นเรื่องรักใคร่เท่าไหร่ แต่กลับทำให้ซื้งใจได้ นับถือเลย...เอาเป็นว่าเรื่องนี้อ่านแล้วไม่ผิดหวังค่ะ

เรื่องนี้อ่านเพื่อตอบโจทย์นักเขียนชาย ในภารกิจพิชิตกองดอง