Diary & blog
การจดบันทึกเป็นอะไรที่เราๆท่านๆใช้ในการบันทึกเรื่องราวต่างๆลงบนอะไรที่บันทึกและสามารถพกพาไปกับเราได้ เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนความจำทำให้เราจำได้หรือบอกเล่าความรู้สึก เช่นการจดบันทึกเรื่องราวในชีวิตประจำ การจดบัญชีซื้อขาย การบันทึกค่าใช้จ่าย การบอกเล่าความรู้สึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้าโศก ความสนุกที่ได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่สวยๆงามๆ ความสุขสนุกสนาน และการบอกรักใครสักคนที่ไม่สามารถทำได้เนื่องด้วยเหตุผลร้อยแปดพันประการ เป็นต้น
การจดบันทึกมีมาก่อนที่มนุษย์จะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวเป็นตัวอักษรได้ โดยในช่วงนั้นมนุษย์จดบันทึกเรื่องราวเป็นภาพพิมพ์ลายมือ การนำสีจากยางไม้มาระบายไว้ที่ผนังถ้ำเป็นรูปสัตว์ มนุษย์ สถานที่ หรืออะไรที่ผู้บันทึกมองเห็น เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการมากขึ้น สามารถประดิษฐ์ตัวอักษรได้มนุษย์จึงเริ่มหาอะไรต่างๆมาทำการบันทึกเช่น แผ่นศิลา ใบไม้ สิ่งก่อสร้างต่างๆ จนที่ถึงการผลิตกระดาษขึ้นมาเพื่อใช้ในการจดบันทึกโดยเฉพาะ
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เนื่องจากมีอยู่วันหนึ่งเมื่อผมกำลังจัดกองหนังสือที่กองพะเนินเทินทึกอยู่ ในกองหนังสือมีสมุดจดบันทึกที่ผมเคยใช้มานานแสนนานแล้วแต่ปัจจุบันมันได้สิงสถิตอยู่ในนั้น เมื่อผมหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งและพยายามเปิดดูทีละหน้าและก็นึกถึงบรรยากาศในช่วงนั้นๆไปด้วย ในนั้นผมได้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆเช่น เรื่องของเพื่อนๆในสมัยเรียน งานที่อาจารย์ได้สั่งให้ทำเป็น report อะไรที่อาจารย์ได้สอนไว้นอกเหนือจากที่ได้เรียนมา แต่บัดนี้หน้าปกมันเก่าครั่มคร่ามากผมเลยอยากนำสมุดเล่มนี้มาทำการจัดการกับหน้าปกให้มันด้วยใหม่ขึ้นมาครับ ถ้าอย่างงั้นเราเริ่มเตรียมอุปกรณ์เลยนะครับ
สมุดจดบันทึกของคุณที่ต้องการทำหน้าปกใหม่
กระดาษกาวย่น
ริบบิ้นกาว
รูปอะไรก็ได้สักจำนวนหนึ่ง
กรรไกร
คัตเตอร์
กาวยาง
สติกเกอร์ใส
เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มกระบวนการทำกันเลยนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
นำกระดาษกาวย่นและริบบิ้นกาวมาติดที่หน้าปกสมุดจดบันทึก การติดก็ไม่มีอะไรมากมายครับตามใจชอบของคุณๆ ส่วนผมเลือกการติดในแบบนี้เพราะผมอยากได้ความรู้สึกลายตาและให้เกิดความสับสนและจดจำได้ง่าย
เมื่อติดกระดาษกาวย่นและริบบิ้นกาวเรียบร้อยแล้ว(ดูเหมือนจะเสร็จแล้วใช่ไหมครับ)ก็ให้นำกาวยางมายาที่ตามขอบของกระดาษกาวที่ติดไว้เพื่อป้องกันการหลุดร่อนครับ
หลังจากนั้นก็นำรูปที่เราชอบมาติด ส่วนของผมนี่ผมเลือกรูปที่ถ่ายเอกสารมาครับเป็นรูปมือผมเอง (ที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้คนเห็นรู้ว่าเล่มนี้ส่วนตัวนะเพราะมือผมยังติดอยู่กับสมุดอยู่เลย)
ติดรูปเสร็จแล้วก็ให้นำสติกเกอร์ใสมา cover หน้าปกอีกครั้งเพื่อไม่ให้ทุกอย่างที่ติดไว้หลุดร่อนได้และเป็นการกันน้ำกันเปื้อนไปในตัวด้วยครับ
เรียบร้อยครับสำหรับขั้นตอนการทำคิดว่าคุณๆคงไม่งงนะครับกับขั้นตอนต่างๆ เวลาในการทำอยู่ที่ 60-90นาทีครับไม่ยาวและไม่สั้นจนเกินไป อุปกรณ์สามารถปรับเปลี่ยนได้ครับไม่มีอะไรตายตัว ขั้นตอนไม่ยากครับที่จะยากจริงๆก็ตรงการติดสติกเกอร์ใสเพื่อ cover หน้าปกนี่ต้องใช้ความชำนาญสักนิด(ผมไม่ค่อยชำนาญสักเท่าไรติดไม่ค่อยสวยครับ)
การเขียน diary ถือว่าเป็นการบ่งบอกถึงความเป็นปัจเจกชนได้อย่างหนึ่ง เพราะคนส่วนใหญ่เขียน diary มักจะเขียนในเรื่องที่ตัวเองสนใจ หรือมีความต้องการ หรือใฝ่ฝันที่จะทำที่จะเป็น ซึ่งถ้าเราต้องการเผยแพร่ให้ใครก็ตามได้ชมจากที่เห็นโดยมากก็จะไม่ลงชื่อหรือใช้นามแฝงแทน และการเขียน diary ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากการเขียน blog ในสมัยนี้สักเท่าไหร่เพราะทุกอย่างเหมือนกันครับต่างกันตรงที่สมัยนี้เราไม่ต้องเปลื้องกระดาษในการเขียนเพราะเราได้ใช้ เทคโนโลยีในโลกเสมือนจริงที่อยู่บนรากฐานของตรรก หรือเรียกว่าโลกของอินเตอร์เน็ต มาใช้ในการจดบันทึกแทนการนั่งเขียนในกระดาษสมุด ผมหวังว่าการเขียน diary และการเขียน blog น่าจะเป็นทางออกของคุณๆและผมนะครับ และผมก็หวังว่าการทำปกใหม่ให้กับ diary น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆเช่นกันครับ ลองๆทำกันดู
Create Date : 26 กันยายน 2551 |
Last Update : 26 กันยายน 2551 22:14:06 น. |
|
1 comments
|
Counter : 385 Pageviews. |
|
|