มกราคม 2558

 
 
 
 
1
3
5
6
7
8
13
14
16
19
20
22
23
24
26
27
29
30
31
 
All Blog
8>>>เพียงสายลมหวน...ระวิวรินทร์


 เพียงสายลมหวน...ระวิวรินทร์

เรื่องย่อปกหลัง...บ้านตะวันคราม... หมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางขุนเขาคือสถานที่ที่หมอหนุ่มอารมณ์ดีอย่าง ‘สิรวิทย์’ตัดสินใจย้ายกลับมาทำงานอุทิศตนเพื่อคนไข้ การทุ่มเทชนิดหนักเอาเบาสู้ของเขานั้นสร้างความประทับใจให้ทุกคนจนได้ครองตำแหน่งคุณหมอขวัญใจชาวบ้านในที่สุด
และดินแดนอันห่างไกล แห่งนี้นี่เองที่ทำให้เขาได้พบกับ ‘พลอยพรรษา’ หญิงสาวที่เข้ามาฟื้นฟูไร่ร้างซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ของเขานักเมื่อได้พบหน้า... ความรู้สึกบางอย่างในหัวใจก็ปะทุขึ้นมา หากทว่าในสายตาเธอเขาเป็นเพียง ‘คนเลี้ยงวัว’ แต่หมอวิทย์...ก็ยินดีรับตำแหน่งนั้นอย่างเต็มใจ!
โชคร้ายของหญิงสาวที่พอมาถึงนี่ ก็เหมือนคนไร้ญาติขาดมิตร จึงนับว่าเป็นโชคดีของหนุ่มเลี้ยงวัวจอมตื๊อที่จะได้หาเรื่องส่งคนงานไปช่วยเหลือ ส่วนตัวเองก็คอยวอแวอยู่ไม่ห่าง และแม้เธอจะเพียรปฏิเสธ แต่จอมยียวนอย่างเขาน่ะหรือจะยอมการพบกันครั้งนี้ต้องเป็นเพราะคนบนฟ้าหนุนนำ และหมอวิทย์ก็บอกกับตัวเองเลยว่า...ข้างกายของเขานับจากนี้ไป จะต้องมีเธอคนนี้เดินเคียงกัน!

เล่าเอง...หมอวิทย์คุณหมอมาเฟีย...เอ่อจะว่างั้นก็ไม่ถูกค่ะแต่อะไรๆที่บ้านตะวันครามล้วนแล้วแต่เป็นของคุณหมอ ใครจะทำอะไรก็ต้องถามคุณหมอก่อนใครจะไปใครจะมาคุณหมอก็ต้องรู้...คุณหมอวิทย์นายแพทย์ที่ทุ่มเทให้กับคนไข้เขาอยู่ได้ในทุกที่...ที่มีคนไข้...แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลทันสมัยในตัวเมืองมาซื้อตัวเขาก็ไม่ไปเพราะอุดมการณ์ของหมอวิทย์ไม่ใช่เงินทอง...แต่เป็น...

“แค่ที่นี่มีคนไข้...ก็มากพอที่จะทำให้ผมอยู่ที่นี่แล้วครับ”

“ทุกคนเจ็บและป่วยเป็นไม่เฉพาะพวกคุณหรอก โรคตา โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นหวัด ไข้เลือดออก อุบัติเหตุคนที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว ยากดีมีจนก็คนเหมือนกันเจ็บป่วยเป็นแล้วก็อยากหายด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะเอาหมอเก่งๆไปไว้แค่ที่เดียวแล้วที่อื่นๆล่ะ ไม่สำคัญเลยเหรอ ชีวิตของคนหนึ่งคนมีค่าน้อยกว่าอีกคนอย่างนั้นเหรอสำหรับผมทุกคน”เท่ากัน”ครับ อนาคตของผมอยู่กับคนไข้ ผมอยากเป็นหมอที่รักษาคนไข้ได้ไม่ได้อยากเป็นหมอที่เด่นดังอะไร” Smiley

นอกจากคุณหมอวิทย์จะเป็นหมอที่ดีเป็นขวัญใจประชาชน ยังเป็นทั้งเจ้าของไร่ เจ้าของวัวตั้งห้าตัวแน่ะ เป็นช่างซ่อมโน่นนี่ได้อีกสารพัดแถมเป็นหุเป็นตาให้กับทางราชการเกี่ยวกับคดีขนย้ายยาเสพติดด้วย...เห็นมะ...ว่าหมอวิทย์เค้าเป็นได้ทุกอย่างสารพัดประโยชน์สุดๆ

วันหนึ่งโชคชะตาก็พาเธอมาพลอยพรรษา...เธอมาเพื่อฟื้นฟูไร่ระวีที่มีปริศนามากมายให้เธอต้องหาคำตอบความเจ็บปวดที่ถูกครอบครัวญาติพี่น้องทางพ่อไม่ใยดีถูกซ่อนไว้ภายใต้ท่าทีที่เข้มแข็งเธอรู้จักหมอวิทย์ในฐานะคนเลี้ยงวัวลูกน้องของหมอวิทย์ ที่ช่างสรรหาวิธีการมาช่วยเหลือเธอสารพัดไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไรก็ไม่ได้ บอกแล้วว่า...ที่นี่น่ะ บ้านตะวันครามของหมอวิทย์

“ไม่มีใครขัดคำสั่งของหมอได้หรอกครับ”

“อย่างที่บอกแหละครับถ้าหมอสั่ง พวกผมก็ต้องทำตามครับ”

“การจะขัดคำสั่งหมอวิทย์ถือว่าเป็นการอยู่ดีไม่ว่าดีครับเราไม่ควรทำแบบนั้น คุณจะให้พวกผมเข็นครกขึ้นภูเขา ขี่ช้างจับตั๊กแตนหรืองมเข็มในมหาสมุทร ผมก็ทำได้ทั้งนั้นครับ แต่ขออย่างเดียว...อย่าขัดใจหมอเราไม่ควรจะแกว่งเท้าหาเสี้ยน หรือแม้แต่จะคิดหาเหาใส่หัวนะครับ เพราะหมอถือคติรักวัวให้ผูกรักลูกน้องให้ตี นี่ถ้ารักมากๆ บางทีเจอเตะได้นะครับ...ฯลฯ...” Smiley

ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนจะเป็นคนเลี้ยงวัวก็ได้หมอวิทย์ยอมทั้งนั้น...ถ้าเพียงแต่...เธอจะไม่เป็นน้องสาวของคู่อริเก่าวัยเรียนที่เกลียดขี้หน้ากันสุดๆเธอมาวันนี้เพราะพี่ชายหรือเพราะหัวใจเรียกร้องกันแน่...แล้วเขาล่ะรักเธอจากใจจริงหรือต้องการแก้เผ็ดพี่ชายของเธอกันแน่...

อ่านจบ...อยากจะตามไปหาสุดปลายขุนเขาและตามรอยตะวันมาอ่านมากๆเลยค่ะสารภาพตามตรงว่าไม่เคยอ่านงานของนามปากการะวิวรินทร์มาก่อน เสียดาย...พลาดอย่างแรงตอนนี้กลายเป็นของหายากไปซะแล้วค่ะ

มาพูดถึงตัวละคร...บอกเลยว่าพระเอกอย่างหมอวิทย์นี่ทั้งน่ารักทั้งน่าตีน่ารักเพราะคุณงามความดีที่ทำ น่าตีเพราะความกวนประสาท แต่ว่า...ให้อภัยค่ะเห็นแก่ความรักที่มีให้กับนางเอกอย่างลึกซึ้งแล้วกันเนอะ

ทางด้านนางเอกอย่างพลอยพรรษาชอบบุคลิกแบบนี้มากเลยค่ะ นิ่งๆ เย็นๆ มีสติ เหมาะมากกับคนใจร้อนอย่างหมอวิทย์ค่ะแต่...เรื่องปูมหลังของนางเอกนี่ทำเอาเศร้านะคะ

อารมณ์ของเรื่อง...มันหวานๆหม่นๆแต่อบอุ่นซึ้งใจดีค่ะ เอ๊ะ...หลากหลายอารมณ์ว่างั้นเหอะคือบางฉากบางตอนมันหวานซึ้งชวนอมยิ้ม แต่บางอารมณ์ก็หม่นๆบางตอนมีน้ำตาคลอแต่ไม่ได้คลอเพราะเสียใจเศร้าใจนะคะ มัน...รู้สึกได้ถึงความรักความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กันน่ะค่ะ แบบมันตื้อในอก (เยอะไปไหม) หวานก็หวานได้น่ารัก...ตอนที่หมอวิทย์ของพวงมาลัยดอกมะลิจากมือของพลอยพรรษา...

“มาลัยนั่นร้อยเองเหรอ”

“ค่ะมะลิที่บ้าน ร้อยเองค่ะ”

“หมอไหมน่ะ”

“หอมค่ะ”นางเอกดมให้ดู...ทำท่าไม่เชื่อพอนางเอกยื่นให้รับไปดมซ้ำรอยเดิมกับนางเอก...โอ้ยยยยย คนอ่านฟินมากกกกกกกก

“หอมจริงด้วย” Smiley

อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือมีการนำเพลงเก่าๆ อย่างความในใจและแสงดาวแห่งศรัทธา รวมทั้งบทเพลงพระราชนิพนธ์ความฝันอันสูงสุดและแผ่นดินของเรารวมถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนให้พระเอกอย่างหมอวิทย์และบรรดาพวกพ้องทั้งหลายดำเนินรอยตามด้วยความตั้งใจและความอุตสาหะ และไม่ย่อท้อ...บอกเลยว่าตอนอ่านท่อนนี้รู้สึกสะเทือนอารมณ์มากเลยค่ะแม้เราจะบอกว่าคนทุกคนเท่ากัน...แต่ก็ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่ากันยิ่งกับคนที่อยู่ห่างไกล...สิ่งที่ได้รับยิ่งน้อยนิดเหลือเกิน

“ปีนี้ไม่มีหมอขึ้นมาทำงานกับเรา”...”ก็เพราะว่ามันไกลไม่ใช่เหรอพวกเราถึงต้องอยู่ที่นี่ ที่ที่พวกเขายังสามารถมาหาเราได้ ถ้าไม่มีหมอมาเพิ่มหมอที่มีอยู่ก็ต้องเหนื่อยกันหน่อย คิดว่าไหวไหมหมอ”

“ครับเหนื่อยไม่เป็นไร ผมเหนื่อยได้ และผมคิดว่าผมยังไหวครับ”...เอาใจไปเลยเต็มๆค่ะคุณหมอ...หลงรักคุณหมอกวนๆคนนี้เลยค่ะ Smiley



เล่มนี้อ่านเพื่อตอบโจทย์ปกสีแดง>50% ในภารกิจพิชิตกองดอง






Create Date : 17 มกราคม 2558
Last Update : 17 มกราคม 2558 21:39:38 น.
Counter : 1428 Pageviews.

2 comments
  
เล่มนี้อยู่ในกองค่ะ อ่านสุดปลายขุนเขาแล้วรู้สึกสนในหมอวิทย์ เล่มนี้เป็นคนเลี้ยงวัวด้วย
โดย: ออโอ วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:9:20:02 น.
  
มาแอบฟังเพลงเพราะด้วยค่ะ
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
โดย: polyj วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:20:24:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aneem
Location :
สระบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



ปีนี้+++ตั้งเป้าไว้ว่าจะพยายามซื้อหนังสือให้น้อยลง...แต่จะอ่านของเก่าที่ดองอยู่ให้มากขึ้น...จำทำได้มั้ยนะ!!!