[Books] ศพบอก (Beyond the Body Farm) - Dr. Bill Bass
"อ่านหนังสือเล่มนี้ก่อน ถ้าจะฆ่าใครสักคน"
ศพบอก (Beyond the Body Farm) เขียนโดย Dr. Bill Bass & Jon Jefferson แปลโดย สุกิจ และวิรงรอง ตรีไตรลักษณะ
ประโยคจั่วหัวนนั่นเป็นบรรทัดหนึ่งในคำโปรยปกหลังของหนังสือที่เพื่อนผู้น่ารักให้ยืมมาเพราะหาซื้อไม่ได้แล้ว ชื่อเต็มของหนังสือคือ Beyond the Body Farm: A Legendary Bone Detective Explores Murders, Mysteries, and the Revolution in Forensic Science ยาวมาก สรุปสั้นๆคือ ดร.แบส ผู้เขียนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และนักนิติมานุษยวิทยารุ่นบุกเบิก เป็นผู้ก่อตั้ง "บอดี้ ฟาร์ม" สำหรับวิจัยการเน่าสลายของศพ ที่เราได้เห็นกันในซีรี่ส์ CSI ทั้งหลาย
ขอบอกว่า อ่านสนุกมาก! สนุกแบบไม่อยากวางเลย ติดตามอย่างกับดู CSI จริงๆ!
อ่านจบในเวลาอันรวดเร็ว เพราะมีเวลาเมื่อไหร่ต้องหยิบ เช้าอ่าน เที่ยงอ่าน เย็นอ่าน ค่ำอ่าน จบภายในหนึ่งวัน นอกจากเนื้อหาจะน่าสนใจสุดๆแล้ว วิธีเล่ายังชวนติดตามด้วย เดาว่าข้อมูลเป็นของคุณแบส ส่วนคุณเจฟเฟอร์สัน ซึ่งเป็นนักหนังสือคงช่วยเรียบเรียงและขัดเกลา
แต่ละบทเป็นการเล่าถึงเทคนิกทางนิติวิทยาศาสตร์แต่ละอย่างจับคู่กับคดีที่น่าสนใจ ชอบสำนวนบรรยายที่อ่านแล้วเห็นภาพคิดตามไปได้ โดยเฉพาะบทที่บรรยายถึงศพที่โดนระเบิด (ถ้าใครจิตอ่อนหน่อยอาจจะไม่เหมาะ?)
บทแรกเป็นการสืบหาข้อมูลจากกระดูกของชายสามคนในวิหารที่ฮาซานลูของอิหร่านเมื่อสามพันปีที่แล้ว โดยหนึ่งในสามกำลังพยายามปกป้องชามทองคำที่พิมพ์ลายนูนอย่างวิจิตรบรรจง ในหนังสือบรรยายได้น่าทึ่งจนเราต้องวางหนังสือไปกูเกิลดูชามของจริง บทนี้เป็นการเล่าการทำงานของนักโบราณคดีสมัยก่อนมากกว่าเทคนิกทางนิติวิทยา บรรยากาศแตกต่างจากบทอื่นๆในเล่มพอสมควร ช่วงนี้เราอ่านไปอย่างสนใจ แต่ยังไม่ได้หนึบหรือลุ้นนัก
บทอื่นๆนอกจากนั้นเกือบทั้งหมดเป็นการไขคดีของจริง ความหนึบมันเริ่มตรงนี้ คดีในบทที่ 2-11 เกิดขึ้นก่อนยุคดีเอ็นเอ จึงต้องใช้เทคนิกการสืบหาความจริงแบบอื่นๆ เช่น รูปร่างกะโหลก, ประวัติการทำฟัน, แอดิโพเซีย (ไขมันหลังเบ้าตา), รังสียูวี, "ลายนิ้วมือ" ในโพรงจมูก, นิติกีฎวิทยา ฯลฯ บทที่ 12-16 เป็นยุคดีเอ็นเอแล้ว ผู้เขียนเล่าถึงความแตกต่างระหว่างนิติวิทยาศาสตร์ในหนังกับของจริงไว้นิดหน่อย อย่างเช่น ตรวจดีเอ็นเอได้ผลเร็วปุ๊บปั๊บ แต่ของจริงต้งเป็นอาทิตย์หรือเป็นเดือน
เรารู้สึกว่าผู้เขียนอธิบายรายละเอียดได้กำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยไป อ่านแล้วได้ความรู้แบบเฉพาะเจาะจงในบางเรื่อง เช่น วิธีแยกแยะเชื้อชาติจากกระดูกกะโหลกและฟัน (ตอนของมองโกลอยด์ เราสำรวจตัวเองตามไปเลย เหะ เหะ) การระบุเพศและอายุจากกระดูกและฟัน การระบุเวลาการตายแบบง่ายๆจากหนอนกินศพ อะไรประเภทนี้
ชอบทั้งเล่มยกเว้นสองบทที่อ่านข้ามหลายย่อหน้า คือ บทค้นหาศพด้วยคลื่นเสียงโซนาร์ (คนเรียนวิศวะอาจจะชอบก็ได้นะ แต่เราตายสนิท) กับบทบิ๊ก บ็อปเปอร์ (เปิดผ่านแทบทั้งบท เพราะไม่รู้จัก เทคนิกเอกซ์เรย์ก็ดูไม่ค่อยสนุกสำหรับเรา)
กลางเล่มจะมีรูปประกอบของหลายคดีที่เอ่ยถึงในเล่ม ไม่แน่ใจว่าในต้นฉบับรูปพวกนี้เป็นสีหรือเปล่า ถึงได้มากระจุกกันที่กลางเล่ม แต่ฉบับแปลไทยเป็นขาวดำนะ ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีรูป อ่านไปครึ่งเล่มถึงได้เจอ ครึ่งเล่มหลังถึงอ่านไปดูรูปประกอบไป
หนังสือมีอารมณ์ขันแทรกเป็นระยะ ที่ชอบมากคือ พูดถึงการงอกของขอบกระดูก ที่เป็นอาการโรคข้อกระดูกอักเสบ ซึ่งคนเราแก่แล้วก็เป็นกันทุกคน ผู้เขียนบอกว่าเวลาโชว์สไลด์กระดูกที่มีอาการโรคนี้รุนแรงทีไร จะต้องมีคนถามว่าป้องกันได้ไหม ผู้เขียนก็จะตอบว่า "ได้แน่นอน ตายตอนอายุยังไม่มากสิ" เราแบบ... ดร.คะ!
ในเล่มพูดถึงหนังสือเล่มอื่นๆของ ดร.แบส ด้วย คิดว่าคงไปหาอ่านต่อ อยากให้มีแปลไทยแต่คิดว่าน่าจะยาก
4 ดาว
Create Date : 27 มิถุนายน 2561 |
Last Update : 27 มิถุนายน 2561 20:48:20 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1900 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
จดไว้ก่อน กองดองท่วมหัวแล้วววว
ถามหน่อยจิ สองเล่มที่สนุกกับน่าเบื่อของนีลคือเล่มไหนอ้ะ นี่เราเคยอ่านแค่สองเล่ม 555
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Froggie Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น