1.ทุกที่มี แบล็กลิสต์
สังเกตไหมว่าคนที่ถูกไล่ออกหรือถูกเลย์ออฟมักจะเป็นคนที่ไม่รู้ตัว และเป็นคนที่คนอื่นๆ ก็คาดไม่ถึงด้วยว่าเขาคนนั้นจะโดนดี
เพราะแน่นอนว่าคนที่ไต่บันไดจนขึ้นมาถึงตำแหน่งเป็นเจ้านายได้
ย่อมต้องเป็นมือโปรฯ ระดับหนึ่ง เรื่องที่จะแสดงทีท่าไม่ชอบใครในที่ทำงานนั้น ยากค่ะที่เขาจะเผยให้ใครรู้ เพราะระดับนั้น เขาแยกแยะระหว่างความไม่ชอบขี้หน้ากับการทำงานได้อยู่แล้ว
แต่ถ้าพนักงานเจ้าปัญหาคนนั้นยังไม่รู้ตัว
แถมยังคงสร้างปัญหาในการทำงานให้กับเจ้านายไม่เลิกไม่รา มีหรือคะที่เจ้านายจะไม่หมายหัวไว้เป็นตัวแสบและเก็บข้อมูลวีรกรรมไว้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเกิดกับนายโดยตรงหรือไปก่อเรื่องไว้กับใคร
รอก็แค่ให้ถึงจุดเดือดหรือ เมื่อมีเหตุ ให้ลดพนักงานเท่านั้นแหละ
เราก็จะได้รู้กันถึงแบล็กลิสต์ลับๆ นี้ ซึ่งดีไม่ดีอาจจะมีชื่อของเราอยู่ในนั้นด้วยก็ได้!!!
|
|
วิธีระวังตัว :
ทั้งนี้มันก็ย่อมต้องมีลิสต์คนโปรดอยู่ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่ง มักจะเป็นคนที่นายมองว่ามีประโยชน์ในการช่วยหยิบจับโดยที่นายแทบไม่ต้องเหนื่อย หรือมีค่าจากความสามารถที่หาคนมาแทนยาก หรือเป็นคนทำงานมือหนึ่งที่ไว้วางใจได้เสมอ
ถ้าคุณมีคุณสมบัติเริดๆ ขนาดนี้
ก็แน่ใจได้เลยว่าคุณอาจกำลังเป็นหนึ่งในลิสต์คนโปรด และ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
|
|
|
2.ฝันไปเถอะว่าจะมีเวลาส่วนตัว
ถึงแม้ทุกบริษัทจะประกาศอย่างสวยหรูว่าอยากให้พนักงานทุกคนมีความสุขกับชีวิตนอกเวลางาน ไม่อยากเบียดบังเวลาส่วนตัว แต่ก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าคนที่มักจะได้ดิบได้ดี มีโอกาสได้โปรโมต
ก็คือพวกที่อยู่โยงทำงานดึกๆ ดื่นๆ บางทีไม่กลับบ้านกลับช่องเสียทั้งนั้น
ผิดกับพวกที่เข้า-ออกตรงเวลาเป๊ะ หรือมีข้ออ้างเสมอว่าต้องเรียนภาษาบ้างละ เรียนต่อโทฯ บ้างละ ต้องเข้าฟิตเนสบ้างละ ต้องรีบไปรับลูกบ้างละ
ถึงทางบริษัทจะไม่ว่าอะไร (เพราะว่าไม่ได้)
แต่ลึกๆ เขาย่อมต้องคิดแล้วว่าคุณไม่ทุ่มเทจริงจัง จ้างไปก็ไม่คุ้ม ดังนั้นเมินเสียเถอะว่าจะเติบโตก้าวหน้าได้
|
|
วิธีระวังตัว :
ถึงบริษัทจะมีทีท่าว่าอยากให้พนักงานมีเวลาส่วนตัว ก็อย่าชะล่าใจถึงกับแยกเวลางานและเวลาส่วนตัวออกจากกันโดยเด็ดขาด
เพราะ ในบางครั้งที่จำเป็น คุณก็ควรต้องแสดงถึงน้ำใจและความทุ่มเทด้วยการทำงานเกินเวลาบ้าง
หรือมาช่วยงานบางอย่างในวันหยุดบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องยอมทุกครั้งไปนะคะ บางครั้งคุณอาจต้องให้เหตุผลฉลาดๆ มาช่วยเอาตัวรอดแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นจะดีกว่าค่ะ
|
|
|
3.HR ไม่ใช่เพื่อนแท้
หลายๆ บริษัทมีแผนก HR ไว้ให้เป็นเพื่อนที่ปรึกษากับพนักงานในทุกเรื่อง เจ้าหน้าที่แผนกนี้จึงมีหน้าที่ต้องรู้จักแบ็กกราวนด์และนิสัยด้วยการตีซี้กับทุกคน หลายคนจึงวางใจคุยกับ HR ในทุกเรื่อง
ตั้งแต่เรื่องครอบครัวยันเม้าท์นาย
โดยหารู้ไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกบันทึกไว้อย่างลับๆ และจะมีผลต่อการประเมินงานของคุณในภายหลัง
เป็นต้นว่า คุณอาจจะมีโรคประจำตัว หรือเพิ่งตรวจร่างกายเพื่อเตรียมมีลูก หรือเมามายจนเกิดอุบัติเหตุ
ทำให้ต้องเข้าไปทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาล ตามมาด้วยการเม้าท์ให้ฝ่ายนั้นฟังนิดๆ หน่อยๆ โดยไม่คิดอะไร แต่เมื่อวันหนึ่งคุณมีชื่อในลิสต์ที่อาจได้โปรโมต
เรื่องในอดีตของคุณจะต้องถูกนำมาเป็นหนึ่งในการพิจารณาด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยเลยละค่ะ
|
|
วิธีระวังตัว :
การมีเพื่อนใน HR เป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่อย่าคิดไปเองว่าเขาเป็นเพื่อนแท้ เพราะเขาก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่
นั่นคือสอดส่องดูแลว่าพนักงานแต่ละคนเป็นอย่างไร
ดังนั้นเราเองนี่แหละ ที่ต้องระวังคำพูด อย่าพูดเรื่องที่ทำร้ายผู้อื่นหรือเรื่องที่จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
|
|
|
สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:
|
|
|
|