ภาพตีพิมพ์ "ทะเลอารัล" ที่สูญสิ้นไปหมดแล้ว
เหลือไว้เพียงซากประมงถูกทิ้งไว้กลางผืนทรายแห้งแล้ง ไม่เห็นน้ำสักหยดในปี 1990 จาก An Inconvenient Truth ซึ่งเขียนขึ้นโดย อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้ผันตัวมาเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเต็มตัว สะท้อนความเปลี่ยนแปลงภูมิศาสตร์ที่โลกต้องตะลึง
|
|
| ทะลสาปอารัล, คาซักสถาน, 1990 |
|
|
อัล กอร์ บอกไว้ว่า
กรณีทะเลอารัลบอกเล่าเรื่องราวง่ายๆ ที่ว่าการไม่คำนึงถึงธรรมชาติอาจก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวง ตัวอย่างเรื่องการพัฒนาระบบชลประทานอาจก่อผลกระทบที่เราคาดไม่ถึง เมื่อมนุษย์มีอำนาจพอที่จะปรับเปลี่ยนสภาพแม่น้ำได้ จากการที่มนุษย์ผันน้ำมาใช้มากเกินไป โดยไม่ใส่ใจธรรมชาติ ส่งผลให้แม่น้ำบางสายไม่สามารถไหลลงสู่ทะเลได้อีกต่อไป การชลประทานปรับเปลี่ยนแม่น้ำอันยิ่งใหญ่ได้ตามแต่ใจเรา โดยไม่ไยดีกับธรรมชาติ
|
|
เป็นกรณีเดียวกันกับที่สหภาพโซเวียต
ผันน้ำของแม่น้ำใหญ่สองสายจากเอเชียกลาง ได้แก่ แม่น้ำอมูดาร์ยา และไซร์ดาร์ยา ที่เคยหล่อเลี้ยงทะเลอารัล นำไปใช้ในการชลประทานไร่ฝ้าย ที่สุดทะเลอารัลก็เหือดแห้ง เหลือเป็นเพียงอนุสรณ์สถานแก่โลกปัจจุบัน
|
|
ยืนยันได้ว่า
แม้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะมีคุณูปการมากมายต่อมนุษย์ แต่ก็สร้างผลกระทบมหันต์เช่นกัน และเป็นมหันตภัยที่มาจากภาวะ"โลกร้อน" ที่คุกคามโลกมนุษย์ในขณะนี้
|
|
| การชลประทานปรับเปลี่ยนแม่น้ำอันยิ่งใหญ่ โดยไม่ไยดีกับธรรมชาติ |
|
|
หลายคนอาจรู้สึกว่ามนุษย์ตัวจ้อยๆ
คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือมีแรงหมุนโลกไปในทิศทางใหม่ได้ แต่ที่จริงแล้ว ทุกคนสามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลให้แก่ "โลก" ใบนี้ได้
|
|
ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่หลายๆ คนอาจนึกไม่ถึง อาทิ
ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดงาน,
เดินหรือปั่นจักรยานแทนการใช้รถ,
ไม่เสียบปลั๊กไฟฟ้าค้างไว้,
ไม่เปิดตู้เย็นบ่อย,
ลดการเดินทางทางอากาศ,
ลดการทิ้งขยะ, ...
เริ่มทำนับแต่บัดนี้ จากตัวเรา และขยายไปสู่คนรอบข้าง
หยุด "โลกร้อน" ไปด้วยกัน
|
|
ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก นสพ.มติชน
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต
ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้
สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com
|
|
|
|
|