<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2554
 

ตัวอย่าง..ผล..รักการอ่าน...ทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงๆคะ

เตือนใจ เจริญพงษ์

ภาวะนี้ผู้ใหญ่อย่างเราๆรู้สึกห่วงใย "เยาวชนไทย"หลายประการ
เอ...อีก 5-10ปี หรือมากกว่านั้น
ลูกหลานเราจะเป็นผลผลิตแบบใด
ผลวิจัยต่างๆเดี่ยวกับเด็กไทยที่ผ่านมา
น่าจะเป็น"เมนู"..สำคัญที่ ...รัฐบาล... ต้องกินแล้วกินเล่า
เพื่อจะได้ตอบโจทย์การพัฒนาการศึกษา ให้ได้ผลจริงจังเสียที
................................................................................................
-เฉลี่ยเด็กไทยอ่านหนังสือวันละ 2 บรรทัด!!
-เผยคะแนนสอบO-net ป.6,ม.3 ปีนี้
5วิชาหลัก-ไทย-สังคม-วิทย์-คณิต-อังกฤษตกหมด!!
-ล่าสุดสอบ A-net เด็กไทยตกทั้งประเทศ!!
................................................................................................. ท่าน รมว. ศึกษา , สภาการศึกษา....
ท่านนายกรัฐมนตรี...
พ่อ-แม่....
สถานประกอบการ (แหล่งงาน....)
.................................................................................................
คิดอย่างไรกับเรื่องนี้คะ
คิดจริง...ทำจริงเสียทีเถอะ
ประเทศชาติจะล่มจมแล้ว...
เพราะ "มือพวกเรา"กันเอง (อ้าว...รวมตัวเองและท่านด้วยคะ)
.................................................................................................
วันนี้บังเอิญได้อ่านเรื่องของ...
....ผศ.สุทิพันธุ์ บงสุนันท์
เขียนเล่าเรื่อง "เพราะ (รัก) การอ่าน ชีวิตจึงเปลี่ยน"
เผยแพร่ในนสพ.กรุงเทพธุริกิจรายวัน 12 เมย.54
มีสาระ...ดีจังเลยนำมาบอกต่อกันคะ
.................................................................................................
อ่านดูนะคะ....
เมื่อ 2 ปีก่อนสภาพัฒน์ได้รายงาน....
ภาวะสังคมชี้เด็กและเยาวชนไทยใช้เวลาบันเทิงมากว่าเรียน
โดยมากสุด 68% นิยมดูทีวีและวีซีดี
รองลงมา 49% คุยโทรศัพท์
มีเพียง 41% เท่านั้น ที่อ่านหนังสือเป็นประจำ
.................................................................................................
โดยส่วนใหญ่ใช้เวลา...ดูทีวีเกือบ 3 ชั่วโมงต่อวัน
....เล่นอินเทอร์เน็ต 2.5 ชั่วโมง
และ...เล่นเกม 2 ชั่วโมง
ในขณะที่...อ่านหนังสือใช้เวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง
โดยสรุป ก็คือ ใช้เวลาบันเทิงถึง 7.5 ชั่วโมง หรือ 1 ใน 3 ส่วนต่อวัน
.................................................................................................
หากพูดถึงวันนี้...
ในโลกเทคโนโลยีที่โดนใจเด็กและเยาวชน
จำนวนเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมบันเทิงข้างต้น
น่าจะเพิ่มมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวันไปแล้ว
นั่นย่อมหมายถึง...
การต้องไปเบียดเอา...เวลาอ่านหนังสือ
...เวลาพักผ่อน
หรือไม่ก็.....เวลาเรียน
หรือแม้กระทั่ง....เวลากิน
ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น
.................................................................................................
ทำอย่างไร .......
จึงจะฟื้นเวลาการอ่านหนังสือขึ้นมาได้
หลักการคลาสสิก ก็คือ...
.................................................................................................
การปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน ซึ่งมีหลายแนวทาง ซึ่งจำเป็นต้องใช้ร่วมกัน
การมีตัวอย่างเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กได้เห็นความสำคัญของการอ่านว่าจะ
มีผลต่อชีวิตและอนาคตของเขาอย่างไร ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้
พวกเขาสนใจและรักการอ่าน
.................................................................................................
ขอนำตัวอย่างมาเล่าสู่กันฟัง
เกี่ยวกับไอดอลคนต้นแบบของคน (ไร้บ้าน)
ชีวิตที่ไม่มั่นคง แต่เพราะรักการอ่าน
ชีวิตเธอจึงเปลี่ยน ......
ได้เข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาที่ดีที่สุด
ในโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
.................................................................................................
เธอผู้นี้ชื่อ...... "คาดิจาห์ วิลเลียมส์" หญิงสาววัย 18 ปีจากลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เกือบตลอดทั้งชีวิตของเธอ ไม่เคยมีที่พักอาศัยที่เรียกว่า "บ้าน"
.................................................................................................
คาดิจาห์เริ่มย้ายที่พักจากแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งพร้อมกับแม่และน้องสาวเมื่อตอนอายุ 6 ขวบ ในเมื่อเธอไม่สามารถหาที่พักได้ เธอและครอบครัวได้อาศัยสถานีรถประจำทาง หรือไม่ก็พื้นที่ข้างถนนเป็นที่พักอาศัย
.................................................................................................
การย้ายที่พักบ่อยครั้ง ทำให้เธอต้องย้ายโรงเรียนทุกปี ในช่วงเวลา 12 ปี เธอเข้าเรียนในโรงเรียน 12 แห่ง แต่อย่างไรก็ตาม เธอสามารถเรียนทันเพื่อน โดยใช้เวลาในแต่ละวันหลังเลิกเรียนที่ห้องสมุดชุมชนของเมืองลอสแองเจลิส
.................................................................................................
เธอชอบอ่านหนังสือมาก อ่านหนังสือทุกประเภท ผู้คนที่พบเห็นต่างเรียกเธอว่า "หนอนหนังสือ" ห้องสมุดทำให้เธอสามารถบังคับบางสิ่งให้พลิกข้ามบางแง่มุมของชีวิตเธอ แม้เธอไม่สามารถบังคับที่พักอาศัยหรืออะไรก็ตามให้เป็นดังปรารถนาได้ แต่เธอก็สามารถบังคับใจว่า จะต้องฝึกหัดค้นคว้าเรียนรู้มากเท่าใด จึงจะประสบความสำเร็จ
.................................................................................................
เธอไม่เคยหยุดที่จะเชื่อมั่น (ในตัวเธอ) ในเรื่องการศึกษา เพราะเธอเชื่อว่าการศึกษาจะเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเดินออกจากถนนชีวิตคนไร้บ้าน สู่การมีชีวิตที่ดีได้
.................................................................................................
จุดพลิกผันที่ทำให้เธอค้นพบตัวเองและเชื่อมั่นในเรื่องการศึกษา ก็คือ วันหนึ่งในช่วงชั้นประถมศึกษา เธอนั่งอยู่ในห้องเรียน นึกถึงครูที่เคยพูดกับเธอว่า "เธอต้องเรียนตามตารางเวลาให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ ก็จะไม่ได้เลื่อนชั้น" คำพูดนี้ทำให้เธอฉุกคิด ตระหนัก และตั้งอกตั้งใจทำตามตารางเวลาให้ได้ เธอรู้ถึงหน้าที่ ต้องอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหาการเรียน และไปห้องสมุดทุกๆ วันหลังเลิกเรียน
................................................................................................. และในที่สุดในปีนั้น เธอสอบได้คะแนน (รวมทุกวิชา) ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 99 ได้คะแนนสูงสุดของชั้น และตั้งแต่นั้นมา เธอเห็นถึงความสามารถของเธอ และจะไม่ปล่อยให้การไร้บ้านมาหยุดเธอจากการเรียนรู้ ทัศนคติเช่นนี้ติดตัวเธอมาจนถึงทุกวันนี้
.................................................................................................
ภายหลังประสบการณ์นี้ เธอได้เรียนข้ามชั้นสองเกรด (หรือสองระดับในช่วงชั้นมัธยมศึกษา) จากเกรด 8 สู่เกรด 10 และเธอได้เกรดเฉลี่ยสะสมสูงถึง 3.85
.................................................................................................
เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาเจฟเฟอร์สันด้วยคะแนนเกียรตินิยม และเธอได้รับทุนและคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเมื่อเธอเป็นนักศึกษาที่นี่ การอ่านหนังสืออย่างหนักเป็นสิ่งที่ต้องกระทำอย่างยิ่งยวด แต่เธอก็ไม่ได้หวั่นไหวว่า การอ่านเป็นภาระ เพราะสำหรับเธอแล้ว การอ่านคือชีวิต
.................................................................................................
จะเห็นว่าปัจจัยที่พลิกผันให้เธอผ่านพ้นชีวิตที่ไม่มั่นคงสู่ความสำเร็จได้นั้น ที่สำคัญ ก็คือ การมีนิสัยรักการอ่าน โดยมีคำพูดของครูเป็นแรงผลักดันให้เธอได้ฉุกคิด และมุมานะผ่านกิจกรรมการอ่านบนเส้นทางของการศึกษา
.................................................................................................
การที่เธอมีนิสัยรักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ อ่านมากและหลากหลายนั้น ทำให้เธอเกิดการเรียนรู้ เกิดความคิด เกิดจินตนาการ เห็นภาพ เปิดโลกทัศน์ ได้ตัวอย่าง ได้รายละเอียด ได้ประสบการณ์ ได้ข้อคิด โดยไม่ต้องเดินทางไปแสวงหาความรู้จากที่อื่น (ภายใต้ข้อจำกัดของเธอในเรื่องรายได้)
.................................................................................................
การอ่านทำให้เธอมีสมาธิ มีสติ เกิดความเฉลียวฉลาด และทำให้เธอยิ่งเชื่อมั่นในเส้นทางการศึกษา ว่า จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลง
.................................................................................................
แม้การอ่านอาจไม่ได้ให้ผลในทันทีทันใด เนื่องจากการอ่านต้องใช้การสะสม แต่เธอก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผลของการอ่านมาก หลากหลาย และสะสมมายาวนาน กำลังนำพาเธอก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จ
................................................................................................. กรณีคาดิจาห์เป็นตัวอย่างชีวิตของคนไร้บ้าน (ที่ชีวิตไม่สิ้นหวัง) แต่กลับประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม
.................................................................................................
หากเด็กและเยาวชนไทยได้รับการปลูกฝังมีนิสัยรักการอ่าน มีแรงบันดาลใจ มีความเชื่อมั่นในเส้นทางการศึกษา มุ่งมั่น อดทน และเห็นคุณค่าของตนเองแล้ว ก็สามารถประสบผลสำเร็จได้เช่นเดียวกับคาดิจาห์
.................................................................................................
เอาไงดีคะ......
อ่านแล้วดูดีๆๆๆจัง
ช่วยกันรณรงค์ให้....เด็กไทยรักการอ่านหนังสือเถอะคะ
อะไรๆๆจะดีขึ้น....
หวังได้บ้างใหมคะ
.................................................................................................






Create Date : 12 เมษายน 2554
Last Update : 19 กันยายน 2558 3:51:54 น. 3 comments
Counter : 1308 Pageviews.  
 
 
 
 
เยี่ยมมากๆค่ะ
เห็นด้วยจริงๆ
คนอ่านเยอะๆกับคนอ่านน้อยๆ
เวลาประมวลผลทางความคิดคนละเรื่องเลยจริงๆ
 
 

โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ วันที่: 12 เมษายน 2554 เวลา:23:52:56 น.  

 
 
 
Do you know that some universities' aministrators rarely read the documents presented by the officials but they only just write ok., acknowledge, or approve without knowing the themes of the said documents at all?
 
 

โดย: Lal IP: 223.206.222.140 วันที่: 18 เมษายน 2554 เวลา:19:00:15 น.  

 
 
 
ดีมากค่ะทำให้คนหันมาอ่านหนังสือมากขึ้นค่ะ
 
 

โดย: ตุ๊กตา IP: 206.53.148.240 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:23:07:47 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

justice0009
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




[Add justice0009's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com