My Life; My Destiny.
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
เยี่ยมเมืองไทย 05/2010 ตอน มรสุมแห่งการเดินทาง



สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ นับจากบล็อคที่แล้ว บอกว่าเป็นไข้หวัด วันนี้ก็ยังไม่หายค่ะ ยังไอเหนือคำบรรยายเหมือนเดิม กินยาแก้ไอแล้วก็สมองเบลอ ๆ เหมือนกันนะเนี่ย



ตั้งแต่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ระหว่างอเมริกา-กรุงเทพมา ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่การเดินทางเต็มไปด้วยมรสุม (จริง ๆ แล้วเรื่องจิ๊บ ๆ ทั้งนั้น เขียนว่า "มรสุม" ให้มันดูเวอร์ไปงั้นแหละ อิอิ) เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ไปติดตามกันเลยคะ

เริ่มจากที่ Minneapolis เลย เครื่องกำหนดออกเดินทางบ่าย 3:10 ซึ่งตามกำหนดการณ์จะไปถึงโตเกียวตอน 5:35 แล้วเครื่องจากโตเกียวไปกรุงเทพ ออกตอน 6:35 ซึ่งแม้ว่าถ้าเครื่องบินออกตรงเวลา เราก็มีเวลาที่โตเกียวน้อยอยู่แล้ว คือ มีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง

บ่ายสามโมงตรง เค้าเพิ่งจะเรียกขึ้นเครื่อง 3:45 เราถามแอร์ว่าเครื่องจะดีเลย์อีกนานมั้ย ? เค้าก็แค่ตอบว่า "ไม่ทราบค่ะ" ตอนนี้เราเริ่มใจไม่ดีแล้วนะ เพราะถ้าเครื่องบินต้องบินตามระยะเวลาที่เค้าตั้งไว้ เห็น ๆ เลยว่า ตกเครื่องบินที่โตเกียวแล้วแน่นอน ไม่รู้มันดีเลย์บ้าบออะไรค่ะ แต่ประมาณ 4 โมง แอร์ประกาศว่าปิดประตูแล้ว จากนั้นเครื่องก็เริ่มถอยหลัง

แต่ค่ะ แต่...

ถอยหลังไปได้นิดเดียวเองอ่ะ มันถอยหน้ากลับไปที่เกทอีก พร้อมกับนักบินประกาศว่า มีปัญหาเรื่อง Passenger Accommodation แต่จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น



ตอนแรกเรานึกว่า ต้องมีคนป่วยบนเครื่องแน่ ๆ เลย พร้อมนึกไปถึงเด็กทารกคนหนึ่ง ที่เราแอบเห็นในห้องน้ำที่สนามบิน น้องเค้าเดินทางพร้อมกับมีสายยางต่อเข้าไปในจมูก เห็นแล้วสงสารมากเลย พอนักบินประกาศว่า ต้องจัดการกับผู้โดยสาร เราเลยนึกว่าน้องเค้าต้องไม่สบายมาก แล้วบินต่อไม่ได้แน่นอน

4:20 ป้าแอร์ประกาศปิดประตูอีก พร้อม ๆ กับที่เครื่องบินทำการ Push Back อีกครั้ง แต่กว่าจะเหินฟ้าได้ ก็ปาเข้าไป 4:45 ค่ะ นักบินประกาศขอโทษพร้อมกับแจ้งว่า มีการปรับเปลี่ยนแผนการบินนิดหน่อย เพื่อให้สามารถนำเครื่องไปถึงโตเกียวได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 11 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเรานับนิ้วตามแล้ว ก็โล่ง ๆ ใจ เพราะนั่นหมายถึงว่า เครื่องจะลงแตะสนามบินนาริตะราว ๆ 5:45 (ตามเวลาท้องถิ่นที่ญี่ปุ่น) กว่าจะเข้าเทียบเกทก็คงราว ๆ 6 โมงเย็น ซึ่งเรามีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงที่จะวิ่งไปต่อเครื่อง

ไฟล์ทนั้นเราก็นั่งไปด้วยความสบายใจเช่นทุกครั้ง ดูหนังไปครึ่งเรื่อง กะว่าอีกครึ่งเก็บไว้ดูตอนบินเข้ากรุงเทพ ได้ไวน์ไป 1 แก้ว (แต่เติม 3 รอบ อิอิ) หลับยาวเลยค่ะ กว่าจะถึง ป้าแอร์ก็ปลุกให้ทานอาหารเช้าแล้ว ฟาด Cold Plate เป็นเนื้อสันในย่าง กับกุ้งย่างแช่เย็น แกล้มขนมปัง อิ่มมาก กาแฟอีก 2 ถ้วย กองทัพเดินด้วยท้องจริง ๆ

On Arrival Meal

Photobucket





5:50 p.m (ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น) นักบินก็นำเครื่องลงจอดที่สนามบินนาริตะได้ แต่ว่าไปลงอีกฟากของสนามบินเลยค่ะ เรียกว่าต้องวนรอบสนามบิน ใช้เวลาไปประมาณ 1/2 ชั่วโมง กว่าจะเทียบเกทได้ ซึ่งขณะนั้น 6:20 p.m แล้วอ่ะ ทำไงดีว่ะ อีก 15 นาทีเครื่องลำถัดไปจะออกแล้ว นึกในใจว่า "ได้วิ่งหน้าตั้งแน่กู "

ยังไม่ทันจะลุกจากที่นั่งดี พนักงานก็ประกาศว่า เที่ยวบินที่จะต่อไปยังกรุงเทพยกเลิกแล้ว นาทีนั้นคือ ต้องไปพักที่โรงแรม 1 คืน เพราะเครื่องสายการบินอื่น ๆ เค้าก็ไปกันหมดแล้ว



ระหว่างทางไปโรงแรม เลยได้เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ท่านแรกเป็นคุณลุงคนไทย ส่วนท่านที่สอง เป็นหนุ่มมะกัน จาก MIT นามว่า คุณแอนดี้ ทั้งสองน่ารักมากค่ะ เราจับกลุ่มกัน จนกระทั่งถึงปลายทางที่กรุงเทพเลย

คุณแอนดี้ เริ่มมาเมืองไทย เพื่อที่วิทยานิพนธ์ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเธอเกลียดเสื้อแดงมาก เลยคุยกันมันส์น่าดู ส่วนคุณลุงคนไทย มาจากฟลอริด้า เลยได้คุยกันเรื่องปลาชะโด ที่กำลังระบาดอย่างยิ่งในฟลอริด้าค่ะ

จัดการเช็คอินเข้าพักที่โรงแรม ตอนแรกนัดกับแอนดี้ว่า เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ จะไปหาอะไรดื่มกัน แต่ปรากฎว่า อาบน้ำเสร็จ พอเอนหลังปุ๊ป หลับเป็นตายค่ะ ตื่นมาอีกทีตีสี่แล้ว เลยลุกมาโทรหาจอมยุ่ง แล้วก็นอนอ่านหนังสือไป ดูข่าวไป จากนั้นไปเดินเล่นในสวนเล็ก ๆ ของโรงแรม อากาศดีค่ะ ค่อนไปทางเย็น ๆ จากนั้นก็ทานอาหารเช้าไปซะ จะได้หมด ๆ เรื่องไป

เดินเล่นยามเช้า ที่สวนหลังโรงแรมค่ะ อากาศหลังฝนตกดีทีเดียวค่ะ

Hotel Nikko

Hotel Nikko

ห้องอาหาร

Hotel Nikko

วิวจากบนห้องค่ะ

Hotel Nikko




11 โมงเช้า คุยกับแอนดี้ว่า เช็คเอ้าท์กันดีกว่า ไปนั่งเล่นเน็ทที่ Skyclub จะเวิร์คซะกว่า ไปถึงสนามบินก็เกือบ ๆ เที่ยงพอดี แต่ต้องนั่งรอหน่อย เพราะเช็คอินได้ก่อนเครื่องออกแค่ 6 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นก็ผ่านด่าน Immigration พอเข้า Skyclub ได้ ต่างคนก็ต่างวิ่งเข้าหาคอมพิวเตอร์ เหมือนพวกติดยาแล้วจะลงแดง


เก็บผักก่อน 5555 ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องเล่นฟาร์มวิลล์ (ประสาทว่ะ)

Photobucket

เล่นเกมส์ด้วย กรึ๊บ ๆ ด้วย

SkyClub

ในคลับมีห้องน้ำเล็ก ๆ ให้อาบน้ำอีกรอบก่อนขึ้นเครื่องค่ะ

Photobucket

ดอกลิลลี่หอมมาก

Photobucket

Photobucket


เวลาป้าแอร์บอกให้นั่ง ต้องนั่งนะคะ


อ้อ...คุณแอนดี้ เล่าให้ฟังถึงผู้โดยสารต้นเหตุ ที่ทำให้เครื่องดีเลย์ เพราะเธอนั่งติด ๆ กับตาคนนี้ค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนเครื่องจะออก ผู้โดยสารแดนปลาดิบท่านนี้ นั่งอยู่ชั้นธุรกิจค่ะ เธอเดินไปเดินมา ไม่ยอมนั่งกับที่ แล้วก็เอากระเป๋าใส่ Amenity Kit เนี่ย มายืนขยำอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ แอร์ก็บอกให้ไปนั่งที่ เพราะจะปิดประตูเครื่องแล้ว แกก็ไปนั่ง พอเครื่องเริ่มถอยหลัง อยู่ดี ๆ พี่ยุ่นก็ลุกพรวดมาอีก พร้อม ๆ กับไอ้ Amenity Kit เนี่ย เดินไปเดินมา พร้อมกับขยำกระเป๋าอีก

ป้าแอร์เลยต้องตามนักบินมาดูค่ะ เป็นเหตุให้เราต้องนำเครื่องกลับไปที่เกทอีกรอบ นักบินมองดูแล้ว คงไม่สะดวกใจให้พี่ยุ่นโดยสารไปด้วย เลยต้องอัญเชิญพี่ยุ่น พร้อมทั้งสัมภาระของท่าน ลงจากเครื่องไปค่ะ พี่ยุ่นก็เลยอดกลับญี่ปุ่นไปโดยปริยาย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... เมื่อป้าแอร์บอกให้นั่ง ก็ต้องนั่งค่ะ ไม่งั้นอาจโดนเชิญออกจากเครื่องบินแน่



มรสุมต่อไป ขอตัดตอนไปที่กรุงเทพเลยค่ะ ไปถึงแล้ว กระเป๋าหายค่ะ จัดการทำเรื่องตามหาเรียบร้อย กว่าจะได้ก็อีก 1 วันเต็ม ๆ ค่ะ ช่างซวยจริง ๆ



หรือเครื่องบินจะโดนก่อการร้าย ???


เรื่องถัดไป เกิดขึ้นตอนขากลับมาอเมริกาค่ะ สงสัยเราดูหนังเรื่อง United 93 มากเกินมั้ง เลยเกิดอาการประสาทแด๊กขึ้นมาทันที คือ ตอนขึ้นเครื่องจากกรุงเทพ ไฟล์ทนี้ก็โล่ง ๆ ค่ะ เรานั่งอยู่แถวที่ 6 ซึ่งเป็นแถวหลังสุด ที่สามารถมองเห็นทั้ง 34 ที่นั่งใน section นี้ ขึ้นไปก็นั่งมองคนโน้นคนนี้ไปเรื่อย ๆ ซักพักก็มีผู้ชายอาหรับ 3 คน เดินไปเดินมา ไม่นั่งซักทีค่ะ

เราก็เริ่มกลัว ๆ แล้ว เอ๊ะ...มันเป็นผู้ก่อการร้ายป่ะว่ะ ? คิดอกุศลไปโน้น คือ มันไม่นั่งกันซักทีค่ะ แต่พอซักพัก 2 ท่านก็นั่งอยู่หน้าเราเลย แต่อีกคนไม่ยอมนั่งซะที จนกระทั่งแอร์ปิดประตู เค้าเลยต้องมาตามตาคนนี้ไปนั่ง ซึ่งผู้ชายคนนี้นั่งแถวที่ 2 (คล้าย ๆ ในหนังเลย )

บอกตรง ๆ ว่า ใจเต้นตุ๊บ ๆ ว่า มึงจะวางระเบิดเครื่องลำนี้ หรือจะจี้เครื่องบิน แล้วเอาไปบินชนอะไรหรือเปล่าว่ะ ? หรือว่าเป็นเสื้อแดง แฝงตัวมาโจรกรรมสายการบินสัญชาติมะกัน เพื่อให้รัฐบาลมะกันลุกมาเต้นกับเค้าบ้าง ?

จริง ๆ แล้วเราก็คิดอกุศล ใส่ Racial Profile ให้กับคนอาหรับจริง ๆ แหละ เพราะจริง ๆ แล้วถ้าพวกเค้าไม่ใช่เป็นคนอาหรับ เราอาจจะแค่แอบด่ามันว่า "ก้นมึงเป็นริดสีดวงรึ ?" เนี่ยค่ะ...อยู่กับมะกันมาก จะประสาทแดกคล้าย ๆ มะกันแล้ว

แต่สรุปว่า เค้าก็ไม่มีอะไรนะคะ ตลอดไฟล์ทนั้น เค้าก็นั่งกันเรียบร้อยดีค่ะ เรากลัวไปเองนั่นแหละ

*** สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้ว่า United 93 คืออะไร ไฟล์ท UA 93 ของสายการบินยูไนเต็ด เป็นเครื่องบินที่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ถูกผู้ก่อการร้ายจี้ไป แต่ผู้โดยสารได้ร่วมกันต่อสู้ แล้วสุดท้ายเครื่องบินตกที่กลางทุ่งนา ในรัฐเพนซิลเวเนียค่ะ แน่นอนว่าฮอลิวูด ได้นำมาสร้างเป็นหนังให้ชมกันอยู่แล้ว






Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 7:44:13 น. 13 comments
Counter : 1457 Pageviews.

 

welcome home ka.

ตื่นเต้นตลอดเส้นทาง แต่ที่เล่ามานี่ยังไม่ถึงบ้านเลยนะคะ
ดอกไม้สวยมากๆๆ


โดย: kim_tiger วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:8:06:46 น.  

 
หวัดดีค่ะน้องแพ็ทเล็ก แล้วตอนนี้อยู่ที่เมกาหรือไทยละคะ

ตอนพี่บินเข้าที่นาริตะ มีเวลาเหลือเฟือที่นั่น ตั้งสี่ ชม ได้แต่เดินไปเดินมา ดูของชมร้านรวงจนเบื่อ ไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากพวงกุญแจเล็กๆที่เพื่อนเด็กๆที่เมกาอยากได้

กลับมาเมืองไทยก็เจอฝนหลายครั้งแต่ก็สบายดี น้องสบายดีนะคะ


โดย: PatPDX IP: 125.24.226.64 วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:8:27:24 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:10:27:56 น.  

 
555 เล่นเกมเดียวกันเลย


โดย: Roseshadow วันที่: 15 มิถุนายน 2553 เวลา:22:08:16 น.  

 
อ่านแล้วได้ขำเลยคุณแพท แชร์ประสบการณ์เดินทางได้น่าสนใจ สนุกมาก และได้มุมมองความรู้ดีๆเช่นเคยค่ะ

พูดถึง racial profile เราก็เป็น ก็มันอดกังวลกลัวไม่ได้นี่เนาะทำไงได้ ประวัติมันมีนี่นา

แล้วคุณแพทเจอต้องนอนรอเครื่องที่ญี่ปุ่นมาก่อนมั๊ย เรายังไม่เคย มีแต่ต้องวิ่งตาตื่นอย่างที่เคยเล่า แต่คราวนี้ก็ดีนะ ถ้าไม่เครียดเรื่องถึงบ้านช้า เราได้กำไรเรื่องเห็นบ้านเมืองสวยๆของที่นั่นเพิ่ม เขียวขจีดีทีเดียว ชอบๆ

ปล.คอไวน์เหมือนกันเลยน๊า 55 กรึ๊บบ่อยๆกนะชุ่มกระชวย เราก็ชอบไวน์แดง แต่อายุมากขึ้นพักหลังคออ่อนลงง่ะ อิอิ


โดย: anigia วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:19:37:48 น.  

 
ลุ้นกันนาที ต่อนาที ในครึ่งหลังคะ เสมอกันไปแล้ว
ที่จริงลูกที่ 3 อเมริกาก็น่าจะได้นะคะ แต่โดนเป่า Foul ไปซะก่อน แต่ก็เป็นเรื่องที่เถียงกันอยู่นะคะ เพราะจากtape ไม่มีใคร foul คะ


โดย: cengorn วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:22:57:06 น.  

 
วิสกี้เข้ามาเยี่ยมช้าหน่อยค่ะ เมื่อต้นอาทิตย์เข้าทั้งบล๊อกแกงค์และพันทิปไม่ได้ไปสองวัน แฮ่ แทบลงแดงตายไปเลย คิคิ

อ่านเรื่องราวข้างบนแล้ว เป็นการเดินทางมาราธอนนะคะแต่สำหรับวิสกี้เนี่ยถ้าได้พักที่ญี่ปุ่นหนึ่งคืนแบบนี้ชอบไปเลยค่ะ อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นจริงจังซะทีหนึ่ง

ชอบรูปอาหารข้างบน ยวนตามากๆ และก็ชอบดอกลิลลี่ค่ะ สวยเชียว


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:2:04:15 น.  

 
Tornado hit 39 ลูกเลยเหรอคะ อรดูข่าวนะคะ นึกถีงคุณแพทเลย ได้ยินว่ามีคนเสียชีวิตด้วย Tornado อเมริกานี่แรงจริงๆเลย Take care นะคะ


โดย: cengorn วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:12:21:17 น.  

 
ป่านนี้หายไอยังหนอ ฝนตกบ่อยๆอยู่ในบ้านดูแต่บอลดีกว่านะ อิอิ รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: anigia วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:18:25:58 น.  

 
โหคุณแพท มรสุมจริงๆนะเนี่ย กุ้งยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย เคยเจอแต่ดีเลย์เล็กน้อยต้องวิ่งตับแลบนิดหน่อยที่แอตแลนต้า เอิ๊กๆ ส่วนเรื่องต้องค้างคืนที่ไหนซักแห่งเนี่ยไม่เคยเลยค่ะ แล้วต้องจ่ายเองป่าวคะ ส่วนเรื่องคนอาหรับกุ้งเองยังกลัวเลยค่ะ บอกตามตรงเห็นคนอาหรับขึ้นมาด้วยแล้วเสียวทุกที กลัวจริงๆค่ะ

ป่านนี้คงหายไม่สบายแล้วมั๊งคะ มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: amskye วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:10:56:14 น.  

 
แรสเบอรี่ป่ากินได้ค่า เปรี้ยวๆหวานๆเหมือนเบอรี่ทั่วไป
ตอนไปเดินก็นึกถึงคุณแพทน๊า ว่านี่มันย่านบ้านคุณแพทเลย
เดินผ่านครอบครัวอื่นๆก็เห็นเดินมากับน้องหมาทั้งนั้น
สงสัยคุณแพทต้องพาน้องๆมาเดินบ่อยๆแน่ ชอบค่ะ ...
โดยเฉพาะบนเกาะ pike island...ชอบเพราำะไม่ต้องไปไกล อิอิ

ปล. July 4th weekend ไปเที่ยวไหนมั๊ยเอ่ย?


โดย: anigia วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:2:14:54 น.  

 
ตอนอยู่บนเครื่องบินต่อให้ประสาทแข็งแค่ไหนก็มีเรื่องให้ตื่นเต้น เมื่อปีก่อนกลับจากฮ่องกงเครื่องตกหลุมอากาศตั้งแต่ออกจากสนามบินจนเข้าเขตประเทศไทย จานอาหารปลิวว่อนเลย คิดมาตลอดทางว่าฉันจะได้ลงไปนอนทะเลไหนเนี่ย แค่เครื่องดีเลย์น่ะเรื่องจิ๊บ ๆ นะคะ


โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 24 มิถุนายน 2553 เวลา:19:14:19 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ คนป่วยหายเป็นปกติแล้วหรือยังเอ่ย

ดอกไม้สีม่วงอ่ะ วิสกี้เคยได้รู้ชื่อเค้ามาแต่ว่ามันเรียกยากเลยลืมไปเลยอ่ะค่ะ เรียกดอกไม้สีม่วงอยู่นั่นเล่า คิคิ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 26 มิถุนายน 2553 เวลา:11:05:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lilac Girl
Location :
The Land of 10,000 Lakes United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม Blog ของเรานะคะ มีอะไรแนะนำจะให้เขียน รบกวนเขียนฝากไว้ด้วยค่ะ

Disclaimer: ทุกข้อความใน Blog นี้ เราเขียนเรื่องจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายใคร และหากเรื่องที่เขียนไปกระทบใจใคร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากประสบการณ์จริงเท่านั้นค่ะ

***ประกาศ : ท่านที่นำเนื้อหาในบล็อคของเราไปแปะไว้ในเว็ปอื่น ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูล แต่ขอความกรุณาซักนิด แจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ให้เครดิตคนเขียนกันบ้างค่ะ ***

New Comments
Friends' blogs
[Add Lilac Girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.