<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
1 มิถุนายน 2558

ถนนสายนี้...มีตะพาบครั้งที่ 131 ตอน "ละครหลังข่าว"

















วรรณนิศาเป็นนักศึกษาดีเด่น เคยเขียนสารคดีเกี่ยวกับการอยู่คนเดียวได้รางวัล ค่าทุนสำหรับเรียนต่อปริญญาโทจากสถานีสหรัฐ โดยไม่ต้องทำงานคืน เพียงแค่ให้ลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนั้นแก่สถานี แลกกับเงิน8ล้านเหรียญ กับกรีนการ์ดสามารถอยู่ทำงานที่สหรัฐได้ถึง5ปี โดยไม่ต้องชอวีซา (เพราะสถานีรับผิดชอบให้ทุกอย่างแล้ว)

หล่อนตัดสินใจเลือกเรียนต่อ แม้พ่อ-แม่จะขอร้องให้เลือกใช้สิทธิ์ขายลิขสิทธิ์แค่5ปีแลกกับเงิน3ล้านแล้วก็ตาม ต่อมาหล่อนเขียนหนังสือได้รางวัลอีก2ครั้ง เลยได้สิทธิ์อยู่ถาวรที่สหรัฐ ทว่าหล่อนเลือกกลับบ้านขายหนังสือลิขสิทธิ์นั้นในราคา15ล้านแทน...เพราะธนวินท์กับหล่อนได้เลิกกันเรียบร้อยแล้ว หารู้ไม่ลูกของเขากำลังจะมาเกิด!

วรรณนิศากับเงิน30ล้านสหรัฐกลับมาบ้าน หล่อนสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่และพี่สาวอยู่รวมกัน บนที่ดิน100ตารางวา มีกัน3บ้าน ลูกของวรรณนิศาถูกส่งไปเรียนที่สหรัฐเลยพบหน้ากับธนวินท์บ่อยขึ้น ในปีที่ลูกครบ21 ลูกก็หายไปขาดการติดต่อกับหล่อน ถึง3ปี ปีที่4ที่ธนัชญาอุ้มท้องกลับบ้านพร้อมกับไตรวิชญ์ วรรณนิศาเมื่อรู้ว่าลูกสาวแต่งานแล้วโดยพ่อไปร่วมจัดงานด้วย ความน้อยใจเสียใจและคิดถึงความหลังที่ลำบากกันมา12ปี หล่อนเลยพาลลูกและลูกเขยไล่ออกจากบ้านและตัดความเป็นแม่-ลูกด้วย...

จากวันนั้นมาตราบจนหล่อนอายุเข้า70 ลูกไม่เคยพาหลานมาหาอีกเลย มีแค่ทัตเทพลูกคนโตของพี่สาวที่มาเยี่ยมหล่อนเสมอ บ้านของหล่อนนานวันจะได้เห็นหน้าวรรณนภาผู้เป็นพี่สาวฝาแฝดสักที ทั้งที่อยู่ติดกันแท้ๆ เพราะพี่สาวบ้าทำอาหารทุกมื้อมักมีขนมนมเนยให้ลูกชายเอามาฝากเสมอๆ เสียงดังลั่นบ้านของเด็กๆ เสียงด่าทอของพี่สาวกับคนใช้ เป็นสิ่งที่วรรณนิศารำคาญ หล่อนมักหนีเข้าห้องปิดประตูดูหนังสือเงียบๆทีละ7-8ชั่วโมง บ่อยครั้งคนใช้เอาอาหารมาส่งที่ห้องอ่านหนังสือเลย...

การดูแลตัวเองดีเสมอทำให้วรรณนิศาไม่เคยป่วย ในรอบปีที่71 หล่อนลื่นหกล้มในห้องน้ำกระดูกขาหัก ต้องนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงถึง90วัน สิ่งเดียวที่เป็นเพื่อนหล่อนคือทีวี จากข่าวทั่วไปในสัปดาห์ที่4 หล่อนเริ่มเปลี่ยนมาดูละคร ละครหลังข่าว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ดูหลังจากหลานชายกลับไป หล่อนเกิดเหงาๆขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว...เป็นครั้งแรกที่หัดดู















ละครเรื่องนั้นพูดถึงพี่น้องสองคนที่พลัดพรากจากกันในสวนสนุก พ่อ-แม่หากันอยู่10ปี ก็ไม่พบ เด็กสองคนไปคนละทาง คนพี่โชคดีมีคนใจดีเอาไปเลี้ยงได้อยู่ดีมีทรัพย์ เลยเสียคน เดินแต่ทางลงเหว คบเพื่อนอวดเก่ง หัดสูบยาบ้า ขายยาเมา แค่3ปีในวัย18ก็ติดคุก20ปีเพราะเผลอเมาแล้วฆ่าคน แม้ต่อมาพบพ่อ-แม่ที่แทนจริงแล้ว นิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน ยังหลอกขอเงินมาเสพยาบ่อยๆ ไม่เคยสนใจจักเรียนคำว่า “เป็นคนดี” เขียนเช่นไร..

คนน้องพบกับแม่ค้าขายผัก มีสามีขี้เมา เมื่อเมากลับมาก็ซ้อมผู้เป็นภรรยาเสมอๆ มีคราหนึ่งคนน้องพลาดมือเข้าห้ามรุนแรงไป มีดยาวที่อยู่ในเข่งขายผักเลยเสียบท้องผู้เป็นพ่อเลย ศาลตัดสินแล้วความประมาทก็เป็นความผิด เขาติดคุก15ปี หากแต่วัย17ได้ลดโทษหลายอย่างอีกทั้งอยู่ในคุกมักทำตัวดี ให้คนสงสาร ใครเอาเปรียบต้องเสียเปรียบเขามักทำเป็นไมรู้เสมอ ไม่เคยอวดเก่งกับใครเหมือนเช่นผู้เป็นพี่ ในปีที่32 เขาออกมาขายผักแทนผู้เป็นแม่ คนรอบตลาดมักหาข้าวปลามาฝาก ทุกคนยังคงรักเขา ผิดกับคนเป็นพี่ในปีที่39 กลับออกมาต้องให้พ่อ-แม่พาไปเลี้ยงต่อ เพราะมีโรคสารพัด สร้างความเอือมระอาแก่คนทั่วไป ไร้คนรักจริง แม้แต่พ่อ-แม่ที่เคยรักและเลี้ยงเขาก็ทนไม่ไหวต้องเอามาส่งคืนพ่อ-แม่แท้ๆ


หล่อนดูมาถึงตอนนี้เริ่มคิดถึงตัวเอง 50ปีแล้ว ที่หล่อนไม่เคยสนใจใคร ไม่เคยง้องอนใคร ไม่ยอมรับความผิดของสามี-ลูก ทั้งที่หล่อนก็ไม่เคยทำถูกเลย ญาติๆก็ห่างเหินกันไป พ่อ-แม่ตายญาติมานับคนได้ โลกที่ “ไร้ปุ๋ยชีวิต” ไม่ตายแต่ไม่งอกงาม หล่อนถามตัวเองเป็นครั้งแรก

“เก่งแล้วได้อะไรหรือ?”


การตัดสินใจเป็นความเร็วเคยตัวของหล่อนเสมอ รุ่งเช้าหล่อนก็เรียกพี่สาวมาคุยอย่างบังคับเป็นครั้งแรก


“พี่กล่อม เล่าให้ฉันฟังใหม่นะ ฉันอยากรู้เรื่องลูกแก้วกับพ่อของเขาจ๊ะ”


วรรณนภามองหน้าน้องสาวฝาแฝดแม้หน้าตาเหมือนกัน แต่นิสัยต่างขั้วไปไกล ใน51ปีสินะ ที่หล่อนยอมรับคนอื่น ยอมรับว่าไม่สามารถอยู่คนเดียวในโลกนี้ได้ คนเรามีเก่งและไม่เก่ง มีฉลาดและโง่เท่าๆกัน นานมากแล้วคนสองคนนั้นไม่กล้ามาเหยียบย่ำที่นี่ นับแต่วันที่หล่อนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟที่เขาพาลูกมากราบขอโทษ พร้อมหลานตัวน้อยๆ


“นังจันทร์ เอาน้ำยาฆ่าเชื้อทั้ง3โหล ราดให้ทั่วๆนะตรงที่สองคนนั้นยืนนะ”


หล่อนพูดใส่หน้าคนใช้กระแทกสามีและลูกอย่างเผ็ดร้อนคราวนั้น วรรณนภายังจำไม่ลืม...


“อีกสองวันคุณธนวินท์จักลาสิกขา เพราะลูกชายคนโตยัยลูกแก้วจะแต่งานจ๊ะ”


สายตาวรรณนภามองเห็นความเป็นแม่ครั้งแรกในรอบ51ปี น้องสาวร้องไห้แล้ว...


“พี่กล่อม ฉันแย่มากเลยใช่ไหม?”


“ก็ไม่แย่เท่าไรดอก เกลาเอ้ย ทุกคนต้องมีการทำผิดเสมอ”


แล้ววันศุกร์ที่๑๕ ทุกคนก็เห็นวรรณนิศาเดินช้าๆข้างๆชายชราคนหนึ่งคนที่หล่อนเคยตราหน้าว่า


“ในชีวิตคุณ ไม่มีชั้นแล้วจะลำบาก”


หล่อนรู้แล้วคนที่ลำบากคือหล่อนต่างหาก...















เขียนและอัพโดย......ญามี่///...














Create Date : 01 มิถุนายน 2558
Last Update : 1 มิถุนายน 2558 10:37:01 น. 24 comments
Counter : 1416 Pageviews.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่ะ






โดย: ญามี่ วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:10:38:11 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องมี่พี่กิ่งขอบคุณคะแนนโหวตมากค่ะ

มาอ่านงานตะพาบละครหลังข่าวเขียนได้ดีมากค่ะ วันนี้พี่กิ่งโหวตงานเขียนไปแล้วติดไว้ก่อนนะคะ ไว้พี่กิ่งมาใหม่ค่ะ

พักนี้แม่ป่วยพี่กิ่งต้องไปนอนเฝ้าแม่คงไม่ได้เข้าบล็อกหลายวันงานตะพาบหนนี้คงต้องพักก่อนค่ะ

ไลท์ให้ก่อนนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:11:00:43 น.  

 
เก่งแล้วได้อะไร......

เป็นสาระหลักที่ป้าได้จากงานเขียนเรื่องนี้ของคุณมี่

ใครหลายคนอาจมีเบื้องหลังคล้ายกับเรื่องนี้

ที่สุดท้ายได้เพียงเสียใจและถามตัวเองซ้ำๆด้วยคำว่า....เก่งแล้วได้อะไร

โหวตค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:11:42:53 น.  

 
สวัสดีค่ะวันวิสาขบูชา ขอบคุณที่แวะไปทักทายส่งขนมเค้กนะคะ


โดย: kae+aoe วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:12:06:10 น.  

 
โชคดีที่ไม่ใช่คนเก่ง 555555 ทุกวันนี้พยายามทำตัวแบบไม่เก่งอะ สวัสดีจ๊ะ สบายดีนะคะ คิดถึง เขียนเรื่องสนุกสนุกให้อ่านอีกนะคะ


โดย: BeautyAstro วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:12:44:11 น.  

 
เก่งแล้วได้อะไร ?

น่าคิดนะครับสำหรับคำถามนี้



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:13:28:31 น.  

 
สวัสดีค่ะ หนูมี่

หนูมี่ไปบล๊อกป้าพอดีกับที่ป้ากำลังอัพบล๊อกใหม่เลยค่ะ

เขียนได้สะท้อนหัวจิตหัวใจมากเลยค่ะ
เค้าถึงว่าดูละครแล้วให้ย้อนดูตัวเอง
เมื่อก่อนป้าก็ไม่ชอบดูละคร
ยิ่งสมัยที่ยังร่วมห้องอยู่กะคุณลุง ยิ่งไม่ได้ดูใหญ่เลย
เพราะคุณลุงไม่ชอบละครน้ำเน่า
มาตอนหลังแยกห้องกัน ก็หัดเริ่มดูมั่ง
หลาย ๆ เรื่องให้ข้อคิดดีมากนะคะ

โหวตให้เลยค่ะ

ญามี่ Literature Blog ดู Blog



โดย: พรหมญาณี วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:14:10:18 น.  

 
สวัสดียามบ่ายครับ



โดย: ก้อนเงิน วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:14:11:28 น.  

 

อ่านสนุกมีสาระดีค่ะคุณญามี่

ญามี่ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:15:03:54 น.  

 
คนเราเก่งเรื่องนึง แต่อาจจะพลาดอีกหลายๆเรื่อง
ชีวิตของแต่ละคนมีหลายมุม
มองชีวิตให้มองในแง่มุมอื่นบ้างนะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:18:41:27 น.  

 
เรื่องข้างบน ผมอ่านสองครั้ง
ตัวละครเยอะนะครับ..

เลยต้องทำความเข้าใจ ภายหลัง
อ๋อ.. เข้าใจแล้วครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:20:18:26 น.  

 
ขอบคุณน้องญามี่มาก ๆ ที่แวะไปฟังเพลงและโหวตให้นะคะ
สุขสันต์วันพระใหญ่ค่า ^_^


โดย: haiku วันที่: 1 มิถุนายน 2558 เวลา:23:34:09 น.  

 
สวัสดีจ้าน้องมี่

โอ้โห นี่มัน แนวละครหลังข่าวเลยนะนี่

ออกแนว คล้ายๆ เรื่อง อีแย้ม สุดแค้นแสนคึก เย้ย สุดแค้นแสนรัก กันเลยทีเดียว อิอิ

แค้นมา30กว่าปี มาคืนดีเอาตอนแก่ แต่ก็ยังดีที่สำนึกได้ก่อนตายละเนอะ 555


โดย: multiple วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:7:01:58 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องมี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:7:21:33 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: **mp5** วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:8:27:23 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตด้วยนะครับน้องมี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:10:24:08 น.  

 
โลกที่ “ไร้ปุ๋ยชีวิต” ไม่ตายแต่ไม่งอกงาม

ชอบวลีนี้จังค่ะ


โดย: ชลบุรีมามี่คลับ วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:13:03:21 น.  

 
ตามมาอ่านงานตะพาบของญามี่ค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:15:08:29 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ที่แวะไปฟังเพลงและโหวตให้นะคะ โหวตให้คุณน้องเช่นกันจ้า


โดย: haiku วันที่: 2 มิถุนายน 2558 เวลา:21:53:22 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องมี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มิถุนายน 2558 เวลา:7:36:56 น.  

 
เขียนได้ดีค่ะ ชอบนะ


โดย: NENE77 วันที่: 3 มิถุนายน 2558 เวลา:13:51:11 น.  

 
ดูละครแล้วย้อนดูตัว

ชอบตรงที่เธอหันไปถามพี่ว่า... ฉันแย่มากเลยใช่ไหม?

ใครได้ฟังก็พร้อมจะให้อภัยนะ คนเราใครๆ ก็ทำผิดได้

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
haiku Fanclub Blog ดู Blog
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 มิถุนายน 2558 เวลา:16:21:49 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ค่ะ





โดย: ญามี่ วันที่: 5 มิถุนายน 2558 เวลา:10:48:45 น.  

 
สวัสดีค่า คุณมี่ ^^
อ่านจบแล้วรู้สึกว่าบางทีทิฐิมานะสูงก็ใช่ว่าจะทำให้ชีวิตดีเนาะ
น้องสาวที่ไม่ปล่อยวาง ไม่อภัย ไล่ทิ้งครอบครัวทั้งที่มีโอกาสจะทำให้ดีได้ สุดท้ายผ่านไป 51 ปีไม่ได้อะไร ไม่เหลืออะไร โชคดีที่ถึงสุดท้ายแล้วก็ยังมีคนข้างกาย

เรื่องนี้ทำให้คิดว่าบางทีคนเราก็เสียเวลาในชีวิตไปกับอะไรก็ไม่รู้จริงๆเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับตะพาบข้อคิดดีๆค่า


โดย: lovereason วันที่: 5 มิถุนายน 2558 เวลา:22:59:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]