เนื่องจากปัจจุบันนี้ ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง กลับมาบ้านดูแลบ้าน ดูแลสามี และดูแลเด็ก ๆ (2 หมา 1 แมว) วัน ๆ มันก็หมดไปแล้ว ไม่ค่อยได้มานั่งเหงา นั่งคิดมาก คราวนี้เวลาไปเมืองไทยเนี่ย มันมีเวลาเต็มไม้ เต็มมือ ไม่มีอะไรทำเลย นอกจากนั่ง ๆ นอน ๆ คนมีกรรม อย่างเราก็เครียดซิค่ะ ก็เวลาอยู่เมืองไทย ระหว่างวันพ่อก็ไม่อยู่ แม่ก็ไม่อยู่ เพื่อนก็ทำงานกันหมด ไม่มีคนคุยด้วยเลย บวกกับอาการสลึมสลือ ผลพวงจากอากาศบินข้ามทวีปมา ทำให้สมองปั่นป่วน มีเวลานั่งฝันกลางวันมากอีก บ่ายวันที่ 4 ในกรุงเทพ ขณะนั่งเล่นกับน้องดีโออยู่ในสวนหน้าบ้าน นั่งมองโน้นมองนี่ คิดอะไรไปเพลิน ๆ ตาก็ไปมองต้นไม้ต้นหนึ่ง เสร็จแล้วเกิดอาการบ้าอะไรก็ไม่ทราบ เริ่มจะออกอาการ นางเอก คือ เริ่มจะร้องไห้ค่ะ เสียดายไม่มีน้ำส้ม ไม่งั้นไปเป็นนางเอกช่อง 7 ได้เลย จากเริ่มน้ำตาซึม ๆ กลายเป็น ต่อมน้ำตาแตก ค่ะ งง กับตัวเองมาก เนื่องจากเป็นการร้องไห้ แบบไม่มีสาเหตุ นึกในใจว่า กูเป็นโรคจิตป่ะว่ะเนี่ย ? ตอนนั้นจำได้ว่า หน้างี้ร้อนผ่าวเลย ร้องไปร้องมา คิดจะเอาเชือกมาผูกคอตายค่ะ ! ก็นั่งมองต้นไม้อย่างดีเลย ว่าจะเอาเชือกมาผูกกับกิ่งไหน จะห้อยลงมายังไง โห้ คิดเป็นฉาก ๆ เลย สติไม่ดีมาก ๆ โชคดีที่แม่เดินมาหาพอดี เลยต้องรีบซับน้ำตา แม่ถามว่าเป็นอะไร ? ใครทำอะไร ? เลยต้องตอบแม่ว่า คอนแทคเลนส์มันบาดตา ตอนแรกจะบอกว่า ฝุ่นเข้าตา ก็ดูจะฟังเป็นนางเอกลิเกเกินไป แม่เลยชวนไปกินข้าวข้างนอก ก็เลยตามเค้าไป ตกมืดคืนนั้น ก็เล่าให้นายจอมยุ่งฟัง โอ้โห้ คุณเธอสติแตกตามเราไปอีก กลัวเราฆ่าตัวตายจริง ๆ แล้วจะไม่มีคนทำกับข้าวให้กิน สองวันถัดไป ก็ถึงวันที่ต้องร่ำลาจากเมืองสยาม วันนั้นต้องออกจากบ้านตอนตี 3 ประมาณตีสองครึ่ง จอมยุ่งก็โทรมาถามว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ย พร้อมจะออกเดินทางหรือยัง ? ประมาณนั้น ไอ้เราก็เอาอีกแล้ว ต่อมน้ำตาแตกอีกแล้ว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แต่รู้สึกว่า วันนี้เป็น วันตาย ของเราแน่ ๆ วันนั้นมั่นใจว่า เครื่องบินจะตก แล้วเราจะตาย ก็ร้องไห้ไปกับโทรศัพท์ บอกนายจอมยุ่งเสร็จสรรพว่า ถ้าเราตายให้เอาเงินประกันชีวิต แบ่งให้แม่ด้วย คุณเธอก็สัญญาเป็นอย่างดี ด้วยเสียงแบบจะร้องไห้ตามเราบ้าง เค้าก็บอกว่า MaMa, dont scare me เราก็บอกว่า ไม่ได้พูดให้กลัว แต่รู้สึกจริง ๆ เธอก็ปลอบ ๆ ว่า ไม่มีอะไรหรอก เราคิดมากไปเอง วันนั้นนะ ถ้าจิ้งจกร้องทัก ไม่ออกเดินทางแน่ ๆ แต่สรุปว่า ก็เดินทางโดยสวัสดิภาพ ตอนไปถึงโตเกียว ก็เช็คเมลล์ รู้สึกไม่ดีกับตัวเองมาก ๆ ที่ทำให้นายจอมยุ่งห่วงถึงขนาดนั้น คุณเธอเขียนเมลล์มายาวเหยียด กลับมาถึงเมืองมะกัน มานั่งทำงานต่อ แถมมีเวลามานั่งเขียน Blog ให้เพื่อน ๆ อ่านด้วย ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ อย่างที่บอก คือ คิดว่าเกิดอาการ เพราะว่างเกินนั่นเองค่ะ Create Date : 30 มีนาคม 2551 Last Update : 30 มีนาคม 2551 11:07:00 น. 18 comments Counter : 1062 Pageviews. ShareTweet