|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Iris
อะแหมๆๆ แบบว่าช่วงนี้ว่างๆ พอดีอะนะ แถมวันจันทร์นี้ก็เปิดเทอมแล้ว ก็เลยขอใช้เวลาที่เหลือนี้นั่งดูหนังที่ซื้อมาให้เปรมเลยก็แล้วกัน ตอนแรกกะว่าจะดูหนังตลกซักกะหน่อย แต่ไปค้นๆ ดูแล้วมันไม่มีซักเรื่องเลยแฮะ ก็เลยตัดสินใจกลับมาดูหนังป้าๆ แบบเดิมก็ได้ เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูครับ Iris ภาพยนตร์สัญชาติอังกฤษปี 2001 ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ 3 สาขาซึ่งเป็นสาขานักแสดงล้วนๆ แล้วก็สอยมาได้หนึ่งจากสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม Jim Broadbent ครับผม แต่เหตุผลที่ทำให้ผมอยากดูหนังเรื่องนี้น่ะใช่ปู่คนนี้ซะที่ไหน สองสาวบนปกต่างหากล่ะคือเหตุผลที่แท้จริง ...เพราะยังงี้ล่ะมั้ง ผมเลยชอบดูแต่หนังป้าๆ 555+
ชีวประวัติในสองช่วงชีวิตของนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษชื่อดัง ไอริส เมอร์ดอค (Kate Winslet/Judi Dench) กับคู่แท้ในชีวิตเธอ จอห์น เบย์ลี (Hugh Bonneville/Jim Broadbent) ทั้งสองพบรักกันในช่วงวัยรุ่น ก่อนจะประคองชีวิตคู่มาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของไอริสผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคอัลไซเมอร์
Iris นับเป็นหนังชีวประวัติอีกเรื่องที่สร้างขึ้นมาเพราะหวังกล่องมากกว่าจะหวังเงิน เป็นหนังสัญชาติอังกฤษแท้ๆ ทั้งทีมงานและคณะนักแสดง จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้ยินภาษาอังกฤษสำเนียงบริติชพ่นออกมาเต็มไปหมดในหนังเรื่องนี้ ตามแบบฉบับภาพยนตร์ชีวประวัติทั้งหลายที่เล่าเรื่องราวในหนังแบบเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นหรือเป็นจุดพีคของเรื่องสักเท่าไหร่ Iris เองก็เดินตามแบบแผนนี้เช่นกัน แต่ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องได้น่าติดตามดีทีเดียว แม้จะไม่มากนักแต่มันก็ไม่ดำเนินเรื่องอย่างราบเรียบจนอาจทำให้เบื่อได้ จะว่าไปก็อาจจะเป็นเพราะบทของหนังค่อนข้างจะใส่ความเป็นดรามาลงไปมาก จึงทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปกับหนัง โดยเฉพาะประเด็นโรคอัลไซเมอร์ของไอริสนั้นช่างกระแทกกระทั้นอารมณ์คนดูได้ดีเหลือเกิน ดูหนังเรื่องนี้แล้วนอกจากผมจะเข้าใจโรคร้ายนี้ดีขึ้นแล้ว ยังต้องเสียน้ำตาอยู่เป็นเนืองๆ อย่างเช่น ฉากที่ไอริสที่เป็นอัลไซเมอร์ตระกองกอดเจเน็ท เพื่อนรักของเธอแล้วเต้นรำตามเสียงเพลง ทำให้เรารู้ว่าแม้ว่าไอริสจะสติเลอะเลือนด้วยพิษของโรคร้าย แต่เธอก็ยังไม่ลืมเพื่อนรักของเธอคนนี้ หรือฉากที่ไอริสและจอห์นกลิ้งตกลงไปข้างถนน แล้วไอริสก็พยายามพูดกับสามีเธอว่าฉันรักคุณ นั่นก็ช่างน่าปลื้มปิติจนทำให้ผมอดเสียน้ำตาไปกับความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งคู่มีให้กันไม่ได้เลย
ไอริสในวัยสาวนั้นร่าเริง สดใส และมีชีวิตชีวา เป็นหญิงสาวที่น่าหมายปอง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เหมือนจะมีโลกส่วนตัวที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจจะรู้จัก Kate Winslet ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทนี้ เพราะนอกจากจะต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวแก้ผ้าจนเห็นหมดทุกส่วนทุกสัด ฝีมือทางการแสดงของเธอก็ยังคงยอดเยี่ยมอย่างคงเส้นคงวา เช่นเดียวกับ Judi Dench กับบทของไอริสในวัยชราที่กำลังถูกโรคร้ายคืบคลาน ด้วยการแสดงอันทรงพลังของเธอทำให้เราค่อยๆ เห็นอาการอัลไซเมอร์ที่กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างชัดเจน นัยน์ตาอันว่างเปล่า และกริยาท่าทางเยี่ยงคนป่วยจริงๆ ทำให้เธอได้เข้าชิงอีกครั้งในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ...จอห์น เบย์ลี รักแท้ของไอริสเป็นอาจารย์สอนภาษาผู้ดูไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง พูดติดอ่าง บุคลิกเหมือนเด็กเรียน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นชายหนุ่มผู้มีความเสียสละอันไร้เงื่อนไขให้กับภรรยาที่ตนเองรัก ต้องขอชมเชยนักแสดงผู้รับบทจอห์นในทั้งสองช่วงชีวิตอย่าง Hugh Bonneville ที่รับบทในวัยหนุ่มและ Jim Broadbent ในวัยชรา ทั้งคู่ได้สร้างตัวละครที่มีมิติ มีเอกลักษณ์ และน่าเชื่อถืออย่างมากในฐานะบุคคลจริงๆ คนหนึ่ง ยอมรับเลยว่านี่คือตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการแสดงอันสมจริงอย่างหาข้อโต้แย้งไม่ได้ของ Jim Broadbent ที่เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงอารมณ์และบุคลิกภาพด้านอื่นของตัวละครนี้มากกว่าบทในวัยหนุ่ม จึงทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากบทนี้ในที่สุด ...ยังมีนักแสดงสมทบท่านอื่นๆ อีกไม่มากนัก แต่อีกคนที่ต้องขอชมเชยคือ Penelope Wilton ในบทของเจเน็ท เพื่อนแท้ของไอริส ที่สวมบทได้อย่างน่าเชื่อถือ และได้รับความเห็นใจจากผมไปไม่น้อย
มีคำพูดของไอริสจากหนังเรื่องนี้ที่ผมชอบมากอยู่อันหนึ่ง ไอริสในวัยชราที่ยังไม่ถูกอัลไซเมอร์เล่นงานกล่าวในการบรรยายของเธอว่า ...คนเราจะต้องมีบางสิ่งไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว อาจจะไม่ใช่พระเจ้า แต่เราเรียกสิ่งนั้นว่าความรักและความดีงาม... ก่อนจะมองไปยังสามีของเธอที่ยิ้มให้เธอเสมอมา ...หากแม้ในภายหลัง ฉากจบอาจไม่สวยงามนัก เธอต้องกลายเป็นคนโชคร้ายที่ต้องเผชิญกับโรคอัลไซเมอร์ แต่จริงๆ แล้วเธอยังคงเป็นที่โชคดีมากๆ คนหนึ่งที่ในชีวิตนี้ได้เกิดมาพบกับ "รักแท้"...
Whither shall I go from they spirit whither shall I flee from they presence? If I ascend unto Heaven thou art there if I make my bed in Hell behold thou art there If I take the wings of the morning and dwell in the uttermost parts of the sea even there shall they hand lead me and thy right hand shall hold me
ที่ใดคือที่สถิตของวิญญาณ ที่ใดคือที่ที่ฉันจะหนีไปจากปัจจุบัน อาจเป็นสวรรค์เบื้องบน หรืออาจเป็นนรกเบื้องล่าง ถ้าฉันมีปีกบินในยามเช้า แต่กลับมลายหายไปในห้วงทะเล ขอเพียงมีมือสักมือยื่นมา มือที่คอยโอบอุ้มฉันไว้ตลอดไป
Create Date : 27 ตุลาคม 2549 |
|
14 comments |
Last Update : 27 ตุลาคม 2549 13:29:20 น. |
Counter : 1024 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 27 ตุลาคม 2549 17:06:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสมรัศมี 27 ตุลาคม 2549 21:04:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 29 ตุลาคม 2549 18:40:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนขับช้า (คนขับช้า ) 12 ธันวาคม 2549 22:56:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็นชอบดู IP: 124.120.141.131 9 พฤศจิกายน 2553 18:39:31 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ชอบการแสดงทั้งของ Kate Winslet และ Dame Judi Dench แต่เอนเอียงไปทางคุณหญิงเธอมากกว่า การแสดงทรงพลังจริง ๆ ครับ แม้จะอยู่ในหนังเล็ก ๆ แบบนี้ก็ตาม
ส่วน Jim Broadbent ก็ชอบเหมือนกันครับ แต่ปีนั้นชอบที่เขาแสดงใน Moulin Rouge! มากกว่า สุดยอด