นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ "มติชน" ถึงแนวทางการต่อสู้คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า คดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีทีมกฎหมายดูแลอยู่ สิ่งหนึ่งที่ตนมีความรู้สึกว่า อาจจะไม่ค่อยเป็นธรรมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือคดีจำนำข้าวนั้นทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา รัฐธรรมนูญก็กำหนดว่าก่อนที่รัฐบาลจะบริหารประเทศต้องแถลงนโยบาย ต่อรัฐสภา การแถลงนโยบายต่อรัฐสภาคือแถลงให้ตัวแทนของประชาชน รู้ว่ารัฐบาลจะทำอะไรบ้าง มีข้อท้วงติงหรือไม่ มีข้อซักถามอะไร รัฐธรรมนูญเขียนอีกว่าถ้ารัฐบาลไม่ทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ถือว่าทำผิดรัฐธรรมนูญเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนอีก
"ในอดีตที่ผ่านมาการทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภานั้น ถือเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่กระทำได้ ในอดีตที่ผ่านมาไม่เคยมีคดีประเภท ที่เมื่อทำตามนโยบาย ทำตามมติ ครม.ที่ภาษาทางบริหารเรียกว่า เป็นการกระทำทางบริหารของรัฐบาล แล้วจะถูกฟ้องร้องเป็นคดีอาญา" นายชูศักดิ์กล่าว
"ผมลองไปค้นเหตุการณ์ในอดีต เช่น คดี ส.ป.ก.4-01 ในสมัยนั้นอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง โดยให้เหตุผลว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่แถลงต่อรัฐสภามีอำนาจกระทำได้ นอกจากนั้น การฟ้องกันตามมาตรา 157 จะต้องมีเจตนาพิเศษ คือทำไปเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือไม่ หรือต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองและผู้อื่น โดยไม่ชอบ คำถามคือว่าสิ่งที่นายกฯยิ่งลักษณ์นั่งหัวโต๊ะประชุมไป เป็นมติ ครม. ทำตามนโยบายที่แถลง ถามว่าต้องการจะไปสร้างความเสียหาย ให้กับใครไหม แท้ที่จริงแล้วเป็นการทำตามนโยบายเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ชาวนา ให้ลืมตาอ้าปากได้ แก้ปัญหาความยากจน หนี้สิน ชีวิตความเป็นอยู่ ในอดีตทุกรัฐบาลก็ใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรคนยากจน เช่น โครงการประกันราคาข้าว หนึ่งฤดูกาลใช้เงินไป 7 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีเม็ดข้าวเลยแม้แต่น้อย" นายชูศักดิ์กล่าว และว่า รัฐบาลปัจจุบันแจกเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ใช้เงินไปถึง 4 หมื่นล้านบาท ที่น่าคิดคือ ถ้ารัฐบาลวันข้างหน้า รัฐบาลใดก็ตามมาทำตามนโยบาย ที่แถลงต่อรัฐสภา แล้วต้องเผชิญชะตากรรมถูกฟ้องต่อศาลเป็นคดีอาญา เป็นคดีแพ่ง ถูกถอดถอน ฉะนั้นต้องทบทวนระบบแบบนี้แล้ว
นายชูศักดิ์กล่าวว่า ส.ป.ก.4-01 สั่งไม่ฟ้อง ปรส. (องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน) ใช้เงินไป 8 แสนล้านบาท ท้ายที่สุดก็ไม่เห็นจะมีนายกรัฐมนตรี หรือ ครม.คนไหนมารับผิดชอบ คิดว่าคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถต่อสู้ไปในแนวทางของหลักการประชาธิปไตย หลักการแบ่งแย่งอำนาจ หลักทฤษฎีการบริหารราชการแผ่นดิน หลักรัฐธรรมนูญ หลักว่ามิได้มีเจตนาพิเศษในทางเสียหายอย่างใดเลย/จบ ..................................................................................................... ความเห็นส่วนตัวต่อเรื่องดังกล่าว มีที่มาที่ไป....คนไทยยังจดจำกันอยู่ ความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่า ...เรื่อง ส.ป.ก.4-01 ...เรื่องปรส. (องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน) ใช้เงินไป 8 แสนล้านบาท ทำความเสียหายให้กับประเทศไทยอย่างร้ายแรง แต่กระบวนการยุติธรรม หรือ องค์กรอิสระ ... กลับเพิกเฉย ไม่มี...การฟ้องใคร... ลงโทษใคร ...ปรับเงินใคร ได้แต่ปลงอนิจจังกับกระบวนการยุติธรรมบ้านเรา ก็ยังคงเป็น 2 มาตรฐาน และ เลือกปฏิบัติตามเคย ครู=บาอาจารย์สอนกฎหมาย... ตำรากฎหมาย..... พากันอึดอัดเอาการ มิรู้จะทำฉันใดเสียแล้ว เพราะผิดหลักการอย่างร้ายแรง ..................................................................................................... |