เสพภาพยนตร์เป็นจานหลัก พักสายตาฟังเจป๊อบเป็นจานรอง ให้อาหารสมองด้วยโดระมะ แปลเนื้อเพลงญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

MTV Unplugged ayaka - cinema edition -



ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตใหญ่ ๆ ที่ไหนแบบสด ๆ มาเลยทั้งสิ้น แถมที่กำลังจะรีวิวให้ท่าน ๆ อ่านกันนี้ก็ไม่ได้เป็นการไปดูการแสดงสดจริง ๆ แต่เป็นการดูเทปบันทึกคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์ ซึ่งจัดพิเศษสำหรับคนที่พลาดการแสดงสดจริง ๆ ที่จัดขึ้นที่ Osaka-Jo Hall เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำหรับคอนเสิร์ตที่ว่านั้นมีชื่อว่า MTV Unplugged ayaka จัดโดยช่องสถานีโทรทัศน์ดนตรี เอ็มทีวี ที่จะนำนักร้องที่มีผลงานดี ๆ มานำเสนอเพลงของตัวเองในแบบอันปลั๊ก (ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้มีแค่เฉพาะในญี่ปุ่น) โดยนักร้องที่ได้รับเลือกมาคราวนี้คือ ayaka นักร้องนักแต่งเพลงที่มีพลังเสียงอันเหลือล้น แถมเธอยังอายุเพียง ๑๘ เมื่อตอนออกอัลบั้มชุดแรก

สำหรับความพิเศษจริง ๆ ในคอนเสิร์ตครั้งนี้คือ นี่จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายก่อนที่อายากะจะพักงานยาวอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเธอจะพักรักษาโรคที่เกิดขึ้นในลำคอ



สำหรับท่านที่ไม่ทราบข่าวคราว อายากะได้ประกาศพักงานยาวไปเมื่อประมาณต้นปี ๒๐๐๙ ว่าจะหยุดงานตั้งแต่ต้นปี ๒๐๑๐ เป็นต้นไป พร้อมกับได้ประกาศวิวาห์สายฟ้าแลปกับนักแสดงหนุ่ม ฮิโระ ซึ่งทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในละครเรื่อง 絶対彼氏 (Absolute Boyfriend) เมื่อประมาณปี ๒๐๐๘

สำหรับการรีวิวครั้งนี้ จะขอเขียนทั้งในฐานะคนที่ชื่นชอบเจป๊อปเป็นพิเศษ คนดูหนังฟังเพลงผ่านทางโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ที่บ้าน และคนที่เข้า ๆ ออก ๆ โรงภาพยนตร์เป็นอาชีพกันเลย เช่นนั้นแล้ว จะขอจัดแจงการโพสรีวิวเป็นหลาย ๆ หัวข้อให้ครอบคลุมมันหลาย ๆ แขนงดังต่อไปนี้...



ดิจิตอลซีเนม่า & ไฮเดฟฟินิชั่น วิดีโอ
ก่อนอื่นต้องย้ำกันก่อนว่าการฉายคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์นั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยถ้าไม่มีโรงภาพยนตร์ที่ฉายในระบบดิจิตอล และการถ่ายทำระบบโทรทัศน์ในแบบไฮเดฟฟินิชั่น จริงอยู่ที่แต่ก่อนสามารถ่ายทำด้วยฟอร์แมตวิดีโอปกติแล้วมาฉายในโรงภาพยนตร์ก็ได้ แต่คุณภาพด้านภาพคงจะไม่สามารถเทียบได้กับฟิล์มภาพยนตร์จริง ๆ เลย

เอาเข้าจริง แม้จะไม่สามารถเทียบคุณภาพได้เทียบเท่ากับการถ่ายภาพยนตร์ในระบบดิจิตอล ที่ใช้กล้องสำหรับงานภาพยนตร์โดยเฉพาะ (ซึ่งจะมีโปรเซสในการใส่เกนฟิล์ม และแก้สีภาพเพื่อให้คล้ายคลึงกับฟิล์มภาพยนตร์มากที่สุด) แต่คุณภาพก็ให้เกือบจะเทียบเท่ากับดูจอแอลซีดีทีวีขนาดยักษ์แต่ความสว่างอาจจะลดลงมาเล็กน้อย

เทคโนโลยีดิจิตอลซีนีม่ากำลังเริ่มที่จะไม่ใช่เพียงการฉายภาพยนตร์อีกต่อไป ย้อนกลับไปสักประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว มีการคาดการณ์ไว้ว่าโรงภาพยนตร์อาจจะสามารถเป็นที่ถ่ายทอดสดกีฬา, ละครเวที หรือคอนเสิร์ตต่าง ๆ ซึ่งด้วยความละเอียดของภาพที่ได้จะทำให้เสมือนกับการชมในสถานที่จริง คอนเสิร์ตนี้ก็เริ่มเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าสิ่งเหล่านั้นกำลังจะเข้าใกล้กับความเป็นจริงไปทุกทีแล้ว (ก่อนหน้านี้ยังมีหนังเรื่อง This is it ที่เป็นหนังกึ่งสารคดีตามติดไมเคิล แจ็กสันในช่วงไม่กี่วันสุดท้ายของเขา)



ความรู้สึกในการรับชม

ต้องบอกก่อนว่า การชมเทปบันทึกคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์เป็นเรื่องแปลก ๆ อยู่เล็กน้อยสำหรับตัวเอง เนื่องจากปกติถ้าได้ดีวีดีคอนเสิร์ตมาจะไม่เคยเปิดดูตั้งแต่แรกจนจบ แต่จะเปิดเพลงที่ชอบก่อน(นิสัยแย่ทีเดียว) แต่ท้ายที่สุด ต้องบอกว่าอารมณ์ที่ได้จริงไม่ต่างจากการดูดีวีดีคอนเสิร์ตที่บ้านสักเท่าไหร่

อีกเรื่องหนึ่งที่คนปกติอาจจะไม่ได้ใส่ใจมาก แต่ก็คงต้องพูดถึงสักเล็กน้อย สำหรับผู้ที่เล่นเครื่องเสียงจริง ๆ คงทราบว่าเครื่องเสียงที่เหมาะกับการชมภาพยนตร์นั้น อาจจะไม่เหมาะกับการฟังเพลง และเครื่องเสียงสำหรับการฟังเพลงก็อาจจะไม่เหมาะกับการชมภาพยนตร์เท่าไหร่นัก อย่างที่กล่าวมานั้นการชมคอนเสิร์ตในโรงหนังก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะกับพวกหูทองทั้งหลายก็เป็นได้

ในส่วนของเสียงที่ใช้นั้น ทางผู้จัดได้โปรโมตเอาไว้ว่าได้มิกซ์เสียงเป็นระบบ ๕.๑ (ตระกูลไหนไม่ได้ระบุ) เพื่อการฉายในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวคงต้องยอมทำใจรับไป เพราะหากจะฉายในระบบสเตอริโอคงจะไม่เหมาะกับลำโพงที่ติดตั้งไว้แล้วในโรงภาพยนตร์

ที่กล่าวมาเช่นนั้นเพราะหลายท่านไปเข้าใจผิด ๆ ว่าคอนเสิร์ตนั้นควรมิกซ์ด้วยระบบ ๕.๑ อย่างเช่นบรรดาดีวีดีคอนเสิร์ตต่างประเทศ จะมีทั้งระบบเสียงแบบ Dolby 5.1, Linear PCM 2.0 ซึ่งระบบ Linear PCM 2.0 เป็นระบบเสียงที่ใกล้เคียงกับเสียงอนาล็อกมากที่สุด ส่วน Dolby 5.1 เป็นการเข้ารหัสครั้งแล้วครั้งเล่า (เทียบแค่การกินเนื้อที่ในแผ่นดีวีดีแล้วระบบ Linear PCM 2.0 จะใช้เนื้อที่มากกว่า Dolby 5.1 ด้วยซ้ำ) ... น่าเศร้าที่ดีวีดีคอนเสิร์ตไทย(โดยเฉพาะค่ายใหญ่) เน้นจะทำแต่ ๕.๑ แถมทำไม่ได้ดีด้วย

ความรู้สึกอีกส่วนหนึ่งคือ การดูคอนเสิร์ตในโรงภาพยนตร์หมายความว่าต้องรักษามารยาทแบบโรงภาพยนตร์ด้วย เพราะทั้งโรงจะมืด และจะนั่งติด ๆ กัน การฮัมเพลง การปรบมือ หรือการโต้ตอบกับนักร้องจริง ๆ ก็จะทำไม่ได้เหมือนกับในคอนเสิร์ตจริง ๆ และอาจจะอึดอัดกับการร้องตามไม่ได้เหมือนกับดูดีวีดีที่บ้าน



เกี่ยวกับคอนเสิร์ต

สำหรับคอนเสิร์ตนั้น แน่นอนว่าอายากะก็ยังคงทำได้ดีเหมือน ๆ เช่นที่เคยผ่าน ๆ มา (อันนี้ใช้มาตรฐานจากบรรดาการที่เธอไปร้องเพลงออกทีวี และในดีวีดีคอนเสิร์ตที่ออก ๆ มาก่อนหน้านี้) แต่อันนี้แปลกใจตรงที่จำนวนผู้ชม เพราะปกติเอ็มทีวีอันปลั๊ก จะเป็นคอนเสิร์ตที่มีผู้ชมไม่มาก และนั่งล้อมวงกับนักแสดงอย่างดูเป็นกันเองมากกว่านี้ สำหรับครั้งนี้ อาจเป็นเพราะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายจึงอยากจะเรียกแฟนคลับเข้ามาให้มาก เลยจัดในสถานที่ ๆ คล้าย ๆ กับอินดอร์สเตเดียมบ้านเรากันทีเดียว

คอนเสิร์ตครั้งนี้ดังที่กล่าวไปแล้วว่าจัดที่โอซาก้า ซึ่งจริง ๆ แล้วอายากะเองก็เกิดที่โอซาก้า ในคอนเสิร์ตครั้งนี้เธอซัดภาษาสำเนียงโอซาก้าไปเยอะมาก หลายอันฟังไม่ออกกันเลยทีเดียวว่าเธอพูดอะไร...

สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับเทปบันทึกคอนเสิร์ตเวอร์ชั่นสำหรับโรงภาพยนตร์นี้คือ ตัดเพลงใส่น้อยกว่าที่จะมีลงในดีวีดีและบลูเรย์ที่จะออกขายหลังจากนี้ประมาณสองสัปดาห์ รวมเวลาทั้งโฆษณาแล้วทั้งหมดใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงเศษ ซึ่งจะว่าไปการฉายคอนเสิร์ตเวอร์ชั่นโรงภาพยนตร์นั้นน่าจะเป็นแค่เพียงการโปรโมตแบบเก็บตังค์เสียมากกว่า

คอนเสิร์ตนี้เปิดตัวด้วย Jewelry day ซึ่งปกติก็เป็นแบบอคูสติกอยู่แล้วและตามด้วยการโชว์พลังเสียงอันทรงพลังใน I believe เพลงเดบิวของอายากะ จากนั้นก็ตามด้วยการแนะนำตัวและพูดคุยเล็กน้อย กล่าวความในใจ และตามด้วยเพลง グンナイベイビー (Good Night Baby) ต่อด้วยเพลงมีจังหวะนิดหน่อยแต่ความหมายดีอย่าง おかえり (Okaeri) และ 夢を味方に (Yume wo mikatani) จากนั้นก็เข้าช่วงเอ็มซี(พูดคุย)อีกรอบก่อนจะแนะนำวงดนตรีบนเวทีและตามด้วย ありがとう。(Arigatou) และต่อติด ๆ กับWINDING ROAD ในเวอร์ชั่นอายากะคนเดียว (เพลงนี้จริง ๆ เป็นโคลาโบเลชั่นร่วมกับ Kobukuro คู่ดูโอ้ที่เริ่มอาชีพจากการร้องเพลงเปิดหมวกจากโอซาก้าเช่นกัน) และปิดท้ายด้วยช่วง Encore กับ みんな空の下 (Minna sora no shita) เวอร์ชั่นเปียโนซึ่งใช้เป็นเพลงชูทั้งการโปรโมตคอนเสิร์ตครั้งนี้ และอัลบั้มรวมฮิตที่เพิ่งออกมาก่อนหน้านี้ เพลงสุดท้ายนี้จริง ๆ ต้องเรียกว่าเป็นซิงเกิ้ลสุดท้ายของอายากะก่อนที่เธอจะพักงานยาว

สำหรับเพลงที่โดนตัดออกไป และจะไปอยู่ในดีวีดีได้แก่ Why, 手をつなごう (Te wo tsunagou, เพลงนี้ประกอบภาพยนตร์เรื่องโดราเอมอนที่ฉายในปี ๒๐๐๗), ブルーデイズ (Blue Days, เพลงประกอบละครเรื่อง Sapuri) และ 三日月 (Mikkatuki, เพลงที่ถูกขอมากที่สุดในร้านคาราโอเกะของอายากะ และถือเป็นเพลงหากินของเธอเลยทีเดียว) ส่วนตัวชอบสองเพลงหลังมาก

สรุปรายชื่อเพลงที่จะลงในดีวีดีตามนี้ครับ (* คือโดนตัดออกในเวอร์ชั่นโรงภาพยนตร์)
01.Jewelry day
02.I believe
03.Why*
04.手をつなごう*
05.グンナイベイビー
06.ブルーデイズ*
07.三日月*
08.おかえり
09.夢を味方に
10.ありがとう。
11.WINDING ROAD
12.みんな空の下

โดยรวมอาจจะไม่ใช่คอนเสิร์ตที่แปลกใหม่อะไร แต่สำหรับแฟนคลับแล้วคงจะเป็นภาพสุดท้ายกับคอนเสิร์ตใหญ่ของอายากะแล้ว จนกว่าเธอจะกลับมา หวังว่าเราจะได้ฟังเพลงใหม่ ๆ ของอายากะอีก ส่วนตัวเองก็แอบเป็นแฟนคลับอายากะกะเขาอยู่เหมือนกัน และเคยแปลเพลงไว้หลายเพลงในบล็อกนี้ (บางเพลงไม่ได้ไปร้องในคอนเสิร์ต) ถ้าอยากรู้ความหมายก็ลองเปิด ๆ ดูนะครับ อาจจะแปลผิด ๆ ถูก ๆ อันนี้ต้องน้อมรับผิดเนื่องจากความรู้ด้านภาษาอันต่ำต้อย...(ขออภัยที่หลายเพลงที่แปะลิงค์เพลงไว้ถูกเวปอัพเพลงหรือวิดีโอลบออกไปบ้างแล้ว)

みんな空の下 (Minna sora no shita)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=filmism&month=10-2009&date=27&group=5&gblog=16

恋焦がれて見た夢 (Koi kogarete mitayume)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=filmism&month=08-2009&date=18&group=5&gblog=14

おかえり (Okaeri)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=filmism&month=08-2009&date=15&group=5&gblog=13

あなたと - 絢香Xコブクロ(Anata to - Ayaka x Kobukuro)
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=filmism&month=08-2009&date=07&group=5&gblog=12




 

Create Date : 09 มกราคม 2553
3 comments
Last Update : 9 มกราคม 2553 23:52:57 น.
Counter : 1834 Pageviews.

 

ตามมาอ่านรีพอร์ทค่ะ

อังกอร์เพลง minna sora no shita ถ้าดูสดๆ จะต้องขนลุก และร้องไห้แน่ๆเลย
ขนาดดูกับไฟล์ที่ออกตามรายการ น้ำตายังหยดแหมะๆ ขนลุกตลอด T-T)

น่าเสียดายบวกกับอิจฉานิดๆค่ะ เหะๆ เพราะเกิดมายังไม่เคยดูไลฟ์ของอายากะสดๆซักครั้งเลย
มาปีนี้ก็มีแต่ข่าวที่ทำให้ช็อคอีก ..
แต่ก็รอจนกว่าจะกลับมา และติดตามผลงานไปเรื่อยๆค่ะ
ให้กำลังใจและหวังว่าอายากะจะกลับมาร้องเพลงใหม่เร็วๆค่ะ

 

โดย: fridayparty-nnn IP: 180.183.99.175 24 มกราคม 2553 16:36:16 น.  

 

เขียนโอเคเลยครับพี่เอ็กซ์
ไม่คิดเลยว่า เค้าจะมีฉายคอนเสิร์ตในโรงหนังด้วย

แปลกดี

อิจฉาพี่นะเนี่ย 5555+
ปล. อยากให้อายากะหายไวๆคร้าบ

 

โดย: Top-acool IP: 58.64.110.123 13 กุมภาพันธ์ 2553 19:18:28 น.  

 

อิจฉาอ่ะ

 

โดย: 55+ IP: 124.122.196.153 10 พฤษภาคม 2554 14:23:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Filmism
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add Filmism's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.