My Life; My Destiny.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
เยี่ยมเมืองไทย 04/2010 ตอน We have to quarantined your dogs.

ก่อนกลับมาอเมริกา ต้องนำสองหน่อจอมซน ไปทำเรื่องขออนุญาตนำสัตว์ออกจากประเทศไทยค่ะ เนื่องจากว่า เราจะกลับอเมริกากันวันจันทร์หลังสงกรานต์ ดังนั้น เรามีหน้าต่างที่จะพาเด็ก ๆ ไปทำเรื่องแค่วันเดียวเท่านั้น คือ วันจันทร์ก่อนเทศกาลสงกรานต์จะเริ่ม เพราะเวลาทำเรื่องแล้ว เอกสารนั้น มีอายุแค่ 10 วันเท่านั้น

แน่นอนว่า เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้าย ก่อนวันหยุดยาว จึงมีคนมาทำเรื่องน้องหมา น้องแมวเยอะเลยค่ะ นกก็มีนะ



ติดเที่ยงค่ะ !!!!


เราออกจากบ้านกันประมาณ 10 โมง แวะไปส่งนายจอมยุ่งที่แฟชั่นไอร์แลนด์ก่อน จากนั้นถึงจะตรงไปที่ ด่านกักกันสัตว์ สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ คุณพ่อบอกว่า เนี่ยไปไม่ทันเที่ยงหรอก ขณะนั้นเวลาประมาณ 11 โมง อีกไม่ถึง 20 นาทีก็จะถึงที่แล้ว เราก็งง ๆ ว่า ทำไมจะไม่ทัน ? ไปถึงก็ยังไม่ 11 โมงครึ่งดี พ่อเค้าก็บอกว่า “เชื่อพ่อล่ะกัน มันไม่ทันปิดเที่ยง ที่นี่มันเมืองไทย !”

โอเค…ก็เชื่อพ่อ เลยแวะทานอาหารกลางวันกันก่อน กินเสร็จเรียบร้อย ไปถึงด่านกักกัน ฯ ประมาณ 11 โมง 45 นาที ตอนนั้นมีคนมารอกันหลายคนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เค้าบอก ติดเที่ยงค่ะ !

เอ่อ…มันยังไม่เที่ยงเลยนะน้อง !

คือ เราเข้าใจว่า อย่างเราอาจจะมาช้าไป แต่คนที่เค้ามาก่อนเราล่ะ เค้ามาตั้งนานแล้ว ทำไมเค้ายังติดเที่ยงล่ะ ? เค้าก็บ่น ๆ กันนะ เป็นญี่ปุ่น 1 คน แคนาเดี้ยน 1 คน และคนยุโรป (จากประเทศอะไรก็ไม่ทราบ) อีก 1 คน

สรุปว่า….มีคิวหน้าเราตั้ง 3 คิวแน่ะ แล้วสาวยุ่นเนี่ยนะ เค้ามาทำเรื่องให้นกค่ะ ทั้งหมด 5 ตัว แมวอีก 2 ตัว เสียเวลามาก ๆ เลย สุดเซ็ง



เราก็บอกอีน้องคนรับเรื่องว่า ขอเอกสารมาให้พี่กรอกก่อนได้มั้ย ? เค้าก็ยื่นให้มา แล้วเค้าก็บอกว่า ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งก็ได้แก่ หนังสือเดินทางเรา และสมุดฉีดวัคซีนของหมา

เวรซะแล้ว…ไม่ได้เอาสมุดฉีดวัคซีนมา เพราะคราวก่อนที่มาทำเรื่องในน้องพูกกี้ มันเอาแค่พาสปอร์ตนี่ น้องที่รับเรื่อง เค้าก็นั่งยันนอนยันว่า ต้องใช้สมุดฉีดวัคซีน เราก็บอกว่า บ้านเราอยู่ดอนเมือง มันค่อนข้างไกลนะ จำเป็นต้องใช้จริง ๆ หรือ ?

น้องเค้าก็พูดแบบกวน ๆ มีหางเสียงว่า “บ้านหนูก็อยู่ดอนเมืองเหมือนกันค่ะ หนูยังมาของหนูได้ทุกวันเลย“

เอ่อ…ขณะนั้นหมั่นไส้อีนี่มาก ๆ นึกถึงพี่โน๊ต อุดม แล้วพาลอยากด่าอีนี่ว่า “อีเห็ดสด“ จริง ๆ



ณ นาทีนั้น เราก็นั่ง ๆ คิดว่า จะทำยังไงดีว่ะ ที่จะไม่ต้องขับรถกลับไปเอาเอกสารที่บ้าน เพราะถ้าออกไปบอกพ่อว่า เราเอาเอกสารมาไม่ครบ ต้องโดนเทศน์ไปอีก 7 วันแน่ ๆ วินาทีนั้นก็นึกได้ว่า ที่สำนักงานปศุสัตว์ที่สนามบิน น่าจะแฟกซ์ Health Certificate ที่เราเพิ่งจะยื่นเอกสารไปตอนบินเข้ามาได้ เมื่อ 4 วันที่ผ่านมานี่เอง

เราก็ถามน้องเค้าว่า เอาเอกสารจากกรมปศุสัตว์ที่สนามบินได้มั้ย ? น้องเค้าก็บอกว่า “ได้ค่ะ แต่พี่ต้องติดต่อเองนะ“

ตอนนั้นนึกในใจว่า กรูก็รู้อยู่แล้วล่ะว่า มรึงไม่ทำให้กรูหรอก !



แต่น้องค่ะ พี่เพียงแค่ของเบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานนี้แค่นี้เอง น้องอยู่กรมเดียวกัน มันจะไปวุ่นวายอะไรนักหนา ถึงขั้นต้องให้พี่ไปตระเวณหาเบอร์โทรเองด้วยล่ะค่ะ ? อ้างอยู่นั่นแหละว่า “ติดเที่ยง ๆ“ อีหอยหลอดเอ้ย !

สุดท้ายได้เบอร์โทรมา (ด้วยความยากเย็น) โชคดีที่ว่า เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ในตัวสนามบิน เค้าไม่กินข้าวเที่ยงกันมั้ง เพราะเราโทรไป เลยเที่ยงไปแล้ว พี่ที่นั่นรับโทรศัพท์แบบเสียงแข็งขันดี เราอธิบายให้เค้าฟังว่า เพิ่งจะบินเข้ามาคืนวันพฤหัส ต้องการให้เค้าแฟกซ์ Health Certificate มาให้สำหรับทำเรื่องให้หน่อย พี่เค้าก็หาเอกสารเดียวนั้นเลย พอคอนเฟิร์มชื่อเสียงเรียงนามเรียบร้อย พี่เค้าก็บอกว่า “เดี๋ยวผมแฟกซ์ไปให้ครับ“ อยากจะเอาชื่อพี่เค้ามาประกาศให้รู้จริง ๆ เค้าน่ารักมากเลย แต่จดชื่อไว้แล้ว ทำกระดาษหายครับท่าน

ก่อนวางโทรศัพท์ เรายังถามพี่เค้าเลยว่า เอาเบอร์แฟกซ์ของที่นี่มั้ย ? พี่เค้าตอบว่า “ไม่ต้องครับ ผมมีแล้ว เราหน่วยงานเดียวกัน“
เอากะเค้าซิค่ะ บริการต่างกันแบบ “หน้ามือเป็นหลังตีน“ จริง ๆ

12:45 น. น้องเค้าทานข้าวเสร็จแล้ว เค้าก็เดินมาเอาของที่โต๊ะเค้า เราก็ถามว่า “น้องค่ะ ได้แฟกซ์ยังค่ะ ?” คือว่า คุณพี่ก็ไม่ได้จะให้คุณน้องไปทำงานเดียวนั้นหรอกค่ะ คือ ถ้าตอบว่า ยังไม่ได้เช็ค หรือจะเดินหายไปเลย จนกระทั่งบ่ายโมง พี่ก็จะยังไม่ติดใจเท่ากับที่น้องบอกว่า “เดี๋ยวบ่ายโมงดูให้ค่ะ“

สรุป…กว่าจะทำเรื่องเสร็จ โน้นเลยค่ะ เกือบ ๆ บ่ายสาม ทำงานกันช้ามาก แต่ทำไงได้ เราต้องไปง้อเค้านี่หน่า



We have to quarantine your dogs


ตอนกลับเข้ามาอเมริกา มีเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง แต่ก็เป็นเรื่องให้เสียเวลาจนได้ แจ๊กพ๊อตแตกตั้งแต่ยังไม่ผ่านด่าน ต.ม ด้วยซ้ำ คือ ขณะยืนเข้าแถวอยู่ ก็มีเจ้าหน้าที่มาขอดูเอกสารของน้องพิคเคิ้ล แต่ไม่เห็นถามอะไรนายจอมยุ่ง (ที่หิ้วน้องพุกกี้อยู่เลยนะ) Discriminate หัวดำ ๆ อย่างเราเห็น ๆ เลย

เราก็ยื่น Health Certificate ให้ เค้าก็มอง ๆ แล้วก็ขออนุญาตนำไปถ่ายเอกสารหน่อย พอดีถึงคิวเราเข้าไปทำเรื่องที่ ต.ม ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าก็เห็นว่าเรามีหมา เค้าก็ตื่นเต้นใหญ่เลย เค้าก็โทรไปเรียกซุปเปอร์ไวเซอร์มา ไอ้เราก็นึกในใจ เรียกมาทำไมว่ะ ? คราวที่แล้ว ไม่เห็นมันเรื่องมากแบบนี้เลย

ต.มเค้าก็ถามหาเอกสารหมา เราก็บอกว่า มีเจ้าหน้าที่อีกคน เอาไปถ่ายเอกสาร ตาคนนี้เค้าก็ทำคิ้วมวน ๆ ถามว่า “เจ้าหน้าที่ไหน ?”

เอ่อ…แล้วดิฉันจะไปทราบเหรอว่า ไอ้บ้านั่นชื่อเสียงเรียงนามอะไร ? แต่ก็พอดีเค้าเดินกลับมาพอดี พร้อมยัดปากกาใส่มือเรา พร้อมให้เราเซ็นต์ว่า “หมาเราจะต้องโดนกักกัน 7 วัน“

เราก็ตกใจดิ ทำไมจะต้องกักกันไว้ ?



เค้าก็ให้เหตุผลว่า สองหน่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ยังไม่ครบ 30 วันดี (คือ ฉีดไปเมื่อ 26 วันที่แล้ว) ดังนั้น จะต้องเอาหมาไว้ดูอาการ แล้วเค้าก็บอกว่า เนื่องจากประเทศไทยมีโรคพิษสุนัขบ้า

เราก็รีบแย้งเลยว่า นี่มันหมาสัญชาติมะกันนะ เค้าไปเที่ยวมาต่างหาก ไม่ใช่ว่าเราไปรับมาจากเมืองไทย โชคดีที่ยังมี Health Certificate ใบเก่าที่ออกให้โดยสัตวแพทย์จากอเมริกา พาโชว์ให้เค้าดู เค้าเลยบอกว่า “อ้าว…งั้นไม่ต้องกักแล้ว“ แล้วเค้าก็บอกว่า ขอโทษด้วย เค้าเข้าใจผิด

หันไปหาจอมยุ่งอีกที เฮียบอกว่า เนี่ย…โดนยึดหนังสือเดินทางไปแล้ว เดี๋ยวรับกระเป๋าจากสายพาน แล้วต้องเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องหมา

รับกระเป๋าเสร็จ เจ้าหน้าที่ Custom เป็นคุณลุงแก่ ๆ เค้าก็มายืนคอยเราแล้วอ่ะ ตอนแรกเค้าก็ทำท่าแบบเป็นจริงเป็นจังมากเลย เหมือนกับเราทำอะไรผิดกฎหมาย พอเราเดินไปถึงตัวเค้า เค้าก็พูดว่า Come with me ก่อนเลย แต่คุณลุงแกยังไม่ทันอ้าปากจะพูดต่อ เรารีบชิงบอกก่อนว่า “หมาชั้นอ่ะ เป็นหมาจากทางนี้นะ เอาเค้าไปเที่ยว 2 อาทิตย์เท่านั้น “ แล้วก็ยื่นเอกสารให้เค้าดู

ลุงหนวดเลยบอกว่า “Well, we don’t need to check anything then. Let me grab your passports so you folks can be on your way”.

ฮ่วย…บทจะง่าย มันช่างง่ายดาย

ตอนเดินผ่านศุลกากร เค้าก็แค่ถามว่ามี “อาหารหมา“ ในกระเป๋าหรือเปล่า เราตอบไม่มี เค้าก็ปล่อยไปเลย เฮียยังเสียดายว่า รู้งี้กรูขนมะม่วงอกร่องกลับมาด้วยดีกว่า 5555555

***สำหรับรายละเอียด การนำสัตว์เข้า-ออกจากประเทศไทย และนำกลับเข้ามาอเมริกา ดูได้จากบล็อคนี้นะคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lilacgirl&month=05-2007&date=08&group=9&gblog=25








Create Date : 16 พฤษภาคม 2553
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 8:34:33 น. 10 comments
Counter : 1390 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:38:11 น.  

 
ดีนะที่น้องหมาเป็นสัญชาติ อเมริกัน ไม่งั้นโดน ดิสคริมิเนทไปแล้ว เซ็งจริงๆ ตอนกลับมาปีที่แล้วแฟนนี่ผ่านฉลุย ดันมาหาเรื่องเราตรวจนั้นตรวจนี้ เซ็งกันมันเลย


โดย: เวฟ IP: 71.192.182.37 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:00:28 น.  

 
เข้ามาอ่าน ขำๆ ดีค่ะ
คิดถึงเลยแวะมาหาค่ะ




โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:08:59 น.  

 


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:16:27 น.  

 
ชอบคำว่า "อีเห็ดสด" ของคุณโน๊สด้วยคนค่ะ คิคิ

เรื่องการติดต่อสถานที่ราชการที่เมืองไทยเนี่ยวิสกี้ละปวดตับเช่นกันค่ะ เมื่อกลับครั้งที่แล้วต้องไปติดต่อเรื่องของคุณแม่ที่สำนักนายกฯ เดินไปซะสามกรมกองฯ โยนกันไปอยู่นั่นเฮ้อ แต่โชคดีตอนกลับอีกครั้งค่ะที่กรมที่ดิน เรื่องเกือบติดเที่ยงแต่เจ้าหน้าที่ยินดีทำให้จนเสร็จ อย่างนี้เรียกว่าแล้วแต่บุคคลจริงๆ นะคะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:59:38 น.  

 
รอบหน้านะแพทสอนลู๔กเธอพูดภาษาประกิตเลย แหมจะได้เชื่อๆว่ามาจากทางนี้ มันร้องเพลงชาติเมกันได้ก้คงยิ่งดีนะนี่ ฮ่าๆๆๆ ยุ่งเนอะ อะไรกันนักหนาวะ ขนาดใบก็มี ก็ถามแล้วก็ดูใบเอกสารซะก่อนไม่ใช่แม่งทำไปก่อนเลย มาตื่นเต้นทั้งสนามบิน ตลกดี พวกนั้นมันคงอิจฉาสองหน่อได้ไปเที่ยวเมืองไทย ไม่ใช่ขี้ๆนะยะ มีไป ต่างประเทศ


โดย: ์Nok IP: 76.30.24.171 วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:10:45 น.  

 
เกือบซวยแล้วมะเล่าน้องพุคกี้ พิคเคิ่ล ของเรา

นี่ดีนะที่แม่กัดแทนได้ ไม่งั้นมีหวังเสร็จ

Whew!


โดย: PatPDX IP: 68.0.188.74 วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:55:02 น.  

 
อ่านการผจญภัยเรื่องนี้ขอวคุณแพทแล้วละเหี่ยใจตามจริงๆค่ะ คนเรานะทำงานคนละแบบคนละสไตล์ คนดีก็ดี๊ดี คนไม่ดีีก็เยอะ เสียดายเงินเดือนภาษีราษฎรที่จ่ายให้มานทุกงวดๆจริงๆ

แต่เอาน่ะ ถือว่าเป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่ดีนะคะ ดีนะที่มาแบ่งกันให้อ่าน เราเลยพลอยได้ความรู้เรื่องนี้โขเลยค่ะ

ขอบคุณน๊า และ ขอให้มีความสุขมากๆจ้า


โดย: anigia วันที่: 17 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:04:10 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณแพทวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ
แวะมาทักทายจ้า...



โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:11:50 น.  

 
มาติดตามอ่านและขอตักตวงข้อมูลเรื่องหมา ๆ นะคะ กำลังจะพาหมาสองตัวไปอเมริกาคะ :-) ประสบการณ์พี่มันมากคะ


โดย: Bubbles IP: 180.180.147.187 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:0:19:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lilac Girl
Location :
The Land of 10,000 Lakes United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม Blog ของเรานะคะ มีอะไรแนะนำจะให้เขียน รบกวนเขียนฝากไว้ด้วยค่ะ

Disclaimer: ทุกข้อความใน Blog นี้ เราเขียนเรื่องจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายใคร และหากเรื่องที่เขียนไปกระทบใจใคร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากประสบการณ์จริงเท่านั้นค่ะ

***ประกาศ : ท่านที่นำเนื้อหาในบล็อคของเราไปแปะไว้ในเว็ปอื่น ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูล แต่ขอความกรุณาซักนิด แจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ให้เครดิตคนเขียนกันบ้างค่ะ ***

New Comments
Friends' blogs
[Add Lilac Girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.