|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Nelly Furtado: Loose
เฮ่อ... เปิดเทอมมาไม่ทันไรก็ต้องมานั่งเครียดเรื่องสอบอีกและ เบี่ยจินๆ เลยอ่า ฉะนั้นผมก็เลยตั้งใจว่านี่คงจะเป็น blog สุดท้ายที่จะเขียนในปีนี้แล้วล่ะครับ ซึ่งก็อยากทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจไว้จังเลย จะได้เอาเวลาไปทำตัวเนิร์ด เกรดจะได้ดีๆ หน่อย... ฮือ... เศร้า
แม้ Nelly Furtado จะเป็นศิลปินคนโปรดของผมคนนึง แต่ว่าก็ใช้เวลานานอยู่เหมือนกันครับกว่าจะตัดสินใจซื้ออัลบั้มนี้ของเธอมาฟัง หลายๆ คนคงได้เห็นกันแล้วกับการแปลงโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของเธอในอัลบั้ม Loose นี้ ตั้งแต่ซิงเกิลดังสนั่นทั้งสองอย่าง Maneater กับ Promiscuous ที่ส่งให้เธอกลับเข้ามาอยู่ในแสงสปอตไลท์อีกครั้ง หลังจากหลุดเฟรมไปกับอัลบั้ม Folklore งานนี้เล่นเอาใครต่อใคร ...แน่นอนว่าโดยเฉพาะผมนี่แหละ งงเป็นไก่เดือยแตกเลยอะ อารายก๊านนน?! ทำไมสาวน้อยสดใส สายลม แสงแดด และสองเราอย่าง Nelly Furtado ถึงได้ร้องเพลงที่สุดแสนจะ bitchy หยั่งกับแม่บริทนีย์ สเปิร์มส์ แม่หม้ายหย่าผัวหมาดๆ เยี่ยงนี้ รับไม่ได้จนถึงขั้นที่คิดว่าจะไปซื้อซีดีมาเผาพริกเผาเกลือกันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้อานุภาพแห่งสองซิงเกิลบัลลาดที่กำลังจะถูกตัดออกมาอย่าง Say It Right กับ All Good Things (Come To An End) ที่ผมแอบโหลดมาฟังก่อนได้สักพักแล้ว โอ๊ว! โดนใจอย่างแรง เลยตัดสินใจว่าไปซื้อซีดีอัลบั้มนี้มาไว้เปิดฟังดีกว่า เอาไปเผาทำไม แผ่นตั้งหลายตังค์เนอะ โง่รึป่าวเนี่ยเรา...
ขอบอกก่อนเลยว่า ถ้าหากคิดว่าอัลบั้มนี้จะมีแต่เพลงแบบ Maneater กับ Promiscuous ล่ะก็ คิดผิดคิดใหม่ได้นะ หลายๆ คนคงรู้จัก Nelly Furtado ดีในฐานะศิลปินในแนวเวิร์ลด์มิวสิคที่มักจะผสมผสานเสียงของเครื่องดนตรีพื้นเมืองจากทั่วทุกมุมโลกไว้ในเพลงของเธอ ใน Loose นี้คำว่าเวิร์ลด์มิวสิคยังคงอยู่ครับ แต่หมายความในแง่ที่ว่า ...ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้ ขอให้มั่นใจได้เลยว่าจะต้องมีแน่ๆ อย่างน้อยหนึ่งเพลงในอัลบั้มนี้ที่คุณจะต้องชอบ สังเกตได้ง่ายๆ จากซิงเกิลแรกของอัลบั้มนี้ที่มีถึง 4 เพลง ตั้งแต่ฮิปฮอปดำมิดหมีอย่าง Promiscuous ที่เป็นซิงเกิลแรกในอเมริกา ,ป๊อบหม่นๆ Maneater ในยุโรปและเอเชีย ,No Hay Igual เร็กเก้ภาษาสเปนที่ปล่อยเป็น club single ในอเมริกา ,และสุดท้ายกับ Te Busque บัลลาดละตินที่ปล่อยในสเปนและตามคลื่นวิทยุในแถบละตินอเมริกา ...แค่นี้จะน่าจะพอเดากันออกแล้วนะว่าอัลบั้มนี้จะเป็นวาไรตี้ขนาดไหน ...มาเริ่มที่เพลงแรกกันเลย Afraid featuring Attitude เปิดอัลบั้มได้ระทึกใจปนหลอนขึ้นสมองกับแดนซ์หม่นหมอง เนื้อหาคมคายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าในวิถีทางของตนเองโดยไม่ต้องใส่ใจกับเสียงคนรอบข้าง เสียงร้องในท่อนฮุคอันแสนติดหูนั้นอ่อนวัยผิดปกติมาก ฟังแล้วให้ความรู้สึกคล้ายๆ Breaking The Habit ของ Linkin Park ยังไงบอกไม่ถูก เหมาะเอาไปประกอบอนิเมญี่ปุ่นอยู่นะ Maneater ป่านนี้ไม่รู้เนลลี่จะถูกค่อนแคะไปถึงไหนแล้วว่าไปเอาเพลงหนูหอกเธอมาเต้นกินรำกินทำไม จริงอยู่ที่เอาเพลงนี้ไปให้แม่นั่นร้องก็คงจะดังเหมือนกัน แต่ว่าป๊อบโจ๊ะๆ ดนตรีดิบๆ พร้อมเสียงคอรัสโห่ฮาปาหี่ขนาดนี้น่าจะเหมาะกับเนลลี่ ณ ป่าดิบชื้นเขตมรสุมมากกว่านะพูดถึง แถมเวอร์ชั่นในอัลบั้มนี้ก็ต่างกับเวอร์ชั่นซิงเกิลตรงที่มีท่อนเก๋ๆ เพิ่มเข้ามาตอนท้ายเพลงด้วยนะเอ้อ Promiscuous featuring Timbaland ฟังครั้งแรกถึงอ้าปากค้างนานครึ่งชั่วโมง เนลลี่ของฉานกลายเป็นแร๊ปเปอร์ไปแย้ววว... บอกตรงๆ ว่าไม่ปลื้ม จบ! มากๆ เลยตอนนั้น อีตาหมีอืด Timbaland ทำกี่เพลงต่อกี่เพลงเป็นได้โขกออกมาพิมพ์เดียวกันหมด มีดีแค่กลองโจ๊ะพรึมๆ ที่หนักเป็นบ้ากับคีย์บอร์ดเฟี้ยวๆ ตรงท่อนฮุค เนื้อหาหรือก็ร่านรักสุดๆ ไม่เหมาะกับกุนสัดตีอย่างเนลลี่เลย ...แต่เอาเถอะ เอาเข้าจริงก็ติดหูเป็นบ้าเป็นหลังเลยอะ Glow ท่อนฮุคสุดป่วงแต่ติดหูมากมาย เสียงร้องเพลงนี้ทำให้นึกถึงเจ๊ Gwen Stefani ซะงั้น ฟังแล้วให้อารมณ์หลายอย่างเลยนะ ตั้งแต่น่ารักน่าชังไปจนถึงขั้นหลอนนอนไม่หลับกันเลยทีเดียว เลยไม่อาจหาโอกาสไหนที่เหมาะจะเล่นเพลงนี้ได้ดีไปกว่า ...ปาร์ตี้ฮัลโลวีน ฟันธง! Showtime จ่อคิวเป็นซิงเกิลต่อไปในอเมริกา ก็แหงล่ะ... ขึ้นมาตอนแรกเสียงร้องดันฟังคล้าย Alicia Keys พอมาถึงท่อนฮุคแม่แปลงกายเป็นเจ๊ก้นหนัก Jennifer Lopez เฉย เป็นอาร์แอนด์บีเนิบนาบเจือโซลนิดๆ ที่แม้ว่าดูเหมือนเนลลี่จะสูญเสียความเป็นตัวเองไปมาก แต่ห้ามใจไม่ได้เลยที่จะต้องตกหลุมรักไปกับเพลงนี้ ดนตรีชิวแต่ลงตัวสุดๆ เสียงเปียโนช่วยเพิ่มความหวาน คีย์บอร์ดในท่อนฮุคก็น่ารักมากๆ เล่นเอาฟังได้ฟังดีไม่มีเบื่อเลย No Hay Igual เร็กเก้จังหวะหนุกหนาน เนื้อร้องภาษาสเปนถึงแม้จะฟังไม่รู้เรื่อง แต่เนลลี่ร้องได้มันส์ปากสุดๆ จนมันน่าฟังจนได้ คีย์บอร์ดในท่อนฮุคเพลงนี้ได้ใจไปอีกแล้ว เด่นสุดยกให้กลองแสนหรรษาที่อาจเล่นเอาเต้นไม่หยุดหยั่งกับถูกองค์ลงได้เลยทีเดียว Te Busque featuring Juanes บัลลาดละตินตามแบบแผนทุกกระเบียด เนื้อร้องครึ่งอังกฤษครึ่งสเปนสุดเศร้าสลดจนใจจวนจะขาดปิ้ม เสียงร้องของเนลลี่ดี เสียงร้องของไอ้เจ้า Juanes ดี เสียงร้องประสานกันตรงท่อนฮุคยิ่งดีหนักเข้าไปอีก เป็นอีกเพลงที่ถึงฟังไม่รู้เรื่องไปบ้าง แต่ก็ฟังบ่อยทีเดียวเพราะว่ามันเพราะมากกก Say It Right มีความเป็นออริจินัลมากที่สุดในอัลบั้มเพราะฟังแล้วไม่นึกถึงเพลงของศิลปินคนอื่น นอกจากเวอร์ชั่นบัลลาดของ Promiscuous ของเนลลี่เอง แน่นอนว่า Timbaland นั้นยากที่จะสลัดบีทหนักๆ ตัวเก่งของเขาออกไป แต่ในเพลงนี้มันนับว่ามีคุณอนันต์เพราะสามารถเพิ่มความเด่นให้กับดนตรีอยู่มากโข ยังไม่รวมเสียงเฮ่ๆ ของตาทิม เสียงคีย์บอร์ดกุ๊งกิ๊งตรงท่อนฮุค หรือเสียงโซโล่กีตาร์ตอนท้ายที่ต่างก็สร้างความหลากหลายแต่ลงตัวให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี ร่วมด้วยเสียงร้องไพเราะกำลังดีกับเนื้อหาชวนให้ขบคิด ออกมาเป็นบัลลาดที่น่าจดจำอีกหนึ่งเพลงของเธอ Do It ป๊อบแดนซ์แสนสดใสย้อนกลับไปสู่ยุค '80s ด้วยเสียงกลองหนักๆ ปูพื้นด้วยโปรแกรมมิงเสียงมาริโอเก็บเห็ดน่ารักๆ เสียงของเนลลี่รึก็แหลมน่ารักคิกขุเข้ากับเพลงดี เป็นเพลงที่สดใสที่สุดในอัลบั้ม ถ้าไม่ติดว่ามันเหมือนกับ Crash ของ Gwen Stefani อีกแล้วอ่าาา In God's Hands บัลลาดสูตรสำเร็จที่ทำออกมาอย่างเหนือชั้น ดนตรีถึงจะมากชิ้นทั้งกีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า เบส กลอง คีย์บอร์ด เปียโน เครื่องสายแต่ก็ไม่ได้จงใจสำแดงเดชให้อลังการงานสร้างแต่อย่างใด เพียงแต่บรรเลงอย่างราบเรียบแต่กลับสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี เด่นที่สุดคือเสียงร้องของเนลลี่ที่แม้ไม่ได้มีพลังมากมาย แต่สื่อถึงความเหนื่อยล้า และความเสียดายที่ต้องสูญเสียความรักไปได้อย่างยอดเยี่ยม ทำน้อยแต่ได้มากของแท้เลยนะเนี่ย Wait For You น้ำเน่ามากกกกับเนื้อหาสุดแสนจะลิเก๊ ลิเกที่ว่าจะรอเธอตราบฟ้าสิ้นดาวสาว Promiscuous ผสมโรงด้วยดนตรีอาหรับราตรีสังเคราะห์ เลยออกมาเป็นเพลงลูกทุ่งจังหวะกลางๆ ที่น่าจะเอาไปประกอบหนังกลางแปลงเรื่องธรณีกรรแสงชะมัด Somebody To Love โบนัสแทรคจังหวะแทงโก้ ดนตรีสเปนจ๋ามาธาดอร์ล่อกระทิงมาแต่ไกลเชียว เสียงเปียโนตั้งแต่กลางเพลงไปนี่อาจทำให้เต้นสะบัดก้นแทบร่วงเยี่ยงยัยชากีร่าได้เลยทีเดียว แต่อย่างว่าแหละ ฟังๆ แล้วยังด้อยกว่าแทรคอื่นๆ ไปหน่อย All Good Things (Come To An End) ได้พี่เหี่ยว Chris Martin มาช่วยเขียนเนื้อให้ แถมเคยมาร่วมร้องด้วย แต่เวอร์ชั่นในอัลบั้มนี้มีแต่เสียงเนลลี่ฉายเดี่ยว บัลลาดชิวๆ เรียบๆ ไม่มีอะไรมากมายไปกว่าเสียงร้องอันไพเราะล่องลอย คลอเสียงผิวปากกับกีตาร์โปร่ง กลอง และคีย์บอร์ดโหวงเหวง ขับขานสัจธรรมแห่งสรรพสิ่งบนโลกนี้ว่าไม่มีสิ่งไหนจะจีรังยั่งยืนตลอดกาล ปิดอัลบั้มอย่างงดงามกับความจริงที่ว่า Nelly Furtado คนนี้ยังคงเป็นคนเดียวกับเนลลี่คนเดิมเมื่อครั้งที่เราได้รู้จักเธอครั้งแรก
ลืมบอกไปว่าอัลบั้มนี้แอบตามเทรนด์ด้วยการเชื่อมแต่ละเพลงเข้าด้วยกันด้วยเสียงพูดของเนลลี่ ตาทิม และใครอีกก็ไม่รู้ แต่เวลาฟังจริงๆ ก็แยกออกอยู่แล้วล่ะว่าเพลงไหนเป็นเพลงไหน ...จากที่ได้อ่านมาคงจะเห็นแล้วใช่มั๊ยครับว่างานชิ้นนี้ของ Nelly Furtado หลากหลายแค่ไหน ไม่เชื่อก็ลองนับรายชื่อศิลปินที่ถูกพาดพิงดูเอาก็ได้ว่าล่อเข้าไปกี่รายแล้ว พูดอย่างนี้อาจฟังดูเหมือนขาดความคิดสร้างสรรค์นะครับ แต่ว่าถ้าพิจารณากันจริงๆ แล้ว ทุกเพลงในอัลบั้มนี้ล้วนถูกสร้างสรรค์ออกมาอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบชั้นดีมากมาย ออกมาเป็นงานที่สดับรับฟังได้ง่าย โดยไม่ต้องอัพสกิลใดๆ แถมย่อยไม่ยากด้วย ...ดูเหมือนเนลลี่จะคิดหาคำตอบของสาเหตุของความล้มเหลวของอัลบั้มที่แล้วของเธอออก ว่าถ้าเธอมัวแต่นั่งแคร์ความคาดหวังของคนอื่นๆ สักวันเธออาจจะต้องหมดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ดนตรีในแบบที่เธอต้องการไปก็เป็นได้ อัลบั้มนี้จึงเหมือนกับเป็นคำตอบสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอกำลังเผชิญ ...คือเพียงแค่หาทางคลายมันออก ปล่อยตัวปล่อยใจตามสบายไปในแนวทางของมัน แล้วทางออกก็จะหยุดวิ่งหนี ออกมาเป็นการผ่อนคลายอันน่ารื่นรมย์อย่าง Loose นี่เอง...
ป.ล.1. ขอขอบคุณรูปภาพจาก Nelly Furtado Online ป.ล.2. สุขสันต์วันพ่อ เมอร์รี่คริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ครับ อิอิ
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2549 |
|
31 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2549 9:10:35 น. |
Counter : 1093 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 2 ธันวาคม 2549 15:33:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: I will see U in the next life. IP: 58.136.68.189 2 ธันวาคม 2549 19:17:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: unwell 7 ธันวาคม 2549 17:17:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 7 ธันวาคม 2549 22:45:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: เรียกข้า... ซาดาโกะ! (zardamon ) 26 ธันวาคม 2549 10:51:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: UnEdiTED 8 พฤษภาคม 2550 14:25:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เท่าที่ฟังผมว่าเพลงนี้ไม่เหมือนเพลงแบบหนูหอกเลยนะครับ แต่มีความรู้สึกว่าเพลงนี้มีลูกเล่น และลูกล่อลูกชนที่ดูแปลก ท่วงทำนองกลองวูดู และจังหวะจะโคนที่ดูห่ามๆ แต่ลงตัว อีกอย่างโปรแกรมมิ่งที่อยู่ในเพลง ก็ทำหน้าที่ได้เหมาะดี เลยทำให้ผมคิดว่า เพลงนี้โครงสร้างดนตรีดีมาก พิถีพิถันเลยทีเดียว เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ฉีกออกมาเป็นอีกแนวทางนึงในแบบของตัวเธอ แถมเสียงของ Nelly ก็ลงตัวกับเพลง เข้าขั้นทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่เขย่าฟลอร์ได้อีกนานเลย ผมฟังครั้งแรกผมนึกไปถึง Sugababes แบบฮาร์ดคอร์นะครับ
แต่ผมลองมาคิดอีกมุมว่า ถ้าหนูหอก เอาเพลงนี้มาร้องจะเป็นยังไง ผมคิดว่า ถึงแม้ดนตรีจะดีแต่เสียงร้องจะพาล่มได้เช่นกัน เพราะเสียงแบบหนูหอก ไม่ค่อยเหมาะกับเพลงแบบนี้นะครับ เธอจะออกไปทาง Pop ที่ดู Dirty แบบไม่ห่ามและหม่นแบบมีสไตล์เท่านี้ แถมเธอจะร้องลิ้นบวม จนน่ารำคาญแทน และทำให้เพลงดูธรรมดาไปเลย ดูตัวอย่างได้จากเพลงที่ทำนองดีของยัยแพรีส แต่เสียงร้องก็ทำให้เพลงกลายเป็นเพลงดาดๆ ได้เช่นกัน ผมถึงมีความเห็นแตกต่างนิดนึงครับ กับเพลง Maneater
ปล. ถ้าอยากไปเที่ยวเจียงใหม่ ลองไปเที่ยวบล็อกผมได้เสมอนะครับ