My Life; My Destiny.
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
1 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เยี่ยมเมืองไทย 01/2009 ตอน เป็นการตัดสินใจ ที่ถูกมั้ยเนี่ย ?


ดังที่ได้เกริ่นไว้ใน Blog ที่แล้วว่า มากรุงเทพคราวนี้ เหตุด้วยคุณย่าไม่สบาย สมาชิคทุกคนในครอบครัวของเรา มีหน้าที่ต้องตัดสินใจ ว่าจะทำยังไงกันต่อไป ?

คุณย่าอายุ 92 ปี ท่านก็สุขภาพดี (ตามอายุ) มาตลอดนะคะ จนกระทั่งช่วงคริสต์มาส อยู่ ๆ ท่านก็เกิดอาการหายใจไม่ออก ลูก ๆ เลยนำส่งโรงพยาบาลใกล้ ๆ บ้าน ปรากฎว่าต้องนอนอยู่ห้อง ICU เป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากมีอาการน้ำท่วมปอด แพทย์ทำการวินิจฉัยออกมาว่า คุณย่ามีอาการลิ้นหัวใจรั่ว และเส้นเลือดใหญ่ (Artery) มันตีบอยู่ 2 เส้น ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ ไม่เคยมีใครรู้เลยว่า คุณย่าเค้าเป็นโรคหัวใจ หมอที่รักษากันอยู่ประจำก็ไม่ทราบ เป็นอะไรที่แปลกจริง ๆ วิธีการรักษา มีอยู่อย่างเดียว คือ ต้องผ่าตัด




เนื่องด้วยโรงพยาบาลนี้ เค้าเป็นเพียง General Hospital ไม่มีการผ่าตัด เลยต้องส่งย่าไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ก็ไปกับรถฉุกเฉินนั่นแหละ ทาง รพ. ก็รอรับคนไข้ พร้อมจะผ่าตัดให้อยู่แล้ว วันนั้นคุณย่าก็อาการดีพอ ที่จะเข้ารับการผ่าตัดด้วย

เมื่อไปถึง ก็ได้คุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ ซึ่งเค้าก็อยากจะให้ผ่า แต่เมื่อไปคุยกับหมอผ่าตัด เค้าก็ให้เราคำนวณความเสี่ยงอีกครั้ง เพราะมีโอกาสที่จะรอดออกมาน้อยมาก พี่ชายเลยถามว่า แล้วถ้าหมอเป็นพวกเรา หมอจะทำยังไง ? คุณหมอผ่าตัด เค้าก็บอกว่า ถ้าเป็นเค้า เค้าจะนำคุณย่ากลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน ไปอยู่กับครอบครัว และรอให้ลูก ๆ หลาน ๆ มาอยู่กันให้ครบก่อน ถ้าคิดจะผ่าจริง ๆ วันที่ 11 มกราคมให้กลับมาใหม่ เค้าจะผ่าให้

เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นก่อนปีใหม่ ย่าต้องนอนอยู่ห้อง ICU อีก 2 วัน ก่อนจะกลับมาบ้าน ตอนที่หมอส่งกลับมา ท่านก็ยังอาการไม่ค่อยดีมาก ทุกคนในครอบครัวคิดกันแต่ว่า หมอส่งมาให้เสียชีวิตที่บ้าน




พี่ชายโทรมาบอกว่า ถ้าจะมาเห็นย่าตอนมีชีิวิตอยู่ ให้รีบมาซะตอนนี้ เพราะถ้ารอจนกระทั่งวันผ่าตัด อาจจะไม่ได้เห็นย่าอีกแล้ว เรากับอาก็รีบเร่งกลับไปกรุงเทพทันที โดยที่อาไปก่อนเรา 3 วันได้

ตอนแรกอาก็บอกว่า ถ้าไปตอนนี้แล้วทันทีที่กลับมาอเมริกา แล้วย่าเสียชีวิต อย่างนี้ก็ต้องไป 2 รอบซิ แต่พี่ชายเราพูดกินใจมากค่ะ พี่บอกว่า “ถ้ามางานศพ เรามาเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม แต่ถ้ามาตอนนี้ ขณะที่ย่ามีชีิวิต เรามาเพราะตัวเราเอง เพราะอาจจะเป็นโอกาสสุดท้าย“ ได้ยินดังนั้น เราสองคนไม่สนใจอะไรอีกแล้ว จะเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบิน 2 รอบ ก็ช่างมันปะไร




วันที่ไปถึงกรุงเทพ ย่าอาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ด้วยความที่ย่าเป็นคนซุกซน และขยันอย่างรุนแรง ท่านจึงนั่งเฉย ๆ ไม่เป็น เดือนร้อนลูก ๆ หลาน ๆ ต้องนั่งเฝ้าแบบไม่ห่างตา เพราะถ้าเผลอแป๊ปเดียว ย่าจะไปลากถังขยะไปวางนอกบ้าน (ทำนองว่า เอามารอรถขยะ) หรือไม่ก็ไปกวาดถนน

เราไปนอนเฝ้าย่า 2 คืน คืนแรกเหนืื่อยมากเลยค่ะ เพราะย่าตื่นทุก ๆ 1 ชั่วโมง บางทีลืมตาขึ้นมา อ้าว…ตายแล้ว ย่าไปยืนอยู่ปากประตูแล้ว โอ้ย…จะตื่นอะไรกันหนักกันหนาเนี่ย ? คือ ตอนกลางวันเค้านอนมากไปมั้ง เพราะกินยามันก็ง่วง ตกกลางคืนเลยเดินใหญ่เลย ไอ้เราก็กลัวแกจะไปสะดุดอะไร หกล้มขาแข้งหักอีก

คืนที่ 2 นอนแบบน้ำลายยืดมาก ๆ เลย มันเหนื่อยมากแล้ว ไหนจะเดินทางมาไกล ไหนจะไม่ได้นอนเลยอีกต่างหาก คืนที่ 2 เลยเริ่ม ๆ จะเกี่ยงกันกับอา พอเราเห็นย่าลุก เราก็สะกิดอาเลย บอกว่า …”อา ๆ ย่าจะลุกไปไหนไม่รู้“ ขำดี แต่ก็ผลัดกันลุกค่ะ




และแล้ววันผ่าตัดก็มาถึง ต้องพาย่าไปนอนโรงพยาบาลก่อน 1 วัน คือ วันเสาร์ เช้าวันนั้น เราเข็นรถพาย่าไปเดินเล่นแถว ๆ บ้าน ย่าเค้าก็ดูแข็งแรงผิดหูผิดตาจริง ๆ เรายังนึกในใจ และบอกพี่ชายว่า ไม่ต้องผ่าจะดีกว่ามั้ง เพราะกลัวว่าให้เข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว จะไม่ได้ออกมาแบบมีชีวิตอีก

ณ โรงพยาบาล ญาตพี่น้องเกือบทุกคน รวมไปถึงญาตห่าง ๆ มารวมกันอยู่ในห้อง เป็นการรวมญาตดีมาก แต่ละคนก็คุยกันโช้งเช้ง ปกปิดอารมณ์ตัวเองกันสุดฤทธิ์ ย่าก็นั่งมองคนโน้นที คนนี้ที ไม่รู้ว่าในใจท่านคิดอะไร อาจจะกลัวน่าดู แต่ท่านก็ไม่ได้บอกใคร พยาบาลนำอาหารกลางวันมาให้ ย่าก็ซัดซะหมดเลย กินเก่งจริง ๆ

ช่วงบ่ายคุณหมอผ่าตัดเข้ามาตรวจ เพื่อเตรียม Pre-op หมอก็ถามว่า ย่ามีอาการยังไงบ้าง เราก็บอกว่า ย่าก็เดินเหินได้ กินได้ คุยได้ หัวเราะได้ ไม่ได้หลงลืม ไม่ต้องนอนหยอดข้าวหยอดน้ำแต่อย่างใด

หมอทำหน้าซีเรียส ขอคุยด้วยด้านนอก หมอถามว่า คิดกันยังไงถึงจะให้ย่าผ่าตัด ? หมอให้โอกาสตัดสินใจอีกรอบ เพราะถ้าพรุ่งนี้ให้ดมยาสลบ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว หมอว่าถ้า่ย่าเค้าอยู่ได้ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ทำไมจะต้องไปหาเรื่อง ? หมอว่า เค้าสามารถนำย่าออกมาจากห้องผ่าตัดได้ แต่เค้าไม่รู้ว่า ย่าจะมีโรคแทรกซ้อนแค่ไหน เพราะระบบไต ทำงานแค่ 22% เท่านั้น โอกาสจะเกิดไตวาย และเสียชีวิตหลังผ่าตัดจะมีสูง

เรา 5 คน ประกอบด้วย พ่อ อา 2 คน พี่ชาย และตัวเรา เดินหลบมุมมาตกลงกันใหม่ พ่อกับพี่ชาย ไม่เห็นด้วยแต่แรกแล้ว เราก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร แต่ว่าเป็นแค่หลาน การตัดสินใจจึงควรมาจากลูก ๆ ของย่า พ่อเคยผ่านการผ่าตัดหัวใจมาก่อน จึงรู้ว่ามันเจ็บปวด และใช้เวลาในการรักษานานแค่ไหน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องใช้เวลา 4-6 เดือน

ข้อสำคัญ คือ ย่ามีเวลานานถึง 6 เดือนหรือเปล่า ?

อาเคยชิน และค่อนข้างมั่นใจกับระบบการแพทย์มาก เลยสองจิตสองใจ แต่เห็นคนอื่นเค้าไม่เห็นด้วยกับการผ่าตัด อาเลยบอกว่า งั้นก็ไม่ต้องผ่าล่ะกัน

เดินกลับไปบอกหมอว่า ไม่ผ่าดีกว่าค่ะ หมอเลยบอกว่า ถ้าจะไม่ผ่า ก็ไม่ต้องนอนอยู่โรงพยาบาลคืนนี้ ให้ Check-out ออกไปเลย หมอก็ไล่กันแบบนั้นเลยเนอะ หมอก็สบทบว่า ถ้าไม่ผ่าครั้งนี้ ขอให้ทำใจไว้เลยนะ ว่าวันใดวันหนึ่งย่าอาจจะหัวใจวาย หรืออาจจะหลับตายไปเลยก็ได้

สรุปว่า เราพาย่ากลับมาบ้าน มาใช้ชีวิตกันต่อไป แต่พวกเราสบายใจมากขึ้น ที่ไม่ต้องส่งย่าเข้าไป แล้วจะไม่ได้ออกมาอีก หากคราวนี้ย่าจะไปจริง ๆ ก็คงจะไปเพราะ “หมดกรรม“ กันไป ทุกวันนี้ย่าก็ยังอยู่ดีมีความสุขค่ะ ยังดื้อเหมือนเดิม วันก่อนออกไปกวาดถนน พอโดนลากกลับเข้าบ้าน มีการบอกว่า “เออ…แม่ลืมว่าหมอไม่ให้ทำงาน“ มีงี้อีกนะคะ คุณย่าขา…





Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 18 มกราคม 2555 4:37:32 น. 16 comments
Counter : 865 Pageviews.

 
ดีใจนะคะที่ตอนนี้คุณย่าแข็งแรงดีแล้ว อย่างไรก็ขอให้ท่านสุขภาพดีตลอดไปนะคะ

แอบเห็นด้วยเรื่องไม่ให้ท่านผ่าตัดนะคะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:47:52 น.  

 
รายละเอียดเยอะสำหรับเรื่องแบบนี้นะเนี่ย แต่แม่เราเพิ่งผ่าตัดไปไม่นาน เรานึกๆแล้วตั้งแต่เขามาเตรียมเอาจากห้องพักไป รอจนเสร็จเรายังกลัวแทนเลย การผ่าตัดก็มีความเสี่ยงสูงสำหรับผู้สูงอายุ หรือสภาพโดยรวมไม่พร้อม ถ้าเราเป็นย่าเราก็คงไม่อยากผ่าเหมือนกันอ่ะนะ คิดๆ อยู่อย่างงี้แหล่ะ สบายใจดี


โดย: Nok IP: 76.30.24.171 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:22:04 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งแล้วค่ะ ที่พาคุณย่ากลับบ้าน เพราะเคยได้ใช้กับตัวเองแล้วค่ะ คำว่าไม่น่าเลยรู้งี้ไม่ให้ผ่าดีกว่า
ขอให้คุณย่าแข็งแรงอยู่กับลูกหลานนานๆค่ะ


โดย: thitare วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:19:59 น.  

 
ขอให้คุณย่าแข็งแรง อายุยืนนานนะคะ


โดย: แหม่ม (~Little Heiress~ ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:56:40 น.  

 
ขอให้คุณย่าพี่แพท สุขภาพแข็งแรงอยู่กับลูกกับหลานนานๆนะคะ


โดย: Bo IP: 125.24.207.196 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:09:01 น.  

 
อ่านแล้วแอบน้ำตาซึม เพิ่งเสียย่าไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ไปงานศพไม่ทันอีกหาก เศร้า......


โดย: Minnie IP: 74.128.151.214 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:44:42 น.  

 
ขอให้คุณย่าเเข็งเเรงยังงี้ตลอดไปนะค่ะคุณเเพท


โดย: Iggina IP: 124.122.205.219 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:41:22 น.  

 
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: duen norway วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:51:27 น.  

 
ขอให้คุณย่าสุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: Mungkud IP: 58.8.64.107 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:51:59 น.  

 
ขอให้คุนย่าแข้งแรงค่ะ


โดย: aiค่ะ IP: 210.199.27.13 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:28:49 น.  

 
excitting and a little joking from khon ya


โดย: pipojanee IP: 78.34.138.115 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:20:49 น.  

 
ขอให้คุณย่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อายุยืนนานนะคะ


โดย: kitasornciao (kitasornciao ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:07:37 น.  

 
ดีใจด้วยนะคะ คุณย่า อาการดีขึ้นเป็นลำดับ และไม่ต้องผ่าตัด ลูก ๆ และ หลาน ๆ ก็ยังได้ปรนนิบัติท่านใกล้ชิดขึ้น ขอให้คุณย่า ดีวันดีคืน อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรต่อไปนานนานน๊ะนู๋แพท.....
รักษาสุขภาพด้วยน๊า....


โดย: tukata001 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:51:31 น.  

 
ขอให้คุณย่ามีสุขภาพแข็งแรงนะคะและอยู่กับครอบครัวไปนานๆนะคะ


โดย: pink daffodil วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:16:37 น.  

 
ดีจังที่ได้รู้ข่าวว่าย่าแข็งแรง และไม่ต้องผ่าตัด พี่ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะคนแก่ เป็นแผลจะหานยาก รักษานาน ย่ายังแข็งแรง ถ้ามอบความสุขให้ย่า ย่าก็จะมีความสุข และอยู่กับลูกๆหลานๆไปอีกนาน...


โดย: Katja วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:58:20 น.  

 
อ่านแล้ว คิดถึงยายมากๆค่ะ ยายเสียเมือปีก่อน อายุก็ร้อยกว่า ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยหาหมอตลอดชิวิต แค่ความจำลดลง เหมือนย่าเจ้าของบล็อค พอตอนจะไป ท่านอยากไปเฉยๆ คิดว่าท่านพอแล้วน่ะค่ะ
ขอให้คุณย่า แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ของเจ้าของบล็อค นานๆนะคะ


โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:4:11:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lilac Girl
Location :
The Land of 10,000 Lakes United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม Blog ของเรานะคะ มีอะไรแนะนำจะให้เขียน รบกวนเขียนฝากไว้ด้วยค่ะ

Disclaimer: ทุกข้อความใน Blog นี้ เราเขียนเรื่องจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายใคร และหากเรื่องที่เขียนไปกระทบใจใคร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากประสบการณ์จริงเท่านั้นค่ะ

***ประกาศ : ท่านที่นำเนื้อหาในบล็อคของเราไปแปะไว้ในเว็ปอื่น ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูล แต่ขอความกรุณาซักนิด แจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ให้เครดิตคนเขียนกันบ้างค่ะ ***

New Comments
Friends' blogs
[Add Lilac Girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.