5 เมษายน ~ เครื่องบินลงจอด ที่สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ แต่คราวนี้พิเศษหน่อยค่ะ ได้ลงที่หลุมจอดด้วย ไม่ต้องกระเตง ๆ กันขึ้นรถบัสอีก นายจอมยุ่งรีบออกไปสูบบุหรี่ตามฟอร์ม ปล่อยให้อีเมียยืนคอยรถเข็นของเจ้าตัวเล็ก (นานมากกกกกกก)

สำหรับคนที่จะนำสัตว์เลี้ยงเข้าราชอาณาจักรไทย ถ้านำสัตว์เข้ามาในห้องโดยสาร ก็พากันไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลยค่ะ จากนั้นก็ไปรับสัมภาระ และพาสัตว์ไปทำเอกสารที่ด่านกักกันสัตว์ เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท เจ้าหน้าที่ก็จะให้สำเนาเอกสาร ไว้สำหรับยื่นตอนเดินผ่านศุลกากรค่ะ

ส่วนใครที่ส่งสัตว์เลี้ยงเข้าใต้ท้องเครื่องบิน ก็ไปรับกรงสัตว์ได้ที่สายพานกระเป๋า และดำเนินการตามขั้นตอนด้านบนค่ะ

หลังจากที่น้องพูกกี้กลั้นฉี่มานานหลายชั่วโมง พาออกไปถึงลานจอดรถปุ๊ป คุณเธอก็ฉี่ซะเต็มที่เลยค่ะ อ้อ...ลืมบอกไปว่า ที่สนามบินโตเกียว (นาริตะ) จะมีห้องน้ำสำหรับครอบครัว ตัวห้องน้ำใหญ่หน่อย สามารถพาเจ้าตัวเล็กไปเดิน ๆ ให้เค้าฉี่ได้ แต่อย่าลืมทำความสะอาดให้เรียบร้อยค่ะ เราติดกระดาษแอลกอฮอล์มาด้วย เผื่อพูกกี้มีอุบัติเหตุที่ไหน จะได้ทำความสะอาดได้ทัน

วันแรกในกรุงเทพ เราพักผ่อนให้สบายตัว ไปนอนให้เค้านวดซะ 3 ชั่วโมง นวดดีไม่ดี กูไม่รู้ รู้แต่ว่าหลับสนิทค่ะ แต่เตรียมร่างกายให้พร้อม เนื่องจากวันรุ่งขึ้น คุณป๋าจะพาไปเที่ยวเกาะช้าง อยากไปก็อยากนะ แต่ไม่อยากนั่งรถไกลๆ เลยฟ่ะ !

จากกรุงเทพไปเกาะช้าง จังหวัดตราด ระยะทางราว ๆ 350 กิโลเมตร เราต้องแวะรับนายโจ เพื่อนร่วมทาง (ที่เพื่อนอีกที) ฝากมากระเตงเที่ยวด้วย ทำให้ต้องออกนอกเส้นทางไปหน่อย เราขับไปพักไป เนื่องจากนายจอมยุ่ง ยุ่งสมชื่อจริง ๆ เดี๋ยวปวดหัวเข่า เดี๋ยวต้องสูบบุหรี่ อะไรของเฮียแกก็ไม่รู้ เรื่องมากว่ะ

กว่าจะถึงท่าเรือเฟอรี่ที่ตราด ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ๆ ก็นึกในใจว่ามันจะหยุดตกหรือเปล่าว่ะเนี่ย แต่เหมือนเบื้องบนเห็นใจ จากฝนเม็ดใหญ่ ๆ เลยกลายเป็นตกปรอย ๆ โรแมนติคซะไม่มี คุณป๋าก็เอาใจลูกเขยเหลือเกิน ยื่นเบียร์ให้กันทั้งวัน

กว่าจะไปถึงรีสอร์ท ก็เย็นมากแล้วค่ะ เราพักกันที่หาดไก่แบ้ บรรยากาศในรีสอร์ทก็ดีค่ะ บริเวณหาดก็นับว่าพอใช้ได้ เมื่อเทียบกับหาดอื่น ๆ ซึ่งส่วนมากเป็นหินไปซะมาก ยืดเส้นยืดสายกันซักพัก ก็อาบน้ำอาบท่า พากันไปหาของกินค่ะ นายโจแยกไปพักต่างหาก เป็นส่วนตัวดี ไม่ได้มาวุ่นวายอะไรกับเรา


April 5 ~ our flight landed safe & sound at Bangkok International Airport. Dean rushed out to smoke (of course) leaving his wife & kid behind. Ha-ha. Well, we had to wait for the stroller.

For those who bring animals into Thailand, after deplane, proceed at Immigration and baggage claim. Then, go to Animal Control with proper paperwork. The officer will issue the document stating that your animal(s) is/are free of disease. The fee for this procedure is 100 Thai Baht (approx. US$2.5)

We spent our first day in Bangkok getting massage. You can find very cheap & good massage parlors all over Bangkok. The trick is to ask the local where to go. For 1 hour foot massage should only cost no more than US$5.

Some people may find that the traditional Thai massage hurts as hell. Well, it does! If you like kind of relaxing but still feel like you are getting a deep tissue massage, ask for “Oil Massage”. Don’t do aroma massage because you will just get “RUB”! Anyway, enough for the massage hints.

On our second day, my father picked us up early. Then we had to pick up Joe (my husband’s friend) at the hotel in the downtown area.

We headed east toward Trad Province ~ 350 Kilometers east of Bangkok. Our destination was “Koh Chang”. Koh Chang is a Thai word which literally means “Elephant Island”. It is the second biggest island in the country located in the Gulf of Thailand. Phuket is the biggest island.

Once you reach Trad Province, you will need to take a ferry ride to the island. The cost is 60 baht/person. The ferry organizer claims that this is THE CHEAPEST ferry ride in the world! The ride takes about 25 minutes of breath taking scenery. There are food & beer for sales on board at reasonable price.

We stayed in “Kai Bae Beach” which was quite nice. The resort offers different types of cottages. All of them equip with either beach front or pool side patios.

ไปชมรูปกันเลยค่ะ

น้องพูกกี้กับคุณป๋า ระหว่างทางไปเกาะค่ะ (เห็นป่ะค่ะว่าใครได้นั่งหน้า ????)

Pookie & My dad.



ที่ท่าเรือ : At the pier



สามหนุ่มสามมุม คุยกันใหญ่ : The boys were chit-chatting !



คุณป๋ากับนายโจ : Dad & Joe



พูกกี้กับคุณแม่ : Pookie & Mommy



เก๊กกันใหญ่ค่ะ



เราสามคน พ่อแม่ลูก : Our family !



ทิวทัศน์ของเกาะค่ะ : The views of the island from distance.



ห้องนอน : Bedroom



มุมดูทีวี : Sitting Area



ห้องน้ำ : Bathroom



สระน้ำ : Pool Area



วันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ คราวหน้าจะพาไปปาดน้ำลาย ก็อาหารทะเลอร่อย ๆ ชาวไกลบ้านทั้งหลาย เตรียมผ้าเช็ดปากมาด้วยนะคะ อิอิ

สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาต เขียนภาษาอังกฤษด้วย เนื่องจากต้องส่งไปให้นายโจ และเพื่อนฝรั่งดูค่ะ

Next blog, we'll show more pictures of mouthwatering seafood dishes. Thank you for visiting my blog ka.

Create Date : 19 เมษายน 2550
Last Update : 19 เมษายน 2550 20:59:33 น.		27 comments
Counter : 809 Pageviews.
Share Tweet