<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มีนาคม 2558
 

กรณีศึกษา:ข้อเรียกร้องให้ไทยยกเลิกพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร

แถลงการณ์ ด่วน! ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. 

ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร


กรณีศึกษา:ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและ คสช.ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร

ข้อมูลนี้น่าสนใจและน่าศึกษา มติชนเผยแพร่แล้ววันนี้....ว่า

วันที่ 16 มีนาคม 2558   มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน  ได้ออกแถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร มีเนื้อหาดังนี้


//www.matichon.co.th/online/2015/03/14265034181426503436l.jpg


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 

(Human Rights Council) เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 ได้รับข้อมูลจากองค์กรระหว่างประเทศว่า ประเทศไทยใช้ศาลทหารสำหรับการดำเนินการกับพลเรือน

ในข้อหาเกี่ยวกับการแสดงออกทางความคิดเห็น การรวมกลุ่มและการชุมนุม 

โดยมีจำนวนคดีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางสำนักงานข้าหลวงใหญ่ว่า

ด้วยสิทธิมนุษยชนได้บันทึกข้อเท็จจริงว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 202 คน  

ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557   

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่ประเทศไทยเลือกที่จะใช้ศาลทหาร

ดำเนินคดีต่อพลเรือน เพื่อการปราบปราม ประชาชนที่เห็นต่าง

จากรัฐและใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออก


โดยแถลงการณ์ทางวาจาโดยคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล

ที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) 

ในการประชุมครั้งที่ 28 ระหว่างวันที่ 2-27 มีนาคม 2558 ณ กรุงเจนีวา

 ทางคณะผู้แทนประเทศไทยแห่งองค์การสหประชาชาติประจำ ณ นครเจนีวา

ใช้สิทธิในการตอบกลับโดยระบุว่า 

“การใช้ศาลทหารนั้น เราใช้ในเฉพาะคดีที่มีข้อหาร้ายแรงเท่านั้น 

ข้อหาความผิดรวมถึงครอบครองอาวุธและคดีฆาตกรรม 

จำเลยพลเรือนในคดีศาลทหารได้รับสิทธิในกระบวนการยุติธรรม

เหมือนกับในศาลพลเรือน รวมทั้งสิทธิที่จะมีทนายความ

และได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์”


คำแถลงดังกล่าวเป็นการอ้างอิงการใช้ศาลทหารที่ไม่ตรงกับสภาพปัญหา

และข้อเท็จจริงในปัจจุบันโดยนับแต่มีการรัฐประหาร 

มีการจับกุมนักกิจกรรมที่แสดงออกทางสัญลักษณ์ 

เช่น การถือป้ายกระดาษ การรณรงค์เพื่อให้มีการเลือกตั้ง 

การกินแซนวิช การชูสามนิ้ว เป็นต้น 

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธุ์ 2558 มีทนายความนักสิทธิมนุษยชน

และนักกิจกรรมทางสังคม 4 คน ถูกจับกุม

และตั้งข้อหาว่าฝ่าฝืนประกาศคสช. ฉบับที่ 7 /2557 

ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ในวันที่ 16 มีนาคมนี้

พนักงานสอบสวนที่ส่งสำนวนพร้อมพลเรือนทั้ง 4 คน

ไปยังอัยการศาลทหารเพื่อสั่งฟ้อง โดยมีการคาดการณ์ว่าพลเรือนทั้ง 4 

อาจจะไม่ได้รับการประกันตัว


การใช้กลไกยุติธรรมและศาลทหารต่อพลเรือนที่แสดงออกทางความคิดเห็น

เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มว่ารัฐบาลปัจจุบัน

จัดตั้งโดยฝ่ายทหารคณะรัฐประหารจะใช้กลไกศาลทหาร

และกระบวนการยุติธรรมดังกล่าวต่อเนื่องและติดต่อกัน 

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่ากระทำการนอกกฎหมาย 

หากแต่กลไกยุติธรรมในปกติ โดยเฉพาะการใช้ศาลทหารพิจารณาคดี

ต่อพลเรือนไม่มีความเป็นอิสระและเป็นกลาง ไม่มีความจำเป็น 

เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามุ่งประโยชน์เพื่อโต้ตอบโจมตีต่อนักกิจกรรมทางการเมือง

รวมทั้งทนายความสิทธิมนุษยชน การพิจารณาคดีในศาลทหาร

เป็นการละเมิดสิทธิในการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม 

ซึ่งขัดกับพันธกรณีที่ประเทศไทยมีต่ออนุสัญญาว่าด้วย 

สิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง


ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ที่ขณะนี้เดินทางมาร่วมเวทีคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 

(Human Rights Council) ณ กรุงเจนีวารระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2558 

ด้วยนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและคสช. ประกาศยกเลิกประกาศคสช.

 37/2557 และ 38 /2557 ที่ประกาศให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพลเรือน

ในข้อหาความผิดบางประเภทโดยทันที รวมทั้งประกาศที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบทั้งหมด อีกทั้งการพิจารณาคดีในศาลทหาร

ในเวลาที่ประกาศกฎอัยการศึกทำให้ไม่สามารถ อุทธรณ์หรือฎีกา

 โดยเราเชื่อว่าศาลพลเรือนปกติในสถานการณ์ปัจจุบันสามารถใช้พิจารณา

อรรถคดีต่างๆ ได้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมกว่า

การพิจารณาคดีในศาลทหาร/จบ
..................................................................................................................................
ความเห็นส่วนตัวต่อเรื่องนี้ คิดว่าคนส่วนใหญ่คงอึดอัดกับเรื่องราวข้างต้น
อยากให้มีมาตรการที่มีความพอดี...และกลางๆๆ
ซึ่งนำไปสู่การปรองดองอย่างแท้จริง
อีกทั้งก้ไม่ควรปิดกั้นการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติ
เพราะขณะนี้โลกเสรีเขามอง...ว่าเรามากไป  เลยเส้นกติกาสากลไปมากโข
ห้ามปรามกันแต่พองามเถอะ
ประเทศไทยมีปฎิวัติมาหลายครั้ง
น่าจะครั้งนี้ที่ประชาชนถูกริดรอนสิทธิมนุษยชนพื้นฐานมากที่สุด
ที่สำคัญ คดีที่จับๆกันอยู่ในระหว่างที่บ้านเมืองประกาศใช้กฎอัยการศึก
ดังนั้นทุกคดีก็ต้องว่ากันตามเนื้อๆของกฎอัยการศึก
ซึ่งต้องขึ้นสู่การพิจารณาของศาลทหาร
เราๆเก็บข้อมูลไว้ศึกษา...
ยามประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยก็แล้วกันนะ
บอกลูก...บอกหลาน ว่ายามนี้อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกันนะ

.................................................................................................................................

ข่าวดี!!! ทำเนียบรัฐบาล 17 มี.ค.-นายกฯ เตรียมลดระดับการบังคับใช้กฎอัยการศึก ดำเนินคดีในศาลปกติมากขึ้น ส่วนศาลทหารให้ดำเนินคดีเฉพาะคดีร้ายแรง ประกาศไม่สนใจคำวิจารณ์ของนักการเมือง สนใจความรู้สึกประชาชนมากกว่า เดินหน้าปฏิรูป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า จะผ่อนปรนความเข้มงวดในการใช้กฏอัยการศึก โดยจะพยายามใช้กฏหมายปกติและส่งการดำเนินศาลปกติ เว้นแต่คดีร้ายแรงที่จะส่งศาลทหาร ส่วนการเรียกบุคคลมาพูดคุยที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ  ไม่ได้เป็นการควบคุมตัว แต่เป็นการเชิญไปพูดคุยเท่านั้น กรณีคดีน.ส ณัฐธิดา มีวังปลา พยานคดีวัดปทุมวนารามราชวรวิหารได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้ว ทุกเรื่องต้องรับฟังอย่างรอบด้าน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสน

........................................................................................................

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสงอดีตรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ

โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีการนำตัวพลเรือนขึ้นศาลทหาร

ใจความว่า ผู้ที่ต้องขึ้นศาลทหารส่วนใหญ่กลับไม่ได้ทำความผิดในข้อหาร้ายแรงแต่ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง

จากผู้มีอำนาจเท่านั้น ที่เห็นได้ชัดเช่นการตั้งข้อหาตามมาตรา116 

ของประมวลกฎหมายอาญาที่ว่ามาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏ

แก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำ

ภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น

หรือติชมโดยสุจริต 

(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน

      หรือรัฐบาลโดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย 

(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน 

      ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร  หรือ

(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินต้องระวางโทษ 

จำคุกไม่เกินเจ็ดปี มีการตั้งข้อหาตามมาตรานี้จากการแสดงความเห็น

ที่ต่างจากคณะคสช.ทั้งๆไม่มีการกระทำตามที่ระบุไว้ในมาตรานี้

นายจาตุรนต์ระบุอีกว่าข้อหาอีกประเภทหนึ่งคือการขัดคำสั่งคสช. 

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่เพียงแต่ไม่ใช่การกระทำความผิดที่ร้ายแรงเท่านั้น

แต่ยังหมายถึงการกระทำที่ไม่ได้ผิดกฎหมายบ้านเมืองตามปกติแม้แต่น้อยเลย

ด้วยซ้ำไปความคลาดเคลื่อนอีกประการที่สำคัญมากคือที่บอกว่ากระบวนการ

ยุติธรรมของศาลทหารกับศาลพลเรือนไม่มีความแตกต่างกันถ้าทำผิด

ก็ถูกลงโทษเหมือนกันข้อนี้ตนขออนุญาตไม่ชี้แจงอะไรมากนอกจาก

จะชี้ให้เห็นความต่างเพียงประการเดียวเท่านั้นคือพลเรือนที่ขึ้นศาลทหารนี้

ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ฎีกาเหมือนผู้ที่ขึ้นศาลพลเรือนตนเพียงให้ข้อเท็จจริง 

การให้พลเรือนขึ้นศาลทหารจะถูกผิดอย่างไรขอไม่แสดงความเห็น

ในโอกาสนี้เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินคดีในศาลทหารและกำลังร้องเรียน

เรื่องนี้อยู่

........................................................................................................

วันนี้ 21 มีนาคม 2558 สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย 

มีการประชุมใหญ่ โดยมีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 600 คน 

โดยได้มีการหารือในประเด็นทางกฏหมายที่ขณะนี้

มีพลเรือนบางส่วนที่แสดงความเห็นทางการเมืองแล้วถูกฟ้องร้องต่อศาลทหาร

//www.matichon.co.th/online/2015/03/14269287441426928771l.jpg

โดย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย 
กล่าวว่า ประเด็นปัญหาสำคัญในบ้านเมืองขณะนี้คือ สมาคมไม่เห็นด้วย 
ที่บุคคลแสดงความเห็นในระบอบประชาธิปไตย แต่กลับต้องถูกขึ้นศาลทหาร 
ทั้งนี้ ศาลทหารควรเป็นกระบวนการยุติธรรมของทหาร 
ต้องไม่ดำเนินการกับพลเรือน โดยสมาคมทนายความเห็นว่าการขึ้นศาลเดียว 
จะทำพลเรือนเสียสิทธิในกระบวนการยุติธรรม 
ยืนยันว่าสมาคมทนายความไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ 
และเห็นว่าควรมีการยกเลิกกฏอัยการศึก และใช้กฏหมายปกติได้แล้ว 
หากรัฐบาลหวังดีกับประเทศ ยืนยัน ส่วนตัวกล้าพูดและ 
ไม่เกรงกลัวถูกเรียกไปปรับทัศนคติ เพราะทนายความที่ดี 
ต้องพูดความจริง กล้าโต้แย้งกับการบังคับใช้กฏหมายที่ผิดพลาด
 และรับใช้ประชาชน

ทั้งนี้ สมาคมทนายความเห็นว่า การใช้กฏอัยการศึก ไม่เป็นธรรม 
หากรัฐบาลบริหารงานไม่ได้ภายใต้กฏอัยการศึกก็ควรยกเลิก 
และเปิดให้ประชาชนเเสดงความเห็น โดยควรเอาความเห็นที่เป็นประโยชน์
มาใช้ปรับปรุงและบริหารงานแผ่นดินจะดีกว่า สมาคมทนายความ 
จึงมีมติเห็นว่า พลเรือนไม่ควรขึ้นศาลทหาร

......................................................................................................

อดีตรองนายกฯ ซัดโลกเจริญแล้ว ไม่ทำกัน ให้ พลเรือนขึ้นศาลทหาร

จี้ กมธ.ยกร่าง กลับไปทบทวนร่างรธน.ใหม่ 

หากมีสำนึกว่าไทยต้องเป็นประเทศประชาธิปไตย

//www.matichon.co.th/online/2015/03/14269266841426926720l.jpg

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี 
กล่าวถึงการยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งร่างเสร็จร่างแรกนั้น 
ยังไม่สามารถพูดรายละเอียดได้มาก โดยในส่วนหลักสำคัญของรัฐธรรมนูญนั้น ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ จะต้องให้อำนาจอธิปไตย
อยู่กับประชาชน และ เชื่อว่า ประชาชนจะสามารถตัดสินใจ 
ต่ออนาคตประเทศได้ แต่ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังดูไม่เข้าใจ 
ประชาชน ให้อำนาจกับคนที่ไม่ได้มาจากประชาชนเสียเยอะ 
เช่น วุฒิสภา ที่มีอำนาจมาก และไม่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 
นอกจากนี้รัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังทำให้ สส.และรัฐบาล 
มีอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดินมากเกินไป เพราะเปิดให้มีองค์กร 
ที่ไม่มาจาก ประชาชน มีอำนาจแทรกแซงฝ่ายบริหารมากไป 
จึง อยากให้ กมธ.ยกร่างฯ มีจิตสำนึกดี กลับไปทบทวน ว่า 
จะให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่มีระบบการเมืองประชาธิปไตย หรือไม่ 
หรือต้องการนำปัญหาที่เคยเกิดขึ้นวนกลับมาใช้จนสร้างปัญหาระบบอีก

ทั้งนี้การกำหนดให้ นายกฯไม่ต้องมาจาก ส.ส. เป็นบทเรียนทางการเมือง
ตั้งแต่การเมือง ช่วงปี2535 ที่ได้เคยมีการเรียกร้องนายกมาจากเลือกตั้ง 
แต่ปัจจุบัน กลับพยายามเปิดให้คนนอกนั่งนายกฯ 
จึงรู้สึกกังวลว่าระบบที่สร้างขึ้น จะทำให้มีรัฐบาลผสม และอ่อนแอ 
ยิ่งกว่าการเมืองก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 40 เสียอีก

ส่วนกรณีปัญหาคดีจำนำข้าวของอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น 
เชื่อว่า นายกฯมีทีมทนายความที่ทำงานเรื่องนี้มานาน 
ตนได้แค่คอยเชียร์ให้กำลังใจ

ส่วนเรื่อง พลเรือนขึ้นศาลทหารที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 
ตนไม่เห็นด้วยกับการใช้กฏอัยการศึก และกระบวนการยุติธรรมในขณะนี้ 
โดย ในสังคมประชาธิปไตย คดีปกติจะขึ้นศาลพลเรือน เพราะมีระบบ อุธรณ์ 
หรือ ฏีกา เป็นระบบที่ใช้กันในประเทศเจริญแล้ว การใช้ศาลทหารแบบนี้ 
ประเทศที่เจริญแล้วไม่ใช้ กัน และจะใช้แค่สมัยรัฐบาลยึดอำนาจเท่านั้น
......................................................................................................





 

Create Date : 16 มีนาคม 2558
0 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2558 7:09:06 น.
Counter : 1209 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com