ASICS Men's Gel-Blur33 Running Shoe,Black/Platinum/Maui Blue,10.5 M US Description No Description ASICS Men's Gel-Blur33 Running Shoe,Black/Platinum/Maui Blue,10.5 M US Feature
Men's Asics, GEL Blur33 A super lightweight everyday running shoe that encourages natural foot movement Durable synthetic and cool open mesh upper with addedreflectivity for evening running This style offers exceptional rear foot gelcushioning ComforDry performance sockliner keeps feet cool and dry, reducing odors
25 - Ultra Pro 3 X 4 Top Loader Card Holder for Baseball, Football, Basketball, Hockey, Golf, Single Sports Cards Top Loads - Sportcards Card Collecting Supplies Description Ulra Pro 3 X 4 toploading card holders are known as the most popular rigid individual card holder in the collectible card industry. Use this product to protect, store or display collectible baseball cards,football cards, hockey cards, or other gaming trading cards like Pokemon, Magic the Gathering, Pokemon, & YuGiOh! 25 - Ultra Pro 3 X 4 Top Loader Card Holder for Baseball, Football, Basketball, Hockey, Golf, Single Sports Cards Top Loads - Sportcards Card Collecting Supplies Feature
25 - Ultra Pro 3 X 4 Top Loader Card Holder for Baseball, Football, Basketball, Hockey, Golf, Single Sports Cards Top Loads 25 Holder(s) per Pack - Crystal Clear Made of high impact rigid PVC Outside 3 x 4 1/16 x 1/16 Inside 2 3/4 x 3 7/16 x 1/32
ยังไม่พร้อม ถามเมื่อไหร่จะพร้อม
ไม่มีเวลา ถามต้องการเวลาเพิ่มอีกวันละเท่าไหร่ถึงจะพอ
ไม่มีเงิน ถามคุณคิดว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจต้องใช้เงินเท่าไหร่
โจทย์ผมเคยคิดแล้วนะ ขอแชร์ให้ฟังนิดนึง
วันหนึ่งผมคิดว่าการเป็นลูกจ้างในตอนนั้น เจ้าของบริษัทซื้อเวลา 40% ไปจากชีวิตผม ผมยังต้องใช้เวลาอีก 35% ไปกับการนอน ผมเสียเวลากับการเดินทางไปทำงาน ประมาณ 15% ผมเหลือเวลาแค่ 10% สำหรับชีวิตส่วนตัว ซึ่งบางทีก็ถูกเจ้าของขอไปใช้ฟรีๆ ก็บ่อย เพื่อแลกกับเงินเดือน ราว 30,000 บาท
30,000/30 = 1,000 ต่อวัน (ผมทำงานแบบ Open Time ดังนั้นตลอดเวลาคือการทำงาน)
ประเด็นที่ผุดขึ้นในสมองวันนั้น คือ ถ้าเราสามารถหาเงินได้วันละ 1,000 เราก็คงไม่ต้องเป็นลูกจ้างอีกต่อไป
แล้วจะไปหาเงิน วันละ 1,000 บาทมาจากไหน จะให้ไปสมัครธุรกิจขายตรง เราเองก็ไม่ถนัด
วันนั้นความคิดวนเวียน ไม่จบสิ้น หาสมการต่างๆ ที่พอจะคิดได้จากสมองอันน้อยนิดแถมไม่เก่งคณิตศาตร์อีกต่างหาก
ผมคิดถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ ทั้งหลายแหล่
อาหาร เหรอ เงินลงทุนทำร้านอาหารขนาดนั้นคงไม่มีจะไปซื้อเฟนรไชน์ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ก็ทำใจไม่ได้เพราะคิดว่าถ้าจะขายก๋วยเตี๋ยวจริงคงทำได้อร่อยกว่าแถมไม่ต้องแบ่งกำไรให้ชาวบ้านด้วย
ที่อยู่อาศัย โอโห ตอนนี้คงจะเป็นไปไม่ได้ลำพังบ้านยังต้องเช่าเค้าอยู่เลย
เครื่องนุ่งห่ม อันนี้ ร้อยคน ร้อยความคิด เปิดกันเป็นเบือ มองไปทางไหนก็มีแต่ เรด โอเชี่ยน เราเองตัดเย็บออกแบบเองไม่ได้
สรุปปัจจัยสี่ ไม่มีปัญญาทำได้เลย
ตอนนี้ผมมี 2 ทางเลือก คือคิดต่อ หรือ หยุดคิด....
.....
.....
โชคดีที่ผมเลือกคิดต่อ
....วันนั้นผมนั่งเผาเวลาทำงานที่เจ้านายซื้อผมไปแล้ว ภายในห้องทำงานเงียบๆ แล้วมือถือก็ดังขึ้น เสียง บิ๊บๆ ผมอ่านข้อความ เป็นข้อความเตือนให้ไปต่อทะเบียนรถ ที่ผมตั้งเตือนไว้ในปฏิทิน
แว้บแรกคือรู้สึกเบื่อมาก ต้องเสียเวลาอีกแล้วกว่าจะเอารถไปตรวจสภาพ ทำพรบ. นั่งรอคิว ต่ำๆ ก็ สองสามชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่จะครึ่งวัน เพราะกว่าจะขับรถไปอีก ครึ่งวันนี่ตีเป็นมูลค่าได้ 500 บาทเลยนะเนี่ยค่าตัวผมอ่ะ
500 บาท ผมคิด เออเวลาเรามีค่าตั้ง 500 บาทแล้วของคนอื่นหล่ะ มีค่าเท่าไหร่ พวกผู้จัดโรงแรม ทำงานธนาคาร หรือคนที่เค้ามีรายได้มากกว่าผมหล่ะ
ถ้าอย่างนั้นผมคิดออกแล้วว่าผมจะทำอะไร ผมจะขายเวลาของผู้คนเหล่านั้นคืนให้เค้าในราคาที่ถูกกว่าที่เค้าต้องเสียไป ด้วยการไปต่อทะเบียนแทนคนพวกนี้
ด้วยคอนเซ็บ
ทะเบียนไม่ขาด
ไม่เสียเวลา
ประหยัดค่าน้ำมัน
คิดได้แล้วผมรีบทำทันที ปัญหาต่อไปของใครหลายคนที่ยังเป็นลูกจ้างอยู่ คิดแล้วไม่ได้ทำซักที
ผมกลับบ้านด้วยความลิงโลด นั่งออกแบบใบปลิว แล้วสั่งพิมพ์บนกระดาษ A4 แล้วตัดออกเป็นแผ่นเล็กๆ เสียเงินไป สามร้อยบาท แล้วก็เดินแจกใบปลิวตามบ้าน บอกตามตรง ก็อายนะครับ เคยแต่ชี้นิ้วสั่งคนอื่นแล้วต้องมาเดินตากแดดเปรี้ยงๆ กลัวหมาจะกัด เอาก็มี
แจกจนหมดกลับมารอที่บ้านด้วยความภูมิใจ คิดว่า คงจะมีใครโทรศัพท์กลับมาบ้าง เพราะอัตราการตอบรับของการตลาดประเภทนี้อยู่ที่ราว 0.5% - 1.5% ผมแจกไป 2,400 ใบ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 12 คนหล่ะวะโทรกลับมา
....
รออยู่อาทิตย์นึ่งมีคนโทรกลับมา 2 ราย ต่ำกว่าที่คาดการทางทฤษฎีมาก ปัญหาอาจเกิดจาก Keyword ที่ใช้หรือวัสดุที่ใช้พิมพ์คุณภาพต่ำไปหน่อย เลยอาจไม่ดึงดูดใจ
ถึงตรงนี้คนที่บ้านเริ่มกระแนะกระแหน ว่าเราทำอะไรไร้สาระ แต่ผมว่าความคิดผมยิ่งใหญ่นะ และผมมีแผนการดำเนินงานที่ยิ่งใหญ่โคตรๆ ผมทำตัวเลขรายได้จากธุรกิจนี้ในแผนอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาทต่อเดือน เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรือไร้สาระแน่นอน
ผมปิดสมองส่วนการได้ยินคำกระแนะกระแหน ชั่วคราวแล้วกลับมานั่งวางแผนใหม่ด้วยอาการเสียศูนย์เล็กน้อย นั่งวิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเอง ในมิติต่างๆ คนเราจะสำเร็จได้ต้องยอมรับว่าตัวเองผิดพลาดก่อน แล้วผมก็ได้แง่คิดว่า เป็นผม ผมจะกล้าใช้บริการตัวเองมั้ย ร้านรวงอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ มีแต่เบอร์โทร ถูกหลอกเอาจะว่ายังงัย ดังนั้นผมต้องปรับแผน แต่จะให้ผมไปเช่าหน้าร้านก็คงไม่ไหว จุดที่ผมอยู่ที่ทำเลดีพอประมาณ ขนาด 6 ตารางเมตรถูกสุดก็เดือนละ 20,000 เข้าไปแล้ว ต้องต่อทะเบียนกี่เล่มจะกำไร
ดังนั้นผมต้องหาผู้ร่วมทุน
เงิน ใครๆ ก็อยากได้แต่จะให้จ่ายหล่ะก็ใครๆ ก็คิดหนัก
ผมเลิกพิมพ์ใบปลิวแล้ว หันมาทำ Presentation แผนธุรกิจต่อทะเบียนของผมให้ออกมาอยู่ในรูปเล่มที่ดูดี มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน มีการประมาณการรายได้ให้ผู้ร่วมทุนดูเพื่อสร้างแรงจูงใจ และให้อดีนารีนมันพลุ่งพล่าน ผมเลือกกลุ่มเป้าหมายของผมเป็นร้านค้าโชว์ห่วย ร้านถ่ายเอกสาร แล้วนัดเข้าไปคุยธุรกิจกับเจ้าของร้าน ผู้ร่วมทุนของผมไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ขั้นตอนการทำงาน เอกสารที่ใช้ในการดำเนินงานทุกอย่างผมเป็นคนจัดการทั้งหมด รวมทั้งป้ายไวนิลหน้าร้าน ผู้ร่วมทุนเพียงแค่มีหน้าที่รับเอกสารจากลูกค้าเก็บเงินค่าบริการ และวางมัดจำค่าป้ายเพียง 2000 บาท เพียงเท่านี้เมื่อมีลูกค้าใช้บริการก็จะได้รับส่วนแบ่ง 100 - 200 บาท ต่อ ทะเบียน 1 เล่ม และ ยังได้รับค่าคอมมิชชั่นอีก 10% กรณีลูกค้าทำประกันภัย นั่นหมายความว่าถ้าร้านอยู่ในทำเลที่ดี มีลูกค้าทำทะเบียนเฉลี่ย วันละ 10 ราย ทำประกันภัยเดือนละ 5 ราย ร้านค้าจะมีรายได้ประมาณ 50,000 - 60,000 บาท
ส่วนผมอาจได้น้อยกว่าร้านค้านิดหน่อย แต่ผมตั้งเป้าหมายในการขยายสาขาไว้ที่ 100 สาขา นั่นหมายถึงผมมีคนช่วยทำงานให้ ตั้ง 100 คน
ธุรกิจนี้ผมเริ่มทำด้วยตัวเองเพียงคนเดียว ตอนนี้รายได้อาจไม่ได้มากมายเหมือนแผนที่ตั้งไว้ แต่ก็มากพอที่จะไม่ต้องเป็นลูกจ้างคนอื่นแล้วครับ ผมขายเวลาให้คนอื่น และซื้อเวลาของตัวเองคืนมาแล้ว
และที่สำคัญผมใช้เงินลงทุนธุรกิจนี้เพียง 5000 บาท ไม่รวมค่าตัว
จากคุณ : zabulatu