Bloggang.com : veerar : DIY กับความคิดนอกกรอบ

DIY กับความคิดนอกกรอบ

ในตอนแรกที่คิดทำ blog ผมกะว่าจะทำเรื่องเกี่ยวกับการประดิดประดอยสิ่งของต่างๆไปเรื่อยๆ เพราะ DIY หรือเรียกกันเต็มๆว่า Do It Yourself ถ้าจะแปลเป็นภาษาไทยก็น่าจะเรียกว่าการทำอะไรด้วยตัวคุณเอง แต่มีอยู่วันหนึ่งผมได้ดูข่าวบันเทิงช่องหนึ่งเขาพูดถึงวงดนตรีที่มาจากประเทศลาว เลยทำให้ผมเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่อง DIY ไปซึ่งผมคิดว่าการได้ทำอะไรที่คุณต้องคิดและมองอะไรออกไปนอกกรอบก็น่าจะเป็น DIY ได้เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงตั้งใจว่าในสัปดาห์ที่ 5 ของเดือน ผมจะนำอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณได้คิด ได้ทำ ได้ลอง มาลงเป็นบทความให้คุณๆได้อ่านเพื่อเป็นการต่อยอดความคิดกันนะครับ

เอาล่ะเรามาต่อกันเรื่องวงดนตรีที่มาจากประเทศลาวกัน วงนี้เขาชื่อว่า “CELLS” ในตอนแรกที่ผมได้ยินชื่อวง ผมคิดว่าก็คงเป็นวงวัยรุ่นวงหนึ่งเท่านั้นครับแต่พอได้ฟังสัมภาษณ์ผมถึงกับหยุดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำอยู่ในขณะนั้นเพื่อที่จะฟังการสัมภาษณ์ของเขา เขาบอกว่าในประเทศลาวค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากเพลงที่ทำส่วนใหญ่จะใช้ทำนองและภาษาเป็นลาว พอพวกเขามาเรียนในประเทศไทยเห็นว่าดนตรีที่มีอยู่ทันสมัยดีแต่จะทำยังไงดีที่จะเอาดนตรีแบบนี้ไปรวมกับวัฒนธรรมของเขาได้ ปรากฏว่าไอ้ที่เขาพูดนี่ทำให้ผมถึงกับตกใจและงงไม่คิดว่าประเทศเขาจะเปิดกว้างทางความคิดได้ถึงขนาดนี้ เขาบอกว่าเขาไปปรึกษาผู้ใหญ่ในกระทรวงวัฒนธรรมของประเทศเขาเลยแล้วก็ได้คำแนะนำกลับมาด้วยว่าให้เขาลองออกนอกกรอบกันดู เลยได้เพลงที่เป็นแบบที่คุณและผมฟังกันอยู่

อืม...พอฟังสัมภาษณ์ของวงนี้เสร็จผมก็มีคำถามอยู่เต็มหัวไปหมดเช่น ทำไมกระทรวงวัฒนธรรมของเราถึงไม่เป็นแบบเขาบ้าง ทำไมผู้ใหญ่ในกระทรวงถึงมีแต่ห้ามแล้วทางแก้ไขล่ะไม่เห็นมี ทำไมเราถึงได้แต่ตามคนอื่นทำไมไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองบ้าง และอีกมากมายก่ายกอง แล้วผมก็มีข้อคิดในเรื่องนี้ว่าถ้าเราลองมองออกไปนอกกรอบของเรา เราจะเป็นอย่างไร การที่จะมองนอกกรอบได้เราจะต้องรู้จักกับกรอบของเราเสียก่อนว่าเราทำอะไรได้บ้างแล้วเมื่อเราหลุดออกจากกรอบแล้วเราจะต้องมีขอบเขตด้วยไม่งั้นเราจะเคว้งเคว้าจนเกินไป จริงๆแล้วการออกนอกกรอบก็ยังมีกรอบอยู่นั่นแหละครับ มันคือการขยายกรอบของเรานั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น เราอยู่ในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและทำธุระพอเสร็จแล้วเราออกจากห้องน้ำ มาที่ห้องนอนเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปห้องครัวเพื่อกินอาหาร แล้วก็ออกไปนอกบ้านเพื่อไปทำธุระ นั้นแหละครับเราได้ขยายกรอบของเราออกไปเรื่อยๆเริ่มจากห้องน้ำไปจนถึงออกไปข้างนอกเราได้ขยายความคิดและจุดประสงค์ของเราออกไปเพราะเรามีเหตุผลที่เราจะออกนอกกรอบคราวนี้พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ

เป็นไงครับลองเอาไปคิดกันดู เพราะการออกนอกกรอบเป็นเรื่องดีครับทำให้เราก้าวออกไปจากความคิดเล็กๆที่เราคิดว่าทำได้เพียงเท่านี้เท่านั้นแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าลืมว่าเราต้องรู้ก่อนนะครับว่าเราทำอะไรในกรอบได้บ้างแล้วค่อยออกนอกกรอบไป หวังว่าบทความนี้คงเป็นการจุดประกายเล็กๆสำหรับคุณๆนะครับ เป็นกำลังใจให้สำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ

หมายเหตุ การยกตัวอย่างเรื่องวงนี้ผมไม่มีส่วนได้เสียอะไรกับเขาและผมก็ไม่ได้ทำงานในบริษัทที่เขาทำให้วงนี้เกิดขึ้นนะครับ

Create Date : 26 กันยายน 2551

Last Update : 26 กันยายน 2551 22:24:14 น.

0 comments

Counter : 582 Pageviews.