คืนนั้นกลับมาฉันรีบเก็บเอกสารข้าวของลงกระเป๋าเดินทางทันที เพราะนัดลุงคนรถไว้ตอนตี3 แต่กว่าจะเก็บข้าวของแล้วอาบน้ำแต่งตัว ฉันก็เหลือเวลางีบหลับชั่วโมงกว่าๆ ก่อนตื่นลงมารอลุงที่ชั้นล่างตึก และอุปสรรคหลายอย่างของงานแถวนั้น กว่าจะแล้วเสร็จเรื่อง ก็ปาเข้าไปเกือบ2เดือน ไกลจากกำหนดเราไปตั้งเดือน
เมื่อได้เดินทางกลับที่พัก ฉันหลับยาวราวคนตาย นอนเกือบ12ชั่วโมงจึงรู้สึกตัวว่าหิวข้าว ลุกมาต้มน้ำชงกาแฟตอนตี2 ดื่มไปพร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊คเช็คเมล์งาน แล้วเดินไปขีดกากบาทที่ปฏิทินกันลืมไว้ ตรงนั้นฉันพบเธออีก กระเป๋าใส่โน้ตบุ๊ตที่พี่ประไพพรรณอุตส่าห์หาซื้อกระเป๋าหนังเทียมสีชมพูแก่เข้าชุดกันมาใส่ให้ สีหนังคืนนี้วาววับสะท้อนตาเป็นพิเศษ ฉันก้มลงดึงโน้ตบุ๊คออกมากอดไว้นิ่งๆ พร้อมกับส่งความคิดไปถึงเจ้าของที่แท้จริง
เธอมาได้อย่างไรฉันไม่รู้ รู้แค่ฉันพบเธอในวันที่พระจันทร์ขึ้น ขณะคิดไปเรื่อยๆ ฉันก็เดินไปยืนที่หน้าต่าง มองแสงจันทร์ที่นวลละออ พอคิดไปถึงคำเล่าของอ้อย ฉันรู้สึกว่าโน้ตบุ๊คที่กอดสั่นสะเทือน เหมือนเธออ่านความคิดในใจฉันได้ ฉันจึงเอ่ยถามขึ้นลอยๆว่า
สวัสดีโน้ตบุ๊คสีชมพูแสนหวาน เธอมีความทุกข์อยากให้ฉันช่วยใช่ไหม
โน้ตบุ๊ค ก็สั่นสะเทือนอีก ฉันจึงไปค้นสายมาต่อไฟ ซึ่งพี่ประไพพรรณ อุตส่าห์ไปเที่ยวหาซื้อมาใช้ จนได้ พอเสียบปลั๊กเสร็จ ฉันต้องลากตัวต่อนั่นมาเตียงพอต่อเข้าสายเน็ต พอเสียบสายเข้าไปไฟฟ้าก็ดับหมดห้องทันที ฉันมองออกไปข้างนอก เห็นมีแสงสว่าง เลยเดินไปยกสะพานไฟขึ้น แล้วเสียบใหม่ ซึ่งมันก็ยังดับอีกถึง2 หน
ฉันเลยมองไปรอบๆเตียง แล้วก็เห็นตะเกียงของแม่ ที่คราวก่อนไฟดับเอาออกมาใช้งาน แล้ววางไว้ข้างตู้เสื้อผ้า ฉันเลยเดินไปหยิบมา เอาตะเกียงตั้งติดกับโน้ตบุ๊ค แล้วถามว่า
แม่ ไม่อยากให้หนูเปิดโน้ตบุ๊ค นี้หรือคะ?
เวลานั้น เหมือนพัดลมในห้องก็ยังไม่กล้าส่งเสียง ทั้งๆที่ครู่ก่อนพัดลมรุ่นโบราณ ที่ผลิตใหม่ เพื่อเอาใจคนชอบรูปทรงแบบสมัย ยุคแรกที่เริ่มมีพัดลมนั้น ยังดังกระหึ่มอยู่ให้ได้ยินชัดเจนทั้งสองหู
ในความเงียบที่น่าอึดอัดแบบนั้น ดำเนินไปราวครึ่งชั่วโมง แล้วเหมือนฉันได้ยินแม่พูดกับฉันในสมองขึ้นมาเฉยๆว่า
เปิดเลย อย่าเสียบเน็ต
ฉันจึงดึงปลั๊กต่อไฟออก ยกเธอมาไว้ริมหน้าต่าง ที่โต๊ะคอมฯของฉัน ซึ่งโน้ตบุ๊ครุ่นอย่างเธอ เสียบไม่ได้ ต้องมีสายพ่วงไฟอีกที แต่เมื่อฉันเปิดคอมออกดู ต้องพิศวงมากๆ เพราะอ้อยเล่าว่า พี่ประไพเปิดได้ปรกติ แต่นี่ฉันกดเปิดกลับดำทั้งจอ ในขณะที่ความสงสัยยังไม่หมดไป หน้าจอก็กระพริบวาบ-วาบ ภาพพร่าเลือนค่อยๆชัดขึ้น แต่เหมือนกับว่าเธอจะอยู่ในเงาสลัว ฉันเห็นเป็นหญิงสาววัย22-23 ผมยาวประบ่า ที่น้ำตานองหน้า ชั่วครู่หนึ่งก่อนหน้าจอเป็นสีดำ มีตัวหนังสือสีแดงราวเลือดโผล่ขึ้นมาว่า
Help me !
ตรงล่างถัดมามีอักษร Please จะมีไฟกระพริบไม่หยุด เหมือนจะเร่งให้คลิ๊กเข้าไป ขณะที่ฉันลังเล มันก็ดับมืดสนิทไป ไม่ว่าจะปิดแล้วเริ่มใหม่กี่หน ก็ไม่ติดแล้ว รุ่งขึ้นฉันจึงเล่าให้อ้อยฟัง
ไหนๆก็มาขนาดนี้แล้ว ตัวก็เสียบสายเน็ต แล้วดูว่าหญิงคนนั้นต้องการให้ช่วยอะไรไปเลยสิ หรือว่ากลัวคืนนี้เค้าจะมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยก็ได้
ตกลงคืนนี้ฉันควรเชื่อลางสังหรณ์ในใจจากแม่ ดีหรือเชื่อ เพื่อนสนิทดีหนอ คุณๆคะ ช่วยฉันคิดหน่อยได้ไหม...
เขียนและอัพโดย......ญามี่///...
Create Date : 13 มิถุนายน 2554 |
|
76 comments |
Last Update : 13 มิถุนายน 2554 12:43:12 น. |
Counter : 3733 Pageviews. |
|