Bloggang.com : Moonlight Mile : Mission: Impossible III

Mission: Impossible III

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่จะเป็นหนังเรื่องแรกใน blog นี้ที่ผมได้มีโอกาสไปดูในโรง วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ที่มาบุญครอง รอบ 13.45 น. ผมและเพื่อนๆ รวมแล้ว 10 ชีวิตทั้งที่อยากดู และไม่อยากดูแต่ถูกลากเข้ามาดู ก็เข้าไปนั่งจ่อมอยู่ในโรงเป็น 2 แถว 6 คนและ 4 คน และเนื่องด้วยนี่เป็นวันแรกที่หนังเปิดฉาย จึงมีคนเข้ามาดูกันหนาตา และ 2 แถวที่เรานั่งนั้นก็อยู่ในโซนหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย แหะๆ เลยไม่แปลกใจเลยว่าพอออกมาจากโรงปุ๊บ ทุกคนล้วนอยู่ในสภาพหัวฟู กระเซอะกระเซิงราวกับถูกคุณไสย จนบ้างต้องร้องเรียกหาเบนโล เอ้ย! ยาดมกันเลยทีเดียว

เรื่องราวของอีธาน ฮันต์ (Tom Cruise) อดีตครูฝึกวิชาบุคคลทำการรบเวลากลางวันและกลางคืน เอ้ย! ผิดหยุด... ไม่ใช่ครูฝึก ร.ด. นะเฟ้ย เอาเป็นประมาณว่าฝึกคนไปปฏิบัติภารกิจลับ ภายใต้ชื่อองค์กรว่า IMF (Impossible Mission Force) ผู้ซึ่งปัจจุบันกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเมียสาว จูเลีย (Michelle Monaghan) แต่ไม่วายถูกเรียกตัวกลับไปปฏิบัติหน้าที่อีกจนได้ คราวนี้เขาต้องไปช่วยเหลือ ลินซี่ย์ แฟร์ริส (Keri Russell) อดีตลูกศิษย์ที่ตนฝึกมากับมือ ซึ่งถูกจับตัวไปโดยโอเว่น เดเวียน (Philip Seymour Hoffman) จนหลังจากที่ภารกิจนี้จบลง เขาจึงตระหนักว่า เมียของเขากำลังจะตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว สายลับเตี้ยล่ำของเราจะทำอย่างไรต่อไปดี?... หาคำตอบได้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ หรือไม่ก็รออีกหน่อย ค่อยซื้อ DVD มาดูก็ได้ (หรือถ้ารอไม่ไหวจริงๆ แต่ก็ไม่อยากเสียตังค์ดูในโรง ...คงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง)

ไอ้เราก็เป็นอีกคนที่เคยดู Mission: Impossible ภาคก่อนๆ ผ่านตามาบ้างแล้ว พอมาภาคนี้มีเรื่องที่ต้องบอกคุณๆ อย่างแรกเลยว่ามันเครียดครับ เนื้อเรื่องภาคนี้ค่อนข้างจะกดดัน ดูแล้วกลืนไม่เข้าคายไม่ออกยังไงชอบกล ไม่เหมือนภาคก่อนๆ ที่ดูชิวๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรให้รกสมอง เดี๋ยวไอ้เตี้ยนี่มันก็ชนะ... ตอนอยู่ในโรง เพื่อนสาวผม (E-มิ้มนั่นเอง...) มันต้องเอามือปิดตาเลยอะ ทำอย่างกับดูหนังผีอยู่ซะงั้น แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้เครียดกันตลอดหรอก มีบางตอนที่ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศภาคเก่าๆ ได้ อย่างตอนที่ปฏิบัติการลักพาตัวโอเว่น เดเวียนเนี่ย อิมพอสสิเบิ้ลจริงจริ๊ง... แต่ก็ดูสนุก และเพลิดเพลินมากเลยแหละ ดนตรีประกอบในตอนนี้ก็ประมาณเดียวกับธีมของหนังเลย แต่พูดถึงรวมๆ แล้วมันออกจะเครียดมากกว่าภาคก่อนๆ อยู่มากทีเดียว อีกอย่างที่ต้องขอบอกเลยก็คือ กล้องมันสั่นมากๆ เลยล่ะครับ แล้วผะเอิ๊นโชคดี ได้นั่งโซนหน้าซะด้วย อะโหย... อย่าให้เซ่ด ยังกะนั่งรถไฟเหาะเลยครับผม ก็เข้าใจอะนะว่า ฉากแอ๊คชั่นมันก็ต้องสั่นๆ หน่อย เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น ...แต่ขอโทษเถอะ บางทีสั่นมากไป มันดูไม่รู้เรื่องอะ นอกนี้ถ้าพูดถึงเรื่องฉากแอ๊คชั่นก็ขอชมเชยครับ เพราะว่ามันมันส์ดีจริงๆ แม้ว่าจะขาดที่มาที่ไป และไร้เหตุผลไปบ้าง แต่ก็ไม่ผิดเสียหน่อย ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้ว ไม่รู้จักแหกตาดู...

Tom Cruise ยังคงบู๊ระห่ำได้ใจเหมือนเดิม ก็เฮียแกเล่นแสดงเองทุกฉาก ไม่ใช้สแตนอิน แต่ขอใช้สลิง (ถ้าไม่ใช้อาจดับ) ฉากเลิฟซีนที่ดูเฮียเค้าปรารถนาเล่นให้ดูดดื่ม เป็นแบบไอ้งั่งคลั่งรักที่ชอบแลกลิ้นกับเมียโย่ง Katie Holmes ทุกที่ที่มีคนดูเยอะๆ ไม่ว่าจะบนพรมแดง หรือบนหอไอเฟลล์ ก็ช่างน่าเสียดายที่ในเรื่องนี้เฮียเค้าอดว่ะ มีแค่จูบกัน ไม่ก็กอดกันในที่ลับตาคนแบบปกติชนเค้าทำกันเท่านั้นเอง โห่... หยั่งงี้เฮียทอมเซ็งกิ๊กเลยครับ Academy Award Winner หมาดๆ อย่าง Philip Seymour Hoffman ก็เล่นได้โหดเหี้ยมอำมหิตดีครับ ดูโรคจิตหน่อยๆ ด้วย แต่ผมคงไม่ขอชมเชยถึงขนาดที่ว่าเขาควรจะได้ออสการ์อีกตัวหรอกนะครับ ทีมผู้ช่วยพระเอกอย่าง Ving Rhames, Maggie Q และ Jonathan Rhys Meyers ก็เล่นบทสนับสนุนกันดีทุกคนครับ รายแรกนี่ชอบสร้างเสียงหัวเราะ รายที่สองนั้นผมว่าสวยที่สุดในเรื่องแล้วล่ะมั้ง ส่วนรายที่สามนี่สาวๆ (E-มิ้มอีกแล้ว...) จะกรี๊ดกร๊าด เพราะหน้าตาดีกว่าพระเอกเสียอีก เหอๆ นักแสดงหญิงคนอื่นๆ อย่าง Michelle Monaghan และ Keri Russell นั้นก็สวย น่ารัก และเล่นใช้ได้ครับ สุดท้ายกับ Laurence Fishburne กับบทหัวหน้าของพระเอก ก็เล่นดีครับ ดูน่าเกรงขามปนน่าหมั่นไส้ดี

งานนี้ต้องบอกว่า Mission: Impossible III นี้ทำพิษครับ นอกจากทุกคนจะมึนกันถ้วนหน้าแล้ว ยังทำให้ไอ้ที่พวกเรานัดเจอกันวันนั้นหมดประโยชน์ไปเลย เพราะหนังมันยาวกว่าที่คิด คือประมาณ 2 ชั่วโมงหน่อยๆ น่ะครับ พอดูจบโปรแกรมที่ตั้งไว้ก็เลยรวนไปหมดเลย เอาเป็นว่าใครที่อยากดูเรื่องนี้ก็เผื่อเวลาเอาไว้หน่อยแล้วกันนะครับ...

Create Date : 04 พฤษภาคม 2549

Last Update : 4 พฤษภาคม 2549 20:04:01 น.

10 comments

Counter : 829 Pageviews.

ผมขอผ่านเรื่องนี้เลยครับ เพราะเพื่อนผม Spoil ให้ฟังจนหมดแล้ว และแถมบอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องดันเป็น พี่โจ๊ะ รีส เมเยอร์ กับน้องนาง คิว เท่านั้นครับ อย่างอื่นเซ็งจิต กว่า 2 ภาคแรก มากๆ ผมเลยรอดู VCD ดีกว่าครับ

โดย: เข็มขัดสั้น

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:57:50 น.

ไม่ค่อยชอบดูหนังแนวนี้เท่าไร
แต่ก็เห็นเพื่อนๆบอกว่าสนุกกว่าภาคที่แล้วกันหลายคน

ขอบคุณมากค่ะที่แวะไปอวยพรในบลอก
ขอให้จขบมีความสุขมากๆเช่นกันค่ะ^^

โดย: ซินเด๋อเหลอหลา

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:43:12 น.

น้องผมสองคน คนแรกบอกต้องไปดู ไม่ดูจะเสียดายมากถึงมากที่สุด อีกคนดันบอกว่าหนังเห่ยขายของเก่า เออ กำลังชั่งใจว่าควรไปดูหรือไม่

โดย: นายเบียร์

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:52:24 น.

ชอบ ทอม ครูซ มากที่ซู้ดดดดดดดดดดดด งานนี้ไม่มีพลาดจ้า

โดย: Malee30

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:32:17 น.

ไปดูมาแล๊ววว เมื่อวาน โอ้วว มันส์ดีนะ
ชอบ ผู้ ญ ในทีมของพระเอก ที่เป็นคนเอเชีย(มั้ง) หน้าตา เฉียบ! ดี

โดย: Ta Pling

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:40:05 น.

ไปดูมาแล้วครับ แม้หนังจะไม่ดีอะไรมากมาย แต่ก็มันเร้าใจอยู่นะครับ

ชอบภาคนี้มากกว่าภาค 2 เยอะเลยครับ มีความเป็น M:I ขึ้นมาหน่อย ไม่ใช่ action อย่าเดียวเหมือนภาคที่แล้ว

เขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน ลองไปอ่านได้ที่ blog ผมครับ

enjoy your day

โดย: Holden Caulfield

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:46:56 น.

หนุกดีเรื่อยๆอย่างเคยแหละเราว่า

โดย: octavio

วันที่: 9 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:09:08 น.

ช้านอีกแล้ว
แอบเอาชื่อช้านไปเขียนนะยะแหมๆ
จิงๆช้านว่าถ้าไม่อยากดูหนังที่มีสาระอะไร
มากมายแค่อยากดูแอดชั่นมันๆก้อดูได้นะเรื่องนี้
นี่เป็นความเหนส่วนตัวของคนที่เพิ่งดูหนังเรื่องนี้ภาค3เป็นครั้งแรก1 ,2ไม่เคยดู
แต่มันตื่นเต้นจิงๆนะเหอๆ
แล้วก้อคนที่อยู่ทีมพระเอก Jonathan ก้อหล่อดีเป็นอาหารตา
ส่วนผู้หญิงเอเชียที่สวยๆนั่นเหนว่าเปนคนเกาหลีนิ
สวยดีอ่ะสวยก่าเมียอีธานอีก
ไปละๆ แค่แวะมาอ่านเพราะก้อไปดูมาด้วยกาน

โดย: mimu IP: 203.118.110.82 วันที่: 9 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:16:09 น.

โอ้ว กว่าจะเข้ามา Blog นี่ได้ แอบนอกงานนิดนึงนะเนี่ย
วิจารณ์ได้มันส์ดีนิ อยากให้ช่วยวิจารณ์ ลิเวอร์พูล-เวสแฮมหน่อยเด่ะ 5555555
เก็บกดรึไงนายแอก

โดย: ท่านเบียร์ IP: 203.130.144.31 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:31:50 น.

สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้า

โดย: สมาชิกหมายเลข 6161573

วันที่: 12 พฤศจิกายน 2563 เวลา:14:39:03 น.