กุมภาพันธ์ 2553

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
มะเร็ง แม่ และคีโม ตอนสุดท้าย...ลาก่อน หญิงแกร่งแห่งศตวรรษ...หลับให้สบายนะแม่..
ตอนที่แล้ว (เมื่อผ่านมาแล้วเกือบปี) แม่ตัดสินใจไม่เอาคีโม ฉันนั่งร้องไห้หน้าคอมตั้งนานสองนานจนกว่าจะทำใจได้จริงจัง

แม่เปลี่ยนไปรักษาแบบสมุนไพร โดยใช้สมุนไพรแบบมีทะเบียนแล้ว (ปลอดภัย) โดยผู้ให้การรักษา (ขอไม่เรียกว่าหมอ เพราะ ไม่ใช่หมอ) บอกว่า ทานติดต่อกันระยะเวลาสิบแปดเดือน เดือนหนึ่งๆ ก็จ่ายค่ายาไปตกเดือนละสามพันนิดๆ ต้องใช้ระยะเวลาสิบแปดเดือน กว่าจะหาย..

ไหนๆก็ไหนๆ ฉันเองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ถ้าไม่ให้แม่กินยาตัวนี้ ยังไง มะเร็งมันก็ลามอยู่ดี เพราะแม่ไม่เอาคีโมแล้ว แม่ตัดสินใจแล้ว การได้ทานยาตัวนี้ อาจจะทำให้แม่หาย หรืออยู่นานขึ้นก็ได้..(ใครจะไปรู้ จริงมั้ย) ฉันเลยเลือกที่จะตามใจแม่

แม่ก็ยังไปตรวจแผนปัจจุบันที่ รพ.รามาฯอยู่เรื่อยๆ รักษาไปตามอาการ ระหว่างนี้ ผลตรวจออกมาว่าแม่เลือดน้อยมากกกกกกกกก มากแบบมากๆ หมอจึงให้ยาฉีดกระตุ้นเม็ดเลือดแดงมา ต้องฉีดทุกๆสัปดาห์ สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ผลเลือดแม่ก็ดีขึ้น

แม่ฉันยังคงทานยาสมุนไพร ระหว่างที่ทานยาสมุนไพรนี้ ก็ดูสดชื่นขึ้น และผู้ให้การรักษาบอกว่า คิดว่าแม่ไม่ได้มีเรื่องของโรคปอด หรือวัณโรค เพราะยาที่ให้มาทานนี้ หากเป็นโรคปอด แม่จะต้องมีอาการตอบสนองอย่างหนึ่ง แต่แม่ก็ไม่เป็นไร ยังปกติดีอยู่

ฉันเริ่มคิดถึงเรื่องของมะเร็งลามเข้าปอด... เพราะว่า แม่หยุดยาวัณโรคของหมอรามาฯมานานแล้ว แต่กลับไปตรวจทีไร จุดที่พบก็ไม่กระจาย แถมแม่ไม่ไอ ไม่อะไรเลย...แต่ก็ภาวนาว่า คงไม่ใช่น่า...

แม่รักษาด้วยสมุนไพรได้สี่ห้าเดือน ฉันก็พาตัวมาอยู่ที่บ้าน เพราะฉันเองคลอดลูกมาได้สักพัก พอจะฟื้นตัว และน่าจะดูแลแม่ได้แล้ว ระหว่างที่แม่อยู่ที่บ้าน แม่ฟังวิทยุ ไปเจอรายการวิทยุเข้ารายการหนึ่ง เกี่ยวกับ เอนไซม์บำบัด ฟังไปฟังมา แม่ก็สนใจ เนื่องจากว่า ระยะเวลาใช้ยา เพียงแค่ห้าเดือนเท่านั้น

ฉันโทรไปถามทางรายการเองเลย ได้ความว่า เอนไซม์บำบัดนั้น เป็นแนววิทยาศาสตร์ ทานคู่กับยาหมอจากรพ.ได้เลย แต่ให้หยุดยาสมุนไพรไปก่อน และคนที่เป็นมะเร็งนั้น หากยังไม่เข้าต่อมน้ำเหลือง หรือเข้าแล้วแต่เข้าไม่หมด ก็จะได้ผล

ส่วนแม่ของฉัน..คาดว่ามันเข้าต่อมน้ำเหลืองไปหมดแล้ว...ก็เลยไม่ได้ผล

ต่อมน้ำเหลืองที่คอของแม่มันโตขึ้น โตขึ้นเรื่อยๆ แม่บอกว่าปวดมาก นอกจากนี้ ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องยังโตขึ้นด้วย แม่ต้องนอนปวดท้อง และ ปวดคอทุกวัน บางทีก็ปวดไปถึงขา เห็นแล้วก็สงสาร แต่ตอนนั้นฉันคิดว่าแม่อ้อน เลยไม่ได้ทำอะไรมากนัก จนแม่ขอกลับไปอยู่บ้านเดิมที่ฉันรับแม่มา

สองสามเดือนต่อมา แม่ไปรพ. ปวดต่อมที่คอมากมาย หมอจึงสั่งฉายแสง หลังจากที่ตอนแรกไม่ยอมให้ฉาย เนื่องจากแม่ผอมมาก และไม่มีกำลังพอ แต่คราวนี้ แม่ปวดมาก จึงต้องฉายแสง

และนี่ก็ถึงจุดเปลี่ยนของความคิดของฉัน ที่เคยคิดว่าแม่อ้อน ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าแม่ไม่ได้อ้อน แต่แม่ทนมามากต่างหาก แม่ทนอย่างมากที่จะไม่ทำให้ฉันเป็นห่วง

เพราะวันแรกที่ไปฉายแสง แม่ทานข้าวไม่ได้ แม่ปวดกระดูกมาก นอนร้องโอดโอยตลอดเวลา แม่ผอมลงเยอะมาก จากที่ผอมอยู่แล้ว ก็ผอมลงอีก จนเหลือแต่กระดูกที่มีหนังเหี่ยวๆหุ้มอยู่แค่นั้น.. แต่แม่ไม่เคยโทรมาบอกฉันว่าแม่ทรุด...

และเมื่อแม่ทานข้าวไม่ได้ แม่ก็ไม่มีแรงเดิน ไม่มีแรงแม้แต่จะลุก ไม่มีแรงแม้แต่จะพูดคุยกับใครเลย..แต่แม่ก็ยังไม่อยากให้ฉันนอนค้างที่บ้าน เพราะแม่ไม่อยากให้ฉันเห็นภาพนั้น และยังเป็นห่วงลูกสาวฉัน กลัวจะนอนไม่สบาย

แต่ฉันก็ไปเยี่ยมแม่ทุกวัน ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของแม่ ทรมานใจ รู้สึกผิด สำนึกบุญคุณ สงสารแม่มากๆ บางทีฉันต้องร้องไห้ออกมาให้แม่เห็น เพราะฉันสงสารแม่ที่แม่นอนร้องโอดโอย..แล้วพูดกับแม่ทั้งน้ำตาว่า

"ถ้าเปลี่ยนกันได้ หนูจะขอปวดแทนคุณแม่นะ นะ หนูจะปวดแทนนะ"
แล้วฉันก็รู้ตัวว่า ฉันพลาดไปแล้ว

แม่หยุดร้องในทันใด เพราะกลัวฉันเป็นห่วง แล้วแม่ต้องทนเก็บกดความเจ็บปวดเอาไว้ เพราะกลัวว่าฉันจะเป็นห่วง เหมือนกับที่แม่อยากจะมาอยู่กับฉันใจจะขาด แต่แม่ต้องอดทน เพียงเพราะว่า

"ถ้าคุณแม่มาอยู่กับหนู คุณแม่ก็จะเป็นภาระหนูนะซี"

คำพูดที่แม่บอกกับฉันเมื่อครั้งยังมีแรง...

หลังฉายแสง แม่ปวดอยู่ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์.. แล้วแม่ก็หายปวด ไม่เชิงหายเป็นปลิดทิ้ง แต่เป็นเพราะว่า แม่ขยับตัวไม่ได้ แม่ไม่มีแรง พอไม่ได้ขยับตัว แม่ก็เลยไม่เจ็บไม่ปวด แม่พูดไม่ได้ ไม่มีแรง แม้แต่กระพริบตายังกระพริบไม่ได้

แม่รู้แล้วว่ามีเวลาเหลือไม่มาก เวลาใครไปเยี่ยม จะสังเกตเห็นน้ำตาของแม่ไหลออกมาจากตา ราวกับว่าจะสั่งลา

แม่แข็งใจอยู่ไม่กี่วัน จนภรรยาของลูกพี่ลูกน้องฉัน ที่แม่รักมากเหมือนลูก คลอดลูก ส่งข่าวมาว่า

"คลอดแล้วนะ ได้ลูกสาว"
ทันทีที่ทราบ แม่ก็สิ้นใจไปอย่างสงบ...

แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของแม่ แม่ก็ทำเพื่อคนอื่น จริงอยู่ที่ใครๆบอกว่า แม่อยากอยู่จนกระทั่งหลานคลอด แต่ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงของแม่หรอก แม่แข็งใจอยู่จนกระทั่งหลานคลอด ก็เพราะว่า แม่กลัวว่า ถ้าแม่ไปก่อนที่หลานจะคลอด พี่ชายคนนั้น ก็จะไม่ได้ยินดีเท่าที่ควรเมื่อลูกคลอด แม่อยากให้พี่ชายของฉันรู้สึกดีใจมากๆ ก่อนที่จะต้องมาเสียใจเพราะแม่จากไป..

แม้กระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิต..แม่ก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกของลูกหลานเสมอ

หลับให้สบายนะคะ คุณแม่ที่รัก...



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 11:45:24 น.
Counter : 5130 Pageviews.

24 comments
  
เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่คู่โลกค่ะ
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

โดย: Botaman วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:07:54 น.
  
พี่สาวเราก็เสียได้สัก 8 ปีแล้ว
คิดซะว่าเค้าไปน่ะดีกว่าอยู่แล้วทรมานนะค่ะ เจ็บทั้งเค้าทั้งเรา
เปนกำลังใจให้นะค่ะ
โดย: นู๋จ๋ากะตัวน้อย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:19:36 น.
  
คุณแม่ท่านสู้ถึงที่สุดแล้วล่ะค่ะ

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

ขอให้จขบ.มีจิตใจที่เข้มแข็งต่อไปนะคะ

โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:18:21:14 น.
  
ขอให้คุณแม่ไปสู่สรวงสวรรค์
หลับ พักผ่อนให้สบาย นะคะ RIP ค่ะ
โดย: มินทิวา วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:03:19 น.
  
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณแม่ด้วยนะคะ
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:24:18 น.
  
โดย: plataO วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:26:18 น.
  
อ่านเรื่องนี้แล้วน้ำตาไหลค่ะ
คุณพ่อของวีก็เสียไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้
ตลอดเวลาพ่อไม่เคยบ่นว่าเจ็บ
นาน ๆ ที พ่อจะบอกว่า
หนังเท้าของพ่อลอก และพ่อเจ็บเวลาเดิน
ไปหาซื้อรองเท้านุ่ม ๆ แบบใส่อยู่กับบ้านมาให้
พ่อก็ใส่ไม่ได้
เพราะหนังเท้าลอก
หลัง ๆ พ่อมักจะนอนอยู่กับที่
เพราะพอลุกเดินแล้วเจ็บ

ที่เจ้าของบล็อกเขียนมา
ทำให้ภาพของพ่อปรากฏขึ้นในใจอีกครั้ง
และรู้สึกว่า
ที่ผ่านมา
พ่อคงเจ็บมากกว่าที่บอก
พ่อคงอดทนมาก
อดทนจริง ๆ
โดย: โสดในซอย วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:26:10 น.
  
เสียใจด้วยน่ะค่ะ...

คุณแม่ท่านได้หลับสบาย

โดยไม่มีความเจ็บปวดอีกแล้วค่ะ...
โดย: กระป๋องแป้งฝุ่น วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:36:45 น.
  
น้ำตาไหลเหมือนกันค่ะ เข้าใจความรู้สึกดี ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ เพิ่งจะอัพเรื่องพ่อเป็นมะเร็งเสร็จเหลือบไปเห็นหัวข้อเลยแวะเข้ามาดูค่ะ คนที่เป็นมะเร็งเค้าอดทนมากนะคะ ใครไม่เป็นก็คงไม่รู้หรอกค่ะว่าทรมานขนาดไหน คุณพ่อก็บอกเหมือนกันว่าเราไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง
โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:44:21 น.
  
ขอแสดงความเสียใจด้วยน้ะครับ
แม่คือผู้ให้ที่แท้จริงเลยครับ
ขอให้อดทนสู้ต่อไปน้ะเพื่อแม่ของเรา
และขอให้กำลังใจทุกคนน้ะครับที่พ่อ-แม่ไม่สบาย
ส่วนผมพ่อเป็นเบาหวานต้องฉีดยาให้ทุกวัน
พาไปโรงบาลทุกเดือน
สุดท้ายขอให้โชคดีครับ สู้ๆ พระคุ้มครอง
โดย: surakri43 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:45:33 น.
  
เสียใจด้วยครับ เข้าใจความรู้สึกเลย ตอนนนี้แม่ผมเป็นมะเร็งปอดเพิ่งตรวจพบเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ระยะเกือบสุดท้ายเเล้ว ผมยังทำใจไม่ได้เลย
โดย: trirat IP: 222.123.183.182 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:31:10 น.
  
ตกลงว่าคุณแม่ของคุณได้กินยาประดงรึเปล่าค่ะ เพราะตอนนี้ของแม่ฝนก็กำลังเริ่มทานยาประดงอยู่ค่ะ ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลขนาดไหนน่ะ อยากรู้จังเลย ตอบด้วยจ้า..เฮ้ยทำไมต้องมีมะเร็งด้วย
โดย: nrm_fon IP: 115.87.20.234 วันที่: 19 มิถุนายน 2553 เวลา:0:46:54 น.
  
ได้ทานค่ะ แต่ว่า ทานแล้วก็หยุดไป เพราะว่าเราให้แม่หยุดเองค่ะ แต่หลังจากหยุดยา ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงค่ะ เชื้อกลับลดลงด้วยซ้ำ แต่พอลดลงแล้ว ก็กลับมาเยอะขึ้นอีก เพราะแม่เราทานข้าวไม่ได้ค่ะ

คือ อยากบอกไว้อย่างหนึ่งว่า ยาประดงมันไม่ใช่ยารักษามะเร็งค่ะ มันเป็นยาแก้น้ำเหลืองเสีย คนที่ทานยาแล้วหาย มีจริง แต่หายเพราะอะไร เราก็ไม่ทราบใช่ไหมคะ เค้าอาจจะหายเพราะให้คีโม หายเพราะฉายแสง หายเพราะมะเร็งที่เป็นนั้น เชื้อไม่ดุ หายเพราะฯลฯ เพียงแค่ทานยาประดงควบคู่ด้วย ก็เอามาโฆษณาได้ละ

ส่วนคนที่ทานยาประดง แล้วไม่หาย ก็ไม่เอามาโฆษณากันไงคะ

แต่ยอมรับอย่างหนึ่งค่ะว่า ถ้าทานยาประดงแล้วคนป่วยมีกำลังใจมากขึ้น ก็ทานไปเถอะค่ะ เพราะกำลังใจนี่แหละ สิ่งสำคัญ

ขอให้คุณแม่คุณฝน หายป่วยไวๆนะคะ
โดย: elin วันที่: 23 มิถุนายน 2553 เวลา:11:26:09 น.
  
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากๆนะคะ นานๆจะมีเวลาจัการบล็อกสักที นานๆจะได้มาคอมเมนต์ตอบเพื่อนๆ

ขอบคุณจริงๆ ที่ติดตามเรื่องๆราว และขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคนเลยค่ะ

ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว น้ำตาไหลทุกทีเลย เวลาที่คิดถึงแม่..
โดย: elin วันที่: 29 มิถุนายน 2553 เวลา:20:51:05 น.
  
เพิ่งเข้ามาอ่าน
เสียใจด้วยนะคะ
โดย: peterpan IP: 117.47.183.234 วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:17:14:14 น.
  
เสียใจด้วยนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้เข้มแข็ง

รบกวนถามคุณโสดในซอยหน่อยค่ะ
พ่อเราเป็นโรคนี้ แล้วเจ็บเท้ามาก เป็นปีแล้วอาการเจ็บเท้าไม่ลดลงเลย พ่อคุณอาการดีขึ้นหรือยังคะ
มีใครทราบบ้างว่าอาการเจ็บเท้าหลังให้เคมีบำบัด รักษายังไงคะ
โดย: BT IP: 58.9.204.193 วันที่: 23 สิงหาคม 2553 เวลา:21:48:03 น.
  
ไม่ทราบว่าคุณพ่อหยุดยาเคมีบำบัดมาหรือยังคะ

ที่จริงเราเองไม่ทราบเหมือนกันว่าจะรักษายังไง แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้ายังให้ยาเคมีบำบัดอยู่ อาการเจ็บเท้าที่เกิดจากยา มันก็จะยังเป็นเรื่อยๆ จนกว่าจะหยุดยาน่ะค่ะ แต่ว่า ถ้าหยุดยาไปนานแล้ว เราว่าน่าจะปรึกษาคุณหมอนะคะ
โดย: elin วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:11:07:02 น.
  
คุณพ่อหยุดรับยามา 9 เดือนแล้วค่ะ
แต่อาการก็ยังอยู่ เป็นมากขึ้นด้วยซ้ำ
เค้าบอกว่าบอกหมอแล้ว แต่หมอเหมือนไม่สนใจว่าเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งทีคุณพ่อเจ็บจนแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว
แต่ยังอดทน ทำงานซึ่งต้องเดินทุกวัน
ถ้ามีคนที่มีอาการนี้แล้วดีขึ้น ช่วยบอกหน่อยนะคะ
จะได้มั่นใจว่ามันจะหายไปเอง
เพราะเห็นคุณหมอก็พูดว่าจะหายไปเองน่ะคะ
ขอบคุณค่ะ
โดย: BT IP: 58.9.198.90 วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:18:23:41 น.
  
คุณเป็นเก่งจริง ๆ ครับ มีสติ มีเหตุผล ไตร่ตรอง รอบคอบ คุณแม่ไปสบายแล้วครับ และจะอยู่ในความทรงจำที่ดีที่สุดของคุณไปตลอดกาล ดูแลครอบครัว ตัวคุณเอง และลูก ให้ดีที่สุดนะครับ เป็นกำลังใจครับ
โดย: ป๊อป IP: 113.53.248.98 วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:23:05:32 น.
  
เพิ่งมาเห็น blog นี้
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
โดย: คนผ่านมา IP: 58.11.61.203 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:19:08:57 น.
  
แม่ป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ ระยะที่3 เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีไม่มีโรคอื่นๆด้วย เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาเพิ่งผ่าตัดไปค่ะ แต่ไม่สามารถเอาก้อนเนื้อออกได้หมด คือ หมอผ่าได้แค่เอาชิ้นเนื้อไปตรวจชนิดมะเร็ง และเมื่อวันที่27มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งไปให้คีโมครั้งแรกค่ะ หลังให้วันแรกไม่มีอาการข้างเคียงอะไรเลย อาการดีขึ้นด้วยซ้ำ จากท้องอืด แน่นท้อง ก็ไม่เป็นเลย กินข้าวได้อารมณ์ดีนอนหลับ

พอเข้าวันที่2อาการท้องผูกเริ่มมาค่ะ ตามด้วยอาการแน่นท้อง ท้องอืด หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน คิดมาก คิดไปเอง วิตกกังวล ร้องไห้ แม่มาหมด มาเต็ม ทำเอาลูกๆรับมือแทบไม่ไหว ต้องปลอบกันยกใหญ่ อาการท้องผูกก็ให้แม่ดื่มน้ำผลไม้คั้นสด ทานผลไม้ ทานผัก แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น คิดว่าพรุ่งนี้เช้าแม่น่าจะถ่าย แต่ที่หนักใจค่ะ แม่กินข้าวไม่ได้ และงองแงไม่ยอมกิน กลุ้มใจมากคะ ทั้งปลอบทั้งขู่
ตอนนี้แม่ อายุ53 ปี น้ำหนักในช่วง3-4เดือนที่ป่วย ตอนนี้น้ำเหลือ44กก.จาก55กก.
หนูล่ะกลุ้มใจมาก กลัวครั้งหน้าแม่จะรับคีโมไม่ได้ขืนไม่กินอะไรเลยแบบนี้
โดย: ปิติ IP: 171.5.102.248 วันที่: 29 มิถุนายน 2556 เวลา:20:06:09 น.
  
ณ วันนี้ไมรู้ว่าอาการของคนที่คุณรักเป็นอย่างไร แต่อยากเล่าให้ฟังค่ะ พ่อเป็นมะเร็งที่คอแล้วลามมาที่ต่อมน้ำเหลืองข้างคอ ตั้งแต่ สค 55 เจาะทั้งที่คอ และที่ท้องเพื่อใส่สายอาหารฉายแสงครบ35 ครั้ง ก้อนข้างคอยุบแต่ในคอยังไม่หาย ให้คีมโมมาเรื่อยๆ จนพ่อไม่ค่อยไหวเลยหยุด มะเร็งเลยกระจายมาที่ปดด หมอไม่รักษาแล้ว ทุกวันนี้พ่อเร่ิมไอเป็นเลือดตลอดเวลา มีน้ำท่วมปอด และก็ไม่มีแรง สงสารพ่อมาก ที่ผ่านมาปีกว่าพ่ออดทนสุดๆ เวลานี้เหมือนเป็นสัญญานบอกว่า ความทรมานของพ่อใกล้สิ้นสุดแล้ว ทำทุกวันให้ดีที่สุดค่ะ
โดย: dao IP: 115.67.37.46 วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:22:08:43 น.
  
คุณแม่ผมเพิ่งตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ใกล้หูรูดมาก ไมาสามารถตัดได้ ต้องให้คีโมพร้อมฉายแสงก่อน แต่คุณแม่เป็นไวรัสตับ c ด้วย หมอบอกให้คีโมก็อันตราย 2 เท่า แม่เลือกที่จะไม่เอาคีโม อยู่ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ถ้าต้องอยู่อย่างทรมานเพราะคีโม ขอปล่อยให้ไปตามธรรมชาติดีกว่า ตอนนี้เลยลองเอายาประดงมา แต่ยังไม่ได้ลองทาน ได้แต่หวังว่าจะช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย ขอแค่อย่าให้แม่ต้องเจ็บและมรมานมากเลย คุณแม่เข้มแข็งจริง กลัวลูกจะห่วงจะกังวน ไม่เคยบ่นเจ็บปอะไรเลย บอกแต่ว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วงแม่ ทำงานเถอะ เลี้ยงลูกเถอะ ดูแลเมียเถอะ (เมียก็ป่วย) ความเป็นแม่นี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ
โดย: bare IP: 118.175.248.148 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:9:39:02 น.
  
ไม่ได้เข้าบล็อกมานาน กลับมาอีกทีอ่านคอมเมนท์ของหลายคนแล้ว ต้องขอบคุณมากๆค่ะสำหรับกำลังใจ

ส่วนเพื่อนๆที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับในบล็อกนี้ เราขอเอาใจช่วยนะคะ กำลังใจดี มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ

ส่วนบางคนที่ตัดสินใจตามธรรมชาติไป อย่างน้อยในช่วงเวลาที่เราสามารถทำได้ เราก็ได้ทำแล้ว และเราก็จะได้ไม่เสียดาย ในเวลาที่เราไม่มีโอกาส

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราเป็นกำลังใจให้นะคะ มาคุยกันได้ค่ะ รับรองว่าหลังจากนี้จะเข้าบล็อกบ่อยขึ้น
โดย: elin วันที่: 4 กันยายน 2557 เวลา:4:13:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments