<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
17 กรกฏาคม 2555

ถนนสายนี้มีตะพาบที่ 60...."มุมต่างมิติ"











“ถนนสายนี้..มีตะพาบ” ครั้งที่60
โจทย์ที่ว่านั้นก็คือ





เราเคยเป็นเพื่อนบ้านกัน และเรียนอยู่ที่เดียวกัน รวมทั้งทำงานบริษัทที่ใกล้ๆกันอีก เรามักนัดเจอกันทุกวันเสาร์ ครั้นต่อมา งานฉันยุ่งนานกว่าเดือน เราจึงห่างกันไป ในเดือนที่สามที่ฉันนึกขึ้นมาได้ จู่ๆเธอก็ย้ายไปอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด ครั้งแรกที่ฉันได้ฟังจากก็ดีใจกับเธอด้วย แต่แล้วการแต่งงานที่ประหลาดก็สร้างความงุนงงให้แก่ฉัน
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเธอ...เกิดความไม่ทราบว่าเธอแต่งงานไปกับใครสิ?

“คุณแววลาออกจากงาน เพื่อกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดครับ”

ฉันมองหน้าชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเพื่อนด้วยสายตามีคำถาม?

“เห็นว่ากลับไปแต่งงานครับ”

ฉันเดินออกจากบริษัทเพื่อนมาด้วยอาการมึนงงที่สุด แล้วเรื่องของเธอก็เงียบหายไป...




จากวันนั้นมาอีก 5ปี จู่ๆฉันได้รับกล่องพัสดุกล่องใหญ่จากเธอ แต่ไม่มีชื่อคนส่งและปลายทางที่ส่งมา
ที่รู้ว่าเป็นเธอ เพราะข้าวของในนั้นเป็นของใช้ส่วนตัว ที่ฉันเคยมอบให้เธอในเทศกาลต่างๆก่อนเธอจะหายไป
หลังจากได้รับกล่องพัสดุจากเธอ...ฉันมักได้ยินเสียงลมดังแว่วอย่างแปลกๆ

“ช่วยฉันด้วย........”

ไม่รู้ว่าทำไมฉันจึงได้ยินเสียงลมหวีดดังเป็นเช่นนั้น แต่คืนหนึ่งเลิกงานฉันเดินแวะไปร้านแม่ค้าขาประจำ

“ลาดหน้าเส้นใหญ่ น้ำกับผักเยอะๆค่ะ”





ฉันร้องบอกป้าคนขาย

“เมื่อบ่ายมีคนเอาของมาฝากไว้ บอกว่าคุณลืมค่ะ”

ป้ายื่นถุงกระดาษใบย่อมให้ฉัน ฉันรับอย่างงงๆแต่ก็เอ่ยขอบคุณ

ทุกครั้งเพื่อนฝูงจะนำข้าวของมาให้ฉัน
โดยฝากไว้กับป้าแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว ด้วยรู้ว่าทุกคืนฉันต้องแวะมาซื้อก๋วยเตี๋ยว ถ้าไม่มา....มักบอกล่วงหน้า
น้อยครั้งนักที่จะมีใครนำไปฝากไว้ที่ยามหน้าคอนโดฯ เพราะต้องเสียเวลาไม่น้อย...สำหรับหาที่จอดรถ

เมื่อกลับห้อง หลังอาหารฉันอาบน้ำแล้วเข้านอน ก่อนนอน คิดถึงถุงกระดาษที่รับมาจากป้า ฉันลุกไปหยิบมาดู

“มือถือยี่ห้อนี้คล้ายของแววจัง”

ฉันมองโทรศัพท์มือถือในมือ พลางคิดถึงเพื่อน

“สงสัยป้าส่งถุงผิดมากระมั้ง”

ฉันคิดเพราะไม่ใช่มือถือของฉันนั่นเอง ฉันวางมันไว้บนโต๊ะกินข้าวแล้วเดินเข้าห้องนอน

“ช่วยด้วย....ช่วยฉันด้วย....”

ฉันพลิกตัวไม่มา ขณะที่ตายังหลับด้วยความง่วง จู่ๆฉันก็ลุกอย่างกระทันหัน เมื่อเสียงในสมองเริ่มดังรบกวน
ฉันได้ยินเสียงจากมือถือเครื่องนั้น ทั้งๆที่มันปิดสนิท!! ฉันลุกไปหยิบมันขึ้นมากดเปิด

รูปภาพหน้าจอเป็นเธอ....แววเพื่อนฉัน!

“ช่วยด้วย..... ช่วยฉันด้วย น้อยจ๋า....ช่วยฉันด้วย”

ฉันตะลึงตาค้าง.....เธอพูดกับฉัน พูดด้วยการขยับปากขึ้นลงจากภาพรูปเธอที่จอ!!ฉันทิ้งมือถือวิ่งเข้าห้องนอน...นอนคลุมโปงจนเช้า

บ่ายวันนั้นฉันแวะไปที่บริษัทเก่าของเธออีกหน ถามชายคนเดิมที่เดินมายิ้มให้ฉัน พร้อมพูดว่า






“ เธอหายไปตั้งแต่วันที่บอกกลับบ้านครับ แต่ที่บ้านเธอก็ไม่มีใครเจอเธอเลยนะครับ แปลกเหมือนกัน”

ขณะที่เขาคุยกับฉัน ฉันรู้สึกถึงสายตาโกรธแค้นคู่หนึ่ง...กำลังจ้องมองชายผู้นั้นด้วยความอาฆาต
จนฉันอดเหลียวไปมอง ก่อนจะหน้ามืดวูบไป ยังทันได้เห็นและยินเสียงตัวเองพูดออกมาอย่างชัดเจน

“แวว!”

ร่างของเพื่อนรักเต็มไปด้วยคราบเลือด ใบหน้าเขียวคล้ำ นัยน์ตาแดงก่ำโปนถลนออกมานอกเบ้า!!!
และชี้มือบอกว่า

“มันเป็นคนฆ่าแววจ๊ะน้อยเพื่อนรัก...”





ฉันสลบไปนาน กว่าจะฟื้นขึ้นมาทุกอย่างก็ดูผิดหูผิดตาไปหมด ในป่าที่มืดและเงียบฉันเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่ง กำลังทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แล้วฝ่ายชายก็บันดาลโทสะ หลังจากรี่เข้าไปตบเธอจนล้มคว่ำแล้ว สองมือที่แข็งแกร่งก็บีบคอเธอ บีบอย่างโหดร้ายหมายชีวิตระหว่างบีบยังด่าว่าอย่างหยาบคาย ฉันวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน ทว่าทุกอย่างกลับอันตรธานไป...มีแต่ความเงียบ...เงียบอย่างวังเวง!

“แวว...”

เสียงยังดังบนริมฝีปากฉัน เมื่อฉันสะดุ้งตื่น เพื่อนฉันตายแล้ว ตายเพราะเหตุใดต่างหากที่ฉันต้องค้นคว้า หลังออกจากโรงพยาบาล ฉันลางานต่ออีก 3 วัน เดินทางไปพบพ่อแม่ของแวว แล้วทุกอย่างก็กระจ่าง
“แวว มันบอกว่า ที่ทำงานมีผู้ชายคนหนึ่ง คอยหาเรื่องมันอยู่ แต่มันก็พยายามหลบแล้ว โธ่เอ๋ย เลยต้องมาตายไป”


แม่ของแววเล่าเรื่องด้วยน้ำตา ฉันเอ่ยลาลงจากบ้านแววมา เสียงลมยังตามมากรีดร้อง

“น้อยจ๋า...ฉันอยากแก้แค้น...”


ฉันกลับบ้านด้วยเรื่องวุ่นเต็มสมอง เดินผ่านป้าร้านลาดหน้าอย่างไม่สนใจ ทุกอย่างมันบอกว่า คุณพานเข้าข่ายน่าสงสัยที่สุด แต่ทว่าคนยิ้มแย้มเสมอ พูดจาก็ดีนะหรือ? คือคนเลว... ฉันกลับห้องสมองเวียนแต่เรื่องหนักใจ ฉันจะบอกตำรวจอย่างไรดีหนอ..ฉันคิดจนเพลียเผลอหลับไปไม่รู้ตัว

“ไม่จ๊ะ น้อยไม่ต้องช่วยฉัน ขอแค่ช่วยพามันออกมาที่นี่ ฉันจะจัดการเอง”

เสียงแววดังอย่างโกรธแค้น ไม่ว่าฉันจะพูดอย่างไรเธอก็ไม่ฟังท่าเดียว ในที่สุดฉันจำตกลงตามแววบอก





คืนวันต่อมา ฉันนัดคุณพานมาพบที่ร้านป้าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว คุณพานยังคงยิ้มแย้ม เจรจาเสียงเรียบเรื่อยไม่มีอาการคนขี้อิจฉาตามที่แววกล่าวหาเลย ฉันยอมรับว่าหนักใจมาก แต่เพื่อเพื่อนและความยุติธรรม ฉันจะลอง..


“ขอบคุณ คุณพานมากเลยนะคะที่ช่วยเป็นธุระส่งน้อยไปหาหมอวันนั้นค่ะ”


“เรื่องเล็กครับ ต้องขอบคุณที่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวผมนะครับ อร่อยมากเลย แหมกำลังหิว...อิอิ”

คุณพานตอบหลังปรุงเครื่องแล้วเราก็ทานอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนแยกจากกัน คุณพานอาสาเดินไปส่งฉันที่คอนโดฯ เราเดินคุยกันมาอย่างสนุก ในใจฉันเฝ้าแต่ร้องเรียกแววตลอดเวลา ...ช่วยไม่ได้ฉันยอมรับ..ฉันอยากช่วยเพื่อนค่ะ

“ขอบคุณ ที่เดินมาส่งค่ะคุณพาน”

ฉันเอ่ยอย่างยิ้มๆก่อนเดินเข้าลิฟท์ ในลิฟท์ว่างไร้คน ฉันเลยร้องเรียกแวว แล้วก็สะดุ้งตกใจ เมื่อมีเสียงตอบกลับมาว่า

“ขอบใจนะเพื่อนต่อแต่นี้ฉันจัดการเองจ๊ะ....”

วันรุ่งขึ้นข่าวใหญ่ทั่วไป ก็ปรากฏมาว่า “ชายหนุ่มหน้าตาดี อนาคตกำลังรุ่ง จะเข้าวิวาห์เดือนหน้า ตัดสินใจกระโดดตึกตาย!”


ข่าวย่อลงว่า ชายหนุ่มเดินกลับบ้าน ยังทักทายยามด้วยหน้าตายิ้มแย้ม หลังจากนั้นก็เดินไปกระโดดตึกเสียแล้ว...ข่าวว่าตามมาหลังจากไปถามผู้จัดการที่ทำงาน ได้ความว่าหนุ่มนี้จะได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้จัดการแทนเขา ในอีกสามเดือนข้างหน้าด้วย เลยต่างแปลกใจทำไมต้องคิดสั้น?

คืนนั้นแววมาลาฉันด้วยฝันอีก ในฝันเรานั่งคุยกันที่ร้านน้ำแข็งใสเจ้าเก่า ที่นัดของเราทุกเสาร์ แววเล่าว่านายพานนั้นเป็นคน “หน้าไหว้หลังหลอก”

“ตอนแววเข้าทำงานใหม่ๆ มันก็มาเอาใจใส่ ช่วยเหลืออย่างดี แล้วแอบไปใส่ไฟกับหัวหน้าว่า แววขี้เกียจ ทำงานก็ผิดพลาดบ่อยๆ เตือนก็ไม่ได้หน้าบูดๆเบี้ยวๆ เพื่อนเขาแอบบอกแววหลายหน แต่แววก็ไม่เชื่อ จนมาได้ยินมันโทรศัพท์คุยกับแฟน แววอึ้งหลายวันเลยนัดมันมาคุยกัน มันไม่ยอมรับ จนแววพูดถึงวันที่มันคุยกับแฟน มันเลยแสดงหน้าตาเจ้าเล่ห์ออกมาจ๊ะ มันบีบคอแววแล้วก็เอาศพไปซ่อนที่วัดแห่งนั้น น้อยบอกแม่แววนะ ให้เขาไปขุดมาเผา แววจะได้ไปเกิดเสียที”

หลังจากเผาศพแววแล้ว ฝันต่างมุมมิติก็พลอยหายไปด้วย ฉันไม่เคยฝันอีกเลย..

9 วิธี เอาชนะความอิจฉาริษยา



คุณเคยรู้สึกเช่นนี้บ้างมั้ย.. อิจฉาใครบางคน เพียงเพราะเห็นความสำเร็จของเขา และคุณจะพูดถึงเหตุผลธรรมดาๆที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ เพื่อที่ว่าคุณจะได้มองข้ามมันไป และรู้สึกดีๆกับตัวเอง

อารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้ เกิดจากสัญชาตญาณของมนุษย์ที่พยายามปกป้องตัวเอง ด้วยการฝังกลบความบกพร่องและความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคง ไว้ภายในจิตใจ

แต่จะมีประโยชน์อะไรกับการทำเช่นนั้น เพราะไม่เพียงแต่ความรู้สึกอิจฉาริษยาจะไม่ส่งผลดีต่อการสร้างความสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับคนรอบข้างแล้ว มันยังทำให้ตัวเราเองรู้สึกแย่ด้วย และอาจส่งผลร้ายต่อเนื่องไปยังร่างกาย เช่น ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง หากเป็นเช่นนี้ เหตุใดยังปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในภาวะดังกล่าว

9 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์อิจฉาริษยาให้ลดน้อยลง และช่วยขจัดรูปแบบความคิดด้านลบออกจากจิตใจ

1. เฝ้ามองอารมณ์ริษยา

การพร่ำบอกตัวเองไม่ให้รู้สึกอิจฉาริษยา ไม่ช่วยให้หลุดพ้นจากอารมณ์นั้นได้ เพราะยิ่งต่อต้าน ยิ่งคงอยู่ แต่ถ้ารับรู้และเข้าใจสถานภาพอย่างลึกซึ้ง เราจะเริ่มขจัดความรู้สึกด้านลบออกไปได้เอง ฉะนั้น เมื่อคุณรู้สึกอิจฉา ใครบางคน จงปล่อยตัวเองให้อยู่ในอารมณ์นั้นอย่างเต็มที่ แล้วคุณจะเห็นว่า การเผชิญหน้ากับความรู้สึกดังกล่าว จะทำให้อารมณ์ริษยาเริ่มลดน้อยลง

สิ่งที่คุณต้องทำคือ หามุมสงบเงียบๆคนเดียว ไร้สิ่งรบกวน หลับตาและนึกถึงเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกอิจฉา สังเกตดูว่า ความรู้สึกนั้นมาจากไหน มีผลต่อร่างกายอย่างไร คุณรู้สึกตีบตันที่ลำคอหรือแน่นท้องหรือเปล่า เจ็บหน้าอกมั้ย และที่สำคัญต้องรู้จักปลดปล่อยความรู้สึกริษยาออกมา อย่าไปยึดมันไว้ จงสำนึกไว้เสมอว่า นั่นไม่ใช่ตัวคุณ แต่เป็นอัตตาที่เรียกร้องความสนใจ จงเฝ้ามองไปเรื่อยๆ แล้วคุณจะรู้สึกว่า อารมณ์ริษยาค่อยๆจางหายไป

การฝึกเช่นนี้ จะช่วยให้คุณเอาชนะความเป็นอัตตา และเห็นสิ่งที่เป็นจริงด้วยสติปัญญานั่นเอง

2. รักตัวเอง

มีคำกล่าวว่า “ถ้าคุณไม่ยอมรับและรักตัวเองในแบบที่คุณเป็น ก็มีแนวโน้มสูงที่คุณจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เพื่อหลอกตัวเองให้รู้สึกว่ามีค่า”

คุณค่าของตัวเรานั้น เกิดจากการเห็นคุณค่าของตัวเองและรักตัวเอง คนที่พอใจและรู้สึกมั่นคงในตัวเอง จะไม่ปล่อยให้ความอิจฉาริษยาเข้ามากร้ำกรายชีวิต จงมองเข้าไปภายในจิตใจ ใช้เวลากับตัวเอง รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา เลือกที่จะสนใจตัวเองมากกว่าคนที่เราอิจฉา ใช้ความเข้าใจเรื่องความต้องการและปัญญา เปลี่ยนการรับรู้ของเรา อีกทั้งตระหนักดีว่า เรามีทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นอยู่ภายในตัวเอง ที่จะทำให้เกิดความสุขและความสำเร็จ และรู้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปนั้น เราสามารถหาได้ และทำให้สำเร็จได้

3. เลิกเปรียบเทียบ

มีคนเคยกล่าวอย่างน่าฟังว่า “การเปรียบเทียบคือเมล็ดพันธุ์ และความริษยาคือดอกผลของมัน”

ทั้งนี้เพราะการเปรียบเทียบนำไปสู่ความอิจฉาริษยา และทั้งสองสิ่งนี้ล้วนปรุงแต่งขึ้นจากจิต บางคราวจิตของมนุษย์อาจจมปลักอยู่กับการเปรียบเทียบ จนมองไม่เห็นความเป็นจริง เราจึงจำต้องลดละการเปรียบเทียบลง เพื่อจะได้เห็นทุกสิ่งตามเนื้อแท้ของมัน จงเริ่มด้วยการเห็นคุณค่าของความแตกต่าง เห็นประโยชน์ของการมีเอกลักษณ์

ข้อสำคัญ ต้องเตือนตัวเองเสมอว่า การเปรียบเทียบนั้นมักไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเราจะคาดหวังไปเรื่อยๆ

4. ค้นหาสิ่งที่คุกคามจิตใจ

ถามตัวเองและค้นหาว่าอะไรที่ทำให้รู้สึกหวาดหวั่น หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยในเรื่องอะไร สิ่งใดที่กลัวจะสูญเสีย หรืออะไรคือสิ่งที่คิดว่าควรได้รับ

เมื่อคุณรู้ว่ามันคืออะไร ต้องตัดสินใจที่จะเอาชนะสิ่งที่เป็นภัยคุกคามนี้ ด้วยการวางแผนอย่างคร่าวๆ หาหนทางที่จะมองสถานการณ์นี้จากจิตที่เข้มแข็งมั่นคง ไม่ใช่จิตที่หวาดกลัว หวั่นไหว

5. จดบันทึก

การจดบันทึกข้อคิดลงบนกระดาษ ไม่เพียงเปิดโอกาสให้คุณแสดงตัวตนออกมา แต่ยังเป็นการวางแนวทางเลือกของคุณให้เห็นเด่นชัด เสมือนมองลงมาจากเครื่องบิน ซึ่งแลเห็นภาพโดยรวมได้ดีกว่านั่นเอง

จงถามตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงรู้สึกเช่นนี้” เขียนสาเหตุ ทั้งหมดลงบนกระดาษ นึกอะไรขึ้นได้ ก็จดลงไปก่อนโดยไม่ต้องแก้ไข แล้วค่อยมาจัดระเบียบข้อมูลในภายหลัง เมื่อได้สาเหตุทั้งหมดแล้ว ก็เขียนไว้ข้างๆของแต่ละข้อว่า จะแก้ไขอะไรได้บ้าง

6. อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

ถามตัวเองว่า คนที่คุณอิจฉานั้น เป็นภัยคุกคาม ต่อตัวคุณ ต่อความสัมพันธ์ หรือต่อธุรกิจของคุณหรือไม่..

สิ่งที่คุณกำลังรู้สึกหรือทำนั้น สร้างประโยชน์ให้แก่คนที่เกี่ยวข้องหรือไม่..

คุณจะเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้ได้บ้าง หรือจะได้ประโยชน์อะไรจากสถานการณ์นี้..

ถ้ามันทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ดีและไม่มีประโยชน์อะไรต่อ คุณเลย ก็คงไม่มีเหตุผลใดที่คุณจะคงความรู้สึกนั้นต่อไป

7. หาจุดแข็งของตัวเอง

สำรวจตัวเองดูว่า มีจุดแข็งด้านใดและมีคุณลักษณะพิเศษอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น มีสมองอันเยี่ยมยอดในการคิดคำนวณ สามารถเล่นกีฬาได้ทุกประเภท เป็นต้น จงเห็นคุณค่าของพรสวรรค์และความสามารถที่คุณมี รวมทั้งให้ความสำคัญกับข้อดีในตัวเอง ที่ค้นพบนั้น

8. หันเหความสนใจ

บางครั้งเป็นเรื่องยากที่จะคิดอย่างสมเหตุสมผลยามที่เราถูกครอบงำด้วยความรู้สึกไม่ดี เพราะเรามัวแต่เน้นความรู้สึกด้านลบ จนลืมมองภาพใหญ่ แต่คุณสามารถเปลี่ยนสภาพอารมณ์ขณะนั้นได้ ด้วยการหันเหความสนใจไปยังสิ่งอื่นที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง เช่น ออกไปจ๊อกกิ้ง รดน้ำต้นไม้ หรือล้างจานชามในครัว และเมื่อรู้สึกผ่อนคลายลง ค่อยกลับไปยังสถานการณ์เดิม ด้วยจิตที่ผ่องใสและเปิดกว้าง

9. ถามตัวเอง
“นี่เป็นสิ่งที่ต้องการจริงๆหรือ”

ความรู้สึกเช่นนี้ คือการที่เรากำลังให้ความสนใจต่ออารมณ์นี้อยู่ สมมติว่าคุณอยู่ในสถานการณ์นั้น ถามตัวเองว่าต้องการเช่นนั้นจริงหรือเปล่า แล้วคิดว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร

ในบางสถานการณ์ที่ทำให้เราตกอยู่ในอารมณ์ด้านลบ ตลอดนั้น ถ้าเราปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ก็จะได้สิ่งที่ดีกว่า เช่น เมื่อคุณเห็นเพื่อนประสบความสำเร็จมากกว่า แทนที่จะอิจฉาริษยาเขา ก็เปลี่ยนเป็นการแสดงความยินดี ราวกับว่ามันเป็นความสำเร็จของคุณเอง และศึกษาการทำงานของเขา เพื่อเป็นแบบอย่างสู่ความสำเร็จของคุณในอนาคต

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 127 มิถุนายน 2554 โดย ประกายรุ้ง)




เขียนและอัพโดย......ญามี่///...








Create Date : 17 กรกฎาคม 2555
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 22:43:35 น. 36 comments
Counter : 2756 Pageviews.  

 
ตะพาบอีกแย้วนิน้องบ๊อง


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:50:55 น.  

 
แวะมาอ่านงานตะพาบของน้องมี่ค่ะ
ส่งกำลังใจให้น้องนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: forgetmenot_ok วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:09:42 น.  

 
โย จ คุตฺเตน จิตฺเตน สุณาติ ชินสาสนํ
เขเปตฺวา อาสเว สพฺเพ สจฺฉิกตฺวา อกุปฺปํตํ
ปปฺปุยฺย ปรมํ สนฺตึ ปรินิพฺพาติ อนาสโว

ผู้ใดมีจิตคุ้มครองแล้ว ฟังคำสอนพระชินเจ้า ผู้นั้นชื่อว่าให้อาสวะทั้งปวงสิ้นไป
ทำให้แจ้งซึ่งอกุปปธรรม บรรลุความสงบอย่างยิ่ง ไม่มีอาสวะ ย่อมดับสนิท

มีความสุขในการดำเนินชีวิตด้วยธรรมะแห่งพระพุทธองค์ ตลอดไป...นะคะ



มาอ่านงานตะพาบ
มาโหวตให้นู๋มี่...จ้ะ

ป.ล. ราดหน้า...น่าหม่ำมาก...อิ อิ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:36:47 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่

ไม่ได้เข้ามาทักนานเลย ขอโทษนะคะ พอดีงานยุ่งมากค่ะ แล้วต้องรีบส่งด้วย ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จเลย ฮือ แต่แวะมาทักทายก่อนด้วยความคิดถึงค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันที่บล็อกนะคะ

ขอให้มีความสุขกับวันพุธค่ะ



โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:39:29 น.  

 
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ

อ่านไปก็ลุ้นไปว่าจะออกมาแนวไหน

ในโจทย์ของมุม ชอบค่ะน้องมี่


>>


โดย: maitip@kettip วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:22:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่กิ่งตามมาอ่านจากบ้านคุณเป็ดค่ะ อ่านเพลินเลยค่ะ มุมมองที่น่ากลัวจัง เขียนเป็นนิยายได้เลยค่ะ อิอิ
วันนี้โหวตไปหมดแล้วขอติดค้างไว้ก่อนนะคะแล้วกิ่งจะมาโหวตให้ค่ะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:59:34 น.  

 
เข้ามาทักทายช่วงเที่ยงก่อนค่ะ
เดี๋ยวจะตามมาอ่านใหม่
เพิ่งหาทางใช้ net up blog ได้ค่ะ
คุณมี่เป็นไงบ้างคะ


โดย: fondakelly วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:21:11 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ ลุ้นดี ความอิจฉานี่ห้ามยากค่ะ แต่ถ้าไม่จมอยู่กับมันตลอดก็ไม่เป็นปัญหาอะไรค่ะ แค่อย่าไปทำให้คนอื่นเขาเดือนร้อนก็พอ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:10:27 น.  

 
อารมณ์ที่น่ากลัวที่สุดในความเป็น "คน" อิจฉาริษยา




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:17:29 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรือนเรไร About Weblog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
------------------------
แวะมาส่งกำลังให้จ้ะน้องมี่ คิดถึงนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:03:27 น.  

 
อืม ตะพาบน้องมี่ช่างน่ากลัว..
มุม.. เปลี่ยนไปในทางไม่ดี แบบนี้ไม่อยากให้เจอเลยนะ..


โดย: tifun วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:24:27 น.  

 
อ่านแล้วตื่นเต้นจังครับ อิอิ แสดงว่าน้องมี่ชอบดูหนังผีเหมือนกันนะครับเนี่ย

เขียนได้สนุกสนานตื่นเต้น น่าติดตาม อ่านแล้วรื่นไหลดีจังเลยครับ มาโหวตให้ใหม่นะครับวันนี้หมดแล้วหล่ะ แหะๆ ^^







โดย: วนารักษ์ วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:47:52 น.  

 


ระวังเวลาอยู่ตามลำพังค่ำๆมืดจะไปไหนดูหน้าดูหลังมั่งนะ...อิอิอิ


โดย: พันคม วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:01:46 น.  

 
เป็นอีก 1 บล็อกคุณภาพอ่านแล้วลุ้น
แถมลุ้นแล้วยังมีข้อคิดดีๆ ให้เราได้อ่าน
กันอีกด้วยค่ะ ..


โดย: JewNid วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:30:00 น.  

 
เรื่องแรก เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ครับ
เพราะดูการเขียนบล๊อกนี้ มีความ
ตั้งใจค้นคว้ามากนะครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:43:56 น.  

 
อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต
น่ากลัว
แนวถนัดคุณมี่เลยนะครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:47:25 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ยามเช้าครับ

แม้นท้องฟ้าเมฆหมอกดูหม่นหลัว
ขอเพียงใจอย่ามัวจนหม่นหมอง
จุดประกายฉายฉานดั่งธารทอง
เป็นแสงส่องทั่วโลก...ให้โชคดี


โดย: พันคม วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:55:06 น.  

 
ไม่ได้เขียนด้วยเลย
เลยมาเชียร์เพื่อนๆครับ
อีกสักพักนะครับจะมาร่วมแจมใหม่


โดย: panwat วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:08:23 น.  

 


สวัสดียามสาย ๆ ค่ะ...^^"



โดย: Lika ka วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:14:04 น.  

 
ปฐเมเนว วิตถํ โกธํ หาสํ นิวารเย
ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺย ตํ วตํ อาหุ ขตฺติย

เริ่มแรก แก้ไขของที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนให้เสร็จ
ระงับความโกรธกริ้วและความบันเทิงไว้ก่อน จากนั้นจึงสั่งงาน
ข้อนี้นักปราชญ์กล่าวว่าเป็นวัตร (ระเบียบปฏิบัติ) ของผู้ปกครอง

มีความสุขในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:14:27 น.  

 
แวะมาทักทายน้องญามีคะ

ยังไม่ได้อ่านเลย

เม้นท์ก่อน เดี๋ยวตามขึ้นไปอ่านนะคะ


โดย: ตาโตสุดสวย วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:38:14 น.  

 
น่ากลัวนะครับ

คนประเภทที่ซ่อนมีดดาบไว้หลังรอยยิ้ม คงมีไม่น้อยในสังคมเหมือนกัน *_*


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:02:53 น.  

 
ตามมาอ่านตะพาบค่ะคุณญามี่

กรรมใดใครก่อคนนั้นก็รับกรรมไปนะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:06:08 น.  

 

สุริยันพลันลับกับทิวไผ่
แสงเล็ดลอดรำไรยังไม่สิ้น
สกุณาร่ำร้องก้องธรณิน
หวนคืนถิ่นรวงรังเหมือนดั่งเรา

เย็นแล้วเลิกงาน...กลับบ้านนอนครับ...


โดย: พันคม วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:24:19 น.  

 
วิญญานอาฆาตแค้นนี่น่ากลัวเน้อ



โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:36:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ คืนนี้ขอให้ฝันแต่เรื่องดีๆนะคะ




โดย: ญามี่ วันที่: 19 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:37:10 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณมี่ ต้องเหลียวมองรอบกายก่อนเพราะมาบ้านคุณมีชักสยอง อิอิ กิ่งมาโหวตให้ด้วยค่ะ
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ภาพหนูน้อยนอนหลับน่ารักจังค่ะ
หลับฝันดีนะคะคุณมี่




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:25:48 น.  

 


อรุณรุ่งอีกคราเริ่มฟ้าสาง
เห็นนภางค์วันใหม่สดใสแจ่ม
กลิ่นดอกไม้+สายลม...ผสมแซม
เพื่อแต่งแต้มความสุขให้ทุกคน


โดย: พันคม วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:50:47 น.  

 

Good morning Have a nice day. เกศสุริยง
ระลึกถึงเสมอนะคะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องมี่


โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:8:22:38 น.  

 
อกโรนฺโตปิ เจ ปาปํ กโรนฺตมุปเสวติ
สงฺกิโย โหติ ปาปสฺมึ อวณฺโณ จสฺส รูหติ

ผู้ใด แม้หากมิได้กระทำความชั่ว แต่คบหาเกลือกกลั้วกับผู้กระทำบาป
ผู้นั้น ย่อมพลอยถูกระแวงในกรรมชั่ว อีกทั้งชื่อเสียงเสื่อมเสีย ย่อมเพิ่มพูนแก่เขา

ดำเนินชีวิตด้วยการเลือกคบมิตรที่ดี ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:12:55 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ค่ะน้องมี่

พรุ่งนี้ก็หยุดแล้วไปเที่ยวไหนดีคะ

เที่ยวเผื่อพี่ด้วยนะ ไม่ได้หยุดจ้า

ช่วงนี้แทบไม่ค่อยได้นอน งานเยอะจ้า



โดย: maitip@kettip วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:12:26 น.  

 
โหดและน่ากลัวดีค่ะ คุณมี่
แต่ถ้าจะเขียนให้ยาวอีกหน่อยจะได้เพิ่มตอนที่น่าค้นหา หลอน เข้าไปเรื่องจะน่ากลัวและสนุกกว่านี้ค่ะ


โดย: fondakelly วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:17:54 น.  

 
สวัสดีจ้าน้องมี่

เรื่องนี้อ่านเพลิน น่าติดตามมากเลยจ้า
ตื่นเต้น น่ากลัว แถมมีข้อมูลดีมีประโยชน์แถมให้อีกด้วย ชอบจ๊ะ


โดย: multiple วันที่: 20 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:18:45 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านงานตะพาบด้วยคนค่ะ อ่านแล้วก็เดาไม่ถูกว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง น่ากลัวจังคะ
เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเลยคะ กดโหวตให้เลยค่ะ
แต่ก็อยากรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ ^^


โดย: Sawnoy วันที่: 21 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:41:50 น.  

 
หลับฝันดีค่ะ พรุ่งนี้ตื่นมาอย่างสดชื่นนะคะ



~กลบทดำเนินนางสระ~

ยามยิ้มพริ้มพราวกุมก้าวใกล้
ท่ามทาบวาบไหวนอกในหน่วง
ก่อกาลพานพบลึกหลบลวง
รู้ร้างห่างห้วงเช่าช่วงชม

ใจจริงวิ่งวุ่นคอยครุ่นคล้าย
พรางพจน์หมดหมายสุดสายสม
หวังวูบลูบไล้จำใจจม
เจตน์จิตสนิทสนมแต่ตรมตาม

รอยรินถวิลวางเคียงค้างเคลื่อน
เคลิ้มคล้อยลอยเลือนขัดเขื่อนข้าม
เวียนวนผลผุดยากหยุดยาม
จินต์จักหักห้ามตื่นตามตัว

ไขขานสานสิ่งยากยิ่งยื่น
ราวร่ำค่ำคืนเกิดกลืนกลั้ว
ก่อแกล้งแสงส่องมืดมองมัว
พลอยพลิกริกรัวทอดทั่วทาง

เงาเงียบเพียบพอรินรอเรื่อง
ว่างวุ้งนุ่งเนื่องมาเมืองหมาง
น้ำนิ่งยิ่งหยดคิดคดคราง
หยาดย้อยรอยรางวูบว้างวน


โดย: ญามี่ วันที่: 22 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:56:19 น.  

 
ดึกแล้วอาบน้ำนอนได้แล้วน้องบ๊อง อย่าดูโอลิมปิกดึก


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 1 สิงหาคม 2555 เวลา:23:02:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]