มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
24 พฤษภาคม 2553

จุดเปลี่ยนของชีวิต

ต้องกล้าที่จะเริ่มต้น อาจจะไม่ได้สวยหรูเหมือนคนที่ออกทีวีนะ ประเภทว่าปีแรกก็รายได้100ล้านไรงี้ แรกๆอาจมองไม่เห็นแม้อนาคตว่ามันจะรอดมั้ย ทำไปเรื่อยๆ จับจุดได้ มองเห็นโอกาส ลุย

ของเราตอนนี้ขึ้นปีที่6แล้ว บอกได้เลยว่าปีที่3วัดใจมาก จะอยู่ต่อหรือถอนตัว เทียบกะเพื่อนๆที่กินเงินเดือนแล้วท้อเหมือนกัน ถามตัวเองนี่เราทำอะไรอยู่

เราเลือกที่จะสู้ต่อ แม้มองไม่เห็นอนาคตก็ตาม ขยายlineธุรกิจออกไปต่อ

เหมือนปลูกทุเรียนขายอ่ะนะ พอปีที่5เราก็เห็นผลทุเรียนออกผลชัดเจนเต็มสวน ตอนนี้อยู่ตัวแล้ว รายได้ก็ok อาจจะไม่ได้หรูหราไฮโซมากมายอะไร ตอนนี้ก็กำลังเก็บเงินซื้อบ้านใหม่ให้พ่อแม่

ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าวันนั้นถอดใจ เลิกทำคงไม่ได้เป็นอย่างวันนี้
ลืมบอกไปว่า หลังเรียนจบเรากินเงินเดือนอยู่3เดือนก็เลิก เบื่อมาก รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราเป็น เราชอบคิดเองทำเองมากกว่าอยู่ในกรอบของใคร +อยากเรียนรู้ธุรกิจด้วยตัวเองจากประสบการณ์ ขืนยังทำงานกินเงินเดือน มันจะเสียเวลาเรียนรู้เปล่าๆ


แต่ชีวิตมันก็มีขึ้นลงนะ ทางเดินก็ไม่ได้ปูพรม
ตั้งแต่เสื้อแดงยึดราชประสงค์จนถึงวันนี้ เราก็สูญเสียโอกาสขายเป็นหลักล้านบาท เราหยุดขายไป2สาขาที่ทำกำไรสูงสุดของธุรกิจเรา แต่เราก็สู้ต่อนะ เชื่อว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ นอกจากนั้นเรายังโชคดีขนาดไหน ที่ยังไม่โดนเผาสต๊อกของหลักล้านเหมือนหลายๆคนต้องประสบ(เราสงสารเพื่อนๆSMEของเราทุกคนมากๆ เราเข้าใจเลยว่ามันรู้สึกยังไง)

...

ผมเคยทำงานบริษัทมาก่อนครับ แต่ระยะเวลาทำงานบริษัททั้งหมด 2 ปี (2 บริษัท) ตอนที่ทำงานในบริษัทนั้นผมรู้ตัวอยู่แล้วว่าชอบค้าขายเองมากกว่า แต่ตอนนั้นยังเด็กไม่มีประสบการณ์และที่สำคัญไม่มีเงิน ไม่มีทางเลือกเลย ก็ต้องทำงานบริษัทเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน

จนวันนึงมีคนชวนไปฟังธุรกิจประกันชีวิตของเอไอเอ ตอนนั้นเงินเดือนรวมค่าคอมมิชชั่นประมาณ สองหมื่นกว่าถึงสามหมื่น (ประมาณ 15 ปีที่แล้ว) ก็ถือว่าอยู่ได้สบายๆไม่เดือดร้อนเท่าไหร่

พอฟังเอไอเอกลับมาเท่านั้น ผมกลับมายื่นใบลาออกเลย เพื่อนค้านกันทั้งบริษัทเพราะเค้ารู้ว่าออกไปขายประกันมันไม่มีเงินเดือน ขายไม่ได้ก็อดคอมมิชชั่น แต่ด้วยความเป็นนักขายผมไม่กลัวปัญหาเรื่องขายอยู่แล้ว มีฝีมืออยู่กับตัวไม่เคยกลัวว่าจะขายไม่ได้ ก็ยืนยันหนักแน่นว่าลาออกแน่นอน สุดท้ายได้ออกสมใจหลังจากโดนเรียกตัวเข้าไปคุยหลายรอบ

เดือนแรกจากการขายประกันผมได้ค่าคอมมิชชั่นมาแสนกว่าบาทได้ (เป็นปกติของอาชีพขายประกันที่ทำใหม่ๆจะได้คอมเยอะหน่อย เพราะเรายังพอมีคนรู้จักบ้าง หลังจากนั้นรายได้ขึ้นอยู่กับความสามารถที่แท้จริง)

ก็ทำอยู่สองสามปี ที่บ้านประสบปัญหาขาดคนช่วยบริหารกิจการ(เล็กๆ) ก็เลิกขายประกันมาช่วยเค้าอยู่ 4 เดือน ยอดขายกระฉูดตอนผมบริหาร

แต่มีปัญหาในครอบครัวเนื่องจากผมทำงานแบบสายแข็ง บู๊แหลก เลยบ้านแตก ต้องระเห็จออกจากบ้านพร้อมกับภรรยาด้วยเงินติดตัวสักพันกว่าบาทได้มั้งกับรถเก๋งอีกหนึ่งคัน(ซันนี่เก่าๆ)

เก็บเงินซื้อเองสมัยทำงานบริษัท เลยขายได้เงินมาแสนกว่าบาท เป็นทุนให้ตัวเองมาเปิดกิจการเล็กๆ ทำจนอยู่ตัว แต่ก็ทำอยู่หลายปีก็รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ใหญ่กว่านั้น เลยตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้งโดยยังทำธุรกิจเดิมควบคู่ไปด้วย

เมื่อธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงยกธุรกิจเดิมให้น้องภรรยาไป แล้วทำเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่เต็มที่ ปัจจุบันเป็นโรงงานขนาดเล็กมีพนักงานประมาณ 50 คน พอใจระดับหนึ่งแต่ยังไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้

ตอนนี้กำลังคิดขยายงานไปสู่ธุรกิจใหม่ๆอีกครับ พอเงินทุนมันมีแล้ว อะไรๆมันก็ไม่ยากทั้งนั้น เพราะเมื่อเราคิดอยากลงทุนอะไรมันก็สามารถทำได้ทันทีเพราะเรามีทุน แต่กว่าจะมีทุนแบบนี้ได้ก็ต้องเริ่มจากธุรกิจเล็กๆมาก่อนอย่างที่เล่ามานั่นแหละครับ



อ้อ...อีกนิด ผมมีเพื่อนผมอยู่สองคน อยากเล่าเรื่องชีวิตการทำงานของเค้าให้ฟังครับ ผมว่าเป็นอุทาหรณ์ได้ดีเลย อันนี้เอาจากมุมมองของผมแบบย่อๆนะครับ

คนนึงเป็นเพื่อนตั้งแต่มัธยมปลาย จบออกมาก็ทำงานเป็นเซลล์คล้ายๆกับผม แต่เค้าไม่ค่อยตั้งใจทำงานเท่าไหร่ เงินเดือนหมื่นกว่าบาทยังไงก็ยังงั้น ค่าคอมก็ไม่ค่อยได้เพราะไม่มียอดขายส่งบริษัท ตอกบัตรแล้วชอบกลับไปนอนบ้าน

ล่าสุดหลังจากไม่ได้คุยกันนานหลายปี เค้าโทรมาหาบอกว่าหลังจากตกงานมาสองปี (อยู่บ้านเฉยๆกับพ่อแม่) ก็กลับไปสมัครเป็นเซลล์ขายรถยนต์ใหม่ เพิ่งเริ่มงานไม่นานนี้เอง

ส่วนเพื่อนอีกคนทำงานบริษัทเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ บ่นกับผมมา 8 ปีแล้วว่าอยากลาออกไปค้าขายบ้าง แต่เชื่อมั๊ยตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้เค้าก็ยังไม่กล้าลาออกเลย เพราะกลัวว่ารายได้ปัจจุบันที่เค้าได้รับอยู่ จะสู้การออกไปทำการค้าไม่ได้ (เค้าบอกว่าเงินเดือนปัจจุบันราวๆ สามหมื่นห้า)

อายุเค้าก็จะสี่สิบอยู่ปีหน้านี่แล้ว ผมไม่รู้ว่าวันนึงเค้าจะโดนเลย์ออฟหรือเปล่า เพราะเห็นบ่นๆอยู่ตลอดว่าไม่ถูกกับคนในบริษัท นี่คือความกลัวที่จะออกไปสู่โลกภายนอกของคนทำงานประจำไงครับ เลยต้องทนทำงานที่ตัวเองเบื่อไปเรื่อยๆ จนกว่าบริษัทจะเลิกจ้างเค้าเอง

...



Create Date : 24 พฤษภาคม 2553
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 13:10:39 น. 8 comments
Counter : 1056 Pageviews.  

 
เยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ


โดย: skipper IP: 110.49.38.135 วันที่: 24 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:49:55 น.  

 
ติดตาม นายแว่นธรรมดา มาตลอดตั้งแต่เริ่มเล่น blog
อ่านหัวข้อหลายเรื่องที่เขียนมา...ก็น่าคิด..แต่คิดในใจว่ามันจะมีเหรอ.. ธุรกิจอะไรที่ทำแล้วได้เงินเยอะ..
คิดเหมือนกัน...

แต่พอมาอ่านตอนนี้ที่พี่เขียนมา...อ่านแล้วรู้สึกดีและดีใจด้วยนะค่ะที่ประสบความสำเร็จ...ทั้งที่อาจล้มมาหลายครั้ง..แต่ก็ลุกขึ้นยืนได้..

อยากประสบความสำเร็จแบบพี่บ้างจังเลย..แต่คงต้องใช้เวลาและต้องไม่ท้อเหมือน นายแว่นคนธรรมดา คนนี้



โดย: nuy (chonuy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:09:21 น.  

 
HBD.......ย้อนหลังนะคร้า...
ประสบความสำเร็จทุกอย่างที่คิดนะ....

เป็นกำลังใจให้...


โดย: nuy (chonuy ) วันที่: 26 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:10:56 น.  

 
เห็นด้วย



ผมก็บ่น จะออกจากราชการหลายปีแล้ว

แต่ก็ไม่ได้ออกซะที

ไม่ใช่กลัวอะไรหรอก


แต่ เพราะแม่ขอไว้อะและโดยสายอาชีพมันมีอะไรที่มากกว่าเรื่องของเงินทองมาเกี่ยวด้วยอย่างมาก


ก็เลยต้องเปลี่ยนกรอบความคิดใหม่

ออกไม่ได้ก็ หาอะไรที่ทำคู่กับงานราชการไปเลยแล้วกัน







โดย: ethic&philosophy วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:29:43 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ครับสุ้ๆๆ ผมก็ชอบค้าขายครับชอบเป็นนานตัวเองครับ ขายเป็นพวกอะไรครับ stp_53@hotmail.com


โดย: leng IP: 124.120.159.37 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:3:55:19 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ครับสุ้ๆๆ ผมก็ชอบค้าขายครับชอบเป็นนานตัวเองครับ ขายเป็นพวกอะไรครับ stp_53@hotmail.com


โดย: leng IP: 124.120.159.37 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:3:55:26 น.  

 
ขอบคุณบทความดีๆค่ะ กำลังอยู่ในช่วงลาออกจากงานประจำพอดีเลยค่ะ อยากจะหาอะไรทำ ทำงานแระจำเดือนชนเดือน สบายแต่ไม่สามารถทำไห้ได้สิ่งที่เราอยากได้ แต่ว่าก็ไม่แน่ใจกับสิ่งที่จะออกไปทำ ว่ามันจะดีไหม แต่จะพยายามค่ะเพราะได้เลือกแล้ว ค้าขายนั่นเอง


โดย: สีน้ำทะเล IP: 58.10.102.149 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:37:57 น.  

 
ค้าขาย ช่วงนี้เหนื้อยเหนื่อย


โดย: นะจัง IP: 110.169.46.222 วันที่: 7 ตุลาคม 2553 เวลา:18:13:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]